Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: paulmoderndog ที่ ตุลาคม 30, 2019, 12:37:40
-
ฟอร์ด ได้ออกประกาศโปรแกรมการสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้าในประเทศไทย สำหรับรถยนต์ฟอร์ด เรนเจอร์ และ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ รุ่นปี 2019 ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เนื่องจากหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงแรงดันสูงในรถยนต์ที่ได้รับผลกระทบอาจเกิดการจุดระเบิดผิดปกติ และอาจส่งผลให้สมรรถนะการทำงานของเครื่องยนต์ลดประสิทธิภาพลง ทั้งนี้ ความสำคัญลำดับแรกของฟอร์ด คือ การทำให้ลูกค้าสามารถใช้รถต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เราจะทำการแก้ไขรถลูกค้าที่จดทะเบียนแล้วและพบปัญหา รวมถึงจัดเตรียมรถสำรองใช้ระหว่างแก้ไขให้แก่ลูกค้า สำหรับรถยนต์ที่ยังไม่ได้จดทะเบียนและส่งมอบจะได้รับการแก้ไขให้เรียบร้อยก่อน อย่างไรก็ตาม ลูกค้าที่ประสบปัญหาดังกล่าว สามารถติดต่อศูนย์บริการฟอร์ด เพื่อเข้ารับการตรวจสอบและแก้ไขด้วยการเปลี่ยนหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงแรงดันสูงใหม่
https://m.facebook.com/notes/%E0%B8%9F%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%94/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B9%81%E0%B8%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%89%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B8%9F%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%94-%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0-%E0%B8%9F%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C/2474011412653113/[/url]
[url]
-
จริงๆ คิดว่าทุกบริษัท ก็มีการวัดระดับความพึงพอใจลูกค้าอยู่แล้วนะครับ
Ford นี่ ถึงขั้นจ้างบริษัทต่างชาติมาเลยด้วย
-
จริงๆ คิดว่าทุกบริษัท ก็มีการวัดระดับความพึงพอใจลูกค้าอยู่แล้วนะครับ
Ford นี่ ถึงขั้นจ้างบริษัทต่างชาติมาเลยด้วย
คนไทยที่ทำงานเก่งๆและลูกค้าที่ซื้อฟอร์ดก็ไมรับฟังการแก้ปัญหาการบริการหลังการขายเค้า แต่กันไปเสียเงินเพิ่มเพื่อไปจ้างค่างชาติมาประเมิณผลงานให้ช่างทุเรศสิ้นดีนะฟอร์ด
-
หลังๆ มานี้ มาหลายรูปแบบที่ฟอร์ดออกมา เพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้า
แต่ในทางปฎิบัติ มันก็แทบไม่ต่างจากเดิม พอมีปัญหา ลูกค้าโวยวาย ก็เต้นกันใหญ่ วิ่งเต้นหัวหกก้นขวิด ลูกค้าก็ด่ากันเต็มโชเชี่ยว เช่น กรณีน้ำมันเครื่องหาย ท่ออินเตอร์แตก น้ำมันเพลาหลังรั่ว และอื่นๆ เต็มไปหมด
ซึ่งปัญหาที่เกิด มีเกิดกับลูกค้าคนอื่นอีก แต่ฟอร์ดก็เลือกที่จะรับทราบและแก้ปัญหาเฉพาะคนที่โวย ส่วนคนอื่นๆ ก็ไม่ได้ไปเทคแคร์เขา
ทั้งๆ ที่ "น่าจะ" รู้ดีว่า ปัญหา มันมาจากรถ หรือ product ของฟอร์ดเอง
อย่างกรณีนี้ เรื่องหัวฉีด ก็เช่นกัน ฟอร์ดเมืองนอก recall แต่ ฟอร์ดประเทศไทย ออกแถลงการณ์เพื่ออะไรก็ไม่รู้ น่าจะแค่ให้รู้ว่า รับรู้แล้วนะ ไม่นิ่งเฉย และอยากสร้างความมั่นใจให้ลูกค้า "มั้ง"
แต่ ลูกค้า อยากให้แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ไม่ใช่แค่แถลงการณ์
-
เหอๆ คันที่ออกมา 11 วันแล้วรวนทั้งคัน เคลียจบไปยัง?
-
โฆษณา vs ลงมือทำ ผลลัพธ์มันแตกต่างกันนะ
-
เดี๋ยวนี้เร็วนะ Take action ไม่ได้ยืดยาวอะไร ที่นานเป็นเพราะศูนย์ทำให้เป็นเรื่อง
แล้วเรื่องนี้คือ Recall นั่นแหละ ไม่มีอะไรมากหรอก Continental ส่งหัวฉีดมาผิดสเปคแบบนี้คงตีกลับสอบสวนกันตายเลย บริษัทใหญ่ด้วย
-
เอาตรงๆ มีอีกปัญหาที่น่าเป็นห่วงกว่า คือเครื่อง 1.5 ecoboost ที่อยู่ในโฟกัส mc มีปัญหาลูกสูบติด แล้วลูกค้าเริ่มทยอยหมดวารันตีกันแล้ว ส่วนต้นเหตุที่เกิดคือ น้ำมันเครื่องศูนย์ ซึ่งถ้าหิ้วไปเองใช้ของดีๆเรื่องนี้จะไม่เกิด ที่นี้คนใช้ทั่วไปโดยเฉพาะผู้หญิง ครบระยะก็เข้าศูนย์ปกติ พอถึงเวลา หมดวารันตี เครื่องพังทั้งตัว ศูนย์เปลี่ยนใหม่ให้แต่มีค่าใช้จ่าย แบบนี้คืออะไร ผมว่าเป็นอะไรที่รับไม่ได้
-
จริงๆ คิดว่าทุกบริษัท ก็มีการวัดระดับความพึงพอใจลูกค้าอยู่แล้วนะครับ
Ford นี่ ถึงขั้นจ้างบริษัทต่างชาติมาเลยด้วย
คนไทยที่ทำงานเก่งๆและลูกค้าที่ซื้อฟอร์ดก็ไมรับฟังการแก้ปัญหาการบริการหลังการขายเค้า แต่กันไปเสียเงินเพิ่มเพื่อไปจ้างค่างชาติมาประเมิณผลงานให้ช่างทุเรศสิ้นดีนะฟอร์ด
การจ้างบริษัท อื่นมาประเมิณความพึงพอใจ เพราะต้องการให้เป็นกลางครับ
ถ้า Ford ทำเอง แล้วความพึงพอใจออกมาดี บางทีมันอาจจะดูลำเอียงไปหน่อยไรงี้
-
เอาตรงๆ มีอีกปัญหาที่น่าเป็นห่วงกว่า คือเครื่อง 1.5 ecoboost ที่อยู่ในโฟกัส mc มีปัญหาลูกสูบติด แล้วลูกค้าเริ่มทยอยหมดวารันตีกันแล้ว ส่วนต้นเหตุที่เกิดคือ น้ำมันเครื่องศูนย์ ซึ่งถ้าหิ้วไปเองใช้ของดีๆเรื่องนี้จะไม่เกิด ที่นี้คนใช้ทั่วไปโดยเฉพาะผู้หญิง ครบระยะก็เข้าศูนย์ปกติ พอถึงเวลา หมดวารันตี เครื่องพังทั้งตัว ศูนย์เปลี่ยนใหม่ให้แต่มีค่าใช้จ่าย แบบนี้คืออะไร ผมว่าเป็นอะไรที่รับไม่ได้
นี้คือเรื่องจริงที่คนไม่รู้ว่าน้ำมันเครื่องศูนย์(ทุกยี้ห้อที่ไม่ใช่ยุโรปพรีเมียม)ไม่สามารถป้องกันการชิงจุดระเบิดในรอบต่ำของเครื่องเบนซินเทอร์โบฉีดตรงยุคใหม่ได้ (low-speed pre-ignition LSPI)
ซึ่งถ้าเราหิ้วน้ำมันเครื่องไปเองค่ายรถก็ใช้จุดนี้เป็นข้ออ้างในการรับประกัน
ทางออกของผมคือ เข้าศูนย์เช็คระยะเปลี่ยนน้ำมันตามปกติ กลับบ้านใช้ที่ดูดน้ำมันเครื่องผ่านรูก้านวัดใส่แกลอนเก็บไว้แล้วเปลี่ยนใหม่ตามใจชอบ น้ำมันศูนย์ที่ดูดก็เอาไปใช้กับรถคันอื่นที่ไม่ใช่ฉีดตรงและไม่ได้เข้าศูนย์แล้ว (เครื่องดูดน้ำมันเครื่องออนไลน์ขายกันอยู่ 4ร้อย)
วิธีนี้จะไม่มีปัญหากับศูนย์เลย รอบหน้าเข้าศูนย์รอยมาร์คที่น็อตถ่ายหรือกรองน้ำมันเครื่องก็เหมือนเดิมไม่มีรอยไขใดๆศูนย์ไม่มีทางรู้เลยนอกจากจะเอาน้ำมันไปเข้าแล็บตรวจถึงจะพบว่าไม่ไช่น้ำมันของศูนย์
-
เอาตรงๆ มีอีกปัญหาที่น่าเป็นห่วงกว่า คือเครื่อง 1.5 ecoboost ที่อยู่ในโฟกัส mc มีปัญหาลูกสูบติด แล้วลูกค้าเริ่มทยอยหมดวารันตีกันแล้ว ส่วนต้นเหตุที่เกิดคือ น้ำมันเครื่องศูนย์ ซึ่งถ้าหิ้วไปเองใช้ของดีๆเรื่องนี้จะไม่เกิด ที่นี้คนใช้ทั่วไปโดยเฉพาะผู้หญิง ครบระยะก็เข้าศูนย์ปกติ พอถึงเวลา หมดวารันตี เครื่องพังทั้งตัว ศูนย์เปลี่ยนใหม่ให้แต่มีค่าใช้จ่าย แบบนี้คืออะไร ผมว่าเป็นอะไรที่รับไม่ได้
นี้คือเรื่องจริงที่คนไม่รู้ว่าน้ำมันเครื่องศูนย์(ทุกยี้ห้อที่ไม่ใช่ยุโรปพรีเมียม)ไม่สามารถป้องกันการชิงจุดระเบิดในรอบต่ำของเครื่องเบนซินเทอร์โบฉีดตรงยุคใหม่ได้ (low-speed pre-ignition LSPI)
ซึ่งถ้าเราหิ้วน้ำมันเครื่องไปเองค่ายรถก็ใช้จุดนี้เป็นข้ออ้างในการรับประกัน
ทางออกของผมคือ เข้าศูนย์เช็คระยะเปลี่ยนน้ำมันตามปกติ กลับบ้านใช้ที่ดูดน้ำมันเครื่องผ่านรูก้านวัดใส่แกลอนเก็บไว้แล้วเปลี่ยนใหม่ตามใจชอบ น้ำมันศูนย์ที่ดูดก็เอาไปใช้กับรถคันอื่นที่ไม่ใช่ฉีดตรงและไม่ได้เข้าศูนย์แล้ว (เครื่องดูดน้ำมันเครื่องออนไลน์ขายกันอยู่ 4ร้อย)
วิธีนี้จะไม่มีปัญหากับศูนย์เลย รอบหน้าเข้าศูนย์รอยมาร์คที่น็อตถ่ายหรือกรองน้ำมันเครื่องก็เหมือนเดิมไม่มีรอยไขใดๆศูนย์ไม่มีทางรู้เลยนอกจากจะเอาน้ำมันไปเข้าแล็บตรวจถึงจะพบว่าไม่ไช่น้ำมันของศูนย์
ถ้าต้องถึงขั้นนี้ ขอเรียกว่าเวรกรรมของลูกค้าที่ซื้อก็แล้วกัน ภาระชัดๆ
-
เอาตรงๆ มีอีกปัญหาที่น่าเป็นห่วงกว่า คือเครื่อง 1.5 ecoboost ที่อยู่ในโฟกัส mc มีปัญหาลูกสูบติด แล้วลูกค้าเริ่มทยอยหมดวารันตีกันแล้ว ส่วนต้นเหตุที่เกิดคือ น้ำมันเครื่องศูนย์ ซึ่งถ้าหิ้วไปเองใช้ของดีๆเรื่องนี้จะไม่เกิด ที่นี้คนใช้ทั่วไปโดยเฉพาะผู้หญิง ครบระยะก็เข้าศูนย์ปกติ พอถึงเวลา หมดวารันตี เครื่องพังทั้งตัว ศูนย์เปลี่ยนใหม่ให้แต่มีค่าใช้จ่าย แบบนี้คืออะไร ผมว่าเป็นอะไรที่รับไม่ได้
นี้คือเรื่องจริงที่คนไม่รู้ว่าน้ำมันเครื่องศูนย์(ทุกยี้ห้อที่ไม่ใช่ยุโรปพรีเมียม)ไม่สามารถป้องกันการชิงจุดระเบิดในรอบต่ำของเครื่องเบนซินเทอร์โบฉีดตรงยุคใหม่ได้ (low-speed pre-ignition LSPI)
ซึ่งถ้าเราหิ้วน้ำมันเครื่องไปเองค่ายรถก็ใช้จุดนี้เป็นข้ออ้างในการรับประกัน
ทางออกของผมคือ เข้าศูนย์เช็คระยะเปลี่ยนน้ำมันตามปกติ กลับบ้านใช้ที่ดูดน้ำมันเครื่องผ่านรูก้านวัดใส่แกลอนเก็บไว้แล้วเปลี่ยนใหม่ตามใจชอบ น้ำมันศูนย์ที่ดูดก็เอาไปใช้กับรถคันอื่นที่ไม่ใช่ฉีดตรงและไม่ได้เข้าศูนย์แล้ว (เครื่องดูดน้ำมันเครื่องออนไลน์ขายกันอยู่ 4ร้อย)
วิธีนี้จะไม่มีปัญหากับศูนย์เลย รอบหน้าเข้าศูนย์รอยมาร์คที่น็อตถ่ายหรือกรองน้ำมันเครื่องก็เหมือนเดิมไม่มีรอยไขใดๆศูนย์ไม่มีทางรู้เลยนอกจากจะเอาน้ำมันไปเข้าแล็บตรวจถึงจะพบว่าไม่ไช่น้ำมันของศูนย์
เป็นวิธีที่ใช้ได้เลยครับ แต่ถ้าต้องเอารถเข้าศูนย์จ่ายแพงกว่าอู่แล้วต้องมานั่งทำอะไรแบบนี้อีกเป็นอะไรที่เสียเวลามาก
เจอศูนย์บอกแบบนี้แค่ ford กับ mazda จริงๆ โตโยต้ากับฮอนด้า ไม่มีปัญหาที่ว่ามาเลยกับการหิ้วน้ำมันเครื่องไปเอง sa คุยดีด้วยซ้ำ ส่วนตัวที่ใช้ civic 1.5 มาตรวจเช็คระยะกับน้ำมันเครื่องมันไม่ตรงกันอยู่แล้ว น้ำมันเครื่องเปลี่ยนนอกศูนย์เองตลอด เข้าเช็คระยะปกติทุกหมื่นก็ไม่มีปัญหาอะไร นี่เข้าปีที่4 แล้ว หมดประกัน 3 ปีแต่ซื้อเพิ่มไว้ 2 ปี ทั้งๆที่รีแฟรชเครื่องไปแล้วด้วยซ้ำ
ปล อีกยี่ห้อที่มีปัญหาเหมือนจะมี Subaru ด้วย แต่เหมือนแต่ละศูนย์จะมีวิธีแก้ปัญหากันหลังบ้าน
-
ถ้าไม่มีปัญหาใหญ่ที่ต่างประเทศมาก่อน ผมเชื่อว่าจะไม่มีโปรแกรมการสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้านี้เกิดขึ้นมาในไทย
-
รบกวนกลับไปรับผิดชอบรุ่นที่ใช้"เกียร์พาวเวอร์ฉิพหาy" ก่อนได้ไหม ไม่ใช่ม้วนเสื่อ >:(
-
ถ้าหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคต่างๆของเราแข็งแรง รวมถึงศาลยุติธรรมและตัดสินเร็วเหมือน usa
ฟอร์ดคงไม่ต้องจ้างฝรั่งมาทำงานส่วนนี้หรอกครับ 🤔
แต่ฟอร์ดต้องไปหาวิศวกร และ qc รวมทั้งช่างเก่งๆมาใช้งานมากกว่า
และรวมถึงค่ายรถอื่นๆด้วย
ปล.ขออนุญาตคิดต่างนะครับ
-
ฝรั่งหางานให้พรรคพวกตัวเองทำเป็นเรื่องปกติมากครับ...
-
เมื่อ 10ปีก่อนผมก็หิ้วน้ำมันเครื่องไปให้ศูนย์ที่รับเปลี่ยนให้ครับ ศูนย์ไหนไม่รับผมไม่เข้า แต่ปัจจุบันคิดได้ว่าการที่ศูนย์รับบางศูนย์ไม่รับเป็นแค่เรื่องของการให้เอาน้ำมันเครื่องมาเอง ไม่ได้หมายรวมถึงว่าถ้าเครื่องยน์เรามีปัญหา อย่างลูกสูบพังเพราะLSPI บริษัทรถยนต์เค้าจะไม่เอาคำว่า ลค.นำ นมค.มา ที่ลงในสมุดทุกครั้งมาปฏิเสธการรับประกันได้
ปัจจุบันผมใช้วิธีดูดเปลี่ยนกับรถไม่ใช่ยุโรป 1คัน ที่ได้แพ็กเก็จน้ำมันเครื่องและเช็คระยะฟรี 3ปีครับ
และรถยุโรปอีก 1คันที่ฟรีเหมือนกัน แต่ให้เข้าทุก 15,000กม. ซึ่งนานเกินไป ผมเลยดูดเปลี่ยนเอง 1-2รอบก่อนถึงระยะเข้าศูนย์ แล้วเอาไปใส่รถเก่าๆที่บ้านแทนไม่เสียของ
ปล.บางทีช่างศูนย์ยุโรปที่สนิทกันก็มีบอกผมว่ารถพี่ 15,000แล้วน้ำมันเครื่องไม่ดำเป็นโคลนเหมือนคนอื่น ผมก็แค่ยิ้มๆแล้วคิดในใจว่าจะดำได้ยังไงพึ่งดูดเปลี่ยนไม่นานนี้เอง รูน็อตไม่มีรอยไขช่างไม่มีทางรู้
-
โตโยต้ากับฮอนด้า ไม่มีปัญหาที่ว่ามาเลยกับการหิ้วน้ำมันเครื่องไปเอง sa คุยดีด้วยซ้ำ
โตโยต้าหน้าบ้านผม (ลาดพร้าวขาเข้า เลยฉลองรัชเข้ามาแล้ว) มีปัญหาครับ...คุยไม่ดี ไม่รับหิ้ว บายยย
-
จากที่เคยใช้Fiesta และทำงานกับค่ายรถนี้3แห่ง ทั้งฝ่ายขายและฝ่ายบริการ
เข้าใจเลยว่า ค่ายนี้คบไม่ได้จริงๆครับ
-
หัวข้อ "Ford มีนโยบายสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้า" นี่เอาจริงหรือเอาฮา...โลวีนครับ
-
ปัญหาจริงๆ มันอยู่ที่ศูนย์บริการ อีกทั้งตัวรถมัน option เยอะเกินไป รถเลยโครตจุกจิก
-
โฆษณา vs ลงมือทำ ผลลัพธ์มันแตกต่างกันนะ
+1
ตอนนี้รุ่นไหนปัญหาน้อยสุดนะ :-\