Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Sommerดอยแม่สลอง ที่ มกราคม 24, 2024, 14:05:02
-
เดิมผมคิดว่า Benz จะเป็น Champ รถยนต์ Premium ในไทย แต่กลับผิดคาด
เมื่อเจอยอดจดทะเบียนรถ BMW กลับได้ที่ 1 (ตั้งแต่ปี 2020 จนถึงปัจจุบัน)
BMW ชนะแล้ว ชนะอยู่ ชนะต่อ!!!!!!
จะทำอย่างไรให้ Benz ทำยอดขายและยอดจดทะเบียนรถยนต์ กลับมาได้ที่ 1 อย่างสง่างาม
-
เทียบรุ่นต่อรุ่น ผมว่าเบนซ์แพงกว่า bm เยอะ จากที่ผมลองเทียบดูส่วนตัวนะ bm ราคารวม bsi ยังถูกกว่าเบนซ์ ถ้าผมเอาคงเอา BM
-
ขอตอบในฐานะเป็นลูกค้ามา 4 คันออกป้ายแดงทั้ง C และ E ในส่วนของ option ไม่ใช้ปัจจัยหลักมีก็ดี ตัดออกก็ไม่เป็นไรถ้ายังคงความปลอดภัยและฟังก์ชั่นพื้นฐานยังให้มาครบ แต่ที่ทำให้ไม่เป็นลูกค้าต่อคือคุณภาพตัวรถแย่ลง ปัญหาจุกจิก ศูนย์บริการแย่ลงในความรู้สึก วิเคราะห์ปัญหาบางอย่างไม่ได้ต้องทิ้งรถไว้ในศูนย์นานกว่า 1 เดือนในบางเคส (ยังไม่รวมซ่อมและรออะไหล่) ทำให้รู้สึกไม่คุ้มค่าเงินที่จ่ายไป ซึ่งตอนนี้เราก็ย้ายไป BMW มีดูๆ AUDI ด้วยเหมือนกัน
ลาขาด BENZ เราแอบคิดว่าที่ยังขายได้เยอะเพราะคนยังติดตราดาว ภาพลักษณ์ ไปที่ไหนยามก็โบก ต้อนรับอย่างดี
-
เหตุผล
1. Benz แพงกว่า BMW เทียบรุ่นต่อรุ่น
2. BMW มี BSI เข้าศูนย์ฟรีหมด แต่ Benz ต้องซื้อเพิ่ม
3. ตัวรถ ณ ปัจจุบัน BMW มีความน่าเชื่อถือกว่า จุกจิกน้อยกว่า
4. ส่วนมากรถ BMW จะตอบสนองผู้ที่ชื่นชอบการขับรถได้มากกว่า
5. คนรุ่นใหม่ , Yuppy , หนุ่มสาวลูกคนรวยปัจจุบันไม่ยึดติดกับยี่ห้อตราดาวอีกต่อไป จะมีแต่ผู้มีอายุหน่อยที่อะไรก็ต้อง Benz
-
มีตอบไว้ในหลายกระทู้ ลองดูครับ
https://community.headlightmag.com/index.php?topic=85284.0
https://community.headlightmag.com/index.php?topic=82098.0
https://community.headlightmag.com/index.php?topic=78562.0
-
เหตุผล
1. Benz แพงกว่า BMW เทียบรุ่นต่อรุ่น
2. BMW มี BSI เข้าศูนย์ฟรีหมด แต่ Benz ต้องซื้อเพิ่ม
3. ตัวรถ ณ ปัจจุบัน BMW มีความน่าเชื่อถือกว่า จุกจิกน้อยกว่า
4. ส่วนมากรถ BMW จะตอบสนองผู้ที่ชื่นชอบการขับรถได้มากกว่า
5. คนรุ่นใหม่ , Yuppy , หนุ่มสาวลูกคนรวยปัจจุบันไม่ยึดติดกับยี่ห้อตราดาวอีกต่อไป จะมีแต่ผู้มีอายุหน่อยที่อะไรก็ต้อง Benz
ผมให้ข้อ 1-3 เป็นเหตุผลหลักเลยครับ
-
มีตอบไว้ในหลายกระทู้ ลองดูครับ
https://community.headlightmag.com/index.php?topic=85284.0
https://community.headlightmag.com/index.php?topic=82098.0
https://community.headlightmag.com/index.php?topic=78562.0
หมายถึง ปี 2023-2024 ครับ ไม่ใช่อดีต แต่เป็นสถานการณ์ยอดขายรถ Premium ในไทยตอนนี้
Benz พ่ายให้ BMW 3 ปีซ้อน
-
ตจว.แถวบ้านผมเห็น BMW เยอะกว่า Benz ก็เลยไม่แปลกใจอะไรครับ
-
ผมก็ย้ายจาก benz มา bm เพราะ benz ไม่คุ้มกับเงินที่จ่ายไป เคยดูคลิปอะไรจำไม่ได้
คล้ายผู้บริหารbenz บอกว่า benz ทำยังไงก็ขายได้ เลยไม่ชอบแนวทางที่เขามองลูกค้า
-
ที่บ้านก็ขายMB ทิ้งไป 2 คัน รถแพง Serviceก็แพง แถมมีจุกจิกกว่า BMW อีก ไม่แปลกที่ยอดขายจะลดลง
-
เหตุผล
1. Benz แพงกว่า BMW เทียบรุ่นต่อรุ่น
2. BMW มี BSI เข้าศูนย์ฟรีหมด แต่ Benz ต้องซื้อเพิ่ม
3. ตัวรถ ณ ปัจจุบัน BMW มีความน่าเชื่อถือกว่า จุกจิกน้อยกว่า
4. ส่วนมากรถ BMW จะตอบสนองผู้ที่ชื่นชอบการขับรถได้มากกว่า
5. คนรุ่นใหม่ , Yuppy , หนุ่มสาวลูกคนรวยปัจจุบันไม่ยึดติดกับยี่ห้อตราดาวอีกต่อไป จะมีแต่ผู้มีอายุหน่อยที่อะไรก็ต้อง Benz
มีส่วนที่ใช่ และ ไม่ใช่ นะครับ (คหสต.)
ข้อ 1. จริง
ข้อ 2. จริง
ข้อ 3. เห็นต่าง Benz ไม่ได้จุกจิ๊กมากกว่า BMW แต่ Benz เองนั้นละ ที่ความจุ๊กจิ๊กเพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนๆ ซึ่งในความที่ BMW ก็ยังมีจุ๊กจิกบ้าง
ข้อ 4. สำหรับผม ตลาด Benz กับ BMW สำหรับลูกค้า เรียกว่า คนละกลุ่มเลย แต่ถ้าสำหรับคนทั่วไป มันถูกมองว่ามันคือตลาดเดียวกัน เพราะเอาจริงๆ คนที่มอง BMW ก็จะไม่ค่อยมอง Benz และ คนลูกค้า Benz เองก็จะไม่ค่อยมอง BMW เท่าไหร่ ยกเว้น ย้อนกลับไปข้อ 1. คือ กลุ่มคนที่เอาราคาเป็นตัวตั้ง
ข้อ 5. ผมว่า Benz เอง แต่ก่อนขายภาพลักษณ์ ความหรูหรา ปัจจุบัน Benz พยายามทำหลายรุ่น เพื่อให้เข้าถึงตลาดที่เป็น Young's Executing มากขึ้น หรือ Gen X,Y ยัน Z (ที่มีตัง) มากขึ้น เน้นการขับขี่ ดีไซต์ ความสปอร์ตและโฉบฉี่ยว ซึ่งแต่ก่อนแทบหาไม่ได้จากยี่ห้อนี้เลย
-
ตจว.แถวบ้านผมเห็น BMW เยอะกว่า Benz ก็เลยไม่แปลกใจอะไรครับ
หรือว่าคนต่างจังหวัดเห็นว่า BMW ใช้งานทนทานคล้ายๆ Toyota?
Benz เป็นเพียงแค่ความฝันว่าอยากจะครอบครองรุ่นนี้ให้จงได้!!! แต่ไม่มีทาง!!!!
-
หลักๆ ต้องยกความดีให้ bsi ลค ได้ลองแล้วติดใจ ทำให้กล้าใช้รถ 5 ปี วิ่ง 100,000 แบบ worry free หมด bsi ก็ขายซื้อ bm คันใหม่ ต่างจากเบนซ์ 100,000km ที่ผมมีบ่นๆ ในกระทู้ล่างๆ ถ้าใช้บริการศูนย์หมดค่า maintenance เกือบ 300,000 เฉลี่ยน 30,000 บาท ทุกๆ 10,000km ทำให้ต้องดิ้นรนไปหาอู่นอก แล้วต้องวัดดวงอีกว่าจะทำมาดีไม่ดี ค่าบำรุงรักษาดังกล่าว เช่น
เปลี่ยน นมก ครั้งละ 20,000+ อู่นอก 9,000
จานเบรคผ้าเบรค ที่บังคับเปลี่ยนไม่มีเจียรจาร ราคารวมๆ เกือบ 40,000
น้ำยา adblue สมัยก่อนโดนศูนย์เติมให้ลิตรละ 200 เติมทีละ 10 ลิตร+ ข้างนอกลิตรละ 50 บาท
กรองอากาศต่างๆ กรองนอกกรองใน 10,000 บาท
เรียกว่าเซ่อซ่าๆ ไม่ตัดรายการอะไรออก โดนขั้นต่ำครั้งละเกือบ 18,000 บาท บางรอบมีเปลี่ยนเยอะหน่อยมึนๆ งงๆ อนุมัติซ่อมไป มี 50,000-100,000 บาท นี่แค่ค่า maintenance นะครับ รถไม่ได้พัง 555
ต่างจาก bm โดนสิ้นเชิง เรียกว่าขับๆ ไปเหอะถึงเวลาไฟเตือนก็ไป service ทำให้ไม่ต้องไปลุ้นว่ารอบนี้จะโดนเท่าไหร่
ยอมรับเลยคนที่ยังใช้เบนซ์อยู่คือคนรวยจริงๆ ส่วนคนหาเช้ากินค่ำแบบผมช่วงนี้ขอผ่านก่อนสู้ไม่ไหว แต่ก็ยังขับอยู่ หาอู่นอกเข้าเอา ::)
-
สู้ค่าเชคระยะไม่ไหวครับ .. รถไม่ได้มีอะไรเสียเลย โดนไป 2 หมื่น .. ระยะใหญ่ 4-5 หมื่น เปลี่ยนยางที 6-7 หมื่น ..
คนรวยเค้าคงเฉย ๆ ครับ แต่สำหรับผม เอาเงินไปผ่อนบ้านได้ทั้งหลังเลยครับ ขอนั่งรถเพื่อนเอาละกัน ใครมีก็ชื่นชมครับ ว่าเค้าหาเงินเก่งจริง
-
Benz ตั้งราคาสูงกว่าครับ และเขาก็ไม่สนใจที่จะแข่งเรื่องนี้ด้วย ยิ่งหลังๆยอดขายสู้ไม่ได้ เลยเน้นกำไรเยอะๆ กลายเป็นขายแพงกว่าเดิมตอกย้ำความพรีเมี่ยม
ตั้งแต่ ยุค Hybrid คนกลัว Benz มากขึ้นครับ ตั้งแต่ BluetecHybrid / ตระกูล 350e ตัวแรกๆ ราคามือสองนี้ชัดเลย
BMW ได้เปรียบเรื่อง BSI ใช้ไปยาวๆไม่ต้องกังวลอะไร เครื่องยนต์ 20d ที่ลากยาว แต่ค่อนข้างเสถียร ส่วน phev ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรหนักๆ
-
ผมใช้ benz แต่ผมยังชอบ bmw มากกว่าเลยครับ อยากให่ benz แพ้ๆ ไปครับ
-
ที่บ้านผมคนรุ่นboomer และคนรุ่น X /y
พวกที่เคยเปนแฟนฮาดคอร เบน ยังสาปส่งเลย
ทุกวันนี้พวกฮาดคอหนักๆก็พวกboomer เองก็ขับรถไม่ไหวละ ไปนั่งรถตู้กันหมด มีเบนประดับบารมี คันสองคัน รุ่นใหม่บ้างแต่ไม่ค่อยได้ใช้หรอกจอดมากกว่า ไปกับลูกกับหลายคันอื่นๆไม่ก็รถตู้
ส่วนX/Y ก็ไม่ได้ อะไรกับดาวแล้วเคยใช้เคยขับกันมาหมด ต่างคนต่างมีแนวทางของตัวเอง
ไป bmw volvo tesla ที่แน่ๆทุกบ้านมี อัลพาด ไม่ก็เกียคานิวาล เบน อาจจะมีบางรุ่น แต่ไม่มีใครเอาs class บอกเหมือนรถโรงแรม ไม่มีความอาเสี่ย เถ้าแก่ จะไปพวกsuv porsche ไปเลยดีกว่า เบน โดนแทนที่ไปด้วย คาเยนพอชไปหมดแล่ว หรือถาจะเล่นไปเล่น เบนสเก่า รถเก่า คลาสสิค มีแค่ G Class ที่อยู่สายเท่หน่อย
สรุป ภาพลักเบน มันไม่ตอบโจทคนรุ่นใหม่ไปแล้ว หาแฟนประจำไม่มีละ บางคนลองแล้วก็ทนกับการบริการไม่ง้อไม่แคร ไม่ไหว ไปหายี่ห้อที่เค้าดูแลดีๆดีกว่า ภาพลักอะไรนั่น เปนชุดความคิดที่โบราณ
-
คิดเหมือน คห. ข้างบน แหละ
คนยุค baby boomer ที่บูชาตราดาว ทุกวันนี้ อายุ 70 up แล้วทั้งนั้น ขับรถไม่ได้ละ ดังนั้น ลูกค้าเบนซ์ก็หาย
คนยุค X / Y อย่างผม บอกตรงๆไม่มองเลย ยิ่งข่าว hybrid เสียๆมาเนี่ย ยิ่งลาขาดครับ ในขณะที่ไป bmw ยังมี bsi ผมสบายใจไป 5 ปี ครับ
ยิ่งคนรุ่นใหม่ขึ้น ยิ่งมองเบนซ์น้อยลงนะ สำหรับผม
-
ไม่รู้ว่า BM เป็นไง แต่ MB ที่บ้านปัญหาจุกจิกเยอะมาก แค่ฉนวนสายไฟของไฟหน้ายังกรอบแตกง่ายยิ่งกว่ารถจีนอีก หัวจะปวด -"-
-
ตจว.แถวบ้านผมเห็น BMW เยอะกว่า Benz ก็เลยไม่แปลกใจอะไรครับ
หรือว่าคนต่างจังหวัดเห็นว่า BMW ใช้งานทนทานคล้ายๆ Toyota?
Benz เป็นเพียงแค่ความฝันว่าอยากจะครอบครองรุ่นนี้ให้จงได้!!! แต่ไม่มีทาง!!!!
ที่จันทบุรี มีตั้งแต่ X1 ยัน XM
-
เผลอๆในอนาคต คนไทยนิยมรถ BMW แน่นอน เพราะราคาถูกกว่า Lexus และความทนทานสู้ Benz ได้ (เพราะ BMW ใช้งานทนทานเหมือน Toyota)
*คนไทยที่เป็นคนรวยๆ ชอบรถยุโรปหรูๆที่ทนทานเหมือน Toyota
-
Benz ขายแพง กั๊กออฟชั่น
BMW เมื่อก่อนสู้ไม่ได้เลยจัดโปรแถม bsi มา แถมเลิกกั๊กออฟชั่นสวนทางกับ Benz เลยกลายเป็นอย่างที่เห็น
-
เบนซ์ค่าเช็คระยะโหดจริงครับ ถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะไม่ได้ทำอย่างอื่นเลยต้องเตรียมไว้ 15-20k แล้วครับ
เพราะ mark up ค่าอะไหล่เยอะมาก
อันนี้ตัวอย่าง c220d เจอค่าสกรูตัวละ 600 ก็ซีดแล้วครับ
(https://i.imgur.com/aCG7XDe_d.webp?maxwidth=760&fidelity=grand)
-
ขายดีแต่ยังดีไม่พอ!
ชนะ benZ แต่ราคาหุ้นล่วงลงเกิน50%ของราคา ipo ขอบ่นหน่อยจากใจคนถือหุ้นตัวนี้ไว้จำนวนต้นๆในPORT รอลุ้นปันผลครั้งแรก ;D
-
แต่ผมก็ไม่เห็นว่า Benz จะเป็นเดือดเป็นร้อนอะไรกับเรื่องนี้เลยซักนิด ดูจากการตั้งราคา และให้ออฟชั่น
เมื่อปี 2018-2019 รถ Benz ใหม่ มี Adaptive Cruise Control มาให้หลายรุ่นกว่านี้ และราคาถูกกว่าตอนนี้เฉลี่ยหลายแสนบาท
แล้วดูตอนนี้สิ โดนถอดออกไปหมด ถ้าจำไม่ผิด C-Class รุ่น Top สุดยังไม่ไส่มาให้เลย
-
เบนซ์ค่าเช็คระยะโหดจริงครับ ถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะไม่ได้ทำอย่างอื่นเลยต้องเตรียมไว้ 15-20k แล้วครับ
เพราะ mark up ค่าอะไหล่เยอะมาก
อันนี้ตัวอย่าง c220d เจอค่าสกรูตัวละ 600 ก็ซีดแล้วครับ
(https://i.imgur.com/aCG7XDe_d.webp?maxwidth=760&fidelity=grand)
จริงครับ
ผมตกใจราคาน๊อตถ่ายน้ำมันเครื่องมาก
ของผมก็ C220d เหมือนกัน
น้ำมันเครื่องต้องอาศัยซื้อตอนโปรโมชั่นเป็นคูปองเก็บไว้
ส่วน AdBlue ก็ซัก 2-3 หมื่นโลค่อยเติมที จะได้เอาถัง 10 ลิตร ถูกกว่าหน่อย เพราะว่าถ้าเติมแล้วเหลือเค้าก็ไม่คืนให้เรานะครับ อันนี้ระวังให้ดี
-
ผมเจอค่าเช็คระยะ CLA250 ไป 25K ก็บะบายละครับ
BSI ของ BMW มันช่วยได้เยอะจริงๆสำหรับคนไม่ได้แต่งรถ ขับเดิมๆ ใช้ทุกวัน
-
เบนซ์ค่าเช็คระยะโหดจริงครับ ถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะไม่ได้ทำอย่างอื่นเลยต้องเตรียมไว้ 15-20k แล้วครับ
เพราะ mark up ค่าอะไหล่เยอะมาก
อันนี้ตัวอย่าง c220d เจอค่าสกรูตัวละ 600 ก็ซีดแล้วครับ
(https://i.imgur.com/aCG7XDe_d.webp?maxwidth=760&fidelity=grand)
ค่าน้ำมันไม่แพงนะครับ ราคาถูกกว่ารถผมอีก
แต่น๊อตไทเทเนี่ยมครับ ::)
-
Benzแพงกว่า ราคาก็ไม่รวมซ่อมบำรุง Serviceครั้งนึงไม่เคยต่ำกว่าหมื่นกว่าบาทตลอดแต่เวลาขายต่อราคาก็ดีกว่าBMWเช่นกัน ส่วนVolvoราคามือสองดิ่งมากที่สุด ส่วนราคาน็อตถ้าเป็นTitaniumจะแพงกว่านี้เยอะเพราะของAudi A8Lเคยเปลี่ยนตอนถ่ายน้ำมันเกียร์ ขนาดผจก.ศูนย์ยังตกใจตอนแจ้งราคากับผมเพราะวัสดุเป็นTitaniumจริงๆ อันนึงราคาเป็นพันบาทครับ มาเป็นชุดไม่แยกขายด้วย โดนไปเป็นหมื่นบาท
-
ตจว.แถวบ้านผมเห็น BMW เยอะกว่า Benz ก็เลยไม่แปลกใจอะไรครับ
หรือว่าคนต่างจังหวัดเห็นว่า BMW ใช้งานทนทานคล้ายๆ Toyota?
Benz เป็นเพียงแค่ความฝันว่าอยากจะครอบครองรุ่นนี้ให้จงได้!!! แต่ไม่มีทาง!!!!
ถ้าคนที่จะซื้อ D-sec ตัวท๊อป
แต่เห็นราคา BM รุ่นล่าง ลดราคาจึงลังเล เพิ่มตังอีกหน่อยขับยุโรปไปเลยดีกว่า
จะตราดาว ตราพัดไม่สนใจ เน้นประกันยาวๆ ศูนย์ไกล้บ้าน
ส่วนรถในฝัน อันนี้แล้วแต่คน
-
เหตุผล
1. Benz แพงกว่า BMW เทียบรุ่นต่อรุ่น
2. BMW มี BSI เข้าศูนย์ฟรีหมด แต่ Benz ต้องซื้อเพิ่ม
3. ตัวรถ ณ ปัจจุบัน BMW มีความน่าเชื่อถือกว่า จุกจิกน้อยกว่า
4. ส่วนมากรถ BMW จะตอบสนองผู้ที่ชื่นชอบการขับรถได้มากกว่า
5. คนรุ่นใหม่ , Yuppy , หนุ่มสาวลูกคนรวยปัจจุบันไม่ยึดติดกับยี่ห้อตราดาวอีกต่อไป จะมีแต่ผู้มีอายุหน่อยที่อะไรก็ต้อง Benz
เห็นด้วยทุกประการครับ ตอนนี้ในความเห็นผมเบนซ์ดีกว่าบีเอ็มแค่ดีไซน์อย่างเดียวเลย(ซึ่งในสายตาคนอื่นที่ชอบแนวสปอร์ตอาจจะชอบดีไซน์บีเอ็มมากกว่าก็ได้) ที่เหลือบีเอ็มน่าซื้อใช้กว่าทุกประการ
-
เอาจริงๆ BMW ที่ผมมองว่าสวยมีแค่ 3 series กับ X5 เท่านั้น
นอกนั้นผมไม่ชอบยิ่งเจอไตบานจมูกโตไปไม่ชอบเลยครับ แต่ก็นั่นแหละ
มองว่าที่ขายดีเพราะ BSI ล้วนๆ ขับสบายใจไป 5 ปีแล้วค่อยขายทิ้ง
-
เอาจริงๆ BMW ที่ผมมองว่าสวยมีแค่ 3 series กับ X5 เท่านั้น
นอกนั้นผมไม่ชอบยิ่งเจอไตบานจมูกโตไปไม่ชอบเลยครับ แต่ก็นั่นแหละ
มองว่าที่ขายดีเพราะ BSI ล้วนๆ ขับสบายใจไป 5 ปีแล้วค่อยขายทิ้ง
เห็นด้วยเลยครับ ดีไซน์ด้านนอกสู้Benzไม่ได้เลยแทบทุกรุ่นรวมทั้ง750eที่ผมใช้อยู่เช่นกัน
-
https://www.youtube.com/watch?v=rstY8u0vpLA
-
เอาจริงๆ BMW ที่ผมมองว่าสวยมีแค่ 3 series กับ X5 เท่านั้น
นอกนั้นผมไม่ชอบยิ่งเจอไตบานจมูกโตไปไม่ชอบเลยครับ แต่ก็นั่นแหละ
มองว่าที่ขายดีเพราะ BSI ล้วนๆ ขับสบายใจไป 5 ปีแล้วค่อยขายทิ้ง
เห็นด้วยเลยครับ ดีไซน์ด้านนอกสู้Benzไม่ได้เลยแทบทุกรุ่นรวมทั้ง750eที่ผมใช้อยู่เช่นกัน
ต้องดูเป็นรุ่นๆ ไปครับ อย่าง e class ใหม่ ตระกูล eq ตระกูล GL บางรุ่น ดีไซน์ก็ดูไม่จืดเหมือนกันนะครับ
ต่างกับเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ที่ 2 ยี่ห้อนี้ทำมาสวยทั้งคู่ จะเลือกแต่ละรุ่นก็รักพี่เสียดายน้อง
-
เหมือนค่ายดาวไม่ได้ทำอะไรเลย แต่ค่ายใบพัด อัดนั่นนี่ให้มาเพื่อสู้ ก็ดูไปกันยาวๆ ทุกวันนี้สองค่ายนี้ก็ไม่ได้ทิ้งกันอะไรมากมายเรื่องความนิยม
-
ส่วนตัวใช้ทั้ง 2 แบรนด์ในระยะเวลาห่างกัน 2 ปี
ถ้าให้เลือกอีกก็คงเป็นค่ายตราดาว ไม่ได้มองเรื่องค่านิยมอะไรตามที่เขาบอกกันนะ
1. Benz แพงกว่า BMW ถึงแม้จะตั้งราคาเท่ากัน แต่ตอนคุย BMW จะได้ส่วนลดเยอะมากๆ Benz ไม่ค่อยลดให้เลย
2. จากที่ใช้ทั้งคู่ Benz มีบุคลิกในส่วนการขับและการนั่งที่ชัดเจนมากกว่าตามที่เราต้องการ
3. พวงมาลัย BMW ไม่ธรรมชาติและเนียนได้เท่า
ช่วงหลังถ้าผมจะเลือก BMW ผมมักจะไปลอง Audi เปรียบเทียบ
ถ้าจะลอง Benz ผมก็ไปลอง Lexus เปรียบเทียบ
แต่ทั้งนี้คงต้องว่าเป็น segment ไป เช่น segment C ค่ายนึงอาจจะถูกใจกว่าอีกค่ายนึง คนละ segment ค่ายเดียวกัน บุคลิกต่างกัน
ยอดขายที่ว่า ไม่ได้บอกเป็นแยก segment หรือเปล่าครับ
-
ส่วนตัวใช้ทั้ง 2 แบรนด์ในระยะเวลาห่างกัน 2 ปี
ถ้าให้เลือกอีกก็คงเป็นค่ายตราดาว ไม่ได้มองเรื่องค่านิยมอะไรตามที่เขาบอกกันนะ
1. Benz แพงกว่า BMW ถึงแม้จะตั้งราคาเท่ากัน แต่ตอนคุย BMW จะได้ส่วนลดเยอะมากๆ Benz ไม่ค่อยลดให้เลย
2. จากที่ใช้ทั้งคู่ Benz มีบุคลิกในส่วนการขับและการนั่งที่ชัดเจนมากกว่าตามที่เราต้องการ
3. พวงมาลัย BMW ไม่ธรรมชาติและเนียนได้เท่า
ช่วงหลังถ้าผมจะเลือก BMW ผมมักจะไปลอง Audi เปรียบเทียบ
ถ้าจะลอง Benz ผมก็ไปลอง Lexus เปรียบเทียบ
แต่ทั้งนี้คงต้องว่าเป็น segment ไป เช่น segment C ค่ายนึงอาจจะถูกใจกว่าอีกค่ายนึง คนละ segment ค่ายเดียวกัน บุคลิกต่างกัน
ยอดขายที่ว่า ไม่ได้บอกเป็นแยก segment หรือเปล่าครับ
ผมว่าประเด็นของกระทู้นี้พูดถึงภาพรวมของแบรนด์นะครับ ไม่ได่ต้องแยก segment อยู่แล้ว ซึ่งมันสะท้อนความเป็นจริงออกมาโดยตัวมันเองว่าลูกค้าซื้อค่ายไหนเพิ่มขึ้นหรือลดลง
จากเหตุผล
ข้อ 1 แสดงว่าชอบ benz ตรงที่ไม่ค่อยลดราคาเยอะเท่า bmw ซึ่งอาจจะสวนทางกับคนส่วนใหญ่ (แต่จากที่เคยคุยกับเซล benz ปลายโมเดลก็ลดเยอะมากเหมือนกันนะครับ)
ข้อ 2,3 ก็เป็นเรื่องเฉพาะบุคคลมาก เพราะอย่างเรื่องการขับขี่โดยส่วนใหญ่ตลอดเวลาที่ผ่านมามีแต่คนยกให้ bmw เหนือกว่า (รวมทั้มผมที่เคยเทส benz มาหลายครั้งแต่ไม่ชอบและเพื่อนที่ลองเปลี่ยนจาก bmw มา benz หลายคนเพื่อนคนไทยและต่างชาติก็บอกว่าขับสู้ bmw ไม่ได้แถมบางคนเจอเคสรถมีปัญหาด้วย) แต่ถ้าผมแก่ไปอาจจะรู้สึกต่างออกไปก็ได้ครับ
โดยภาพรวมจากที่อ่านและรับรู้มาคนเปลี่ยนจาก benz ไปค่ายอื่นนอกจากความคุ้มค่าที่ลดลงน่าจะเป็นที่ความจุกจิกและการดูแลรับผิดชอบหลังการขายที่ไม่ดีเท่าที่ควรเป็นประเด็นหลักอันนึงเหมือนกันนะครับ
ส่วนท่านใดที่ไม่เจอก็โชคดีไป แต่สุดท้ายยอดขายก็บ่งบอกทุกอย่างในภาพรวมเองครับ
-
ส่วนตัวใช้ทั้ง 2 แบรนด์ในระยะเวลาห่างกัน 2 ปี
ถ้าให้เลือกอีกก็คงเป็นค่ายตราดาว ไม่ได้มองเรื่องค่านิยมอะไรตามที่เขาบอกกันนะ
1. Benz แพงกว่า BMW ถึงแม้จะตั้งราคาเท่ากัน แต่ตอนคุย BMW จะได้ส่วนลดเยอะมากๆ Benz ไม่ค่อยลดให้เลย
2. จากที่ใช้ทั้งคู่ Benz มีบุคลิกในส่วนการขับและการนั่งที่ชัดเจนมากกว่าตามที่เราต้องการ
3. พวงมาลัย BMW ไม่ธรรมชาติและเนียนได้เท่า
ช่วงหลังถ้าผมจะเลือก BMW ผมมักจะไปลอง Audi เปรียบเทียบ
ถ้าจะลอง Benz ผมก็ไปลอง Lexus เปรียบเทียบ
แต่ทั้งนี้คงต้องว่าเป็น segment ไป เช่น segment C ค่ายนึงอาจจะถูกใจกว่าอีกค่ายนึง คนละ segment ค่ายเดียวกัน บุคลิกต่างกัน
ยอดขายที่ว่า ไม่ได้บอกเป็นแยก segment หรือเปล่าครับ
ผมว่าประเด็นของกระทู้นี้พูดถึงภาพรวมของแบรนด์นะครับ ไม่ได่ต้องแยก segment อยู่แล้ว ซึ่งมันสะท้อนความเป็นจริงออกมาโดยตัวมันเองว่าลูกค้าซื้อค่ายไหนเพิ่มขึ้นหรือลดลง
จากเหตุผล
ข้อ 1 แสดงว่าชอบ benz ตรงที่ไม่ค่อยลดราคาเยอะเท่า bmw ซึ่งอาจจะสวนทางกับคนส่วนใหญ่ (แต่จากที่เคยคุยกับเซล benz ปลายโมเดลก็ลดเยอะมากเหมือนกันนะครับ)
ข้อ 2,3 ก็เป็นเรื่องเฉพาะบุคคลมาก เพราะอย่างเรื่องการขับขี่โดยส่วนใหญ่ตลอดเวลาที่ผ่านมามีแต่คนยกให้ bmw เหนือกว่า (รวมทั้มผมที่เคยเทส benz มาหลายครั้งแต่ไม่ชอบและเพื่อนที่ลองเปลี่ยนจาก bmw มา benz หลายคนเพื่อนคนไทยและต่างชาติก็บอกว่าขับสู้ bmw ไม่ได้แถมบางคนเจอเคสรถมีปัญหาด้วย) แต่ถ้าผมแก่ไปอาจจะรู้สึกต่างออกไปก็ได้ครับ
โดยภาพรวมจากที่อ่านและรับรู้มาคนเปลี่ยนจาก benz ไปค่ายอื่นนอกจากความคุ้มค่าที่ลดลงน่าจะเป็นที่ความจุกจิกและการดูแลรับผิดชอบหลังการขายที่ไม่ดีเท่าที่ควรเป็นประเด็นหลักอันนึงเหมือนกันนะครับ
ส่วนท่านใดที่ไม่เจอก็โชคดีไป แต่สุดท้ายยอดขายก็บ่งบอกทุกอย่างในภาพรวมเองครับ
ข้อ 1 เป็นข้อสังเกตครับ และเป็นเหตุผลด้านนึงที่ผมเลือก BMW มาใช้คันนึง
ส่วนข้อ 2,3 เป็นบุคลิกรถที่ส่วนตัวผมเองคนเดียวมองว่าในการใช้ Street use ที่ต้องการความนุ่มเนียนของพวงมาลัย ความสุนทรีย์ในแบบภายในและภายนอกครับ ที่ Benz ตอบสนองส่วนตัวมากกว่า ไม่ได้ว่า ใครขับดีกว่าใคร
เพราะถ้าไปเน้นเรื่องการขับดี ผมไม่มั่นใจความหมายว่า ขับดีในมุมมองไหน ถ้าในด้านขับดีแบบได้ความสนุกแล้วผมขับ BMW มันไม่ได้ตอบสนองผมเลย ชวนหงุดหงิดมากครับ แต่ถ้าเป็น M3, M5 ซึ่งผมไม่เคยขับ น่าจะดีกว่ามากๆ
โดยส่วนตัวผมเคยใช้ Gti รถขับหน้าที่ขับดีกว่ามากๆ ที่ความเร็ว 200km/h ผมไม่มีความเครียดแม้แต่นิดเดียว แต่ถ้าแตะ 230 ก็มีกลัวบ้างแล้ว หรือจะเป็นตัว Sti กับ BRZ ที่ผมใช้ปัจจุบัน ผมไม่ขับ BM อีกเลยครับ
แต่ผมว่า รถทุกคันมีดีของตัวเองหมด อยู่ที่ว่าเราจะเอามาใช้ในแบบไหนครับ ไม่มีใครดีกว่าใคร คนออกแบบสามารถทำได้หมด แต่ส่วนตัวก็ไม่ค่อบเลือกซื้อรถที่ทำได้ดีๆกลางๆในทุกด้าน แต่ไม่สุดในด้านใดด้านนึง อาจจะเป็นสาเหตุให้บางท่านมีรถหลายคนเพื่อเลือกใช้ในแต่ละด้าน ^^'
แต่รถคันต่อไปผมก็ไม่มอง Benz เหมือนกันครับ นอกจากจะเป็นเรือธงของมัน คงรอตอนอายุเยอะมากๆอีกที ^^'
-
เอาจริงๆ BMW ที่ผมมองว่าสวยมีแค่ 3 series กับ X5 เท่านั้น
นอกนั้นผมไม่ชอบยิ่งเจอไตบานจมูกโตไปไม่ชอบเลยครับ แต่ก็นั่นแหละ
มองว่าที่ขายดีเพราะ BSI ล้วนๆ ขับสบายใจไป 5 ปีแล้วค่อยขายทิ้ง
เห็นด้วยเลยครับ ดีไซน์ด้านนอกสู้Benzไม่ได้เลยแทบทุกรุ่นรวมทั้ง750eที่ผมใช้อยู่เช่นกัน
750e ดูเตะตากว่า S เมื่อมันวิ่งบนถนน เหมือนมันมีอะไรน่าค้นหากว่า S นะครับ แบบว่าเอ๊ะนั่นมันรถอะไรนะ
S นี่ดูแว๊บเดียวก็รู้ว่าเบนซ์อ่ะครับ