Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Weetting ที่ มีนาคม 08, 2023, 12:15:01

หัวข้อ: // ว่ากันเรื่องราคาแบตเตอรี่ในอนาคต //
เริ่มหัวข้อโดย: Weetting ที่ มีนาคม 08, 2023, 12:15:01
เมื่อวานไปรื้อของในห้องเก็บของ เจอกล่องทามิย่าที่เล่นตอนเด็กมีใบเสร็จเขียนมือราคาถ่านชาร์จ Sony aa ความจุ 1800 ก้อนละ 80 บาท   (ราคาเมื่อ 16 ปีที่แล้ว) 

พอลองเปิดมือถือเทียบราคาถ่านชาร์จ aa ตอนนี้ ความจุใกล้เคียงกัน ก็ราคาไปเริ่มก้อนละ 100 กว่าบาทไปละ

ยิ่งราคาถ่าน aa Panasonic Neo ก้อนดำ   แต่ก่อนราคาแพ็ค 4ก้อนอยู่ที่ 35-38 แล้วแต่ร้าน ตอนนี้ก็ไป 70-80 บาท   

เลยกลับมาสงสัยว่าที่ในกลุ่มรถ EV ทั้งหลายเนี่ยบอกต่อๆกันว่า  อนาคตราคาแบตยังไงก็จะลดลงอย่างแน่นอน  ใช้ไปเถอะ 5 แสนโล ไม่ต้องกลัวว่าจะต้องเปลี่ยนแบต

เพราะเทคโนโลยีที่ดีขึ้น  การผลิตใช้ต้นทุนต่ำลง  ดูอย่างมือถือแต่ก่อนราคาเท่าไหร่ ตอนนี้ราคาเท่าไหร่ ฟังแล้วก็เคลิ้ม

แต่จากสองเหตุการณ์ข้างต้น ไม่เห็นวี่แววว่าราคาแบตจะลดลงเลยนะครับ 

มีแต่เพิ่ม อย่างน้อยก็ตามค่าครองชีพ   

เลยถามความคิดเห็นว่า อนาคตราคามันจะเป็นไปในทิศทางไหนก็แน่ครับ



ป.ล.  จริงๆมีแพลนจะซื้อ BEV  ในปลายปีนี้-ต้นปีหน้าพอเจอราคาแบตเข้าไป  ถอยกลับมาคิดอีกรอบ   เอาดีเซลเหมือนเดิมดีกว่า
หัวข้อ: Re: // ว่ากันเรื่องราคาแบตเตอรี่ในอนาคต //
เริ่มหัวข้อโดย: Chicken Wings ที่ มีนาคม 08, 2023, 12:29:03
ที่คุณยกมามันยิ่งแสดงให้เห็นชัดเลยครับ ว่าเวลาผ่านไปราคามันยิ่งถูกลง

80 บาทสมัยนี้ กับ 80 บาทเมื่อ 16 ปีที่แล้ว มูลค่ามันต่างกันเยอะนะ

อันนี้แนบราคาร้านข้าวเมื่อ 10 ปีก่อนให้ดูเล่นๆ

(http://www.thaiappraisal.org/images/img_article/market_015.jpg)
หัวข้อ: Re: // ว่ากันเรื่องราคาแบตเตอรี่ในอนาคต //
เริ่มหัวข้อโดย: apinui ที่ มีนาคม 08, 2023, 12:36:57
ถ้านับเป็นตัวเลข ก็คงแพงขึ้นแหละ ..

แต่ถ้านับตามกำลังจ่าย ตอนนี้ น้ำมัน 35 บาท ยังจ่ายกันเลย ไม่เห็นจะลดการใช้

ดังนั้น แบ็ตต่อไปแพงไหม ก็อาจจะแพงขึ้นตามมูลค่า แต่คนจ่าย เค้าจ่ายไหว ก็จะกลายเป็นของถูกนั้นแหละ

หัวข้อ: Re: // ว่ากันเรื่องราคาแบตเตอรี่ในอนาคต //
เริ่มหัวข้อโดย: Devil13 ที่ มีนาคม 08, 2023, 12:40:50
เทคโนโลยีไม่เหมือนกันครับ
เทียบถ่านชาทสมัยนั้นได้กี่ mAh สมัยนี้ถ้า AA ก็ได้ 3600 mAh แล้วนะ ราคาก้อนละ 79 บาท
https://shopee.co.th/GP-%E0%B8%96%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%88-AA-3600-mAh-NIMH-Rechargeable-Battery-(4-%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99)-i.212211566.4031577806?sp_atk=8b9950bf-ed12-4759-b791-374bc903b2b7&xptdk=8b9950bf-ed12-4759-b791-374bc903b2b7

และสมัยก่อนไม่มีระบบ Low Self Discharge
ส่วนตัวผมว่าอนาคตมันพัฒนาดีขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่ใช่ราคาแพงขึ้นแต่คุณภาพเท่าเดิม

ส่วนเรื่องรถแล้วแต่สะดวกเลยครับ
ณ วันนี้ แบตรถไฟฟ้ายังแพงอยู่  :'(
หัวข้อ: Re: // ว่ากันเรื่องราคาแบตเตอรี่ในอนาคต //
เริ่มหัวข้อโดย: palma ที่ มีนาคม 08, 2023, 12:52:25
ที่คุณยกมามันยิ่งแสดงให้เห็นชัดเลยครับ ว่าเวลาผ่านไปราคามันยิ่งถูกลง

80 บาทสมัยนี้ กับ 80 บาทเมื่อ 16 ปีที่แล้ว มูลค่ามันต่างกันเยอะนะ

อันนี้แนบราคาร้านข้าวเมื่อ 10 ปีก่อนให้ดูเล่นๆ

(http://www.thaiappraisal.org/images/img_article/market_015.jpg)


เทียบแบบนั้นก็ใช่ครับ แบต 5 แสน วันนี้ กับ 5 แสน อีก 10 ปีข้างหน้า เงินเล็กลง

แต่อีก 10 ปีข้างหน้า รถราคาเหลือ 25% แต่ต้องจ่ายค่าแบต 5 แสนอีกไหม (ราคาลด 50% ทุก 5 ปี โดยประมาณ)

ถึงตอนนั้น จะเลือกทางไหนกันครับ

เกรงว่า  รถไฟฟ้า อีก 7-10 ปี ถ้าจะเปลี่ยน ตัวรถอาจแทบไม่มีราคา ถ้าราคาแบตที่เป็นหัวใจหลัก ไม่ได้ลดลงตามค่าเสื่อมของรถ
หัวข้อ: Re: // ว่ากันเรื่องราคาแบตเตอรี่ในอนาคต //
เริ่มหัวข้อโดย: Symphonic ที่ มีนาคม 08, 2023, 13:03:00
ราคาแบตในอนาคต ในความคิดผมนะ

1.ถ้ายังคงเป็นแบตฯ เทคโนโลยีปัจจุบัน ราคาไม่น่าจะถูกลงมาก
   ตามราคาสินแร่ที่เป็นวัตถุดิบหลัก ซึ่งเป็นแร่มีราคาและมีจำนวนจำกัด
   ไม่ใช่วัสดุที่จะผลิตขึ้นมาเท่าไหร่ก็ได้


2.ถ้ามีเทคโนโลยีใหม่ในการทำแบตฯ จะแบ่งเป็น 2 กรณีคือ

2.1 ถ้าเป็นเทคโนโลยีขั้นสูง ขั้นตอนผลิตยุ่งยาก แต่ได้ประสิทธิภาพแบตฯ ที่ดี
      กรณีนี้ราคามักจะแพงขึ้น
2.2 ถ้าเป็นเทคโนโลยีที่นำวัตถุดิบราคาถูกมาทำแบตฯ ได้ ราคาแบตฯ ก็จะต่ำลง

ที่พึงระวังคือ เทคโนโลยีใหม่พวกนี้จะดีขึ้นแบบก้าวกระโดดได้ทั้งในแง่ราคาและประสิทธิภาพ
มันมักจะเป็นเทคโนโลยีที่สร้างบนสถาปัตยกรรมใหม่ที่มีแนวโน้มจะไม่สามารถเอามาใช้กับ
รถรุ่นเก่าได้ครับ
หัวข้อ: Re: // ว่ากันเรื่องราคาแบตเตอรี่ในอนาคต //
เริ่มหัวข้อโดย: krating ที่ มีนาคม 08, 2023, 13:48:07
สินค้าแทบทุกประเภทสมัยนี้ ไม่ได้ผลิตไปทางแนวทางทนทาน ใช้นานรุ่นสู่รุ่นเหมือนเมื่อก่อน
นิยมผลิตให้ไม่ทนมาก ให้ลค เปลี่ยนรุ่นบ่อยๆ กระตุ้นยอดผู้ผลิต  เหมือนมือถือ ออกใหม่ทุกปี
รถก็มีมายั่วแทบทุกๆ 3 ปี ในรถรุ่นเดิม เดี๋ยวก็มีแต่งหน้าทาปาก มาให้อยาก

เทคโนแบตก็ยังไม่นิ่ง ไอ้ที่ดีวันนี้ ปีหน้าอาจห่วย

รถไฟฟ้าจะมีแข่งขันจนเลือกไม่ถูก
เมื่อแข่งเยอะ ก็ต้องหาทางเอาของสดใหม่มานำเสนอ
แบตก็ต้องสดใหม่ตาม

อีก 10 ปี แบตวันนี้อาจไม่มีผลิต
หรือมีรุ่นใหม่ดีกว่า ราคาดีกว่า แต่เอามาใส่ของเดิมไม่ได้
หรือโชคดีอาจจะเอามาใส่ของเดิมได้อย่างที่คาดหวัง
เป็นไปได้หมด

แต่มองจากสิ่งรอบตัวปัจจุบัน เห็นแต่ของขึ้นราคา
ขึ้นแล้วก็ไม่เคยลง

และราคาแบตก็อาจจะขึ้นอยู่กับกลุ่มผูกขาดผู้ผลิตที่มีสินแร่สำคัญ
คล้ายๆ กลุ่มผลิตนํ้ามัน
สุดท้ายก็แค่ย้ายขั้วการผูกขาด
หัวข้อ: Re: // ว่ากันเรื่องราคาแบตเตอรี่ในอนาคต //
เริ่มหัวข้อโดย: เต๋า AV ที่ มีนาคม 08, 2023, 13:54:41
ไม่มีใครรู้อนาคตครับ
ตราบใดที่รถยนต์ยังใช้ li-ion battery ตระกูลใดก็แล้วแต่ ผมไม่ใช้เด็ดขาด
หัวข้อ: Re: // ว่ากันเรื่องราคาแบตเตอรี่ในอนาคต //
เริ่มหัวข้อโดย: mongolias ที่ มีนาคม 08, 2023, 13:58:32
เห็นราคาแบตแล้ว ผมคนนึงล่ะที่ขอรอดูสถานการณ์ไปสัก 5 ปี
ส่วนตัวไม่พร้อมจะจ่ายค่าแบตเตอรี่ทุก 10 ปี ในระดับราคาครึ่งล้าน
ผมเชื่อว่า ราคาแบตจะยังสูงนะครับ เพียงแต่ว่าจะได้เรื่องความจุเพิ่มมากขึ้นมาแทน
นี่ยังไม่รวมอุปกรณ์ส่วนควบอีกนะ ที่ราคาแพงพอสมควร
หัวข้อ: Re: // ว่ากันเรื่องราคาแบตเตอรี่ในอนาคต //
เริ่มหัวข้อโดย: คุณ นมๆ ที่ มีนาคม 08, 2023, 15:08:38
ที่คุณยกมามันยิ่งแสดงให้เห็นชัดเลยครับ ว่าเวลาผ่านไปราคามันยิ่งถูกลง

80 บาทสมัยนี้ กับ 80 บาทเมื่อ 16 ปีที่แล้ว มูลค่ามันต่างกันเยอะนะ

อันนี้แนบราคาร้านข้าวเมื่อ 10 ปีก่อนให้ดูเล่นๆ

(http://www.thaiappraisal.org/images/img_article/market_015.jpg)
แต่ของสิ่งเกียวกันที่เคยราคา80 ยุคนั้นปัจจุบันราคาก็เฟ้อตามเช่นกันครับ

civic สมัยก่อนคันละ 3 แสน
ปัจจุบัน คันละล้าน
หัวข้อ: Re: // ว่ากันเรื่องราคาแบตเตอรี่ในอนาคต //
เริ่มหัวข้อโดย: Zephyrs ที่ มีนาคม 08, 2023, 15:19:04
เรื่องราคา ถ้าจะบอกว่ามันถูกลงต้องพูดให้ชัดๆว่าเลขมันลงโดยที่ไม่ต้องเอาไปเทียบกับเรื่องค่าครองชีพ (ซึ่งมันก็จะพ่วงไปเรื่องเงินเฟ้อ)
ถ้าไปเรื่องเงินเฟ้อเมื่อไหร่ ชาติหน้าก็เถียงกันไม่จบ อย่างสมมติปัจจุบันลูกละ 80k อนาคตลูกละ 100k แต่คำนวนปรับตามเงินเฟ้อแล้วถือว่าถูกลงกว่าปัจจุบัน จะบอกว่างี้ถูกลงหรอ?
เทียบง่ายที่สุดคุณดูอะไหล่รถก็ได้ บางอย่างมันถูกลงด้วย Economy of Scales คือผลิตมาเยอะ ต้นทุนลด ราคามันก็ลดตาม
เอาง่ายๆ อย่างของพี่โตงี้ อะไหล่ชิ้นนึงใช้แม่มตั้งแต่เด็กคลอดยันเข้ามหาลัย ราคาตอนแรกๆแพง ตอนหลังๆถูกลง แบบนี้ถึงจะเรียกว่าถูกลงตามเวลา

ฉะนั้นแล้วถามว่าแบตเตอรี่เป็นไปได้มั้ยที่จะถูกลงในอนาคต.. เป็นไปได้ แต่ต่ำมาก
เหตุผลหลักๆมันมีสองอย่าง
1) ทุกคนมีการ Custom แบตเตอรี่ของตัวเอง อย่างในบ้านเรา แบตรถ EV จีนแม่มมีกี่แบบแล้ว ไม่ใช่ประเภทแบตแบบ Lithium, NiMH ไรงี้นะ
แต่หมายถึงแนวๆแบบการออกแบบแบต เช่นแบบ BYD ที่บอกว่าเป็นแผ่นหรือเป็นใบมีดอะไรนั่นน่ะ
ไว้มัน Standardize ได้สักอันนึงแล้วใช้กันทั้งโลกแบบถ่าน AA,AAA ไรงี้ค่อนว่ากัน
2) แร่ Lithium มีจำกัดมาก (จำกัดกว่าน้ำมันอีกมั้ง) ละกระบวนการ Recycle ก็ยังไม่ถึงกับ 100%
ฉะนั้นแล้วราคา Lithium จะเป็นตัวกำหนดราคาของแบตอีกที ละ Demand ของแร่นี่ก็สูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะมันต้องไปแย่งกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แทบจะทั้งโลก แล้วไม่พอ
ตัวแบต Li มันก็มีอายุของมัน (ปกติก็ไม่เกิน 5-7 ปีหรอก เจอความร้อน เจอการชาร์จเข้าๆออกๆไปก็ยิ่งลด) ฉะนั้นแล้วอัตราการใช้มันก็สูงขึ้นไปเรื่อยๆ
ใครเก็ทเศรษฐศาสตร์เบื้องต้นมาก็น่าจะเข้าใจ ถ้า Supply มันมีจำกัด แต่ Demand สูงขึ้นเรื่อยๆ ราคามันก็ทะลุจรวดไปอีก

สรุปสั้นๆ เป็นไปได้แต่น้อยมาก พวกที่พูดๆ มันก็ปลอบใจตัวเองไปเรื่อย ไม่ก็ไม่ได้มีความรู้อะไรนักเรื่องอิเล็กทรอนิกส์หรอก
แค่อาจจะเป็นคนในกลุ่มนี้คือ 1. แค่อยากประหยัดน้ำมัน 2. แค่อยากสำเร็จความใคร่เรื่องลดมลภาวะได้ (จริงๆก็ไม่ได้ลดหรอก แค่ลดตรงหน้าบ้านมัน) 3. หมั่นไส้ปตท หรือเหวอะไรก็ตามแต่
หรือไม่ก็อาจจะอยู่ทั้ง 3 อย่าง
หัวข้อ: Re: // ว่ากันเรื่องราคาแบตเตอรี่ในอนาคต //
เริ่มหัวข้อโดย: เทียน ที่ มีนาคม 08, 2023, 15:31:22
เอาแค่ในห้าปีไม่แพงขึ้น ในความจุเท่าเดิม ก็เรียกว่า ราคาถูกลงแล้วล่ะครับ

ถ้าคนใช้รถ 10 ปี ยังคิดจะเปลี่ยนแบต ตอนนั้น ผู้ผลิตรถยังทำแบตรุ่นนั้นขายรึเปล่า ? จะเอาจากรุ่นใหม่มาใส่ มันก็ไม่ได้อีก ดูรถจีนเก่า ๆ มันมีอะไหล่ที่ไหนล่ะครับ ยิ่งผลิตเป็นแบบก้อนใหญ่ ๆ แพง ๆ ใครจะกล้าสต็อกเยอะ
หัวข้อ: Re: // ว่ากันเรื่องราคาแบตเตอรี่ในอนาคต //
เริ่มหัวข้อโดย: Symphonic ที่ มีนาคม 08, 2023, 15:55:48
ที่คุณยกมามันยิ่งแสดงให้เห็นชัดเลยครับ ว่าเวลาผ่านไปราคามันยิ่งถูกลง

80 บาทสมัยนี้ กับ 80 บาทเมื่อ 16 ปีที่แล้ว มูลค่ามันต่างกันเยอะนะ

อันนี้แนบราคาร้านข้าวเมื่อ 10 ปีก่อนให้ดูเล่นๆ

(http://www.thaiappraisal.org/images/img_article/market_015.jpg)
แต่ของสิ่งเกียวกันที่เคยราคา80 ยุคนั้นปัจจุบันราคาก็เฟ้อตามเช่นกันครับ

civic สมัยก่อนคันละ 3 แสน
ปัจจุบัน คันละล้าน

เอาแบบ logic thinking กันขริงๆ เลยนะพี่

ถ้า Civic แบบที่สมัยคันละ 3 แสนยังผลิตอยู่
ด้วยขนาดตัว สเปก ออปชั่น ความปลอดภัยและประสิทธิภาพของมัน
ในวันนี้คงไม่มีใครอยากซื้อแล้วมั๊ง  ลูกค้าคงยินดีจ่ายเพิ่มอีกนิดหน่อย
แล้วเลือกเอา City turbo ปี 2023 ไปขับดีกว่า ไม่ใช่แค่ความใหม่
แต่ประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และออปชั่น มันพัฒนาไปไกลกว่ากันมาก

Civic สมัยคันละสามแสน กับ Civic คันละล้านในสมัยนี้
มีเพียงชื่อ Civic เท่านั้นที่เหมือนเดิม แต่ตัวรถมันคนละเรื่องเลยเลยครับ
ไม่ใช่ว่ารถมันยังเหมือนๆ เดิม แต่เขาขึ้นราคาเอาอย่างเดียว
อย่าเอาอะไรแบบนี้มาเปรียบเทียบดีกว่าครับ
หัวข้อ: Re: // ว่ากันเรื่องราคาแบตเตอรี่ในอนาคต //
เริ่มหัวข้อโดย: Fragile ที่ มีนาคม 08, 2023, 16:11:41
เรื่องแบตนี่ไม่เกี่ยวกับเงินเฟ้อเลยครับ
ถ้าเทคโนโลยีถึง ต้นทุนก็ถูกลงได้
ผมขอเทียบแบบนี้บ้าง เมื่อก่อน Nokia 3310 เครื่องละ 30,000 บาท โทรได้อย่างเดียว
ปัจจุบันมือถือเครื่องละ 3,000 บาท ทำได้ทุกอย่าง เพราะเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้น
หัวข้อ: Re: // ว่ากันเรื่องราคาแบตเตอรี่ในอนาคต //
เริ่มหัวข้อโดย: krating ที่ มีนาคม 08, 2023, 17:45:17
แบตเตอรี่ น่าจะมีวงจรชีวิต คล้ายๆ หน่วยบันทึกข้อมูล hdd อะไรพวกนั้น
ยิ่งใหม่ยิ่งเร็ว เก็บได้เยอะ ยิ่งถูกเมื่อเทียบต่อหน่วย
แต่hdรุ่นใหม่เอาไปใช้กะเครื่องคอม เก่าๆไม่ค่อยได้นะจ๊ะ
หรือถ้าใช้ได้ เราเอาhdd ใหม่ๆไวๆ ไปใช้กะคอมเก่า มันก็ดูไม่เข้าที
เจนใครเจนมัน นะ

มั้งนะ

หัวข้อ: Re: // ว่ากันเรื่องราคาแบตเตอรี่ในอนาคต //
เริ่มหัวข้อโดย: Fong ที่ มีนาคม 08, 2023, 18:58:32
ต่อให้ถูกลง ก็ไม่คุ้มที่จะเปลี่ยนครับ

อย่าง iPhone ผมยังเชื่อว่าเปลี่ยนแบตยังคุ้ม (เทียบกับราคาเครื่อง) เพราะของก๊อบเยอะ หลายราคา

แต่นี่ ราคาแบตเกินครึ่งหนึ่งของราคารถ ใช้ไปนานๆ ราคารถก็ลดลงจนต่ำกว่าครึ่ง แต่ราคาแบตใหม่ยังเท่าเดิม (หรืออาจจะแพงขึ้นด้วยซ้ำ)

ต่อให้มีแบตแบบใหม่ ที่ความจุดีขึ้น ราคาถูกลง เบาลง แต่ขอโทษครับใช้กับรถเราไม่ได้ (เหมือนเอาแบต iPhone13 มาใส่ iPhone3Gs ถึงจะใส่ได้แต่วงจรชาร์จเดิมก็คงจะเอ๋อ)

สำหรับผม ถ้าผมจะซื้อรถไฟฟ้า หมายความว่าผมต้องยอมรับให้ได้ก่อนว่า ขายต่อไม่ได้ราคานะ ใช้ไปเรื่อยๆจนพังแล้วก็ขายเป็นซาก แยกอะไหล่ขาย หรืออาจจะต้องไปหาที่ทิ้งอย่างถูกต้องเหมือนขยะอิเล็กทรอนิกส์

ถ้าทำใจไม่ได้ก็ขับรถน้ำมันไปก่อน (ซึ่งผมรู้ตัวเองว่าทำใจไม่ได้ และยังไม่กล้าชาร์จแบตที่บ้านข้ามคืนเพราะกลับเกิดช็อตไฟไหม้)
หัวข้อ: Re: // ว่ากันเรื่องราคาแบตเตอรี่ในอนาคต //
เริ่มหัวข้อโดย: Symphonic ที่ มีนาคม 08, 2023, 19:44:18
เรื่องแบตนี่ไม่เกี่ยวกับเงินเฟ้อเลยครับ
ถ้าเทคโนโลยีถึง ต้นทุนก็ถูกลงได้
ผมขอเทียบแบบนี้บ้าง เมื่อก่อน Nokia 3310 เครื่องละ 30,000 บาท โทรได้อย่างเดียว
ปัจจุบันมือถือเครื่องละ 3,000 บาท ทำได้ทุกอย่าง เพราะเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้น

พี่ลองวิเคราะห์โครงสร้างต้นทุน Nokia 3310 ณ วันที่มันวางขายดูครับว่าใน
30,000 บาทนั้น เป็นต้นทุนวัสดุเท่าไหร่ ค่าเทคโนโลยี ค่าวิจัยเท่าไหร่ ค่าการตลาดเท่าไหร่

สินค้าที่ราคาขายได้ถูกลงมากๆ เมื่อวันเวลาผ่านไป อย่างโทรศัพท์มือถือ
มักมีสัดส่วนต้นทุนวัสดุที่ต่ำมาก แต่ถึงราคาขายจะถูกลงอย่างไร ท้ายที่สุดแล้ว
มันจะไม่สามารถขายให้ถูกลงไปกว่าต้นทุนวัสดุได้

แต่ลองกลับมามองที่แบตฯ สิครับว่า ในเนื้อราคาแบตฯ นั้น ต้นทุนวัตถุดิบมันมีสัดส่วน
เท่าไหร่ และวันข้างหน้า ต่อให้ผลิตเป็นจำนวนมากมายแค่ไหน ก็ไม่สามารถขายให้ถูก
ไปกว่าต้นทุนวัสดุได้ครับ
หัวข้อ: Re: // ว่ากันเรื่องราคาแบตเตอรี่ในอนาคต //
เริ่มหัวข้อโดย: axister ที่ มีนาคม 08, 2023, 22:23:17
ตามยุคสมัยครับ มันเทียบ apple to apple แบบนี้ไม่ได้อ่ะ

ผมว่าก้รู้ตัวกันว่าสิ่งที่เทียบมาไม่เม้คเซ้น อยากจะเป็นผู้ชนะ ผู้ฉลาดใช้รถดีเซลแล้วขิงก็สุดแล้วแต่ครับ

ณ วันนี้ ICE ยังตอบโจทย์ภาพรวมมากกว่า ผมก็ไม่เถียงครับ แต่ไปขุดแบตทามิย่ามาเทียบเพื่อไรอ่ะ เทียบได้หรอ

เลือกที่เราชอบดีแล้วครับ ตอนนี้ปั้มไฟก็น้อย ผมก็ไม่รณรงค์ให้คนออกรถไฟฟ้าเหมือนกัน เพราะประเทศเราโตช้าครับ กว่าจะลงตัวคงอีก 2-3 ปีเลย

และแบตก็จะพัฒนาเรื่อยๆ ชาร์จไวขึ้นเซฟขึ้น วันที่ new energy มาอีกค่อยไปขิงใหม่อีกทีนะครับ
หัวข้อ: Re: // ว่ากันเรื่องราคาแบตเตอรี่ในอนาคต //
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ มีนาคม 09, 2023, 00:36:53
มันไม่มีทางถูกลงหรอก เอาที่ไหนมาว่าจะถูกลง   ต่างก็เชื่อกันไปเองเขียนเข้าข้างตัวเองว่าอนาคตมันจะถูกลง   อนาคตเมื่อไหร่คงไม่ใช่ 5 ปีนี้แน่นอน
   ผมเข้าไปอ่านในเวปพันทิปก็เขียนกันแนวนี้ละ ยกมาเทียบนั่นนี่และเขียนเข้าข้างตัวเองเสร็จว่ามันจะถูกลง     ถ้ามาจากโรงงานผู้ผลิตคงไม่ทำถูกลงกว่านี้มาก     แต่ถ้าอนาคตซึ่งไม่รู้เมื่อไหร่มีการทำของเทียบเทียมทดแทนมาเปลี่ยนมันจึงมีโอกาสถูกลง แต่ใครจะทำ   ผู้ผลิตคงไม่ทำแน่นอน
หัวข้อ: Re: // ว่ากันเรื่องราคาแบตเตอรี่ในอนาคต //
เริ่มหัวข้อโดย: Fragile ที่ มีนาคม 09, 2023, 07:39:00
เรื่องแบตนี่ไม่เกี่ยวกับเงินเฟ้อเลยครับ
ถ้าเทคโนโลยีถึง ต้นทุนก็ถูกลงได้
ผมขอเทียบแบบนี้บ้าง เมื่อก่อน Nokia 3310 เครื่องละ 30,000 บาท โทรได้อย่างเดียว
ปัจจุบันมือถือเครื่องละ 3,000 บาท ทำได้ทุกอย่าง เพราะเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้น

พี่ลองวิเคราะห์โครงสร้างต้นทุน Nokia 3310 ณ วันที่มันวางขายดูครับว่าใน
30,000 บาทนั้น เป็นต้นทุนวัสดุเท่าไหร่ ค่าเทคโนโลยี ค่าวิจัยเท่าไหร่ ค่าการตลาดเท่าไหร่

สินค้าที่ราคาขายได้ถูกลงมากๆ เมื่อวันเวลาผ่านไป อย่างโทรศัพท์มือถือ
มักมีสัดส่วนต้นทุนวัสดุที่ต่ำมาก แต่ถึงราคาขายจะถูกลงอย่างไร ท้ายที่สุดแล้ว
มันจะไม่สามารถขายให้ถูกลงไปกว่าต้นทุนวัสดุได้

แต่ลองกลับมามองที่แบตฯ สิครับว่า ในเนื้อราคาแบตฯ นั้น ต้นทุนวัตถุดิบมันมีสัดส่วน
เท่าไหร่ และวันข้างหน้า ต่อให้ผลิตเป็นจำนวนมากมายแค่ไหน ก็ไม่สามารถขายให้ถูก
ไปกว่าต้นทุนวัสดุได้ครับ

ผมอาจจะยกตัวอย่างได้ไม่ดี แต่ผมกำลังพูดถึงเทคโนโลยีครับ
มันจะไม่มีทางถูกลง ถ้าเทคโนโลยีการผลิตหรือวัสดุที่ใช้มันยังเป็นเดิม
แต่ถ้าในอนาคตสามารถทำ cell ให้เล็กลงได้โดยมีประสิทธิภาพเท่าเดิมหรือมากกว่า
ส่งผลให้ใช้วัสดุน้อยลง (ซึ่งมีงานวิจัยแนวนี้อยู่เยอะลอง search ดูได้ครับ) มันก็เป็นไปได้ที่ราคาจะถูกลงนะครับ

(https://www.nissan-global.com/EN/INNOVATION/TECHNOLOGY/ARCHIVE/LI_ION_EV/ASSETS/IMG/li_ion_ev_01_en.jpg)

(https://i.imgur.com/fLNVwx8.jpg)
หัวข้อ: Re: // ว่ากันเรื่องราคาแบตเตอรี่ในอนาคต //
เริ่มหัวข้อโดย: Symphonic ที่ มีนาคม 09, 2023, 08:06:36
เรื่องแบตนี่ไม่เกี่ยวกับเงินเฟ้อเลยครับ
ถ้าเทคโนโลยีถึง ต้นทุนก็ถูกลงได้
ผมขอเทียบแบบนี้บ้าง เมื่อก่อน Nokia 3310 เครื่องละ 30,000 บาท โทรได้อย่างเดียว
ปัจจุบันมือถือเครื่องละ 3,000 บาท ทำได้ทุกอย่าง เพราะเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้น

พี่ลองวิเคราะห์โครงสร้างต้นทุน Nokia 3310 ณ วันที่มันวางขายดูครับว่าใน
30,000 บาทนั้น เป็นต้นทุนวัสดุเท่าไหร่ ค่าเทคโนโลยี ค่าวิจัยเท่าไหร่ ค่าการตลาดเท่าไหร่

สินค้าที่ราคาขายได้ถูกลงมากๆ เมื่อวันเวลาผ่านไป อย่างโทรศัพท์มือถือ
มักมีสัดส่วนต้นทุนวัสดุที่ต่ำมาก แต่ถึงราคาขายจะถูกลงอย่างไร ท้ายที่สุดแล้ว
มันจะไม่สามารถขายให้ถูกลงไปกว่าต้นทุนวัสดุได้

แต่ลองกลับมามองที่แบตฯ สิครับว่า ในเนื้อราคาแบตฯ นั้น ต้นทุนวัตถุดิบมันมีสัดส่วน
เท่าไหร่ และวันข้างหน้า ต่อให้ผลิตเป็นจำนวนมากมายแค่ไหน ก็ไม่สามารถขายให้ถูก
ไปกว่าต้นทุนวัสดุได้ครับ

ผมอาจจะยกตัวอย่างได้ไม่ดี แต่ผมกำลังพูดถึงเทคโนโลยีครับ
มันจะไม่มีทางถูกลง ถ้าเทคโนโลยีการผลิตหรือวัสดุที่ใช้มันยังเป็นเดิม
แต่ถ้าในอนาคตสามารถทำ cell ให้เล็กลงได้โดยมีประสิทธิภาพเท่าเดิมหรือมากกว่า
ส่งผลให้ใช้วัสดุน้อยลง (ซึ่งมีงานวิจัยแนวนี้อยู่เยอะลอง search ดูได้ครับ) มันก็เป็นไปได้ที่ราคาจะถูกลงนะครับ

(https://www.nissan-global.com/EN/INNOVATION/TECHNOLOGY/ARCHIVE/LI_ION_EV/ASSETS/IMG/li_ion_ev_01_en.jpg)

(https://i.imgur.com/fLNVwx8.jpg)

ใช่ครับ ถ้าในอนาคต เทคโนโลยีในการผลิตแบตฯ เปลี่ยนไปอย่างก้าวกระโดด
และสามารใช้วัตถุดิบราคาถูกมาผลิตได้ ราคาก็จะถูกลงมากอย่างแน่นอน

แต่อย่างที่ผมได้ทิ้งท้ายเอาไว้ว่า การพัฒนาอย่างก้าวกระโดดมักจะเป็นการพัฒนาบน
สถาปัตยกรรมใหม่เลย และมักจะไม่สามารถใช้งานกับอุปกรณ์รุ่นเก่าได้

ดังนั้นการตั้งคำถามว่า ในอนาคต แบตจะถูกลงมั้ย มันมีสองนัยยะที่แฝงมากับคำถามคือ

1.ถ้ามันมีแนวโน้มมีโอกาสถูกลง งั้นรอจนตัวถูก รุ่นถูก มาถึงแล้วค่อยซื้อใช้
   อันนี้โอเคอยู่ว่า ถ้าจะรอก็ไม่เสียหายอะไร

หรือ

2.ถ้ามันมีแนวโน้มจะถูกลง งั้นซื้อรถไฟฟ้าใช้เลยตอนนี้ เดี๋ยววันที่แบตฯ เสื่อม
   ในอีกหลายปีข้างหน้า ราคาแบตฯ มันจะถูกลงเอง เปลี่ยนได้สบายๆ
    ซึ่งกรณีนี้แหละที่คิดว่าจะไม่เป็นดังคิด เพราะถึงอีก 10 ปีข้างหน้า แบตฯ
    จะถูกลงมาก แต่ผมคิดว่าแบตฯ สถาปัตยกรรมนั้น จะไม่สามารถใช้กับรถ
    รุ่น 10 ปีก่อนนั้นได้น่ะสิครับ

ดังนั้น การติดสินใจที่จะซื้อรถไฟฟ้าใช้ในวันนี้ ขอให้อยู่บนพื้นฐานของข้อมูล
ราคา และประสิทธิภาพ ในปัจจุบัน ถ้ารับได้ก็ลุยเลยครับ ถ้าวันหน้ามันจะถูกลง
และใช้กันได้ดีกับรถรุ่นเก่าก็ถือว่าเป็นกำไรไป
หัวข้อ: Re: // ว่ากันเรื่องราคาแบตเตอรี่ในอนาคต //
เริ่มหัวข้อโดย: Fragile ที่ มีนาคม 09, 2023, 08:46:34

ใช่ครับ ถ้าในอนาคต เทคโนโลยีในการผลิตแบตฯ เปลี่ยนไปอย่างก้าวกระโดด
และสามารใช้วัตถุดิบราคาถูกมาผลิตได้ ราคาก็จะถูกลงมากอย่างแน่นอน

แต่อย่างที่ผมได้ทิ้งท้ายเอาไว้ว่า การพัฒนาอย่างก้าวกระโดดมักจะเป็นการพัฒนาบน
สถาปัตยกรรมใหม่เลย และมักจะไม่สามารถใช้งานกับอุปกรณ์รุ่นเก่าได้

ดังนั้นการตั้งคำถามว่า ในอนาคต แบตจะถูกลงมั้ย มันมีสองนัยยะที่แฝงมากับคำถามคือ

1.ถ้ามันมีแนวโน้มมีโอกาสถูกลง งั้นรอจนตัวถูก รุ่นถูก มาถึงแล้วค่อยซื้อใช้
   อันนี้โอเคอยู่ว่า ถ้าจะรอก็ไม่เสียหายอะไร

หรือ

2.ถ้ามันมีแนวโน้มจะถูกลง งั้นซื้อรถไฟฟ้าใช้เลยตอนนี้ เดี๋ยววันที่แบตฯ เสื่อม
   ในอีกหลายปีข้างหน้า ราคาแบตฯ มันจะถูกลงเอง เปลี่ยนได้สบายๆ
    ซึ่งกรณีนี้แหละที่คิดว่าจะไม่เป็นดังคิด เพราะถึงอีก 10 ปีข้างหน้า แบตฯ
    จะถูกลงมาก แต่ผมคิดว่าแบตฯ สถาปัตยกรรมนั้น จะไม่สามารถใช้กับรถ
    รุ่น 10 ปีก่อนนั้นได้น่ะสิครับ

ดังนั้น การติดสินใจที่จะซื้อรถไฟฟ้าใช้ในวันนี้ ขอให้อยู่บนพื้นฐานของข้อมูล
ราคา และประสิทธิภาพ ในปัจจุบัน ถ้ารับได้ก็ลุยเลยครับ ถ้าวันหน้ามันจะถูกลง
และใช้กันได้ดีกับรถรุ่นเก่าก็ถือว่าเป็นกำไรไป

สรุปได้ดีครับ ปิดกระทู้ได้ 5555
หัวข้อ: Re: // ว่ากันเรื่องราคาแบตเตอรี่ในอนาคต //
เริ่มหัวข้อโดย: ion.cnx ที่ มีนาคม 09, 2023, 09:29:10
จากที่อ่านติดตามข้อมูลมา ผมประเมินว่า มีโอกาสที่ในอนาคตรถยนต์แบบ EV
คนจะนิยมใช้กันในแบบเช่าซื้อใช้ไปเรื่อยๆ แบบเน็ตบ้าน จ่ายประจำทุกเดือน
ถึงเวลามีรุ่นใหม่ บริษัทรถก็เอารุ่นใหม่มาเปลี่ยนให้ใช้ต่อ กลายเป็นรายจ่ายประจำอย่างหนึ่งในชีวิตไป
ซึ่งก็น่าจะตอบโจทย์ทั้งฝั่งผู้ซื้อและผู้ขาย

และถึงแม้ในอนาคตอีกไม่ไกล ค่ายรถยนต์จะลดหรือเลิกการผลิตรถใช้น้ำมัน
แต่คนที่ใช้รถเก่าที่ใช้น้ำมัน ก็คงยังมีการใช้งานต่อไปอีกหลายสิบปี
หัวข้อ: Re: // ว่ากันเรื่องราคาแบตเตอรี่ในอนาคต //
เริ่มหัวข้อโดย: Sacrifice ที่ มีนาคม 09, 2023, 10:20:10
รอดูแบต Sodium-ion ครับ เห็นเขาว่า ถูกกว่า Li 30% ชาร์จเร็ว กว่า แต่หนัก ได้ความจุน้อยกว่า

สำหรับรถที่ออกแบบไม่ให้วิ่งไกลมากถือว่าน่าสนใจ
หัวข้อ: Re: // ว่ากันเรื่องราคาแบตเตอรี่ในอนาคต //
เริ่มหัวข้อโดย: palma ที่ มีนาคม 09, 2023, 10:25:59
รออีก 4-5 ปี ดูราคารถ BEV ใหม่ในวันนี้ กับราคาปล่อยออกในตอนนั้น และ เทียบราคาแบต กับ เทคโนโลยีแบต ในอีก 4-5 ปี

อาจจะได้เห็นแนวโน้มอะไรได้ชัดขึ้น ทั้งราคาขาย และ เทคโนโลยี จะก้าวกระโดดไปขนาดไหน

ถ้าซื้อใช้ตอนนี้คือ สงสัยต้องรับความประหยัดในทันที และ มูลค่าในอนาคต ที่คาดเดาไม่ได้ รวมถึงค่าแบตในอนาคต  สรุปรวมแล้ว ไม่รู้จะออกมาแบบไหน

ซื้อก่อน ใช้ก่อน พอใจก่อน ข้างหน้า ค่อยคอยติดตามตอนต่อไปครับ

** แบตเตอรี่ hybrid ของโตโยต้า ที่มีอู่นอกรับเปลี่ยนให้ ราคาเป็นอย่างไรบ้างครับ ถูกลงกว่าแต่ก่อนบ้างไหม? ***
หัวข้อ: Re: // ว่ากันเรื่องราคาแบตเตอรี่ในอนาคต //
เริ่มหัวข้อโดย: Weetting ที่ มีนาคม 09, 2023, 10:31:40
ตามยุคสมัยครับ มันเทียบ apple to apple แบบนี้ไม่ได้อ่ะ

ผมว่าก้รู้ตัวกันว่าสิ่งที่เทียบมาไม่เม้คเซ้น อยากจะเป็นผู้ชนะ ผู้ฉลาดใช้รถดีเซลแล้วขิงก็สุดแล้วแต่ครับ

ณ วันนี้ ICE ยังตอบโจทย์ภาพรวมมากกว่า ผมก็ไม่เถียงครับ แต่ไปขุดแบตทามิย่ามาเทียบเพื่อไรอ่ะ เทียบได้หรอ

เลือกที่เราชอบดีแล้วครับ ตอนนี้ปั้มไฟก็น้อย ผมก็ไม่รณรงค์ให้คนออกรถไฟฟ้าเหมือนกัน เพราะประเทศเราโตช้าครับ กว่าจะลงตัวคงอีก 2-3 ปีเลย

และแบตก็จะพัฒนาเรื่อยๆ ชาร์จไวขึ้นเซฟขึ้น วันที่ new energy มาอีกค่อยไปขิงใหม่อีกทีนะครับ

มันเทียบไม่ได้เหรอครับในเมื่อต้นทุน วัสดุที่นำมาสร้างมันก็เหมือนกัน มันคือแบตรีชาร์จ   พอไปค้นเจอก็ห็นว่าเทียบได้นะครับ  อย่างน้อยในกลุ่มรถ BEV  แทบทุกกลุ่มก็ฝันกลางวันหมดครับว่าในอนาคต แบตจะทุกลงเมื่อเทียบกับ มือถือ (ซึ่งผมเองว่ามองถ้าจะเทียบก็ไม่ได้ เพราะ Scale มันคนละเรื่อง)   
เหมือนย้อนกลับไปมอง  ทำไปทุกวันนี้รถมือสองราคา 2 -3 แสน  ยังมีคนหาซื้อได้ครับ  เพราะว่าหลักใหญ่ของรถคือเครื่องยนต์มันไม่ได้แพงคงที่ มันราคาถูกลงเรื่อยๆ(ไม่ใช่ทุกรุ่น ไม่ใช่ทุกยี่ห้อ แต่ส่วนใหญ่ลง)  เช่น Altis 2012 ก็ได้  ราคาตอนนี้ก็ซัก 2-3แสน  ถ้าซื้อมาแล้วเครื่องพัง   วางใหม่(หรือโอเวอร์ฮอล์)เลยก็จบที่ ไม่เกิน 5หมื่น 
แค่ 15-20% ของราคาที่ซื้อมาเอง  มันก็ยังพอเห็นว่าควักจริงๆ  3.5 แสนยังได้รถขับต่อไปอีก  8 ปีอย่างต่ำ    แค่ลองคิดถึง BEV อีก 10-15 ปี ข้างหน้า  ถ้าต้องซ่อมหัวใจหลักก็ซื้อแมวดีมือสอง 2 แสน  ค่าซ่อม 5 แสน   คนทั่วไปจะเอา BEV มาซ่อมจริงเหรอครับ    หรือถ้าราคาแบตลงได้ จาก 5-6 แสนเหลือ 2 แสน แบบนี้ถ้ายังคิดว่า BEV ก็ยังน่าใช้
ผมเองก็ไม่ได้ขิงว่าดีเซลน่าใช้ว่า EV น่ะ   แค่คิดต่อไปหากต้องเปลี่ยนรถจะต้องคิดหลายตลบเหมือนกันครับ 
 ป.ล.  เห็นราคาแว้บๆแบตของ พรีอุสก็ถูกลงนะ




เห็นหลายคนตอบ  อย่างถ่านชาร์จเอง ก็หายี่ห้อทดแทน แม้จะชื่อชั้นไม่เทียบ แต่ราคาพอไปกันได้   ก็เป็นอีกแนวทางคือเอาแบตที่ไม่ได้มาจากโรงงานผู้ผลิต (เป็น OEM หรืออะไรก็ตาม)   ราคาก็ยังไม่ขยับมาก ได้ของดีกว่าเดิม

และอีกหลายคอมมเม้นต์ ใช่ครับ อะไหล่รถตัวเดียวกัน ไม่ต้องเทียบเงินเฟ้อ  ผมเบิกของแท้รถเก่าผมหลายตัวได้ราคาต่ำลงตลอด เช่นปั๊มติ๊กเคยเบิกของแท้ 1หมื่น ตอนนี้ 8 พัน   
หรือ อะไหล่ชิ้นๆยางอุดตาน้ำ เคยเบิก 25 บาท ตอนนี้ 20 บาท    ลูกปืนล้อเองก็ตาม ตอนนั้น 2 ข้างแท้ยกดุม 1.8 หมื่น ตอนนี้ 1.2 หมื่น ไม่ต้องเทียบเงินเฟ้อนะ เอาเงินตั้งต้นเนี่ยละ


หัวข้อ: Re: // ว่ากันเรื่องราคาแบตเตอรี่ในอนาคต //
เริ่มหัวข้อโดย: jame894561 ที่ มีนาคม 09, 2023, 10:39:44
ซื้อ EV ตอนนี้สำหรับสนอง NEED มากกว่า แบบ TESLA ซื้อเอา PERFOMANCE ล้วนๆ

ตอนจะกดซื้อในเว็บบอกจะประหยัดค่าน้ำมันเท่านู้นเท่านี้ แต่ไม่กล้าบอกถ้าถึงเวลาเปลี่ยนแบตต้องเตรียมเงินไว้เท่าไหร่ ลูกค้าจะได้ไม่ต้องตกใจแบบเคสแบต BYD หรือกลัวว่าถ้าบอกลูกค้าจะหายไปเยอะนะ น่าคิด...
หัวข้อ: Re: // ว่ากันเรื่องราคาแบตเตอรี่ในอนาคต //
เริ่มหัวข้อโดย: REX ที่ มีนาคม 09, 2023, 11:04:54
ผมว่า ราคาแบตน่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆครับ
เพราะมันสำคัญที่ราคาสินแร่  ที่เมื่อขุดมาใช้ มันจะยิ่งหายาก และนั่นแหละมันจะแพงขึ้นๆ
ไปดูราคา เงิน ทอง ทองคำขาว ทองแดงเทียบกับอดีตก็ได้ น้ำมันก็ไช่
ผมว่าอาจจะมีช่วงราคาลดได้ ถ้ารถต่างค่ายทำมาตราฐานเดียวกัน เหมือนที่ทำกับมาตราฐานขนาดถ่านไฟฉาย
คงลดต้นทุนการผลิตและค่าผูกขาดอะไหล่ ได้ระยะเวลานึง
แต่สุดท้ายราคาต้องวิ่งขึ้นอยู่ดี  เพราะมีความต้องการ แต่หาสินแร่ยากขึ้น


หัวข้อ: Re: // ว่ากันเรื่องราคาแบตเตอรี่ในอนาคต //
เริ่มหัวข้อโดย: jbrc ที่ มีนาคม 09, 2023, 14:06:12
Camry hybrid ชัดเจน  ทุกวันนี้  ซ่อมแบตเตอรี่  แบบเปลี่ยนเป็นบางโมดูลได้ แต่ไม่จบ  สักพัก   มีปัญหาอีก
สุดท้ายต้องกำเงิน 70,000 บาท  ไปเปลี่ยนแบตเตอรี่แท้  ที่ศูนย์ถึงจะจบ
ถึงรถจะเก่าลง   แต่  ราคาแบตเตอรี่ไม่ได้  ลดลงตามแน่นอนครับ
หัวข้อ: Re: // ว่ากันเรื่องราคาแบตเตอรี่ในอนาคต //
เริ่มหัวข้อโดย: Aleister TJ ที่ มีนาคม 09, 2023, 15:29:00
เรื่องความประหยัด EV คงไม่ใช่คำตอบซะแล้ว ปลายทางโดนค่าแบตมันเอาคืนหมด  ::)
หัวข้อ: Re: // ว่ากันเรื่องราคาแบตเตอรี่ในอนาคต //
เริ่มหัวข้อโดย: Sakutaro ที่ มีนาคม 09, 2023, 15:58:50
 :) ผมใช้รถไฟฟ้าราคาถูกอยู่ มีแนวคิดดังนี้
1. แบตราคาถูกลง ไม่จริง..สินค้าที่ผลิตได้จำกัด กับเป็นที่ต้องการ ไม่มีทางถูกลง
2. ทำประกันชั้น 1 ทุกปีจนถึงปีที่รถถึงจุดคุ้ม (อันนี่ละคนต้องคิดเอง ไม่เหมือนกันครับ)
3. ผมใช้รถปีละ 4 หมื่นโล จุดคุ้มทุนที่คิดเองอยู่ที่ 5 ปี เกินกว่านั้นถ้ามันพัง จะยกไปปลูกหอมที่ไหนก็ไป ให้ผมเปลี่ยนแบตหรอ ฝันไปเถอะ
4. รถคันเดิมผมใช้มาสองคันหลักๆ คันนึง 2.5 แสนโล เสียค่าน้ำมันไปประมาณ 8 แสนบาท ยังไม่รวมค่าอื่นๆ
    อีกคัน 2 แสนโล ค่าน้ำมันประมาณ 6 แสนบาท ยังไม่รวมค่าอื่นๆ ทั้งหมดผมจ่ายเอง 100%
5. ผมชาร์จไฟบ้าน 90% เสียโลละ 50 สตางค์ แต่ก่อนค่าน้ำมัน 13000 ต่อเดือน ตอนนี้เหลือประมาณ 2500-3000 พันบาท
6. ผมเอาค่าน้ำมันมาผ่อนรถไฟฟ้า เหลือเงินทอนอีกเฉย
7. ใช้รถน้อยไม่คุ้่ม ไม่ต้องเปลี่ยนครับ มันแทนรถน้ำมันไม่ได้ในบางมุม
8. คนที่ลังเล แปลว่ายังไม่พร้อม มันไม่เหมาะกันเราครับ 8) 8)
หัวข้อ: Re: // ว่ากันเรื่องราคาแบตเตอรี่ในอนาคต //
เริ่มหัวข้อโดย: NoName__??? ที่ มีนาคม 09, 2023, 20:15:12
Camry hybrid ชัดเจน  ทุกวันนี้  ซ่อมแบตเตอรี่  แบบเปลี่ยนเป็นบางโมดูลได้ แต่ไม่จบ  สักพัก   มีปัญหาอีก
สุดท้ายต้องกำเงิน 70,000 บาท  ไปเปลี่ยนแบตเตอรี่แท้  ที่ศูนย์ถึงจะจบ
ถึงรถจะเก่าลง   แต่  ราคาแบตเตอรี่ไม่ได้  ลดลงตามแน่นอนครับ

เมื่อก่อนแบตไฮบริจเป็นแสนกว่าเลยค่ะ มีคนรู้จักเคยเปลี่ยน ถ้า 7หมื่นถือว่าถูกลงนะ
หัวข้อ: Re: // ว่ากันเรื่องราคาแบตเตอรี่ในอนาคต //
เริ่มหัวข้อโดย: punn ที่ มีนาคม 09, 2023, 21:34:11
เท่าที่ลองศึกษามา มันมีเส้นกลางๆเกี่ยวกับเรื่องรถอยู่
มอเตอร์ที่ใช้แม่เหล็กถาวรเมื่อเกิดความร้อนมันจะค่อยๆเสื่อมไปในอนาคตเรื่อยๆเหมือนกัน
ส่วนมอเตอร์ที่ใช้แม่เหล็กชั่วคราวก็จะขนาดใหญ่และอายุไม่คงทนเท่าแต่ได้ความราคาถูกในการซ่อม

ส่วนตัวถ้าซื้อรถคันที่วิ่ง 0-100 5 วินาทีต่อให้มันเสื่อมจนกลายเป็น 7 วิ 8 วิ
ก็คิดว่ายังเพียงพอต่อการใช้งานที่ยังพอโอเคอยู่
และคิดว่ายังคุ้มค่าที่จะเปลี่ยนแบตเตอรี่เมื่อมันเสื่อมหลัง 10 ปีไปแล้ว
ถ้าราคาแบตเตอรี่ยังถูกกว่าการซื้อรถ segment นั้นมากกว่า 1 ใน 3

เพราะถามว่าอีก 10 ปีขึ้นไปกระแสรถแรงวิ่ง 0-100 ก็ยังอยู่ประมาณ 5-10 วิอยู่ดี
ผมไม่คิดว่ามาตรฐานรถจ่ายกับข้าวจะอยู่ต่ำกว่า 5 วินาทีแล้วนะครับ ฮา

----------

นอกเรื่องจากโจทย์ไปไกล
กลับมาที่ตัวแบตเตอรี่โดยส่วนตัวคิดว่ามีโอกาสถูกลง แต่คงไม่มากขนาดหายไปเป็นเท่าตัวหรือมากกว่า
เพราะมันมีอุตสาหกรรมอื่นที่ยังต้องการแบตเตอรี่ไม่แพ้รถยนต์เหมือนกันที่จะต้องมาแย่งชิงกันอีก

แต่เหตุที่มันจะถูกลงก็เพราะเทรนด์อุตสาหกรรมที่เกิดครบวงจรมากขึ้น ขนาดใหญ่ขึ้น
ผู้แข่งขันมากขึ้น ซึ่งมันจะถูกลงได้แค่เข้าหาราคากลางค่านึงเท่านั้น

---------

นอกเรื่องต่อ
ส่วนเทคโนโลยีแบตเตอรี่มันมีโปรโตคอลในการพูดคุย ก็ยังอยู่ใน V = I x R
ไม่ว่าแบตเตอรี่เกิดใหม่จะเทพขนาดไหนก็ยังพูดถึงกระแสและแรงดัน
และถ้าแค่มันเพียงพอต่อมอเตอร์มันก็สามารถเอามาใช้งานได้
(ตรงนี้จะวัดกันที่ผู้ผลิตรถยนต์ดีไซน์มาให้สะดวกต่อการเปลี่ยนมากน้อยแค่ไหนด้วย)

ส่วนการเติมพลังกลับเข้าแบตต่างหากที่จะเป็นตัววัดในอนาคต
ถ้ารถที่ตอนนี้ยังรับได้แค่กำลังต่ำกว่า 100 กิโลวัตต์ ต่อชั่วโมง
มันจะกลายเป็นเทคโนโลยีล้าหลังที่ตกไปเร็วมาก จากความสะดวกในการใช้งาน
และเมื่อมาตรฐานในอีก 10 ปีก็จะไม่น่าใช้

คิดว่ารถทุกคันยุคถัดไปน่าจะรับได้ไม่ต่ำกว่า 200 กิโลวัตต์แน่นอน
และบางรายอาจจะขึ้นไปถึง 1,000 กิโลวัตต์แล้ว
แบตเตอรี่แค่ 100 กิโลวัตต์ก็จะถูกเติมได้ภายใน 5 - 10 นาที

สุดท้ายมันก็จะอยู่ที่การบาลานซ์ในการใช้งานของแต่ละคน
ถ้ายุคนี้คุณซื้อตัวรถที่ตัวถังดีวัสดุดีภายนอกภายในคงทน
และเทคโนโลยีเพียงพอที่จะไปสู่ยุค 10 ปีถัดไปได้
มันก็อาจจะคุ้มค่าที่จะเปลี่ยนแบต เพราะยังไงซื้อแค่แบตมันก็ยังถูกกว่าซื้อรถใหม่ทั้งคัน

แต่ถ้าคุณซื้อรถที่เทคโนโลยีกลางๆของยุคนี้
รวมไปถึงตัวถังและวัสดุต่างๆแค่พอใช้งานมันก็ไม่คุ้มค่าที่จะเปลี่ยนแบต
ก็เท่ากับทิ้งรถทั้งคันได้เลย

หรืออาจจะมีอุตสาหกรรมใหม่ในการ overhaul ระบบรถให้เข้ายุคสมัย
ในราคาที่สมเหตุสมผลกว่าซื้อใหม่ก็เป็นไปได้
เพราะเชื่อว่าช่างไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก
หัวข้อ: Re: // ว่ากันเรื่องราคาแบตเตอรี่ในอนาคต //
เริ่มหัวข้อโดย: iKrit ที่ มีนาคม 10, 2023, 19:51:30
มันก็เหมือนยุคที่รถ Hybrid มาใหม่ๆ อะ แบตอย่างแพง พังแล้วเปลี่ยนใหม่แทบร้องกรี๊ด แต่เดี๋ยวนี้ราคามันก็ถูกลง มีร้านนอกศูนย์รับเปลี่ยนแบตที่ถูกลงตามเกรดของแบตแล้ว ปัจจุบันรถ Hybrid วิ่งกันเกลื่อนเมือง รถไฟฟ้าในอนาคตก็คงไม่ต่างจากนี้หรอก ยิ่งตอนนี้จีนก็ผลิตแบตเกลือได้แล้ว ต้นทุนถูกลง ราคาแบตก็ควรจะถูกลงไปด้วย ถ้าในอนาคตไทยผลิตแบตเกลือเองได้อีก คราวนี้สบายละ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์จะเล่นเรื่องราคาแบตให้ถูกลงด้วยไหม

ยกตัวอย่างข่าวเรื่องรถ Tesla ที่ลดราคารถลง แต่ Audi กับ VW ประกาศชัดเจนว่ายังไงก็ไม่ลดราคา เพราะจะกระทบกับคนที่จะขายรถมือสองและคุณค่าของแบรน