Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: poochil ที่ กันยายน 02, 2021, 14:28:47

หัวข้อ: รอใช้รถ EV คันแรก แต่ต้องมีข้อแม้ว่า
เริ่มหัวข้อโดย: poochil ที่ กันยายน 02, 2021, 14:28:47
อนาคตไม่นานเกินรอต้องได้ใช้รถ EV คันแรกแน่ๆ แต่ผมมี spec ในใจอยู่ว่า
  1. ยี่ห้อตลาด ขอราคาใกล้เคียงรถยนต์สันดาปในปัจจุบัน คือ c segment ราคาประมาณ 1-1.3 ล้าน, D segment 1.5.1.8 ล้าน SUV ไม่เกิน 2 ล้าน
   2. charge เร็วได้ เข้า chargeที่ปั๊มแล้ว ใช้เวลาไม่เกิน 20-30 นาที วิ่งได้ 200-300 km
   3. ปั๊มที่ charge ไฟได้มีจำนวนสักครึ่งของปั๊มปัจจะบัน
   4. charge เต็ม วิ่งได้ ประมาณ 700-800 kmอย่างน้อย
   5. แบต ใข้ได้ยาวๆ ไม่ต่ำกว่า 10 ปี
   6. ความแรง driving dynamic เท่าหรือดีกว่าเครื่องยนต์ในปัจจุบัน
   7. ค่า maintenance ไม่โหดเกินไป
  ผมคาดว่าอีกประมาณ 7-10 ปี น่าจะมีได้ประมาณนี้ เป็นไปได้ไหมครับ
หัวข้อ: Re: รอใช้รถ EV คันแรก แต่ต้องมีข้อแม้ว่า
เริ่มหัวข้อโดย: PaPaMan ที่ กันยายน 02, 2021, 14:46:41
อนาคตไม่นานเกินรอต้องได้ใช้รถ EV คันแรกแน่ๆ แต่ผมมี spec ในใจอยู่ว่า
  1. ยี่ห้อตลาด ขอราคาใกล้เคียงรถยนต์สันดาปในปัจจุบัน คือ c segment ราคาประมาณ 1-1.3 ล้าน, D segment 1.5.1.8 ล้าน SUV ไม่เกิน 2 ล้าน
   2. charge เร็วได้ เข้า chargeที่ปั๊มแล้ว ใช้เวลาไม่เกิน 20-30 นาที วิ่งได้ 200-300 km
   3. ปั๊มที่ charge ไฟได้มีจำนวนสักครึ่งของปั๊มปัจจะบัน
   4. charge เต็ม วิ่งได้ ประมาณ 700-800 kmอย่างน้อย
   5. แบต ใข้ได้ยาวๆ ไม่ต่ำกว่า 10 ปี
   6. ความแรง driving dynamic เท่าหรือดีกว่าเครื่องยนต์ในปัจจุบัน
   7. ค่า maintenance ไม่โหดเกินไป
  ผมคาดว่าอีกประมาณ 7-10 ปี น่าจะมีได้ประมาณนี้ เป็นไปได้ไหมครับ


เอาข้อ 1. ข้อเดียวพอ ข้ออื่นไม่สน ถ้าเมื่อไหร่รถ BEV ราคาเท่ากับรถ ICE (ในรุ่นและยี่ห้อเดียวกัน ตัวอย่างเช่น City 1.0 ราคาเท่า City-ev) ต้องมีรถ BEV อย่างน้อย 1 คันในบ้านผมแน่นอน เอาไว้ใช้ในชีวิตประจำวัน , ขับในเมือง แต่ถ้าเที่ยวต่างจังหวัดก็เอา PHEV หรือดีเซลไป
ราคาขายเป็นปัจจัยหลักของผมครับ เพราะมันหมายถึงความคุ้มค่าที่จะซื้อมาใช้ ตราบใดที่ราคายังแพงอยู่ความคุ้มค่าก็ไม่เกิด
หัวข้อ: Re: รอใช้รถ EV คันแรก แต่ต้องมีข้อแม้ว่า
เริ่มหัวข้อโดย: poochil ที่ กันยายน 02, 2021, 15:01:33
ถ้าเฉพาะข้อ 1 ผมว่าไม่เกิน 10 น่าจะเป็นไปได้นะครับ
หัวข้อ: Re: รอใช้รถ EV คันแรก แต่ต้องมีข้อแม้ว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Sympho ที่ กันยายน 02, 2021, 15:15:20
อีก 10-15 ปี น่าจะพอได้มั้งครับ

ตอนนี้ค่ายหลักก็เฉยๆกับ EV มีแหละ แต่ไม่เน้นทำเป็นตลาดหลักในตอนนี้

และถ้าผมซื้อ EV คงใช้งานในลักษณะชีวิตประจำวัน ขับไปห้างไปทำงาน ที่มีระยะทางแน่นอน

ไปต่างจังหวัดอาจจะไปเครื่องบิน เช่ารถ หรือ มีรถน้ำมันอีกคันขับไป

ไม่หวังไปหาที่ชาร์จกลางทาง ตัวแปรมันเยอะไป
หัวข้อ: Re: รอใช้รถ EV คันแรก แต่ต้องมีข้อแม้ว่า
เริ่มหัวข้อโดย: polwath ที่ กันยายน 02, 2021, 15:20:14
ถ้าสามารถทำสถานีชาร์จใกล้เสาไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งแม้ว่าจะเป็นระบบไฟแบบกระแสสลับ แต่มีไฟแรงดันสูง ถ้าสามารถแปลงให้เข้ากับระบบชาร์จเร็วได้ ก็น่าจะช่วยให้สถานีตั้งได้มากขึ้นหน่อยนะ และชาร์จเร็วด้วย และลดการสูญเสียพลังงานได้ระดับหนึ่ง

ปล. แก้ข้อมูลผิดพลาดครับ ไม่ใช่ระบบไฟกระแสตรง
หัวข้อ: Re: รอใช้รถ EV คันแรก แต่ต้องมีข้อแม้ว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Symphonic ที่ กันยายน 02, 2021, 16:09:32
อนาคตไม่นานเกินรอต้องได้ใช้รถ EV คันแรกแน่ๆ แต่ผมมี spec ในใจอยู่ว่า
  1. ยี่ห้อตลาด ขอราคาใกล้เคียงรถยนต์สันดาปในปัจจุบัน คือ c segment ราคาประมาณ 1-1.3 ล้าน, D segment 1.5.1.8 ล้าน SUV ไม่เกิน 2 ล้าน
   2. charge เร็วได้ เข้า chargeที่ปั๊มแล้ว ใช้เวลาไม่เกิน 20-30 นาที วิ่งได้ 200-300 km
   3. ปั๊มที่ charge ไฟได้มีจำนวนสักครึ่งของปั๊มปัจจะบัน
   4. charge เต็ม วิ่งได้ ประมาณ 700-800 kmอย่างน้อย
   5. แบต ใข้ได้ยาวๆ ไม่ต่ำกว่า 10 ปี
   6. ความแรง driving dynamic เท่าหรือดีกว่าเครื่องยนต์ในปัจจุบัน
   7. ค่า maintenance ไม่โหดเกินไป
  ผมคาดว่าอีกประมาณ 7-10 ปี น่าจะมีได้ประมาณนี้ เป็นไปได้ไหมครับ

ข้อ 1. นะ ถ้าราคารถไม่รวมแบต ผมว่าได้นะ วันนี้เลย น่าจะได้อยู่
ส่วนแบตก็ซื้อแยกต่างหาก เลือกได้เลย

แต่มันจะไปสัมพันธ์กับข้อ 4. นะ ว่าจะซื้อแบตขนาดไหนมาใส่รถ
อยากให้วิ่งได้ไกลก็ต้องซื้อแบตลูกใหญ่ ความจุเยอะ ราคาตามความจุ

ผมว่าถ้ามองแบบนี้ก็น่าจะเห็นภาพที่ reasonable มากขึ้น

ส่วนข้อ 2, 3 เนี่ย ต้องลองถามตัวเองว่า แล้วถ้าที่บ้านติด wall-box แล้ว
จะเปิดให้รถอื่นมาชาร์จแล้วเก็บตังค์แบบเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญมั้ย
ถ้าเก็บ จะเก็บเท่าไหร่ และจะลงทุนซื้อตัวที่ชาร์จได้แรงๆ เร็วไปมั้ย
คือเมื่อไหร่ที่เราคิดว่าทำแล้วดี ทำแล้วคุ้ม เมื่อนั้นก็ต้องมีคนอื่นอยากทำเหมือนกัน
จุดชาร์จก็จะมีเต็มไปหมดครับ
หัวข้อ: Re: รอใช้รถ EV คันแรก แต่ต้องมีข้อแม้ว่า
เริ่มหัวข้อโดย: delete ที่ กันยายน 02, 2021, 16:10:14
ถ้าสามารถทำสถานีชาร์จใกล้เสาไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งมักจะส่งเป็นกระแสตรงอยู่แล้ว ไม่ต้องแปลงไฟเยอะ ก็น่าจะช่วยให้สถานีตั้งได้มากขึ้นหน่อยนะ และชาร์จเร็วด้วย
สายส่งไฟฟ้าเป็นกระแสสลับทั้งหมดนี่ครับ ไม่มีสายส่งที่เป็นกระแสตรง
หัวข้อ: Re: รอใช้รถ EV คันแรก แต่ต้องมีข้อแม้ว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Sazabi ที่ กันยายน 02, 2021, 16:14:28
ราคาตามที่บอกมันคือรถที่ผลิตในประเทศครับ

HONDA จะไม่ผลิต BEV ใน ASEAN อย่างน้อยถึงปี 2030

TOYOTA อาจจะมีการผลิตตั้งแต่ปี 2025 แต่ด้วย Volume ที่ราคามันต้องแพง

ISUZU เห็นว่าจะมี แต่พอเอาเข้าจริงลูกค้า ISUZU ต้องการ BEV จริงหรือ

ถ้า 3 ยี่ห้อนี้ยังไม่ผลิต BEV ในประเทศไทยด้วยราคาที่จับต้องได้ยี่ห้ออื่นก็ฝันไปเถอะครับรวมทั้งยี่ห้อใหม่ๆจากจีนด้วย เพราะปัจจุบันพวกรถจีนก็มีแต่แผนผลิตรถ ICE และ HEV ในประเทศไทยช่วง 5 ปีข้างหน้านี้ทั้งนั้น

เหลือทางเลือกเดียวคือรถจีนนำเข้าทั้งหลาย
หัวข้อ: Re: รอใช้รถ EV คันแรก แต่ต้องมีข้อแม้ว่า
เริ่มหัวข้อโดย: XMSL ที่ กันยายน 02, 2021, 16:54:00
มอเตอร์ทนทานมีประสิทธิภาพ อินเวอเตอร์อึดถึกทน แบตจุเบาทนทานไม่เสื่อมง่าย ดูไม่ค่อยเหมือนสิ่งที่เจ้าตลาดจะได้เปรียบคู่แข่งเลยครับ สังเวียนนี้อาจจะเป็นการแข่งข้ามกระดานกันมากกว่าที่เราคุ้นเคยนะครับ
หัวข้อ: Re: รอใช้รถ EV คันแรก แต่ต้องมีข้อแม้ว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Winnie_The_Poom ที่ กันยายน 02, 2021, 17:25:21
ข้อ 5 คือความ Amazing มากๆ
หัวข้อ: Re: รอใช้รถ EV คันแรก แต่ต้องมีข้อแม้ว่า
เริ่มหัวข้อโดย: prakob.p ที่ กันยายน 02, 2021, 17:34:53
ข้อ 1 ผมเชื่อว่าจะใด้เห็นแน่ แต่คงเป็นรถจากจีน
หัวข้อ: Re: รอใช้รถ EV คันแรก แต่ต้องมีข้อแม้ว่า
เริ่มหัวข้อโดย: deertesla ที่ กันยายน 02, 2021, 17:37:00
ถ้าสามารถทำสถานีชาร์จใกล้เสาไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งมักจะส่งเป็นกระแสตรงอยู่แล้ว ไม่ต้องแปลงไฟเยอะ ก็น่าจะช่วยให้สถานีตั้งได้มากขึ้นหน่อยนะ และชาร์จเร็วด้วย
สายส่งไฟฟ้าเป็นกระแสสลับทั้งหมดนี่ครับ ไม่มีสายส่งที่เป็นกระแสตรง
ใช่ครับ. ไม่งั้น100ปีที่แล้วก็ใข้วิธีการจ่ายไฟฟ้ากระแสตรงไปแล้ว มันส่งไปได้ไม่ไกลเพราะสูญเสียพลังงานไฟฟ้าระหว่างทีส่งเยอะกว่ากระแสสลับ อีกอย่ากระแสสลับสามารถเพิ่มและลดแรงดันได้ง่าย ง่ายกว่ากระแสตรงมากๆ. แสดงว่าลืมวิชาวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับไฟฟ้าสมัยมัธยมแน่ๆครับ
หัวข้อ: Re: รอใช้รถ EV คันแรก แต่ต้องมีข้อแม้ว่า
เริ่มหัวข้อโดย: off_033 ที่ กันยายน 02, 2021, 17:37:11
10-15ปีต่อจากนี้ ตลาด EV น่าจะเป็นของรถจีนเป็นส่วนใหญ่ด้วยข้อตกลงภาษี

เจ้าตลาด+ยุโรปยังคงเล่นกับ hybrid ไปเรื่อยๆจนกว่าสถานนีจะพร้อมกว่านี้กับนโยบายที่ชัดเจนมากกว่านี้ 

กว่าเจ้าตลาดจะลง EV เป็นตัวหลักน่าจะต้องมีอีก 20 ปีขึ้นไป  ระหว่างทางอาจจะมี ev มาลองตลาดสักรุ่นนึงแต่ราคาคงไม่ถูกแน่ๆ
หัวข้อ: Re: รอใช้รถ EV คันแรก แต่ต้องมีข้อแม้ว่า
เริ่มหัวข้อโดย: polwath ที่ กันยายน 02, 2021, 17:40:38
ถ้าสามารถทำสถานีชาร์จใกล้เสาไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งมักจะส่งเป็นกระแสตรงอยู่แล้ว ไม่ต้องแปลงไฟเยอะ ก็น่าจะช่วยให้สถานีตั้งได้มากขึ้นหน่อยนะ และชาร์จเร็วด้วย
สายส่งไฟฟ้าเป็นกระแสสลับทั้งหมดนี่ครับ ไม่มีสายส่งที่เป็นกระแสตรง
โอเคครับ น่าจะจำมาผิด แต่ผมมองว่าการต่อไฟจากสายส่งโดยตรงก็น่าจะแปลงไฟเข้าระบบชาร์จได้เร็ว ไม่ยุ่งยาก และเสียพลังงานน้อยที่สุด
หัวข้อ: Re: รอใช้รถ EV คันแรก แต่ต้องมีข้อแม้ว่า
เริ่มหัวข้อโดย: polwath ที่ กันยายน 02, 2021, 17:43:18
ถ้าสามารถทำสถานีชาร์จใกล้เสาไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งมักจะส่งเป็นกระแสตรงอยู่แล้ว ไม่ต้องแปลงไฟเยอะ ก็น่าจะช่วยให้สถานีตั้งได้มากขึ้นหน่อยนะ และชาร์จเร็วด้วย
สายส่งไฟฟ้าเป็นกระแสสลับทั้งหมดนี่ครับ ไม่มีสายส่งที่เป็นกระแสตรง
ใช่ครับ. ไม่งั้น100ปีที่แล้วก็ใข้วิธีการจ่ายไฟฟ้ากระแสตรงไปแล้ว มันส่งไปได้ไม่ไกลเพราะสูญเสียพลังงานไฟฟ้าระหว่างทีส่งเยอะกว่ากระแสสลับ อีกอย่ากระแสสลับสามารถเพิ่มและลดแรงดันได้ง่าย ง่ายกว่ากระแสตรงมากๆ. แสดงว่าลืมวิชาวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับไฟฟ้าสมัยมัธยมแน่ๆครับ
อันนี้ผมเข้าใจผิดเองครับ และลืมเองด้วย แต่ก็ไม่น่าจะต้องพูดเหน็บแนมตรงประโยคท้ายก็ได้นี่ครับ
หัวข้อ: Re: รอใช้รถ EV คันแรก แต่ต้องมีข้อแม้ว่า
เริ่มหัวข้อโดย: deertesla ที่ กันยายน 02, 2021, 17:44:36
ถ้าสามารถทำสถานีชาร์จใกล้เสาไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งมักจะส่งเป็นกระแสตรงอยู่แล้ว ไม่ต้องแปลงไฟเยอะ ก็น่าจะช่วยให้สถานีตั้งได้มากขึ้นหน่อยนะ และชาร์จเร็วด้วย
สายส่งไฟฟ้าเป็นกระแสสลับทั้งหมดนี่ครับ ไม่มีสายส่งที่เป็นกระแสตรง
ใช่ครับ. ไม่งั้น100ปีที่แล้วก็ใข้วิธีการจ่ายไฟฟ้ากระแสตรงไปแล้ว มันส่งไปได้ไม่ไกลเพราะสูญเสียพลังงานไฟฟ้าระหว่างทีส่งเยอะกว่ากระแสสลับ อีกอย่ากระแสสลับสามารถเพิ่มและลดแรงดันได้ง่าย ง่ายกว่ากระแสตรงมากๆ. แสดงว่าลืมวิชาวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับไฟฟ้าสมัยมัธยมแน่ๆครับ
อันนี้ผมเข้าใจผิดเองครับ และลืมเองด้วย แต่ก็ไม่น่าจะต้องพูดเหน็บแนมตรงประโยคท้ายก็ได้นี่ครับ
ไม่ได้เหน็บครับแค่แซวว่าน่าจะลืมนะครับอิๆๆ
หัวข้อ: Re: รอใช้รถ EV คันแรก แต่ต้องมีข้อแม้ว่า
เริ่มหัวข้อโดย: apinui ที่ กันยายน 02, 2021, 19:33:38
ถ้ามันเป็นไปตามนี้ทุกข้อได้ก็จะดีเลยแหละ ...

แต่ถ้าให้ผมเดานะ เทคโนโลยีมันคงไปถึงตามนี้เข้าสักวันแหละ ผมเชื่ออย่างนั้น ...

แต่ถ้าสมมุติว่า ในอนาคตรถ EV เป็นได้ตามนี้ทุกข้อเลย ... แต่ ... ค่าน้ำมันดันถูกลงล่ะ เพราะคนใช้ EV กันมาก ราคาน้ำมันจึงถูกลง ถูกแบบลิตรละ 10บาทนิดๆ(สมมุตินะ) ..

เวลานั้น เราจะสนใจ EV กันอยู่ไหม .. ???
หัวข้อ: Re: รอใช้รถ EV คันแรก แต่ต้องมีข้อแม้ว่า
เริ่มหัวข้อโดย: koko86 ที่ กันยายน 02, 2021, 20:52:28
ผมว่าปัจุบันว่ากันด้วยเรื่องตัวรถ เป็นไปได้แล้วทุกข้อ ลองserch คำว่า xpeng p7 xpeng p 5, BYD tang, BYD han ราคาอยู่ในrange นี้หมด ถ้ามีพวงขวาเข้าไทย + ค่าการตลาด 2-3 แสน แล้วไม่เสียภาษีนำเข้าเลยตามที่รัฐเคยทำสัญญาไว้ ราคาก็น่าจะอยู่ในงบ

รถพวกนี้ ถ้าเป็นรุ่น dual motor 0-100 <5 วิ อย่าง p7 ก็ขับดี เพราะ CG ต่ำและให้เบรคbrembo มา รุ่น long range วิ่งได้ 700 โล
และมีของแถมคือ การขับเอง อย่างรุ่น P5 ก็ขับเองได้เกือบทุกสถาณการณ์ เพราะติดเครื่องแสกนสามมิติมากับรถน่าจะขับเองได้มากกว่าเทสล่าอีก  ตั้งแต่ศึกษาเรื่องนี้มา รถจีนเค้าล้ำจริงๆ แถมขายถูกกว่าจ้าวตลาดอย่างเทสล่าอีก

ขาดแต่ข้อ 2, 3 ที่เมืองไทยยังไม่มีนโยบายสนับสนุนแท่นชาร์จที่ดีพอเท่านั้นเอง ซึ่งก็คงต้องรออีกหลายปี.....
หัวข้อ: Re: รอใช้รถ EV คันแรก แต่ต้องมีข้อแม้ว่า
เริ่มหัวข้อโดย: OXYGEN2 ที่ กันยายน 02, 2021, 22:39:45
ข้อ 1 ได้วันนี้แล้วครับ MG EP ตอนนี้ MG ก็ถือว่าเป็นรถตลาดยี่ห้อนึงแล้วครับ

(https://www.headlightmag.com/hlmwp/wp-content/uploads/2020/12/mg_ep_wagon_ev_banner_price.jpg)
หัวข้อ: Re: รอใช้รถ EV คันแรก แต่ต้องมีข้อแม้ว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ กันยายน 02, 2021, 23:37:57
  1. ยี่ห้อตลาด ขอราคาใกล้เคียงรถยนต์สันดาปในปัจจุบัน คือ c segment ราคาประมาณ 1-1.3 ล้าน, D segment 1.5.1.8 ล้าน SUV ไม่เกิน 2 ล้าน
   2. charge เร็วได้ เข้า chargeที่ปั๊มแล้ว ใช้เวลาไม่เกิน 20-30 นาที วิ่งได้ 200-300 km
   3. ปั๊มที่ charge ไฟได้มีจำนวนสักครึ่งของปั๊มปัจจุบัน




   3  ข้อแรกไม่มีทางเป็นไปได้อย่างน้อยก็อนาคตอันใกล้นี้      คือถ้ามีเงื่อนไขแบบนี้ไม่ได้ซื้อแน่นอน 
       เพราะ    ราคารถไฟฟ้าจะแพงกว่า รถสันดาปเสมอ ถ้าเทียบกันรุ่นต่อรุ่นแม้ว่าจะมีการผลิตมากขึ้นแบตเตอรี่จะถูกลง  แต่โดยรวมราคารถยังสูงกว่ารถสันดาปอยู่ดีในรุ่นที่เท่ากัน        จะให้ถูกลงรัฐต้องลงมาช่วยแบบจีน คือจูงใจด้านภาษีเข้าไปอีกแทบจะแถมให้คนซื้อรถไฟฟ้า

        ชาร์จได้เร็วแบบ 20-30 นาที   เอาเร็วใกล้เคียงแบบนี้ไม่มีทางทำได้ในเทคโนโลยีปัจจุบัน  อนาคตเชื่อว่ายังทำไม่ได้อยู่ดี
         จำนวนปั๊มชาร์จไฟฟ้า   บ้านเรามีกี่ปั๊มสำหรับเชื้อเพลิง    หารครึ่งเพื่อให้ได้ปั๊มชาร์จไฟฟ้า ไม่มีทางได้     โดยเฉพาะปํีมตามทางหลวงชนบทหรือท้องถิ่น ต่างจังหวัด   โอกาสเกิดยาก    ถึง มีก็น้อยมาก และต้องเจอคิวยาวแน่  ๆ   
หัวข้อ: Re: รอใช้รถ EV คันแรก แต่ต้องมีข้อแม้ว่า
เริ่มหัวข้อโดย: MacH1 ที่ กันยายน 03, 2021, 00:18:43
ไม่เกิน 5 ปีเห็นครบแน่นอนทั้ง 7 ข้อ ตอนนี้ได้แล้ว 1,2,5,6,7

แต่อย่าไปหวังรอรถ CKD คับ ลากขายเทคโนเก่าๆทุกชาติไปกันอยู่แล้ว อยากเล่น BEV แบบ mass market ไปตัวเลือกรถผลิตและนำเข้าจากจีน มีตั้งแต่หลักแสนยันสองล้านต้นๆ 

ภาษีนำเข้า 0% มันดีไซน์มาเพื่อคนไทยอยู่แล้ว อย่าลังเลรถ BEV นำเข้า
หัวข้อ: Re: รอใช้รถ EV คันแรก แต่ต้องมีข้อแม้ว่า
เริ่มหัวข้อโดย: REX ที่ กันยายน 03, 2021, 03:11:01
เทคโนโลยี่ มันจะดีขึ้นเรื่อยไป  ขายได้เยอะ ต้นทุนต่อหน่วยย่อมถูกลง
คนใช้เยอะขึ้น  สถานีชาร์ตจะเยอะตาม
แต่เชื่อเถอะ  เมื่อไหร่พลังงานหายาก  ค่าไฟฟ้าก็จะต้องแพงขึ้น
พอใช้เยอะ การการกำจัดรถเก่า แบตเตอรี่ เอย ชิ้นส่วนอิเลคโทรนิค เอย
ก็จะมีปัญหาอีก
คราวนี้ก็จะเปลี่ยนจาก ปัญหาอากาศสกปรกแบบ ICE มาเป็น
พื้นดิน ท้องทะเล สกปรกแทน
ก็หลีกเลี่ยงไปทางไหนไม่ได้ นอกจากลดปริมาณการใช้ โดยใช้ร่วมกัน
เป็นระบบ sharing car
เมื่อระบบ sharing car เกิด  ระบบ autonomous drive ช่วงนี้ พัฒนาจนดีพอแล้ว
ต่อไป คนไม่ต้องขับ 
ใครอยากซื้อมาขับเองคนเดียว  จะต้องจ่ายแพงมาก เพราะจะถูกกฏหมายกดดัน
เพราะถือว่า ใช้พลังงานสิ้นเปลือง

และลบ ความเชื่อเก่าๆได้เลย ยุคนนั้น รถจีน จะถึงยุครุ่งเรือง
เหมือน เฉกเช่นที่มันเคยเปลี่ยนมือมา  จากยุโรป มาเป็น USA มาเป็นญี่ปุ่น
ต่อไปจะเป็นจีน  เพราะเตรียมมานานแล้ว
Iphone เป็นต้นแบบให้จีนแอบดูด เทคโนโลยี่จนพัฒนามือถือ ดังไปหลายแยรนด์
Tesla ก็เปิดในจีนแล้ว บริษัทจีน ต้องต่อสู้ไม่ถอย  มันต้องก้าวกระโดดจึงจะสู้ได้

อีกไม่นาน  เราจะได้เห็น



หัวข้อ: Re: รอใช้รถ EV คันแรก แต่ต้องมีข้อแม้ว่า
เริ่มหัวข้อโดย: U9WS ที่ กันยายน 03, 2021, 03:12:39
ลองติดตามช่อง teslabjorn คนไทยใน youtube ดูครับ
(ช่องไทยเข้าใจง่าย แต่ช่องภาษาอังกฤษได้เยอะกว่า)​

รถ BEV สามารถวิ่ง 1,000กม. ในเวลา 9-10ชม. ​ได้แล้วที่นอร์เวย์

โดยการวิ่ง 200-300กม. พักชาร์จ 20-30นาที เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นแล้ว

ที่​นอร์เวย์​คือการชาร์จไฟ​สูงสุดที่ 100-250kW ปีหน้ามากกว่า 250-350kW จะเริ่มมา และรถแบตเทคใหม่ๆจะรับไฟ kW สูงสุดได้นานขึ้น

อย่าง Audi E-Tron​ GT​ ได้แท่น DC 800V 330A 250kW ชาจน์​จาก 2% - 46% หรือมีไฟ 40kWh ใช้เวลาแค่ 10นาที (เข้าห้องน้ำกันทันรึปล่าว)​

ส่วนในไทย MG แบตขนาด 44.5kWh ชาร์จ​บ้านได้แค่ 7.2kW แท่น DC 400V 90A 50kW รอกันไปเถอะ​

การชาร์จรถ BEV ในชีวิตจริงถ้าไม่จอดค้างคืนที่บ้านไม่ต้องชาร์จ​100% เพราะแบตใกล้เต็มมันจะชาร์จ​ช้าขึ้นเรื่อยๆ

แบต tesla​ ทนและเสื่อมน้อยมาก คนไทยอย่าเอาประสบการณ์​แบตถ่านไฟฉาย hybrid​ toyota มาวัดกับ lithium ​คุณภาพดีๆ และรถ BEV ที่ต่างประเทศผ่านการใช้งานหลักหลายแสนกิโลเมตรแตะ 10ปี โดยไม่ต้องเปลี่ยนแบตเป็นมาตรฐาน​ปกติ

อีกหน่อยการชาร์จ​เร็วขึ้นและจุดชาร์จ​เยอะพอ แบตก็ไม่ต้องใหญ่ เปิดทางให้รถเล็กลงเบาลงและราคาถูกลงได้อีกเยอะครับ
BEV เทียบขนาดและสมรรถนะ​แล้วจะสามารถถูกกว่ารถน้ำมันที่จะโดนบีบเรื่องขอบังคับและภาษีมลพิษ​ได้ในอนาคต​ที่ไม่ไกล


สรุปคำถาม ถ้าแยกเป็นข้อๆ 1-7 มันล้วนเกินขึ้นจริงแล้วในโลกไม่ใช่แค่ความฝัน (ยกเว้นข้อ3)​

แต่ถ้ารวม1-7เพื่อจะซื้อรถคันเดียวในไทยยังเป็นความหวังที่สูงเกินไป BEV ราคาเท่ารถน้ำมันในวันนี้ยังไม่สามารถทำในข้อ 2และ4ได้ และข้อ5 ก็ต้องใช้เวลาพิสูตร
หัวข้อ: Re: รอใช้รถ EV คันแรก แต่ต้องมีข้อแม้ว่า
เริ่มหัวข้อโดย: xman2029 ที่ กันยายน 03, 2021, 06:27:52
จริงๆเทคโนโลยีรถยนต์มันไปไกลกว่าที่เราเห็นในประเทศจากพวกค่ายรถญี่ปุ่นเยอะเลยครับ และอย่าเอามาตรฐานรถในประเทศไปใช้กับต่างประเทศ เพราะตลาดไทยรถไทยผูดขาดโดยค่ายญี่ปุ่น เพราะฉนั้น เทคโนโลยีเจ๋งๆจริงไม่ค่อยมีเพราะคู่แข่งน้อย
หัวข้อ: Re: รอใช้รถ EV คันแรก แต่ต้องมีข้อแม้ว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Underseven ที่ กันยายน 03, 2021, 08:38:20
ผมเชื่อว่าหลายๆท่านในนี้ที่ใช้ EV อยู่น่าจะเชื่อว่ามันเกิดขึ้นจริงแล้วในหลายๆข้อเลยครับ
ผมคาดว่าไม่นานเท่าจขกท.คิดแน่ๆครับ  ::)

อันนี้ตัวอย่างที่ใช้อยู่เลยนะครับ 30 นาทีก็ 150 km++ ได้แล้วในปัจจุบัน (50kW DC Charger ปั๊มในประเทศไทยนี่ล่ะครับ 55)

(https://i.ibb.co/qdTy6H1/342527.jpg)

(https://i.ibb.co/J76TNd4/342526.jpg)

หัวข้อ: Re: รอใช้รถ EV คันแรก แต่ต้องมีข้อแม้ว่า
เริ่มหัวข้อโดย: MyName ที่ กันยายน 03, 2021, 09:29:00
ข้อ 4. กับข้อ 6. นี่ ดูจะยังแปรผกผันตามข้อ 1. นะครับ
หัวข้อ: Re: รอใช้รถ EV คันแรก แต่ต้องมีข้อแม้ว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ภูมิใจไหม? ที่ กันยายน 03, 2021, 09:45:09
แถวบางแสน หัวหิน เขาใหญ่ น่าลงทุนสถานีชาร์ตมาก ร้านอาหาร โรงแรมก็ควรมีติดตั้งไว้นะเนี่ย เอาไว้กวักเรียกลูกค้าครับ
หัวข้อ: Re: รอใช้รถ EV คันแรก แต่ต้องมีข้อแม้ว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Gunther ที่ กันยายน 03, 2021, 11:48:52
อนาคตไม่นานเกินรอต้องได้ใช้รถ EV คันแรกแน่ๆ แต่ผมมี spec ในใจอยู่ว่า
  1. ยี่ห้อตลาด ขอราคาใกล้เคียงรถยนต์สันดาปในปัจจุบัน คือ c segment ราคาประมาณ 1-1.3 ล้าน, D segment 1.5.1.8 ล้าน SUV ไม่เกิน 2 ล้าน
   2. charge เร็วได้ เข้า chargeที่ปั๊มแล้ว ใช้เวลาไม่เกิน 20-30 นาที วิ่งได้ 200-300 km
   3. ปั๊มที่ charge ไฟได้มีจำนวนสักครึ่งของปั๊มปัจจะบัน
   4. charge เต็ม วิ่งได้ ประมาณ 700-800 kmอย่างน้อย
   5. แบต ใข้ได้ยาวๆ ไม่ต่ำกว่า 10 ปี
   6. ความแรง driving dynamic เท่าหรือดีกว่าเครื่องยนต์ในปัจจุบัน
   7. ค่า maintenance ไม่โหดเกินไป
  ผมคาดว่าอีกประมาณ 7-10 ปี น่าจะมีได้ประมาณนี้ เป็นไปได้ไหมครับ

1. ยี่ห้อตลาด ขอราคาใกล้เคียงรถยนต์สันดาปในปัจจุบัน คือ c segment ราคาประมาณ 1-1.3 ล้าน, D segment 1.5.1.8 ล้าน SUV ไม่เกิน 2 ล้าน
(เลือก MG ZS EV ครับ)
2. charge เร็วได้ เข้า chargeที่ปั๊มแล้ว ใช้เวลาไม่เกิน 20-30 นาที วิ่งได้ 200-300 km
(เลือก MG ZS EV ครับ)
3. ปั๊มที่ charge ไฟได้มีจำนวนสักครึ่งของปั๊มน้ำมัน
(รออีก 5 ปีข้างหน้าครับ ยังไม่เลือกตอนนี้ครับ)
4. charge เต็ม วิ่งได้ ประมาณ 700-800 kmอย่างน้อย
(รอเปิดตัว Mercedes-Benz EQS ในไทยครับ ซึ่งจะประกอบในประเทศ)
5. แบต ใข้ได้ยาวๆ ไม่ต่ำกว่า 10 ปี
(เลือก Tesla Model 3 ครับ)
6. ความแรง driving dynamic เท่าหรือดีกว่าเครื่องยนต์ในปัจจุบัน
(รถยนต์ไฟฟ้า ความแรง driving dynamic ดีกว่าเครื่องยนต์ เลือก MG EP ครับ)
7. ค่า maintenance ไม่โหดเกินไป
(รถยนต์ไฟฟ้า ค่า maintenance ย่อมถูกกว่ารถยนต์น้ำมันครับ เลือก MG EP ครับ)

สรุปคือ รออีก 5 ปีข้างหน้า เราถึงจะใช้รถยนต์ไฟฟ้า คันแรกครับ แต่ถ้าชอบรถยนต์ไฟฟ้า แนะนำให้เลือก MG EP ครับ ขับมันส์กว่า แรงกว่า วิ่งได้ไกลกว่า ราคาถูกกว่า MG ZS EV ครับ
หัวข้อ: Re: รอใช้รถ EV คันแรก แต่ต้องมีข้อแม้ว่า
เริ่มหัวข้อโดย: poochil ที่ กันยายน 03, 2021, 12:56:01
ใจจริงคือถึงจะได้ไม่ครบทั้ง 7 ข้อ แต่ก็คิดว่าเปลี่ยนรถคันหน้าจะเปลี่ยนมาเป็น EV สัก 1 คัน เพื่อมาใช้กับการเดินทางใน กทม. ส่วนรถอีกคันเป็นเครื่องยนต์ ก็จะเก็บไว้เดินทางต่างจังหวัด กะไว้ประมาณที่  5 ปี ข้างหน้าครับ
หัวข้อ: Re: รอใช้รถ EV คันแรก แต่ต้องมีข้อแม้ว่า
เริ่มหัวข้อโดย: mongolias ที่ กันยายน 03, 2021, 13:10:45
ผมขอแค่ราคาไม่โดดไปกว่ารถน้ำมันมากนัก
และเรื่องการชาร์จไฟ ถ้าสามารถทำให้ชาร์จทีละ 30 นาที วิ่งได้ 200 - 300 ก.ม. + มีสถานีชาร์จไฟครอบคลุมทุกอำอำเภอ
หัวข้อ: Re: รอใช้รถ EV คันแรก แต่ต้องมีข้อแม้ว่า
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ กันยายน 03, 2021, 16:29:05
ถ้า 10 ปี ผมว่าเป็นไปได้นะ
หัวข้อ: Re: รอใช้รถ EV คันแรก แต่ต้องมีข้อแม้ว่า
เริ่มหัวข้อโดย: jinnchuuriki ที่ กันยายน 03, 2021, 18:18:57
1. ยี่ห้อตลาด ขอราคาใกล้เคียงรถยนต์สันดาปในปัจจุบัน คือ c segment ราคาประมาณ 1-1.3 ล้าน, D segment 1.5.1.8 ล้าน SUV ไม่เกิน 2 ล้าน
    == ถ้าเทียบเท่าสันดาปเลย น่าจะอีก 10 ปี อีกอย่างเจ้าตลาดไม่ค่อยเน้นรถไฟฟ้า คงอีกนาน

2. charge เร็วได้ เข้า chargeที่ปั๊มแล้ว ใช้เวลาไม่เกิน 20-30 นาที วิ่งได้ 200-300 km
    == อันนี้สำคัญมาก ต้องรอระบบไฟประเทศไทยพัฒนากว่านี้ ถ้ามีสถานีชาร์จความเร็วสัก 300 kwh คงเติมเร็วพอๆกับน้ำมัน

3. ปั๊มที่ charge ไฟได้มีจำนวนสักครึ่งของปั๊มปัจจะบัน
    == ผมมองว่าไม่จำเป็น เพราะเราชาร์จที่บ้านได้ ขอแค่มีทุก 100 km และไฟแรง 200 kwh+ ก็พอ

4. charge เต็ม วิ่งได้ ประมาณ 700-800 kmอย่างน้อย
    == ข้อนี้ผมว่ามันมีข้อเสียในตัว คือน้ำหนักจะเยอะ ค่าเปลี่ยนแบตจะแพง และเสียเวลาชาร์จนาน ผมว่าเอาสัก 400 km ต่อถังก็พอ แต่สำคัญที่สุดคือความแรงในการชาร์จ

5. แบต ใข้ได้ยาวๆ ไม่ต่ำกว่า 10 ปี
    == ใช้ได้เกิน 10 ปีแน่นอน แตแบตคงเสื่อมไประดับนึง

6. ความแรง driving dynamic เท่าหรือดีกว่าเครื่องยนต์ในปัจจุบัน
    == ปัจจุบันนี้ ดีกว่ารถน้ำมันในราคาเท่ากัน คุณเห็น volvo xc40 EV มั้ย 0-100 4 วิกว่าๆนะ ราคา 2.5M เอง

7. ค่า maintenance ไม่โหดเกินไป
    == ถูกกว่าน้ำมันเยอะ

ผมว่าจุดสำคัญของรถไฟฟ้าก็คือความแรงในการชาร์จมากกว่าปริมาณแบตเตอรี่
เอาแบตสัก 80kwh พอ แต่สถานีชาร์จต้องแรงระดับ 300 kwh และรถชาร์จได้ด้วย

อัตรากินไฟ 0.2 kwh/km คุณวิ่งไป 300 km แบตจะเหลือ 20% ประมาณ คุณต้องอยากพักรถบ้างแล้ว
แวะชาร์จ หัวชาร์จ แรงเฉลี่ย 300 kwh  คุณชาร์จ 10 นาที ได้ไฟมา 50 kwh ก็วิ่งได้อีก 250 km
พอถึงที่หมาย คุณนอนหลับ ก็ชาร์จ AC ชิวๆไป เช้าเต็ม

หัวข้อ: Re: รอใช้รถ EV คันแรก แต่ต้องมีข้อแม้ว่า
เริ่มหัวข้อโดย: DiKiBoyZ ที่ กันยายน 03, 2021, 21:57:13
อนาคตไม่นานเกินรอต้องได้ใช้รถ EV คันแรกแน่ๆ แต่ผมมี spec ในใจอยู่ว่า
  1. ยี่ห้อตลาด ขอราคาใกล้เคียงรถยนต์สันดาปในปัจจุบัน คือ c segment ราคาประมาณ 1-1.3 ล้าน, D segment 1.5.1.8 ล้าน SUV ไม่เกิน 2 ล้าน
  --> มาแน่ครับ ทั้ง Toyota และ Honda สังเกตุว่ามีโฆษณาของ Toyota EV ออกมาตลอด ตั้งแต่ช่วงโอลิมปิคมานี้

   2. charge เร็วได้ เข้า chargeที่ปั๊มแล้ว ใช้เวลาไม่เกิน 20-30 นาที วิ่งได้ 200-300 km
  --> ตามเทคโนโลยีครับ ได้เห็นแน่ๆ ละ เพราะมือถือเองยังมีตั้งสมัยก่อน ชาร์จธรรมดา เดี๋ยวนี้มี ควิคชาร์จ , ฟาสชาร์ , ซูปเปอร์ชาร์จ และ นาเม็คชาร์จแล้ว เดี๋ยวรถยนต์ก็ตามมาครับ

   3. ปั๊มที่ charge ไฟได้มีจำนวนสักครึ่งของปั๊มปัจจะบัน
  --> เหมือนเขากำลังพยายามขยายอยู่ และ MEA และ เอกชน เจ้าอื่นๆ กำลังทำอยู่ ผมว่าไปในทิศทางที่ดีนะ

   4. charge เต็ม วิ่งได้ ประมาณ 700-800 kmอย่างน้อย
--> ในรถบ้าน ผมว่า ขอแค่ 500km ก็ดีใจแล้วละ 700-800 ส่วนมากว่าจะเป็น package พิเศษ ไว้เป็นจุดขาย เป็นแพ็คเก็จเสริม long length ว่าไป

   5. แบต ใข้ได้ยาวๆ ไม่ต่ำกว่า 10 ปี
--> แบตเตอรี่ Hybrid เขายังรับประกัน 10 ปีแล้ว ข้อนี้ข้ามไปเลย

   6. ความแรง driving dynamic เท่าหรือดีกว่าเครื่องยนต์ในปัจจุบัน
--> ความแรง แรงม้า แรงบิด ของ Pure EV มีให้ใช้งานทุกย่านอยู่แล้ว แรงแน่นอน แต่ถ้าเขาจูนให้แรงมาก ก็มีผลกับแบตเตอรี่ ผมว่าเอาแค่พอใช้งาน ขับสนุก ก็พอแล้ว

   7. ค่า maintenance ไม่โหดเกินไป
--> ผมกลับมองว่า รถ EV ค่า maintenance  ถูกกว่า รถเครื่องยนต์สันดาบ นะครับ และอายุการใช้งานยาวนานกว่า รถสันดาบด้วยซ้ำ จะมีห่วงแต่เรื่องแบตเตอรี่ แต่ 10 ปี สบาย เพราะชิ้นส่วนน้อยกว่ามาก ปัญหาจุกจิ๊ก น่าจะน้อยมาก ถ้าไม่การตลาด ขายของแพง อะไหล่แพงแบบสร้างบ้าน ถ้ามันจะจุ๊กจิก มันน่าจะมาออฟชั่นและเทคโนโลยีตัวรถเองมากกว่า เพราะรถสันดาบเอง จาก 0 ที่แล้วใช้งานยาวๆ สมัยนี้มันมีปัญหาเร็วกว่าเดิมอยู่แล้ว

  ผมคาดว่าอีกประมาณ 7-10 ปี น่าจะมีได้ประมาณนี้ เป็นไปได้ไหมครับ