Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: apinui ที่ มกราคม 02, 2024, 13:52:14

หัวข้อ: ถ้ารัฐฯช่วยเหลือค่ายญี่ปุ่นโดยการให้นำเข้า K-car มาขายแบบปลอดภาษีบ้าง !!
เริ่มหัวข้อโดย: apinui ที่ มกราคม 02, 2024, 13:52:14
วันก่อนผมขับรถแถวบ้านก็ไปเห็น K-car คันนึงครับ สวยและดูน่าใช้มาก ในหัวผมเลยปรีดขึ้นมาทันทีเลยว่า ถ้ารัฐฯให้ค่ายญี่ปุ่นนำเข้ารถ K-car แบบปลอดภาษีแบบรถ EV จีนบ้าง ก็น่าจะดี

ทีนี้เลยมาตั้งกระทู้ชวนคุยครับ ถ้าทำแบบนี้ได้จริง เราผู้ใช้รถจะรู้สึกอย่างไร กับรถ K-car มันน่าใช้น่าดึงดูดกว่า EV หรือเปล่า ราคาขายคำนวนจากราคาญี่ปุ่นบวกค่าขนส่งยังไงก็น่าจะถูกกว่า EV จีน (อันนี้ผมเดา)

เพื่อนๆคิดเห็นอย่างไรบางครับ ความคุ้มค่าทั้งการใช้งาน และราคา จะดีไหม ถ้ารัฐฯจะอุดหนุน k-car

https://www.youtube.com/watch?v=541OW4D5hCo
หัวข้อ: Re: ถ้ารัฐฯช่วยเหลือค่ายญี่ปุ่นโดยการให้นำเข้า K-car มาขายแบบปลอดภาษีบ้าง !!
เริ่มหัวข้อโดย: whoami ที่ มกราคม 02, 2024, 14:25:16
มันสวย น่ารัก ผมก็อยากได้ แต่คงไม่เหมาะกับชาวไทยส่วนใหญ่ครับ

ขนาดรถอีโคคาร์เครื่อง 1200 ยังมีคำถามยอดฮิตตามโซเชียลประมาณว่า

ขึ้นดอยนั่นนี่ไหวไหม ขับทางไกลยาวๆไหวไหม

แถมคนไทยชอบรถใหญ่ๆกว้างๆ และต้องแรงงงงง



ถ้าเอามาขายจริงก็คงขายได้เฉพาะกลุ่มเล็กๆ ถึงจะปลอดภาษีแต่คงไม่คุ้มในแง่การทำการตลาดและการสต็อคอะไหล่ของค่ายญี่ปุ่นครับ อีกอย่างรถไฟฟ้าจีนคันเล็กๆก็ทีแผนจะมาเปิดตัวบ้านเราอีกหลายรุ่น เร็วๆนี้ก็คงเป็น changan lumin
ยิ่งแข่งกันยากเข้าไปอีกครับ
หัวข้อ: Re: ถ้ารัฐฯช่วยเหลือค่ายญี่ปุ่นโดยการให้นำเข้า K-car มาขายแบบปลอดภาษีบ้าง !!
เริ่มหัวข้อโดย: boogie2020 ที่ มกราคม 02, 2024, 14:53:51
นิสัยการใช้รถไม่เหมือนกันอะคับ  kCar ญี่ปุ่นออกแนวใช้ในเมืองจริง ๆ

บ้านเราใกล้เคียง kCar สุด ก็ EcoCar ยุคแรกนั่นแหละคับ แต่พอมองเห็น Trend Ecocar ในบ้านเราสิบกว่าปีที่ผ่านมาไหมละคับ .... บ้านเราเน้นใช้คุ้ม คันเดียวทำได้ทุกอย่าง ขับในเมือง ขับไปเที่ยว ขับต่างจังหวัด ขับขึ้นดอย .....   รถ Ecocar บ้านเราเลยขยายร่างขึ้นเรื่อย ๆ  จนไปทับ  B-Seg เรียบร้อย

ถ้ามาในแบบ kCar เพียว มันจะเป็นกลุ่มตลาดเล็ก ๆ ในเมืองไทยแทน เพราะถ้าขับ kCar ในเมือง เจอรถเมล์ซิ่ง ๆ  หรือกระบะยกสูงวิ่งผ่านข้าง  ๆ ดู ก็น่าจะรู้สึกว่า ชีวิตมันช่างอันตรายมากมาย กับการใช้รถสไตล์นี้ในเมืองไทย

หัวข้อ: Re: ถ้ารัฐฯช่วยเหลือค่ายญี่ปุ่นโดยการให้นำเข้า K-car มาขายแบบปลอดภาษีบ้าง !!
เริ่มหัวข้อโดย: samaklen ที่ มกราคม 02, 2024, 15:24:01
ลองเก็บภาษีตามขนาดรถดูสิครับ
อะไรก็จะเปลี่ยนทันที
หัวข้อ: Re: ถ้ารัฐฯช่วยเหลือค่ายญี่ปุ่นโดยการให้นำเข้า K-car มาขายแบบปลอดภาษีบ้าง !!
เริ่มหัวข้อโดย: Zephyrs ที่ มกราคม 02, 2024, 15:24:35
1. แค่เจอพวกรถเมล์หรือรถใหญ่นรกวิ่งเฉียดก็โคลงแล้ว ถามพวกขับมิร่าดูก็ได้
2. เอาเข้ามาก็ไม่มีประโยชน์ บ้านเราไม่ได้มีปัญหาที่จอดรถ"เล็ก"หรือ"แคบ" แต่คือมี"น้อย" ถ้าเอา K-Car เข้ามาแล้วกินขนาดที่จอดรถ 1 ช่องเหมือนเดิม = ค่าเท่ากับเอา D-Seg มาวิ่ง ยกเว้นจะยกเลิกเส้นตีแบ่งช่องแล้วจอด
3. คนไทย mindset ยังเหมือนเดิม เจอรถเล็กต้องคิดว่าขึ้นดอยหมงหรืออะไรก็ตามตลอด ชีวิตคนพูดแบบนี้ส่วนมากก็ไม่ได้ขึ้นที่สูงเกินกว่าคอนโดหรือยอดดอยหุ้นที่อยู่เท่าไหร่หรอก พอเจอแบบนี้ก็ปากต่อปาก สรุปขายไม่ออกอยู่ดี
4. คนไทยเกลียดรถเล็ก อาจจะเพราะชีวิตต้องเผื่อแรงปะทะเวลาเจอกระบะตีนผีหรืออะไรคล้ายๆกัน ดู Brio ก็ได้ รถ A-Segment คนไทยกลัวขี้หด ไม่กล้าซื้อเพราะกลัวนั่งหลังแล้วโดนชนทีเดียวไปเยี่ยมอากงอาม่า แล้ว K-Car ไม่ได้ใหญ่กว่าเล้ย (Brio ยาว 3.6 กว้าง 1.6 ของ Kei Car คือ ยาว 3.4 กว้าง 1.48) แถมมาเป็นทรงกล่องสูง 2 เมตร เรียบร้อยโรงเรียนไทย โดนหยามว่าเจอลมแล้วส่ายเป็นงูแน่ๆ

คอนเซปไม่ได้แย่หรอก แต่มันสายไปนานแล้ว จริงๆ Eco Car มันก็คือ Kei Car คนไทยนั่นแหละ ให้ตายยังไงเอามาขายก็ไม่รอด กลุ่มมัน Niche มากๆ ยังไม่นับอีกว่าญปวินัยบนท้องถนนก็ดีกว่าไทยมาก เขาขับรถพวกนี้ี้ได้สบายๆ (มันก็มีพวกตีนผีนั่นแหละ แต่คือสัดส่วนไม่เยอะแบบบ้านเรา) ของเราทุกวันนี้เอาแค่ขับออกจากบ้านไปถนนใหญ่ แค่มอไซพลีชีพทั้งพี่วินทั้งไรเดอร์ทั้งเด็กแว้น มันก็ปวดกบาลพอแล้ว
หัวข้อ: Re: ถ้ารัฐฯช่วยเหลือค่ายญี่ปุ่นโดยการให้นำเข้า K-car มาขายแบบปลอดภาษีบ้าง !!
เริ่มหัวข้อโดย: PaPaMan ที่ มกราคม 02, 2024, 17:10:49
ไม่รอดหรอกครับ ไม่มีใครซื้อ


นอกเหนือจากตามที่เม้นท์บนๆบอกแล้ว สำหรับคนไทยที่มีค่านิยมว่ารถเป็นเครื่องบ่งบอกฐานะด้วย ร้อยทั้งร้อยยอมเป็นหนี้เพิ่มขึ้น ผ่อนต่อเดือนเพิ่มขึ้นไม่เท่าไหร่ ยอมออกรถที่ใหญ่กว่าแน่นอนครับ ไม่มีใครเอารถเล็กแบบ Kei car หรอก แค่เปิดประตูก้าวลงจากรถก็อายคนแล้ว
หัวข้อ: Re: ถ้ารัฐฯช่วยเหลือค่ายญี่ปุ่นโดยการให้นำเข้า K-car มาขายแบบปลอดภาษีบ้าง !!
เริ่มหัวข้อโดย: Winnie_The_Poom ที่ มกราคม 02, 2024, 17:14:05
คนในสยามประเทศ 95% ไม่ได้ชอบ หรือ ต้องการขับรถเล็กขนาดนี้ครับ อนาคตอาจจะถอยรถ 6 ล้อ หรือ 10 ล้อ และ รถพ่วงมาขับกันเยอะขึ้น (อันนี้หยอก) พอเอามา สมมุติราคาที่ 3 แสน คนก็บอกแพงอยู่ดี ทั้งที่ในแต่ละช่อง ก็เม้นต์กันสนุกว่า ราคาไม่กี่แสนจะขายดี ส่วนตัวชอบนะครับรถคันเล็กๆ ขับในเขตเมืองสะดวกมาก แต่เพื่อนร่วมถนน ไม่ได้ทำให้เราสะดวกได้ตลอด รถใหญ่มักชอบเบียด หรือ แซงแล้วปาดหน้า (ขับเลนซ้ายก็ยังโดน) 😔
หัวข้อ: Re: ถ้ารัฐฯช่วยเหลือค่ายญี่ปุ่นโดยการให้นำเข้า K-car มาขายแบบปลอดภาษีบ้าง !!
เริ่มหัวข้อโดย: kiwiwi ที่ มกราคม 02, 2024, 17:21:58
วันนี้ไปเยาวราช​ เจอประมาณ 10 คันได้มั๊ง
หัวข้อ: Re: ถ้ารัฐฯช่วยเหลือค่ายญี่ปุ่นโดยการให้นำเข้า K-car มาขายแบบปลอดภาษีบ้าง !!
เริ่มหัวข้อโดย: Oatsenal1 ที่ มกราคม 02, 2024, 17:35:07
รูปแบบประเทศไทยกับญี่ปุ่นก็ต่างกันแล้ว ไม่ดีหรอกครับ
หัวข้อ: Re: ถ้ารัฐฯช่วยเหลือค่ายญี่ปุ่นโดยการให้นำเข้า K-car มาขายแบบปลอดภาษีบ้าง !!
เริ่มหัวข้อโดย: NoName__??? ที่ มกราคม 02, 2024, 18:03:26
K Car เจอนิสัยขับรถคนไทย ไม่น่ารอด ทุกวันนี้พวกกกระบะสูงๆ นึกอยากจะเปลี่ยนเลน ก็เปลี่ยน ประมานว่ารถข้าใหญ่ ทุกคนต้องเกรง ลองเป็น K car สิ จะเหลือเหรอ
หัวข้อ: Re: ถ้ารัฐฯช่วยเหลือค่ายญี่ปุ่นโดยการให้นำเข้า K-car มาขายแบบปลอดภาษีบ้าง !!
เริ่มหัวข้อโดย: axister ที่ มกราคม 02, 2024, 18:28:20
ไม่มีประโยชน์ครับ มีแต่โทษล้วนๆ

celerio ก็ไม่ได้แพง ถ้าเข้ามาถูกกว่านี้ คนที่ซื้อรถไหวก็จะเลือกขยับไปรุ่นที่ดีกว่า กลับกันคนที่จะมาซื้อก็จะเป็นกลุ่ม up sale มอไซ ซึ่งคนส่วนนี้มักไม่มีที่จอด จะกลายเป็นปัญหาสังคมหนักเข้าไปอีก เพราะทุกวันนี้บางคนขับ mg hs ใหม่ๆบางคนยังต้องไล่จอดริมถนนเลย ไปดูแถวบางนาได้ครับคอนโดที่จอดไม่พอ มาจอดริมถนนที่ดินชอบสไลด์เสี่ยงๆ เค้าก็ยังยอมกัน ที่ยกตัวอย่าง mg ไม่ได้บู้บี้นะครับ แต่หมายถึงรถใหม่ c-suv เค้ายังยอม เพราะต้องใช้รถกลับบ้าน-ไปทำงานครับ

พอราคาถูกเข้ามาจะโดนเทียบกับรถมือสอง แล้วส่วนมากก็จะไปรถมือสองครับ

infrastructure เราไม่ได้ ที่ญี่ปุ่นทำแล้วมัน work เพราะคนเค้าค่อนข้างมีระเบียบ ถ้าไม่มีที่จอดเค้าก็ไม่ซื้อ อีกอย่างขนส่งสาธารณะเค้าดีมาก เลยทำให้การมือ kei-car นิเพื่อขนของเป็นหลักเลยครับ และมักใช้กันนอกเมืองด้วย คนที่อยู่ใน city centre แล้วมีรถคือคนฟุ่มเฟือยครับ เพราะต้องมีที่จอด และ rush hour ก็ยากที่จะใช้ การเดินทางไป suburb หรือจังหวัดข้างๆก้ใช้รถไฟได้ไวกว่า

ที่บอกสวยและน่าใช้ ลองถามตัวเองสิครับเข้ามาแล้วจะซื้อรึเปล่า ผมว่าถ้าคุณสนใจคงซื้อ celerio ไปนานแล้วครับ

คนญีปุ่นเค้าก็ไม่ได้ถวิลหา kei-car นะครับ เป็นกลุ่มคนที่ ตัวเลือกนี้ดีที่สุดเท่านั้น เช่นบ้านอยู่ในซอยแคบ เริ่มสูงวัยหรือต้องใช้รถในการขนของ เพราะถ้ามีที่จอดเดียวหรือไม่มีจริงๆเวลาไปทางไกลเค้าก็เช่าเอาครับ

เทียบกับแค่ wuling ก็ได้ครับ นั่นก็ size kei-car ดูเทียบยอดกับ netav ก็น่าจะเห็นภาพอยู่
หัวข้อ: Re: ถ้ารัฐฯช่วยเหลือค่ายญี่ปุ่นโดยการให้นำเข้า K-car มาขายแบบปลอดภาษีบ้าง !!
เริ่มหัวข้อโดย: เนื้อน่องไม่หนัง ที่ มกราคม 02, 2024, 19:47:08
ราคาของมันตอนนี้-ถึงจะมีมาตรการอะไรออกมาช่วย มันดูไม่คุ้มค่าครับ เพิ่มอีกนิดได้รถที่ใหญ่ขึ้นวิ่งไกลๆสบายขึ้น

ขนาดมันก็เล็กด้วย ตัวมันเองอาจปลอดภัยถ้าขับไปชนเขานะ.. แต่ถ้าเจอรถใหญ่กว่าชน ผมเองก็แอบกังวลเหมือนกัน
คิดว่ามันเหมาะกับบางโซนเท่านั้นครับ พวกโซนชุมชนที่ถนนเล็กๆ และรถวิ่งได้ไม่เร็วมาก เช่นพวก สุขุมวิทโซน อโศก-ทองหล่อ / สัมพันวงศ์ เยาวราช แนวๆนั้น
ต้องยอมรับว่า ในกรุงเทพ ขับรถค่อนข้างเร็วครับ ถ้าโดนเก๋งวิ่ง 80 ชนทีนึง ผมว่ามันอาจคว่ำได้เลย
ถ้าเราบังคับใช้ speed limit แบบมีมาตรฐานเหมอืนต่างประเทศได้ K-car รถเล็กมันจะน่าจะสนใจ และปลอดภัยมากขึ้นครับ
หัวข้อ: Re: ถ้ารัฐฯช่วยเหลือค่ายญี่ปุ่นโดยการให้นำเข้า K-car มาขายแบบปลอดภาษีบ้าง !!
เริ่มหัวข้อโดย: off_033 ที่ มกราคม 02, 2024, 20:35:36
รถคนไทยต้องไปได้ทุกที่ในประเทศ

ขนของ ขนคนได้เยอะที่สุด

คนส่วนใหญ่ซื้อผ่อน บางคนผ่อนนานด้วย  เพิ่มหลักร้อย หรือหลักพันต้นๆ ได้รถใหญ่กว่าอีกระดับ

แล้วจะขายใครละทีนี้
หัวข้อ: Re: ถ้ารัฐฯช่วยเหลือค่ายญี่ปุ่นโดยการให้นำเข้า K-car มาขายแบบปลอดภาษีบ้าง !!
เริ่มหัวข้อโดย: helloweentz ที่ มกราคม 02, 2024, 20:41:04
ตลาดคนไทย นิยม รถกระบะแค็ป เพราะตอบสนองอเนกประสงค์ที่สุด

k-car มา ราคาไม่ต่ำ จะยากมากๆ
หัวข้อ: Re: ถ้ารัฐฯช่วยเหลือค่ายญี่ปุ่นโดยการให้นำเข้า K-car มาขายแบบปลอดภาษีบ้าง !!
เริ่มหัวข้อโดย: e:smart Hybrid ที่ มกราคม 02, 2024, 21:31:10
รถที่ขายบ้านเราผมมองว่า ต่ำสุดคือ 1.0 ลิตรครับ เล็กกว่านั้น แรงม้าน้อยกว่า 65 ตัว คงไปไหนลำบากครับ
หัวข้อ: Re: ถ้ารัฐฯช่วยเหลือค่ายญี่ปุ่นโดยการให้นำเข้า K-car มาขายแบบปลอดภาษีบ้าง !!
เริ่มหัวข้อโดย: seeker ที่ มกราคม 02, 2024, 21:44:08
ทำไมไม่ให้ bev นำเข้าจากทุกที่ หรือเฉพาะเอเซีย เสียภาษีอัตรา 0 เท่ากับรถจีนละครับ

K car ตอนนี้เห็นแต่คนมีเงินครับ
หัวข้อ: Re: ถ้ารัฐฯช่วยเหลือค่ายญี่ปุ่นโดยการให้นำเข้า K-car มาขายแบบปลอดภาษีบ้าง !!
เริ่มหัวข้อโดย: PapaRo@ch~* ที่ มกราคม 02, 2024, 21:44:18
ขับรถที่ญี่ปุ่นมาหลายครั้ง ถ้าขึ้นทางด่วนข้ามภูมิภาคนี่แทบไม่เคยเห็น K-Car
ถ้าเป็นที่ไทยนี่ไม่รอด
หัวข้อ: Re: ถ้ารัฐฯช่วยเหลือค่ายญี่ปุ่นโดยการให้นำเข้า K-car มาขายแบบปลอดภาษีบ้าง !!
เริ่มหัวข้อโดย: CR MaximaQX ที่ มกราคม 02, 2024, 21:52:11
บอกกันตรงๆ เลยว่า "ไม่เหมาะกับการใช้งานในไทย"
หัวข้อ: Re: ถ้ารัฐฯช่วยเหลือค่ายญี่ปุ่นโดยการให้นำเข้า K-car มาขายแบบปลอดภาษีบ้าง !!
เริ่มหัวข้อโดย: Ty ESC ที่ มกราคม 02, 2024, 22:30:44
ต่อให้ช่วย ก็ไม่แน่ใจว่าราคาขายจะถูกจริงมั้ย
ถ้ามัน 5-6 แสน ผมว่าคนก็ไม่ซื้อ
ถ้ามัน3-4 แสน คนก็ยังเทียบ กระบะ
เอาให้ถึง 2แสนเลย ก็เชื่อว่าขายได้ แต่ไม่เยอะ แต่สุดท้าย บ ก็ไม่มีกำไร ทำต่อยาวๆ
หัวข้อ: Re: ถ้ารัฐฯช่วยเหลือค่ายญี่ปุ่นโดยการให้นำเข้า K-car มาขายแบบปลอดภาษีบ้าง !!
เริ่มหัวข้อโดย: iKrit ที่ มกราคม 03, 2024, 00:35:55
kCar เอาเข้าจริงมันแพงนะ แต่คนญี่ปุ่นซื้อมาใช้กันเพราะข้อยกเว้นเรื่องที่จอด เสียภาษีประจำปีน้อยกว่ารถปกติ
หัวข้อ: Re: ถ้ารัฐฯช่วยเหลือค่ายญี่ปุ่นโดยการให้นำเข้า K-car มาขายแบบปลอดภาษีบ้าง !!
เริ่มหัวข้อโดย: Sympho ที่ มกราคม 03, 2024, 09:01:45
เอาจริงๆ มันปลอดภัยขนาดไหนครับ ในแง่ของการป้องกันผู้โดยสารในรถ

ไม่รู้มีทดสอบการชนมั้ย
หัวข้อ: Re: ถ้ารัฐฯช่วยเหลือค่ายญี่ปุ่นโดยการให้นำเข้า K-car มาขายแบบปลอดภาษีบ้าง !!
เริ่มหัวข้อโดย: renew ที่ มกราคม 03, 2024, 10:20:48
ประเทศไทยขายรถราคาถูกๆ เล็กๆ ยากครับ

   จริงๆแล้วดู celerio ตอนนี้ก็ใด้ คล้ายๆกัน รถก็ดี แต่ไม่ค่อยนิยมกัน
หัวข้อ: Re: ถ้ารัฐฯช่วยเหลือค่ายญี่ปุ่นโดยการให้นำเข้า K-car มาขายแบบปลอดภาษีบ้าง !!
เริ่มหัวข้อโดย: Left lane driver ที่ มกราคม 03, 2024, 11:43:20
คนไทยส่วนใหญ่ต้องการรถคันใหญ่ๆ
แบบมีพื้นที่ leg room พอให้ฝรั่งสูง 7 ฟุตนั่งไขว่ห้างที่เบาะหลังได้ครับ
จะได้เอามาขิงคนรอบตัวว่า "รถชั้นคันกว้างกว่านะแกรรร" ต่อให้คนที่พูดสูงไม่ถึง 170 แล้วขับคนเดียวก็ตาม
ถ้า K Car มาขายน่าจะได้ไม่ mass ขนาดนั้น
หัวข้อ: Re: ถ้ารัฐฯช่วยเหลือค่ายญี่ปุ่นโดยการให้นำเข้า K-car มาขายแบบปลอดภาษีบ้าง !!
เริ่มหัวข้อโดย: Sommerดอยแม่สลอง ที่ มกราคม 03, 2024, 14:04:44
รถยนต์ในไทยที่ขนาดใกล้เคียง K-Car ที่ญี่ปุ่นมากที่สุด

-Suzuki Celerio
-NETA V
-Volt City EV
-Wuling Air
-BYD Dolphin
หัวข้อ: Re: ถ้ารัฐฯช่วยเหลือค่ายญี่ปุ่นโดยการให้นำเข้า K-car มาขายแบบปลอดภาษีบ้าง !!
เริ่มหัวข้อโดย: Symphonic ที่ มกราคม 03, 2024, 14:53:57
วันก่อนผมขับรถแถวบ้านก็ไปเห็น K-car คันนึงครับ สวยและดูน่าใช้มาก ในหัวผมเลยปรีดขึ้นมาทันทีเลยว่า ถ้ารัฐฯให้ค่ายญี่ปุ่นนำเข้ารถ K-car แบบปลอดภาษีแบบรถ EV จีนบ้าง ก็น่าจะดี

ทีนี้เลยมาตั้งกระทู้ชวนคุยครับ ถ้าทำแบบนี้ได้จริง เราผู้ใช้รถจะรู้สึกอย่างไร กับรถ K-car มันน่าใช้น่าดึงดูดกว่า EV หรือเปล่า ราคาขายคำนวนจากราคาญี่ปุ่นบวกค่าขนส่งยังไงก็น่าจะถูกกว่า EV จีน (อันนี้ผมเดา)

เพื่อนๆคิดเห็นอย่างไรบางครับ ความคุ้มค่าทั้งการใช้งาน และราคา จะดีไหม ถ้ารัฐฯจะอุดหนุน k-car

https://www.youtube.com/watch?v=541OW4D5hCo

K car คันที่พี่เห็นแถวบ้านอ่ะครับ
ถ้าพี่ได้ลองขับนะ แล้วมันมีขายป้ายแดง
จากบริษัมแม่ Suzuki, Daihatsu เลยนะ
สัก 5-6 แสนน่ะ  ถึงตอนนั้นพี่ก็ไม่ซื้อล่ะครับ

ขนาด Ativ ตัวเริ่มต้น 5 แสนกว่าๆ
ยังรังเกียจกันเลย แล้ว K car มันด้อยกว่าทุกด้าน
จะไหวเหรอครับ
หัวข้อ: Re: ถ้ารัฐฯช่วยเหลือค่ายญี่ปุ่นโดยการให้นำเข้า K-car มาขายแบบปลอดภาษีบ้าง !!
เริ่มหัวข้อโดย: jeeper ที่ มกราคม 03, 2024, 15:17:52
วันก่อนผมขับรถแถวบ้านก็ไปเห็น K-car คันนึงครับ สวยและดูน่าใช้มาก ในหัวผมเลยปรีดขึ้นมาทันทีเลยว่า ถ้ารัฐฯให้ค่ายญี่ปุ่นนำเข้ารถ K-car แบบปลอดภาษีแบบรถ EV จีนบ้าง ก็น่าจะดี

ทีนี้เลยมาตั้งกระทู้ชวนคุยครับ ถ้าทำแบบนี้ได้จริง เราผู้ใช้รถจะรู้สึกอย่างไร กับรถ K-car มันน่าใช้น่าดึงดูดกว่า EV หรือเปล่า ราคาขายคำนวนจากราคาญี่ปุ่นบวกค่าขนส่งยังไงก็น่าจะถูกกว่า EV จีน (อันนี้ผมเดา)

เพื่อนๆคิดเห็นอย่างไรบางครับ ความคุ้มค่าทั้งการใช้งาน และราคา จะดีไหม ถ้ารัฐฯจะอุดหนุน k-car

https://www.youtube.com/watch?v=541OW4D5hCo

K car คันที่พี่เห็นแถวบ้านอ่ะครับ
ถ้าพี่ได้ลองขับนะ แล้วมันมีขายป้ายแดง
จากบริษัมแม่ Suzuki, Daihatsu เลยนะ
สัก 5-6 แสนน่ะ  ถึงตอนนั้นพี่ก็ไม่ซื้อล่ะครับ

ขนาด Ativ ตัวเริ่มต้น 5 แสนกว่าๆ
ยังรังเกียจกันเลย แล้ว K car มันด้อยกว่าทุกด้าน
จะไหวเหรอครับ

เห็นด้วยเลยนะ เดียวมีคนถามว่าขึ้นดอยไหวไหมอีก บ้านเรามันต้องเอาใหญ่เอาท็อปไว้ก่อน โดนการตลาดหลอกตลอดเวลา
หัวข้อ: Re: ถ้ารัฐฯช่วยเหลือค่ายญี่ปุ่นโดยการให้นำเข้า K-car มาขายแบบปลอดภาษีบ้าง !!
เริ่มหัวข้อโดย: Buffy ที่ มกราคม 03, 2024, 16:04:59
ผมว่าอยู่ที่ ราคาเลย

เอาพวก Nissan Cube Sakura เข้ามาราคาเท่าญี่ปุ่น ที่หกแสน
Honda n One daihausu chocolate  อีกหลายรุ่น...อีกมากมาย โดยส่วนตัว ผมว่ามีคนซื้อ

ยอดขายไม่เปรี้ยง เท่า Jazz rs หรือ Honda  stepwgn ตอนน้ำท่วม แล้วให้โคว้ต้าเข้ามา..........แต่ผมว่า ไม่ได้แย่
หัวข้อ: Re: ถ้ารัฐฯช่วยเหลือค่ายญี่ปุ่นโดยการให้นำเข้า K-car มาขายแบบปลอดภาษีบ้าง !!
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ มกราคม 03, 2024, 23:14:36

ถ้าขาย ราคา 250,000 - 400,000 ผมว่าขายดี
คนไทยไม่ได้ชอบรถใหญ่ แต่ตลาดมันมีแต่รถใหญ่

Eco car ยุคแรกขายดี เพราะ ราคาถูก

ลอง K- car ขาย ไม่เกิน 300000 ขายดีแน่นอน
หัวข้อ: Re: ถ้ารัฐฯช่วยเหลือค่ายญี่ปุ่นโดยการให้นำเข้า K-car มาขายแบบปลอดภาษีบ้าง !!
เริ่มหัวข้อโดย: Devil13 ที่ มกราคม 04, 2024, 06:41:10
ลองเก็บภาษีตามขนาดรถดูสิครับ
อะไรก็จะเปลี่ยนทันที

+1ครับ
หัวข้อ: Re: ถ้ารัฐฯช่วยเหลือค่ายญี่ปุ่นโดยการให้นำเข้า K-car มาขายแบบปลอดภาษีบ้าง !!
เริ่มหัวข้อโดย: apinui ที่ มกราคม 04, 2024, 11:16:06
อ่านทุกความเห็นก็ จริงๆผมตั้งคำถามชวนคุยนะครับ ดีหรือไม่ดี ไม่ใช่ว่าผมไม่ถามตัวเองว่าจะซื้อไหม ก็ถ้าราคาไม่ข้าม 4 แสน option ท่วมๆ บางทีถ้าต้องการรถประหยัดน้ำมัน วิ่งแค่ในเมือง และ "ไม่ใช่รถคันเดียวในบ้าน" ก็อาจจะซื้อนะ

ปัจจัยมันก็คล้ายรถ EV แหละคือ ประหยัด เน้นใช้ในเมือง และไม่ใช่รถคันเดียวในบ้าน และผมคิดว่า K-car มันจะตอบโจทย์ไหม ถ้าราคามันถูกกว่า ประกันถูกกว่า บำรุงรักษาง่ายๆไม่จุกจิกไม่ซับซ้อน และที่สำคัญ มันคือรถญี่ปุ่น ศูนย์บริการ อะไหล่ ราคาขายต่อ ... มันจะพอเป็นข้อได้เปรียบไหม ...

แต่ถ้ามันเป็นจริงขึ้นมา ค่ายรถญี่ปุ่นจะได้เลิกครวญครางหาว่าเราเอื้อจีนมากไป

ส่วนหลายท่านที่บอกว่าแคบ ผมไม่รู้ว่าท่านตัวใหญ่ขนาดไหน แต่สำหรับผมที่สุงแค่ 168cm ผมว่าโคตรกว้างเลย

https://www.youtube.com/watch?v=WPcpXTj46xo
หัวข้อ: Re: ถ้ารัฐฯช่วยเหลือค่ายญี่ปุ่นโดยการให้นำเข้า K-car มาขายแบบปลอดภาษีบ้าง !!
เริ่มหัวข้อโดย: Symphonic ที่ มกราคม 04, 2024, 11:43:48
คือราคามันไม่ถูกอย่างที่คาดหวังไงครับ
K Car รุ่นที่ดูน่ารัก สวยๆ ราคาที่ ญี่ปุ่น
มันก็ปริ่ม 2 ล้านเยน….

ส่วน K Car ถูกๆ แบบ ล้านกลางๆ (เยน)
มันก็มู่ทู่ประมาณ Celerio ซึ่งก็คงไม่ชอบกัน

คาดหวังประหยัด  พวก K Car ตัวที่ดูสวยๆ
กว้างๆ มันเป็นประเภท K Car ที่เบ่งตัวสุดๆ
จากกฎหมายญี่ปุ่นที่คุม กว้าง x ยาว มันจึงไป
ขโมยความสูงมาทำให้รถดูโปร่งแทน แต่ผลที่
ตามมาคือ ตัวมันจะต้านลม และหนัก ก็เลยไม่ประหยัด
อย่างที่หวัง พอจะลดน้ำหนัก ก็ไปเอาวัสดุกันเสียงออกบ้าง
เอาคานออกบ้าง เพราะรถพวกนี้ไม่ได้ส่งออก
ไม่ต้องส่งมดสอบ NCAP อะไร อ่ะครับ

ถ้าพี่มีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่น ลองเช่าพวกนี้ขับดูก็ได้ครับ
ค่าเช่าประมาณวันละ 3 พันบาท จะได้หายคาใจ
หัวข้อ: Re: ถ้ารัฐฯช่วยเหลือค่ายญี่ปุ่นโดยการให้นำเข้า K-car มาขายแบบปลอดภาษีบ้าง !!
เริ่มหัวข้อโดย: Zephyrs ที่ มกราคม 04, 2024, 13:07:04
อ่านทุกความเห็นก็ จริงๆผมตั้งคำถามชวนคุยนะครับ ดีหรือไม่ดี ไม่ใช่ว่าผมไม่ถามตัวเองว่าจะซื้อไหม ก็ถ้าราคาไม่ข้าม 4 แสน option ท่วมๆ บางทีถ้าต้องการรถประหยัดน้ำมัน วิ่งแค่ในเมือง และ "ไม่ใช่รถคันเดียวในบ้าน" ก็อาจจะซื้อนะ

ปัจจัยมันก็คล้ายรถ EV แหละคือ ประหยัด เน้นใช้ในเมือง และไม่ใช่รถคันเดียวในบ้าน และผมคิดว่า K-car มันจะตอบโจทย์ไหม ถ้าราคามันถูกกว่า ประกันถูกกว่า บำรุงรักษาง่ายๆไม่จุกจิกไม่ซับซ้อน และที่สำคัญ มันคือรถญี่ปุ่น ศูนย์บริการ อะไหล่ ราคาขายต่อ ... มันจะพอเป็นข้อได้เปรียบไหม ...

แต่ถ้ามันเป็นจริงขึ้นมา ค่ายรถญี่ปุ่นจะได้เลิกครวญครางหาว่าเราเอื้อจีนมากไป

ส่วนหลายท่านที่บอกว่าแคบ ผมไม่รู้ว่าท่านตัวใหญ่ขนาดไหน แต่สำหรับผมที่สุงแค่ 168cm ผมว่าโคตรกว้างเลย

https://www.youtube.com/watch?v=WPcpXTj46xo

แก้ปัญหาเอื้อจีนมากไปไม่ต้องใช้หัวสมองคิดเยอะเลยครับ

"ยกเว้นภาษีนำเข้าแบบจีน" ไปเลย เรื่องมี subsidized ให้อันนั้นก็คงไว้เฉพาะรถ ev เหมือนเดิมจบๆ

แล้วท่านจะได้รู้เลยว่า ปัญหาปัจจุบันที่ว่าเอื้อจีนๆของคนที่ท่านกล่าวหาว่าเขาอวยญปกันน่ะ มันเรื่องจริงรึเปล่า

เปิดให้เสรีเลยครับ ไม่ต้องมาลิมิตแค่ Kei Car เอาแบบจิ้มแคตาล็อกญปแล้วสั่งได้ทุกรุ่นทุกยี่ห้อจากบนเกาะ เดี๋ยวก็จะรู้เองว่าใครหมู่ใครจ่า

ปล. จะสูงเท่าไหร่ก็ไม่เกี่ยวกับแคบครับ ถ้าท่านสูง 2 เมตรแค่หน้าแคบเท่าไซส์ผญผอม ท่านก็จะบอกว่า K-Car กว้างได้ครับ ถ้าท่านกว้างแบบผชปกติหรือท้วมหน่อย ท่านจะรู้ว่า 1.5 เมตรนี่แคบมาก ผญไซส์พกพานอนราบขาตรงไม่ได้ ขณะที่รถใหม่ๆเกือบทั้งประเทศกว้างเริ่มต้นก็ 1.6 เมตรจะ 1.7 กันอยู่แล้ว

อย่างที่ท่านบนบอก ในไทยก็ไม่น่ายากที่จะหาเช่า ลองเอาไปขึ้นด่วนบางนาเข้าเมืองก็ได้ขำๆ เพราะไล่ไปบูรพาวิถีอาจจะดูโหดร้ายไปหน่อย แล้วท่านจะรู้ว่ารถพวกนี้ไม่มีวันเกิดได้นอกญปเพราะอะไร
หัวข้อ: Re: ถ้ารัฐฯช่วยเหลือค่ายญี่ปุ่นโดยการให้นำเข้า K-car มาขายแบบปลอดภาษีบ้าง !!
เริ่มหัวข้อโดย: romeokk ที่ มกราคม 04, 2024, 13:37:11
กลุ่มคนใช้ K-car ในญี่ปุ่น มันเทียบเท่ากับกลุ่มคนใช้มอเตอร์ไซค์ในบ้านเนี่ยแหละครับ คือคนไทยซื้อมอเตอร์ไซค์ใช้เพราะเหตุผลอะไร ญี่ปุ่นก็ใช้เหตุผลเดียวกัน แต่หันไปซื้อ K-car แทน

แต่ราคา K-car ต่อให้มันเท่าญี่ปุ่น ก๋ไม่ใช่ราคาที่คนใช้มอเตอร์ไซค์บ้านเราส่วนใหญ่จะเอื้อมถึงได้ มันก็เลยกลายเป็นรถที่ใช้ฟังก์ชันรถได้ไม่เต็มที่ คนที่เค้าต้องใช้รถเต็มที่แต่งบจำกัด ก็คงกัดฟันไฟซื้อ Eco car แทน ส่วน K-car ก็กลายเป็นมีกลุ่มเป้าหมายเหลือจำนวนแค่นิดเดียว
หัวข้อ: Re: ถ้ารัฐฯช่วยเหลือค่ายญี่ปุ่นโดยการให้นำเข้า K-car มาขายแบบปลอดภาษีบ้าง !!
เริ่มหัวข้อโดย: apinui ที่ มกราคม 04, 2024, 14:28:11
อะไรกันครับเนี่ย .. มาไล่ให้ไปเช่าขับกันทั้ง 2 คนเลย ...เป็นอะไรกันครับกับ 2 ท่านนี้

ผมไม่ได้บอกว่าอยากได้อยากขับ และเมืองไทยต้องมี หรือมันดีแสนดีอะไรเลย และก็ไม่ไอ้อวยอะไรด้วย ...

อันนี้พูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็น ซึ่งจริงๆมันก็ไม่ได้มีขายอยู่แล้ว แค่ชวนคุยในแนวที่ว่า ถ้ามันจะเป็นอีกตัวเลือก สำหรับค่ายญี่ปุ่น นำมาแก้เกมส์รถไฟฟ้าจีน มันจะพอได้ไหม ... มันจะพอเปิดตลาดรถไซด์นี้ได้ไหม

ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ไม่ได้ .. นี่มาไล่ให้ไปเช่าขับกันเฉยเลย งง ฮะ คนอื่นๆก็แสดงความเห็นกันน่าอ่านน่าฟังนะครับ  แต่นี่มาจริงจังแถมใส่อารมอะไรกันมาครับ ไม่เข้าใจ

หัวข้อ: Re: ถ้ารัฐฯช่วยเหลือค่ายญี่ปุ่นโดยการให้นำเข้า K-car มาขายแบบปลอดภาษีบ้าง !!
เริ่มหัวข้อโดย: Symphonic ที่ มกราคม 04, 2024, 14:43:20
อย่าโกรธผมเลยครับ

อย่าแปลความหมายว่าผม “ไล่” เลยครับ
ผมแค่แนะนำว่า ถ้ามีโอกาสได้ไปเที่ยวที่ญี่ปุ่น
ให้ลองเช่ารถพวกนี้ที่ว่าเล็กๆ น่ารักๆ ขับดู
จะได้เข้าใจว่า การที่มันไม่มีคนเอามาขายในไทย
อย่างจริงๆ จังๆ เพราะอะไร 

เพราะกระทู้นี้ พี่ตั้งขึ้นมาชวนคุยไม่ใช่เหรอครับ
ผมก็คุยให้พี่ฟังตามที่ผมเคยสัมผัสรถเหล่านี้
มันก็เป็นการเล่าให้ฟัง ผนวกกับความเห็นหลังจาก
ที่เคยได้สัมผัส ได้รู้ราคา แล้วเลยมองต่อว่าถ้ามันจะมา
ที่ไทยในแบบนี้จะรอดไหม

มันก็เป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แลกเปลี่ยนมุมมอง
ของผู้คนที่มีประสบการณ์ในคนละมุมที่ต่างกันไม่ใช่เหรอครับ

ผมไม่ได้มีเจตนาที่จะดูถูก หรือตำหนิ ความคิดของพี่เลย
แม้แต่น้อยครับ

แต่ถ้าด้วยความอ่อนด้อยในเรื่องสำนวนภาษาส่วนใดที่ทำให้
พี่ไม่สบายใจ ก็ขออภัยด้วยครับ
หัวข้อ: Re: ถ้ารัฐฯช่วยเหลือค่ายญี่ปุ่นโดยการให้นำเข้า K-car มาขายแบบปลอดภาษีบ้าง !!
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ มกราคม 04, 2024, 15:27:58
K car  มันผลิตและออกแบบใช้ในญี่ปุ่นเท่านั้น  บอกตามตรงไม่เหมาะกับการนำมาใช้ในบ้านเราเลย     ถ้าจะเหมาะก็แค่กลุ่มเล็ก ๆ  ใช้งานในเขตจราจรแออัดที่จอดมีน้อย
   ปล. นำเข้ามาจริงราคาไม่ถูกหรอก ต่อให้ภาษี 0%  เพราะต้อง + ค่าขนส่ง +กำไร + การตลาด + อื่นอีก   แพงกว่า SUZUKI Cerelio เยอะ   คนไม่ซื้อกันอยู่ดี   แล้วคนไทยใช้รถคันนึงไปทั่วไทย ขึ้นเขาขึ้นดอย ไปเชียงใหม่ ตจว ก็เอารถคันเดียวไป  มันไม่เหมาะจะวิ่งถนนหลวง หรือทางด่วนจริง ๆ 
หัวข้อ: Re: ถ้ารัฐฯช่วยเหลือค่ายญี่ปุ่นโดยการให้นำเข้า K-car มาขายแบบปลอดภาษีบ้าง !!
เริ่มหัวข้อโดย: Zephyrs ที่ มกราคม 04, 2024, 20:39:47
พอแลกเปลี่ยนความคิดเห็นก็บอกว่าทำไมต้องจริงจัง อยากได้คำตอบแบบไหนหรอครับ?

แบบเวปต้องห้ามไหมครับ แปะสติ๊กเกอร์แล้วก็จบ ปั้มค่า Adsense ไป ช่วงนี้ฝั่งนู้นก็เละกันเพราะแบบนี้

หรือพยักหน้าหงึกๆหงักๆใช่ๆ แล้วก็เออออห่อหมกตามท่านไปให้ท่านสบายใจ ไม่"จริงจัง"เกินไป?

ผมว่าผมก็ตอบในรูปแบบปกติ คือหลายๆท่านก็ตอบเหตุผลไปแล้วว่ามันไม่รอดเพราะอะไร
ท่านก็พยายามเชื่อมต่อกับ EV จีนให้ได้ หรือ "ประหยัด เน้นใช้ในเมือง และไม่ใช่คันเดียวในบ้าน" โดยเฉพาะประโยคสุดท้าย ก็ยิ่งย้ำว่ามันเป็นแค่รถแฟชั่นไม่ใช่รถฟังก์ชั่น
ซึ่งรถ EV แม้แต่จีนเองก็ไม่ใช่รถแบบนั้น ที่มันเป็นรถคันเดียวในบ้านไม่ได้เพราะความ Unreliable ของมัน ไม่ใช่ว่าข้อจำกัดเรื่องอื่นอย่างการหาที่ชาร์จ (วิ่งในเมืองหาที่ชาร์จไม่ได้นี่คือยิ่งกว่าแย่แล้ว)

คือคนไทยไม่ได้ซื้อแค่เพราะรถมันราคา 5-6 แสนอะครับ คนไทยซื้อ EV เหตุผลข้อแรกๆเลย คือประหยัดค่าเชื้อเพลิงครับ
แค่นั้นเลย ไอที่ยกมาทั้ง "รักษาสิ่งแวดล้อมลดฝุ่น" เอย "พลังงานไฟฟ้าเป็นอนาคต" เอย หรืออะไรเอย โม้ตดแตกกันทั้งนั้นอะครับ
ลองบอกให้เติมไฟรถครั้งนึงเก็บค่าชาร์จเท่าเติมน้ำมันรถเต็มถังประมาณพันกว่าบาทอะครับ ไม่เกินสองเดือนท่านจะเห็นรถน้ำมันกลับมาเต็มเมืองเหมือนเดิมละ

มันไม่ใช่ว่าท่านคิดว่า "เอ รถฝั่งญปจะเอาอะไรมาค้ำกับจีนดีนะ" แล้วท่านก็ตัดสินใจ "หยิบ K-Car ก็แล้วกัน"
ผมก็เลยบอกไงว่า ถ้าท่านจะให้มันแฟร์กับฝั่งญปบ้าง ก็ไม่ต้องทำอะไรมาก หักภาษีนำเข้ารถจากญปทั้งหมดเหลือ 0% เหมือนจีนก็จบ ไม่งั้นก็ผลักภาษีนำเข้าจากจีนให้เท่ารถญปหรือเกาหลีเขา
แค่นี้ยอดขายมันก็จะสะท้อนเองว่าสุดท้ายแล้วเราเอื้อจีนมากไปรึเปล่า เพราะผมเชื่อว่ารถ EV จีนบ้านเราถ้าโดนภาษีเต็มรักเท่าเกาหลีหรือญป + ไม่มีการชดเชยให้
ผมการันตีได้ว่าไอที่เห็นราคาเท่า B-Seg จะขยับไปสู้กับ C-Seg ได้เลย

่ส่วน Kei Car เนี่ยดีเบตกันทุกปีอะครับก่อน EV จะเข้าไทยอีก มันได้ข้อสรุปนานมากแล้วว่าแทบจะไม่มีวันเกิดได้ในไทย
ยิ่ง Celerio ยอดแทบไม่กระเตื้องทั้งๆที่ใหญ่และดีกว่า K-Car เป็นไหนๆ ก็เป็นเสมือนตัวยืนยันเรื่องนี้ (Hustler ทุกวันนี้ถ้าไม่เข้าแบบ EV ผมว่าคนไทยก็ไม่เอาแล้ว)
แล้วก็เป็นเหตุผลเดียวกับที่ทุกคนพูดไปแล้วตั้งแต่ต้นๆ คือมันเป็นรถเฉพาะในบ้านเขามาก พวกประเทศที่นำรถเข้าประเทศได้เมื่อถึงระยะเวลานึง (ถ้าจำไม่ผิดก็มีออส เมกามั้ง แคนาดาด้วยรึเปล่า)
เอา K-Car เข้าไปคือเป็นรถเอาสนุกล้วนๆ ไม่มีใครเอามาใช้จริงจังเพราะกำลังรถมันก็น้อย ไปจอดนอกบ้านกินที่ 1 ช่องจอดเหมือนชาวบ้าน
สรุปคือแทบไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลยนอกจากแค่ว่ามันจอดที่แคบได้เฉยๆ แบบที่คห.บนบอกคือเป็นเสมือนมอไซบ้านเขา วิ่งเข้าออกที่แคบ พาจุด A ไป B แค่นั้น

แล้วพอท่านบอกว่า "ผมสูง 1.68 ไม่เห็นรู้สึกว่ามันแคบ" เขาก็เลยให้ท่านไปลองขับไงครับ จะได้สัมผัสของจริงไม่ใช่มานั่งดูคลิปแล้วก็บอกเออกว้างนะ
พอท่านบอก "ประหยัดกว่า เน้นใช้ในเมือง" เขาก็เลยให้ท่านไปลองขับไงครับ จะได้รู้ว่าขับกระดื้บๆในเมืองกับเครื่อง 660 เจอสภาพในกรุงเทพที่ผมยก (มอไซพลีชีพ กระบะตีนผี รถเมล์พร้อมจะประทะ)
มันจะสนุกขนาดไหนในการขับรถ K-Car ที่ลำตัวแคบ 1.5 เมตร สั้นกว่า Brio ที่ขายไม่ออกเพราะคนไทยกลัว Rear End Collision แล้วไปเยี่ยมอากงอาม่ากัน

คือถ้าพิมพ์ละเอียดขนาดนี้แล้ว ยกข้อขนาดนี้แล้ว ท่านบอกจริงจังมากเกินไป

ก็คาดหัวกระทู้ไว้เลยครับ คนเข้าไปตอบจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปนั่งหาข้อมูลด้วยว่ารถมันขนาดเท่าไหน ใครเคยทำรีวิวไว้บ้างแล้วตัวเลขเป็นยังไง ฯลฯ
จะได้ตอบกันแค่ "ดีครับ" จบ แล้วก็ไปต่อกระทู้อื่น
หัวข้อ: Re: ถ้ารัฐฯช่วยเหลือค่ายญี่ปุ่นโดยการให้นำเข้า K-car มาขายแบบปลอดภาษีบ้าง !!
เริ่มหัวข้อโดย: MyName ที่ มกราคม 04, 2024, 22:14:26
พูดจากใจคนใช้มิร่าอยู่

รถมันไม่ได้เหมาะกับการจราจรไทยแม้แต่น้อยเลยครับ
เข้าไปนั่ง เล็ก แคบ ผมกับพ่อนั่งไหล่ชนกันตั้งแต่ผมอยู่ประถมที่เริ่มใช้ ปัจจุบันคือขึ้นพร้อมกันไม่ได้ล่ะ
ตำแหน่งการนั่ง หัวผมไม่พ้นซุ้มล้อกระบะยกสูงเดิมๆ เลยนะ แต่ก็อาจจะเป็นยุคสมัยขนาดรถ
ประหยัด? รถไม่ได้ประหยัดเลยแม้แต่น้อยครับ ตอนออกใหม่ตัวเลขดีสุดยังไงก็ไม่เคยข้าม 12 km/l
ถ้าจะบอกว่าเป็นยุคสมัยเครื่อง ในยุคนั้นผมก็มี Nissan Sentra B13 1.6 ที่การทำตัวเลขแตะ 13 km/l ไม่ใช่เรื่องยากอีก ในเมืองก็เลขไล่กันนี่เลยครับ ยิ่งยุคหลังเอา B13 ไปติดแก๊ส เห็นความต่างการใช้ค่าเชื้อเพลิงชัดเลยทีนี้

ตอนนั้นซื้อด้วยเหตุผลเดียวครับ แม่ผมขับมอเตอร์ไซค์ไม่เป็น
ถ้าจะกลับมาใหม่ขาย 300,000 บอกเลยว่า Celerio ยังคุ้มค่ากว่ามากกกกกกกก ครับ
หัวข้อ: Re: ถ้ารัฐฯช่วยเหลือค่ายญี่ปุ่นโดยการให้นำเข้า K-car มาขายแบบปลอดภาษีบ้าง !!
เริ่มหัวข้อโดย: 2k ที่ มกราคม 05, 2024, 03:06:40
ถ้า k car มาขายจริงมันก็จะกลายเป็นรถกระแสหลักสำหรับคนส่วนใหญ่ไปอ่ะครับ…..พูดตามตรงเลยนิสัยคนไทยจ่ายน้อยที่สุดแล้วได้รถอะไรมาใช้ก็เอา 30ปีก่อนรถ compact อย่างอัลติสซีวิคเป็นรถที่คนนิยมซื้อกันมากที่สุดเพราะมันถูกที่สุด พอการมาของแจ๊สยาริสมาถึงคนก็พากันมานิยมแทนขนาด compact เพราะเหตุผลเดียวกันว่ามันจ่ายถูก ยุคถัดมาก็ ecocar และถ้า k car มาขายคนก็จะนิยมมันเหมือนกัน  :-X ความแรงและสมรรถนะในการใช้งานความเร็วสูง? ไม่เคยอยู่ในหัวคนไทยหรอกครับ….ทุกวันนี้อีโคคาร์ซัดกันเหมือนเฟอรารี่แล้วชนเละเทะมีเกิดขึ้นแทบทุกวัน รถเล็กๆเบาๆอย่าง compact, city car, eco car ยังมีครพยายามเอาไปแล่นบูรพาวิถีแล้วบอกว่านิ่งแน่นด้วยการเหยียดรถขนาดที่เล็กกว่าช่วงล่างด้อยกว่าเลย ทั้งๆที่รถกลุ่มพวกนี้ไปแล่นบนถนนลมแรงไม่มั่นคงโดนลมตีปลิวทุกขนาดแหละ  ::)
หัวข้อ: Re: ถ้ารัฐฯช่วยเหลือค่ายญี่ปุ่นโดยการให้นำเข้า K-car มาขายแบบปลอดภาษีบ้าง !!
เริ่มหัวข้อโดย: DiKiBoyZ ที่ มกราคม 05, 2024, 08:47:48
ถ้าขายราคาตามจริง แบบไม่ใช่ราคานำเข้า นะ

ผมว่าขายได้ครับ แต่มันผิดที่ ผิดเวลา ไปแล้ว

จะเอารถที่ "อาจจะ" ถูกมองว่า มันดูว๊าว หรือ ดูแปลก ในช่วงนึง มาขายในช่วงนึง มันยากครับ

ยิ่งถ้าพอมาเอาสมการความเป็นจริง มันยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย
หัวข้อ: Re: ถ้ารัฐฯช่วยเหลือค่ายญี่ปุ่นโดยการให้นำเข้า K-car มาขายแบบปลอดภาษีบ้าง !!
เริ่มหัวข้อโดย: shando ที่ มกราคม 05, 2024, 09:36:41
เอาเป็นว่า มันไม่ได้ถูกครับ ไม่ใช่ว่ารถเล็ก=ถูก เอาเข้ามารุ่นสวยๆต่อให้ไม่เสียภาษีนำเข้าราคาแพงกว่าcelerio จะมีคนซื้อมั้ย

ก็เหมือนรถหลายๆรุ่นที่เราเห็นที่ตปท.แล้วอยากเอาเข้าไทยแหละครับ คือเอาเข้ามาแล้วทำราคาไม่ได้ก็จบ
หัวข้อ: Re: ถ้ารัฐฯช่วยเหลือค่ายญี่ปุ่นโดยการให้นำเข้า K-car มาขายแบบปลอดภาษีบ้าง !!
เริ่มหัวข้อโดย: love street ที่ มกราคม 05, 2024, 11:22:38
รถ kei car ผมก็เคยคิดนะครับแต่เป็นสปอร์ต 2 ประตู ราคาตัวท็อป 650,000 แต่พอดูๆแล้วก็ขายได้เฉพาะกลุ่มไฮโซอยากได้รถเล็กหรือคนที่ชอบรถแนวนี้มากกว่า
หัวข้อ: Re: ถ้ารัฐฯช่วยเหลือค่ายญี่ปุ่นโดยการให้นำเข้า K-car มาขายแบบปลอดภาษีบ้าง !!
เริ่มหัวข้อโดย: axister ที่ มกราคม 05, 2024, 20:44:55
คือการที่เค้าจะเอามาขายมันไม่ใช่แค่ภาษีถูกลดราคา มันอิงหลายๆปัจจัย ถ้า demand ไม่มีก็ยากอะครับ

เหมือนคุณเป็นเจ้าของเงิน แล้วมีคนมาเชียร์ว่า เอามา เอามา เอามา แต่ในความเป็นเจ้าของธุรกิจเราสำรวจตลาดก็รู้แล้ว ไม่ใช่ว่าราคาไม่ได้ แต่ product ไม่ได้

ผมเองเคยเช่าใช้ที่ญี่ปุ่นก็ว่ามันกว้างดีครับ แต่มันตุ่นมากอัตราเร่ง เรื่องความปลอดภัยตัดไปก่อนเลย ผมเชื่อว่ามันเพียงพอ แค่ perception คนไทยมองว่า ดาวไม่เต็ม ชนแล้วตายแน่นอน หรือแปะว่ารถยุโรปต้องแข็งดั่งหินผา

เรื่องเอื้อจีนทำอะไรไม่ได้แล้วครับ เราเซ็นเรื่อง FTA ไปแล้ว ตอนนี้ปัญหาอยู่ที่ตัวญี่ปุ่นเองล้วนๆ ในเมื่อ trend มันไป bev แล้วเค้าไม่มีของขาย กลับมาที่ product อีกหน่ะแหละครับ จะเอาอะไรมาแทนมันก็บ้ง จริงๆ ญีปุ่นเองเค้าก็ยังมียอดอยู่นะ แค่เมืองไทยคนชั้นกลางมันกระจุกอยู่ใน กทม.​ละโดนแย่งยอดใน segment ที่เปลี่ยนรถบ่อยไปเยอะครับเลยเริ่มงอแง จริงๆแล้ว พี่โตเองเค้าก็ยังมีฐานรายได้ที่โอเคอยู่ ถึงจะไม่ได้ฟันกำไรเยอะเหมือนก่อน

ฟิลว่าช่วงนี้เค้าฮิตน้ำส้มกัน ญี่ปุ่นบอกจะขายแต่น้ำมะนาวเปรี้ยวเหมือนกัน ไม่หวานด้วยไม่อ้วน! แต่คนเค้าจะกินน้ำส้มอะ เราต้องเอามะนาว size เล็กมาลดราคาขายมันไม่ใช่ครับ

ไม่นับ nissan/mazda ด้วยนะเพราะ 2 เจ้านั้นเค้าพร้อมตายมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แค่ค่ายรถจีนมาช่วยดันฝาโลงเท่านั้นเอง ดีลเลอ มีแต่ถูกบังคับให้ทำนั่นนี่ แต่ บ. แม่เอง product planning ออกมาเละเทะมากคอมเม้นอะไรไม่ได้เลยครับ

ตรงนี้ GWM เค้ายังจ้างคนไทยมารวม pain point เอามาทำระบบ partnership ในไทย และพอ product บ้งแบบ แมวดีขี้กากขึ้นชิป กับสิงโตน้ำตาย้อยกินน้ำมัน ดีลเลอไปทึ้งเค้าก็ฟังนะ ต่างจาก นิสสัน มาสด้า มากเลยครับบบบ มันพังโดยตัวมันเองไม่ต้องรอให้ใครอุ้ม
หัวข้อ: Re: ถ้ารัฐฯช่วยเหลือค่ายญี่ปุ่นโดยการให้นำเข้า K-car มาขายแบบปลอดภาษีบ้าง !!
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ มกราคม 07, 2024, 22:51:30
ผมว่ามาก็ขายได้ครับ แต่ยอดอาจจะเหนื่อยหน่อย คนไทยมักจะอยากได้รถคันเดียวที่เป็นได้ทุกอย่าง ซึ่งรถเล็กประเภทนี้อาจจะไม่ใช่สำหรับหลายๆท่าน