จากการทดสอบอย่างจริงจังด้วย Jazz GE ป๋องแป๋งของผม ได้ผลดังนี้ครับ
ส่วนตัวผมคิดว่า E20 ของ Caltex ครับ
ออกตัวลื่น กระฉับกระเฉง
ยิ่งช่วง 80-110 แทบไม่ต้องเหยียบถึงระดับครึ่งคันเร่งให้รอบเครื่องดีดเลย
ระยะทางที่ได้ต่อน้ำมัน 1 ถัง (31-32 ลิตร) เฉลี่ยที่ 450-520 ก.ม.
(เคยได้สุดๆ ที่ 562 แค่ครั้งเดียวในอายุรถทั้งหมดเกือบ 10 ปี และช่วงนั้นเป็นช่วงวิ่งยาว ไม่เจอรถติดตลอดทั้งอาทิตย์)
รองลงมาก็ E20 ของ Esso กับ ปตท.
ออกตัวพอ ๆ กับ 95E10 ของ ปตท. แต่ไม่รู้สึกลื่นเท่า E20 ของ Caltex (Esso แรงกว่า ปตท. นิดนึงจนแทบไม่รู้สึกถึงความต่าง)
ช่วงเร่ง 80-110 ต้องเพิ่มระยะเหยียบมากขึ้นอีกนิดจนรอบเครื่องดีดขึ้นบ้าง
ระยะทางที่ได้ต่อถังส่วนใหญ่จะป้วนเปี้ยนแถวๆ 420-470 ก.ม. ไม่เคยได้ถึง 500 เลย ไฟเตือนก่อนทุกที
อืดสุดก็ E20 ของ บางจาก
ช่วงออกตัวรู้สึกยังกับเติม 91E10 ของ ปตท.
ช่วงเร่ง 80-110 ต้องกดคันเร่งลึกมาก แถมรอบเครื่องไม่ยอมดีดช่วยส่งแรงอีก การไต่ระดับความเร็วทำได้ช้าจนรู้สึกได้ชัดเจน
ระยะทางที่ได้ต่อถังส่วนใหฯ่จะป้วนเปี้ยนที่ 380-420 ก.ม. ซึ่งถือว่ากินใช่ย่อยจนตกใจว่ารถเรามีปัญหาอะไรหรือป่าว
ห่วยสุดก็ E20 ของ Shell
ผมจำความรู้สึกช่วงออกตัวกับช่วงเร่ง 80-110 ไม่ได้แล้ว ระยะทางต่อถังก็ลืมไปแล้ว
จำได้แต่ว่าเมื่อจุ่มคันเร่งนิดๆ รอบเครื่องจะสวิงหน่อยๆ เป็นกับรถที่ผมใช้ทั้งสองคัน (Jazz GE + Camry ACV40)
ผมจึงลาขาดกับ E20 ของ Shell ไปเลย
ผมยอมรับว่าเมื่อก่อนผมรักบางจากเพราะ Brand Royalty มาก (ถึงขั้นถือหุ้นจิ๋ว ๆ ที่ไม่ได้เก็งกำไรอะไรไว้ด้วย) การตลาดที่มีผลต่อการรักษาสิ่งแวดล้อมมีผลกับผมมาก มีโปรคะแนน x2 กับ E20 ก็ยิ่งชอบ ยิ่งมีปั๊มเติมเองได้ส่วนลด 30 สตางค์ ก็ยิ่งรัก ของแถมสนับสนุนกลุ่ม OTOP ก็ช่วยส่งเสริมประเทศดี แต่เมื่อได้ย้ายไปพักที่นึงเป็นเวลา 2 ปี ทำให้ผมห่างจากบางจากเพราะไม่มีให้เติม ผมได้ตัดความเป็น Brand Royalty ออกแล้วเปิดใจกับแบรนอื่นดู จึงรู้ว่ามันมีสิ่งที่ดีกว่าสำหรับรถผมแฮะ พอได้ย้ายกลับมาพักที่เดิม ได้กลับมาเติมบางจากเหมือนเดิม กลายเป็นว่าน้ำมันบางจากอืดสุดกินสุดจากแบรนทั้งหมดที่กล่าวมาซะงั้น (ยกเว้น Shell) ผมอยากให้บางจากปรับปรุงคุณภาพน้ำมันให้ทัดเทียมกับคู่แข่งมากขึ้น แล้วผมจะกลับไปอุดหนุนอีกครับ