Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: MyName ที่ สิงหาคม 08, 2022, 23:26:06
-
หลายท่านน่าจะเห็นข่าวแล้วว่า Nissan ส่งรุ่นพิเศษ Almera Sportech-X ออกมา
695,000 บาท จำนวนจำกัด 300 คัน
ข่าว HLM : https://www.headlightmag.com/2022-08-08-price-nissan-almera-sportech-x-edit/
Official Site : https://www.nissan.co.th/vehicles/new-vehicles/new-almera.html#C400_cmp_story_27d9-modal
ซึ่งถ้าไปดูในส่วนของความเปลี่ยนแปลงจากรุ่น Sportech ปกติแล้ว จะพบว่ามี 2 สิ่งที่น่าสนใจคือ
- ไฟส่องสว่างกลางวัน DRL LED
(https://www.img.in.th/images/d42f28575d2395e59d820601b3d81b19.jpg)
- ล้ออัลลอยด์ 16
(https://www.img.in.th/images/264db14a4ade5bed8bc9a10719ab44aa.jpg)
ซึ่งถ้ายังจำกันตอนเปิดตัว Almera โฉมนี้ได้ ก็เป็นปัญหาคาใจแก่ผู้บริโภคว่าทำไมรุ่นปกติยังได้แค่ล้อ 15 และไม่ได้ไฟ DRL มาพร้อมใช้งาน และสุดท้ายก็ค้นพบว่าสามารถเปิดไฟ DRL ภายหลังได้แต่ไม่รับประกันคุณภาพ
ทางสื่อที่ได้นำไปถามทาง ผบห แล้วได้รับคำตอบมาว่า จำเป็นจะต้องทำแบบนี้เพื่อให้รถผ่านเกณฑ์การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ให้เป็นไปตามข้อกำหนดของการเสียภาษีสรรพสามิตรถยนต์ประเภท Eco car phase 2 ผลคือรถรุ่นปกติที่ขายมาก่อนหน้านั้นก็ปล่อย CO2 เท่ากับข้อกำหนดเลยนั่นคือ 100 g/km
พอเวลาผ่านไปจนถึงตอนนี้ Nissan ก็ได้ส่งรุ่นพิเศษนี้ออกมาโดยสามารถให้ 2 อย่างนี้มาได้ ซึ่งผิดกับที่บอกไว้ก่อนหน้า แล้วแบบนี้จะยังผ่านมาตรฐาน Eco car phase 2 อยู่รึเปล่า? แล้วทำยังไง?
เลยไปหาข้อมูลมาจาก Eco Sticker ครับ ผลที่ได้คือ รุ่นนี้ ไม่ผ่านเกณฑ์การปล่อยไอเสียตามมาครฐาน Eco car phase 2 ครับ
โดยมีการปล่อย CO2 ออกมาถึง 114 g/km เกินมาตรฐานไปไกลเลยครับ
Eco Sticker ของรุ่นพิเศษ Sportech-X
(https://www.img.in.th/images/0dac73fc7139062f63954fdc73fdd99a.png)
และนอกจากนี้จากที่สังเกตใน Eco Sticker
- น้ำหนักรถเพิ่มมาจากรุ่นปกติ 15 kg
- ตามที่ทดสอบอัตราการใช้น้ำมันในสภาวะรวม ยังมีอัตราการใช้น้ำมันที่สูงถึง 20.8 km/l จากรุ่นปกติที่มีการใช้น้ำมัน 23.3 km/l
Eco Sticker ของรุ่น Sportech ปกติ
(https://www.img.in.th/images/730915ae87bb7589ad24dcb2383cdbcb.png)
อ้าว แล้วแบบนี้ Almera Sportech-X จะต้องเสียภาษีสรรพสามิตในเรทเท่าใด
พอลงไปดูข้อกำหนดต่างๆ แล้ว ผลคือ เสียภาษีเรท Eco car phase 1 ครับ
เนื่องจากการปล่อยไอเสียยังคงอยู่ในเกณฑ์ Eco car phase 1 อยู่ คือไม่เกิน 120 g/km
และข้อกำหนดในส่วนด้านความปลอดภัยอื่นๆ ที่ไม่เข้มงวดเท่า
ทำให้นอกจากราคาขายหน้าป้ายที่แพงขึ้นมา 20,000 บาทแล้ว ต้นทุนในด้านภาษีสรรพสามิตที่เก็บก็เพิ่มขึ้นมาด้วยครับ
(https://www.img.in.th/images/7abb94205502dc1c11ce4864d6f613ef.png)
ก็ไม่รู้ว่า Nissan ทำรุ่นพิเศษเพื่อเอาใจตลาด ต้องลงทุนลดข้อกำหนด ผลคือเสียภาษีสรรพสามิตแพงขึ้นไปอีกในครั้งนี้ จะได้ผลตอบรับมาคุ้มค่ามากน้อยขนาดไหน
ที่แน่ๆ ทำมาแค่ 300 คันก็คงกะว่ากระตุ้นความต้องการตลาด และอาจจะต้องยอมลดกำไรที่ได้ลงไปบ้าง ก็ดูกันครับว่าจะได้รับผลตอบรับที่ดีหรือไม่ ใช้เวลานานมั้ยกว่ารถจะหมดจากตลาด
และลูกค้าที่กำลังสนใจก็ต้องดูครับว่าการที่ได้ล้อสวยๆ ขนาดใหญ่จากโรงงาน พร้อมไฟ DRL พร้อมใช้งานไม่ต้องหาปลดทีหลังให้เสี่ยงกับการรับประกัน รวมถึงชุดแต่งส่วนอื่นๆ อย่างไฟ Ambient Light ภายในห้องโดยสารและใต้ประตู ด้ายเบาะหนังสีแดง ฯลฯ ที่สวยจบครบจากโรงงาน แลกมากับการใช้น้ำมันที่มีอัตราการใช้สูงกว่ารุ่นปกติ และราคารถที่จ่ายเพิ่มมานั้น จะคุ้มค่าในสายตาของคุณหรือไม่ ลองตัดสินใจกันครับ
-
2 หมื่น คุ้มอยู่นา กินน้ำมันนิดหน่อยไม่เท่าไหร่
-
สงสัยอยู่อย่างว่า Yaris X urban ที่ใส่ล้อ 16 ที่ toyata บอกว่าเป็นชุดแต่ง พอไปดู eco sticker ใช้ล้อ 15เทส
ถ้าเลี่ยงบาลีด้วยคำว่าชุดแต่ง ตอนเทสใส่ล้อ 15เดิม พอเข้าโชว์รูมซื้อขาย ใส่ล้อ 16ให้ ทำได้รึเปล่า
เพราะในสเปคชัดเจนว่า ตัว X urban ให้ล้อ 15 ถ้าลูกค้าซื้อ+ชุดแต่งถึงได้ล้อ 16+part รอบคัน(ซึ่งผมมั่นใจว่า part+ล้อ+ยกสูงขึ้น ไม่น่ารอด eco2)
ถ้า toyota ทำได้ ทำไม nissan ไม่ทำแนวนี้เพื่อเลี่ยงบาลีตามบ้าง ส่วนไฟ DRL ก็บอกว่าเป็นชุดแต่งไปก็จบ ได้ภาษี eco2 เหมือนเดิมด้วย
มันติดตรงไหน nissan ถึงไม่ได้ทำ อันนี้ผมไม่รู้ครับ มีใครพอรู้มั่ง
-
แค่เพิ่มขนาดล้อ กับ ไฟ DRL เพิ่มอีก 14 เลยเหรอ อัตราสิ้นเปลืองถือว่าเพิ่มเยอะเหมือนกัน
จริงทำแบบ MAZDA ก็ได้ครับจูนลดพลังเลย ช้าลงอีก 0.5 วินาที ไม่มีลูกค้าจับสังเกตหรอก
สงสัยอยู่อย่างว่า Yaris X urban ที่ใส่ล้อ 16 ที่ toyata บอกว่าเป็นชุดแต่ง พอไปดู eco sticker ใช้ล้อ 15เทส
ถ้าเลี่ยงบาลีด้วยคำว่าชุดแต่ง ตอนเทสใส่ล้อ 15เดิม พอเข้าโชว์รูมซื้อขาย ใส่ล้อ 16ให้ ทำได้รึเปล่า
เพราะในสเปคชัดเจนว่า ตัว X urban ให้ล้อ 15 ถ้าลูกค้าซื้อ+ชุดแต่งถึงได้ล้อ 16+part รอบคัน(ซึ่งผมมั่นใจว่า part+ล้อ+ยกสูงขึ้น ไม่น่ารอด eco2)
ถ้า toyota ทำได้ ทำไม nissan ไม่ทำแนวนี้เพื่อเลี่ยงบาลีตามบ้าง ส่วนไฟ DRL ก็บอกว่าเป็นชุดแต่งไปก็จบ ได้ภาษี eco2 เหมือนเดิมด้วย
มันติดตรงไหน nissan ถึงไม่ได้ทำ อันนี้ผมไม่รู้ครับ มีใครพอรู้มั่ง
น่าจะเพราะคำว่า "อุปกรณ์จากโรงงาน" บ.นี้เก่งเลี้ยงบาลีอยู่แล้ว ยังจำเคส แค็ปเปิดได้กับ แก้กฏหมายพร้อมเปิดตัว PPV :P :P :P
-
14กิโลมันเพื่มมาจากยาง?ครับ
-
ก็คงต้องเสี่ยงเดิมพันมากขึ้น กระตุ้นตลาดมากขึ้น
เพราะวันนี้น่าจะเปิดตัว New Yaris นะ
-
สงสัยอยู่อย่างว่า Yaris X urban ที่ใส่ล้อ 16 ที่ toyata บอกว่าเป็นชุดแต่ง พอไปดู eco sticker ใช้ล้อ 15เทส
ถ้าเลี่ยงบาลีด้วยคำว่าชุดแต่ง ตอนเทสใส่ล้อ 15เดิม พอเข้าโชว์รูมซื้อขาย ใส่ล้อ 16ให้ ทำได้รึเปล่า
เพราะในสเปคชัดเจนว่า ตัว X urban ให้ล้อ 15 ถ้าลูกค้าซื้อ+ชุดแต่งถึงได้ล้อ 16+part รอบคัน(ซึ่งผมมั่นใจว่า part+ล้อ+ยกสูงขึ้น ไม่น่ารอด eco2)
ถ้า toyota ทำได้ ทำไม nissan ไม่ทำแนวนี้เพื่อเลี่ยงบาลีตามบ้าง ส่วนไฟ DRL ก็บอกว่าเป็นชุดแต่งไปก็จบ ได้ภาษี eco2 เหมือนเดิมด้วย
มันติดตรงไหน nissan ถึงไม่ได้ทำ อันนี้ผมไม่รู้ครับ มีใครพอรู้มั่ง
อันนี้เห็นด้วยครับ ...
เรื่องไฟ DRL ที่ถ้าไม่เปิดมาให้จากโรงงาน แต่มันสามารถปลดได้จากระบบ ก็ไม่ควรไปขู่ลูกค้าว่าถ้าปลดจะหมดประกัน ... ลูกค้าซื้อมาแล้วถ้าไปเปิดระบบเองไม่ได้ดัดแปลงอุปกรณ์ก็ไม่น่าจะต้องไปขู่ห้ามทำขนาดนั้น
ส่วนล้อนี่แค่เปลี่ยนลายให้มันดูใหญ่ขึ้นแต่ใส่ 15" เหมือนเดิมก็ได้นะจริงๆอะ
-
ไม่เข้าใจหลักการคิดเหมือนกันนะ
รถน้ำหนักเพิ่มขึ้นนิดหน่อย 15 กว่ากิโล เลยทำให้ปล่อย CO2 เพิ่มขึ้นอีก 10 กว่ากรัมต่อกิโลเมคร นั้นคือในทางการทดสอบ
แต่ใช้งานจริง แสดงว่า ถ้าคนขับน้ำหนัก 40kg กับ 80kg มาขับ
ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่า คนที่น้ำหนักตัว 80kg มาขับ น่าจะทำให้อัตราการปล่อย CO2 มากขึ้นกว่านี้ (ต่อให้เป็นตัวเดิม ไม่ใช่ Sportech-X) ด้วย
มันกลายเป็นว่า ผลการทดสอบเพื่อให้ได้ EcoStricker มา มันห่วงใยแค่ในห้องสถานที่ทดสอบหรือห้องแล็ป แค่นั้นเอง
แต่ในถนนจริงมากล่อยเกิน ก็ไม่เป็นไป ช่างหัวมัน สุดท้าย ตกลงแคร์โลก หรือ แคร์แค่ตอนทดสอบ ไม่เข้าใจหลักการนี้
-
ขายราคานี้ ถ้าของมา ครบๆพวก crusie control เบาะหลังพับ/แยกได้
น่าจะทำให้คนมีความอยากซื้อมากขึ้นนะ
-
จากที่เคยเอารถแฟนไปเข้าศูนย์ แล้วมุดดูกับช่าง
ผมว่ารถมันน่าจะหนักเพราะการเลี้ยวท่อไอเสียไปด้านข้าง นะครับ ถ้าตัดตรงมาทางอุโมงค์คอนโซล น่าจะลดความยาวท่อและน้ำหนักลงไปได้อีก
และยางให้มาเป็น 195 ถ้าลดให้แคบลงเหลือแค่ 175-165 ก็น่าจะประหยัดน้ำมันไปได้อีก แต่น่าจะยาก เพราะน่าจะต้องแก้ช่วงล่างให้เข้ากับยางด้วย
-
DRL รุ่น V,VL,VL Sportech พ่อก็เปิดมาให้ลูกค้าเขาเถอะ เห็นหลายคันเปิดระบบ DRL มามันดูสวยดูดีกว่าปิดระบบเยอะ
กะอีแค่ไฟ DRL มันจะทำให้ไอเสียพุ่งขึ้นมากมายรึไง ไปหาทางลดส่วนที่ไม่ใช่ Cosmetic ดีกว่าไหมพ่อคุณ
-
แค่เพิ่มขนาดล้อ กับ ไฟ DRL เพิ่มอีก 14 เลยเหรอ อัตราสิ้นเปลืองถือว่าเพิ่มเยอะเหมือนกัน
จริงทำแบบ MAZDA ก็ได้ครับจูนลดพลังเลย ช้าลงอีก 0.5 วินาที ไม่มีลูกค้าจับสังเกตหรอก
สงสัยอยู่อย่างว่า Yaris X urban ที่ใส่ล้อ 16 ที่ toyata บอกว่าเป็นชุดแต่ง พอไปดู eco sticker ใช้ล้อ 15เทส
ถ้าเลี่ยงบาลีด้วยคำว่าชุดแต่ง ตอนเทสใส่ล้อ 15เดิม พอเข้าโชว์รูมซื้อขาย ใส่ล้อ 16ให้ ทำได้รึเปล่า
เพราะในสเปคชัดเจนว่า ตัว X urban ให้ล้อ 15 ถ้าลูกค้าซื้อ+ชุดแต่งถึงได้ล้อ 16+part รอบคัน(ซึ่งผมมั่นใจว่า part+ล้อ+ยกสูงขึ้น ไม่น่ารอด eco2)
ถ้า toyota ทำได้ ทำไม nissan ไม่ทำแนวนี้เพื่อเลี่ยงบาลีตามบ้าง ส่วนไฟ DRL ก็บอกว่าเป็นชุดแต่งไปก็จบ ได้ภาษี eco2 เหมือนเดิมด้วย
มันติดตรงไหน nissan ถึงไม่ได้ทำ อันนี้ผมไม่รู้ครับ มีใครพอรู้มั่ง
น่าจะเพราะคำว่า "อุปกรณ์จากโรงงาน" บ.นี้เก่งเลี้ยงบาลีอยู่แล้ว ยังจำเคส แค็ปเปิดได้กับ แก้กฏหมายพร้อมเปิดตัว PPV :P :P :P
น่าจะเพราะเดิมจริงแล้วมันก็ไม่ได้เร็วอะไรครับ ตัวเลขมันดีเพราะไมล์อ่อน
ถ้าปรับจูนกำลังลงน่าจะเข้าขั้นอืด และอาจจะช่วยไม่ได้มาก บวกกับต้นทุนอาจจะแพงกว่าการเสียถาษีสรรเพิ่มก็คงเป็นได้ครับ
ส่วน Toyota เรื่องหัวหมอบาลีนี่ต้องยกให้เค้าเลยครับ
ตั้งแต่ Vios 2013 ที่เข้าโครงการรถคันแรกที่จะหมดในปี 2012 ล่ะ
NMT คงไม่ได้มี power มากพอที่จะทำแบบนี้แล้วจะไม่เป็นไร
จากที่เคยเอารถแฟนไปเข้าศูนย์ แล้วมุดดูกับช่าง
ผมว่ารถมันน่าจะหนักเพราะการเลี้ยวท่อไอเสียไปด้านข้าง นะครับ ถ้าตัดตรงมาทางอุโมงค์คอนโซล น่าจะลดความยาวท่อและน้ำหนักลงไปได้อีก
และยางให้มาเป็น 195 ถ้าลดให้แคบลงเหลือแค่ 175-165 ก็น่าจะประหยัดน้ำมันไปได้อีก แต่น่าจะยาก เพราะน่าจะต้องแก้ช่วงล่างให้เข้ากับยางด้วย
ถ้าไม่นับ Yaris Ativ ที่พึ่งเปิดตัววันนี้
ถือว่าเป็นรถที่ให้ล้อยางมาใหญ่เกินตัวมากรุ่นนึงจริงๆ ครับ
ล้อนี่ C-segment เมื่อช่วง 5-10 ปีก่อนเลย
แต่ถ้าลดก็คงต้องใช้ต้นทุนสูงในการปรับแต่งจริงๆ ครับ
DRL รุ่น V,VL,VL Sportech พ่อก็เปิดมาให้ลูกค้าเขาเถอะ เห็นหลายคันเปิดระบบ DRL มามันดูสวยดูดีกว่าปิดระบบเยอะ
กะอีแค่ไฟ DRL มันจะทำให้ไอเสียพุ่งขึ้นมากมายรึไง ไปหาทางลดส่วนที่ไม่ใช่ Cosmetic ดีกว่าไหมพ่อคุณ
สงสัยอยู่อย่างว่า Yaris X urban ที่ใส่ล้อ 16 ที่ toyata บอกว่าเป็นชุดแต่ง พอไปดู eco sticker ใช้ล้อ 15เทส
ถ้าเลี่ยงบาลีด้วยคำว่าชุดแต่ง ตอนเทสใส่ล้อ 15เดิม พอเข้าโชว์รูมซื้อขาย ใส่ล้อ 16ให้ ทำได้รึเปล่า
เพราะในสเปคชัดเจนว่า ตัว X urban ให้ล้อ 15 ถ้าลูกค้าซื้อ+ชุดแต่งถึงได้ล้อ 16+part รอบคัน(ซึ่งผมมั่นใจว่า part+ล้อ+ยกสูงขึ้น ไม่น่ารอด eco2)
ถ้า toyota ทำได้ ทำไม nissan ไม่ทำแนวนี้เพื่อเลี่ยงบาลีตามบ้าง ส่วนไฟ DRL ก็บอกว่าเป็นชุดแต่งไปก็จบ ได้ภาษี eco2 เหมือนเดิมด้วย
มันติดตรงไหน nissan ถึงไม่ได้ทำ อันนี้ผมไม่รู้ครับ มีใครพอรู้มั่ง
อันนี้เห็นด้วยครับ ...
เรื่องไฟ DRL ที่ถ้าไม่เปิดมาให้จากโรงงาน แต่มันสามารถปลดได้จากระบบ ก็ไม่ควรไปขู่ลูกค้าว่าถ้าปลดจะหมดประกัน ... ลูกค้าซื้อมาแล้วถ้าไปเปิดระบบเองไม่ได้ดัดแปลงอุปกรณ์ก็ไม่น่าจะต้องไปขู่ห้ามทำขนาดนั้น
ส่วนล้อนี่แค่เปลี่ยนลายให้มันดูใหญ่ขึ้นแต่ใส่ 15" เหมือนเดิมก็ได้นะจริงๆอะ
DRL เป็นสิ่งที่นิสสันถือว่าพลาดจริงๆ ครับ ตัดจุดเด่นหลักๆ งานดีไซน์ออกไปเลย
แล้วคนที่เปิดมาตั้งแต่รถออกมาใหม่ๆ ทุกวันนี้หลอดก็ยังขาวใสไม่เหลืองอยู่เลย
-
เห็นการเปิดตัว new ativ วันนี้ สงสัยคงได้เห็น ตัว mc แบบ altima หน้าจีนแหง ๆ
เน้นผู้ใหญ่ ๆ