Headlight Magazine : community
General => User's Voice => ข้อความที่เริ่มโดย: marvel ที่ ธันวาคม 04, 2025, 17:24:47
-
เขียนเล่าไปเรื่อยๆ ยาวหน่อยนะครับ
ออกตัวก่อนว่าผมไม่ได้เก่งเรื่องเทคนิครถยนต์ เรื่องเส้นทาง การขับ การท่องเที่ยว ฯลฯ อะไรเหล่านี้เท่าไหร่
ในเว็บนี้มีหลายท่านเก่งกว่าผมในเรื่องพวกนี้เยอะเลย
ถือว่าผมมาเล่าให้ฟังในฐานะ user ธรรมดาๆทั่วๆไปคนนึงละกันนะครับ
ผมชอบขับรถในเส้นทางภูเขาอยู่แล้ว มีเส้นทางที่อยากจะขับอยู่หลายเส้น
loop ไปแม่ฮ่องสอน ทั้งทาง แม่สอด 105 , แม่สะเรียง 108 และดอยอินทนนท์ 1263
ก็เป็นหนึ่งในเส้นทางที่อยู่ใน list แต่เนื่องจากติดภารกิจอยู่ในกรุงเทพตลอด เลยยังไม่ได้ขับมากเท่าไหร่
จริงๆ loop ไปแม่ฮ่องสอนนี้ ผมเคยไปเมื่อหลายปีมาแล้ว
สมัยนั้นเส้นที่ใช้ คือ ออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้เส้น 1009 ขึ้นทางดอยอินทนนท์
พอถึงด่านที่ 2 ก็เลี้ยวซ้าย ใช้เส้น 1192 ลงไปทางแม่แจ่ม
ต่อด้วยเส้น 1088 และ 1263 เพื่อไปชมทุ่งบัวตองที่ดอยแม่อูคอ
และขับขึ้นไปทางเส้น 108 ไปพักที่ปางอุ๋ง และกลับลงทางปาย จนมาครบ loop ที่ตัวเมืองเชียงใหม่
เป็นการขับวนตามเข็มนาฬิกา
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_50484482abc6725f715f.jpeg)
-
ตอนไปถึงแม่ฮ่องสอนก็ไม่ได้ไปเอาประกาศนียบัตรอะไร เนื่องมาจากไม่มีเวลา ต้องรีบไปต่อ
เลยแค่จอดซื้อสติกเกอร์มาติดเป็นที่ระลึกเฉยๆอย่างที่เห็น ไม่ได้จริงจังอะไร เอาเล่นๆสนุกๆให้ได้ฟีลนักท่องเที่ยว
ถึง E38 จะดูคันใหญ่ ไม่คล่องแคล่วเท่ารถเล็ก แต่ผมจำได้ว่าสนุกกับการขับในเส้นทางนี้มากๆ
เส้นจากดอยอินทนนท์ ไปดอยแม่อูคอ (1192 -> แม่แจ่ม -> 1088 -> 1263) ทางเล็ก คดเคี้ยวไปตามเขา
ใช้ความเร็วไม่ค่อยได้
ช่วงแม่ฮ่องสอน -> ปาย -> เชียงใหม่ ทางคดเคี้ยวอยู่ (แต่น้อยกว่าเส้นข้างบน) ทางกว้างขึ้น
ช่วงที่ชอบที่สุด คือ จากขุนยวมไปแม่ฮ่องสอน รถน้อย ความโค้งของถนนกำลังพอเหมาะ
และที่ประทับใจ E38 อีกอย่าง คือ เกียร์ ใส่เป็นออโต้ไว้ได้เลย ไม่ต้องเล่นเกียร์เอง
ถ้าทางลงเขายาวหรือชันมันจะคาเกียร์ ใช้ engine brake ให้ ไม่ยอมเข้าเกียร์สูงขึ้น ยังไงก็ไม่เข้าให้
จนกว่าเราจะเหยียบคันเร่ง หรือเป็นทางลาด จึงจะขึ้นเกียร์ให้ เรียกว่าจังหวะเปลี่ยนเกียร์ตรงกับที่ใจคิด
(เครื่องอาจใหญ่พอที่จะใช้ engine brake หน่วงความเร็วรถไว้ได้ เข็มวัดรอบไม่ไต่สูงขึ้นๆ)
ซึ่งต่างจาก C350e ที่พอกำลังลงเขาชันๆ ใช้ engine brake ซักพัก
เข็มวัดรอบสูงขึ้นๆ มันจะเปลี่ยนเกียร์สูงขึ้นให้ตลอด
ทำให้ต้องมาเหยียบเบรกเพิ่ม ไม่รู้ว่าเพราะเครื่องเล็ก 2000cc รึเปล่า เลยใช้ engine brake หน่วงได้ไม่พอ
ถ้าจะขับให้ C350e จะใช้ engine brake และเปลี่ยนเกียร์ให้ตรงกับใจ มีวิธีเดียว คือ ใช้ paddle shift เอง
ส่วนสเปคคร่าวๆ ของ E38 คือ 730i 3000cc V8 NA 218 แรงม้า เกียร์ออโต้ 5 speed
ซื้อมือสองมาหลายปีแล้ว ตอนได้มา ราคาพอๆกับ camry ตัวเริ่มต้นในสมัยนั้น
ตอนนี้ก็ยังเก็บไว้อยู่ แต่ไม่ค่อยได้ใช้แล้ว
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_50387fa7f092e977a5d2.jpeg)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_16872dba67979fd686c7.jpeg)
-
เล่าถึง C350e ซักเล็กน้อย
คันนี้ผมพึ่งได้มาปีกว่าๆ ซื้อมือสองเช่นเคย (รถแทบทุกคันที่ผมซื้อ เป็นรถมือสองทั้งนั้น)
ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจที่อยากได้รุ่นนี้ และตามหาซื้อแต่อย่างใด
แต่มีญาติที่เป็นเจ้าของคันนี้อยู่ จะเปลี่ยนรถ และจะขาย C350e คันนี้
คนที่บ้านผมชอบและอยากได้ เนื่องจากรู้ประวัติการใช้งานตั้งแต่มือหนึ่ง
(ผมพอจะศึกษาไว้บ้าง ว่าซ่อมแพงแน่ ทั้งระบบไฮบริดและระบบถุงลม ฯลฯ)
ตัวรถเป็นรถปี 16 จดทะเบียนปีเดียวกัน คือ ปี 16
เจ้าของแรก เป็นหมอหญิงอายุ 40 กว่า ใช้ขับไปทำงานจากบ้านไปโรงพยาบาล
ขับไม่ซิ่ง ใช้คนเดียว เข้าศูนย์ตลอด ซื้อตั้งแต่ป้ายแดง
ตอนผมซื้อ รถเลขกิโลอยู่ที่ 53,883 เป็นรุ่น AMG Dynamic
สเปครถคร่าวๆ
1991cc turbo 4 สูบ 211 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที
แรงบิด 350 นิวตันเมตรที่ 1,200 - 4,000 รอบ/นาที
มอเตอร์ไฟฟ้า 82 แรงม้า แรงบิด 340 นิวตันเมตร
รวมพละกำลังได้ 279 แรงม้า (PS) แรงบิด 600 นิวตันเมตร , เกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ
รูปวันที่เอารถมา
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_50429090ed0440efebb1.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_67104626aa060f0c18e0.jpeg)
-
ตั้งแต่ได้รถมาปีกว่าๆ ยังไม่มีอะไรเสีย
มีเข้าศูนย์ครั้งเดียวเมื่อเดือนที่แล้วเพื่อเช็คระยะเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะเวลา ที่เลขกิโล 56,656
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_5594f05e8f0087649792.jpeg)
-
จนเมื่อซักเกือบ 1 เดือนก่อน ผมเห็นว่าดอกบัวตองกำลังจะบานที่ดอยแม่อูคออีกครั้ง
เลยอยากเอารถญี่ปุ่น เกียร์ธรรมดา คันเล็กกว่า E38 ไปขับเที่ยว loop แม่ฮ่องสอนนี้อีกครั้ง
(ผมหัดขับรถด้วยเกียร์ธรรมดา สิบกว่าปีแรกที่ขับรถก็ใช้เกียร์ธรรมดา
จนต่อมารถที่เป็น daily use ใช้แต่เกียร์ออโต้
แต่ช่วงหลังๆมานี้ เริ่มซื้อรถเก่าเกียร์ธรรมดามาขับเล่นบ้าง)
โดยเอาโอกาสที่ดอกบัวตองบานมาเป็นจุดหมายเพื่อให้ได้เอารถออกไปขับ (อยากขับ มากกว่าอยากไปดูบัวตอง)
ตอนแรกเลือกว่าจะไปเส้นไหนดี ทุกเส้นทาง วนตามเข็มนาฬิกา ระหว่าง
1 เส้นที่รถทัวร์กรุงเทพ-แม่ฮ่องสอนใช้ คือ เถิน ลี้ ฮอด แล้วเข้า 108 ไปแม่สะเรียง แล้วเลี้ยวขึ้นไปแม่ฮ่องสอน
พอถึงแม่ฮ่องสอน ก็วนกลับทาง ปาย เชียงใหม่ ลำปาง และครบ loop ที่เถิน
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_505326a5ae2108813c4c.jpeg)
-
หรือ
2 เถิน ลี้ ฮอด แล้วใช้เส้น 1088 ขึ้นไปแม่แจ่ม แล้ววนซ้ำทางเดิมเมื่อหลายปีที่แล้ว คือ
ต่อด้วยเส้น 1088 และ 1263 เพื่อไปชมทุ่งบัวตองที่ดอยแม่อูคอ
และขับขึ้นไปทางเส้น 108 ไปพักที่แม่ฮ่องสอน และกลับลงทางปาย เชียงใหม่ ลำปาง จนมาครบ loop ที่เถิน
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_505455f41a8868985ec3.jpeg)
-
หรือ
3 จากตาก เลี้ยวซ้ายไปแม่สอด แล้วขึ้นเหนือด้วยเส้น 105 ไปแม่สะเรียง ดอยแม่อูคอ แม่ฮ่องสอน ปางอุ๋ง
แล้ววนกลับทางปาย เชียงใหม่ ลำปาง จนมาครบ loop ที่ตาก
ซึ่งเส้น 105 วิ่งเลียบแม่น้ำเมย ก็เป็นอีกเส้นที่อยู่ใน list ถนนที่อยากขับมานาน
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_5057dd7241133c9cff67.jpeg)
-
หรือ
4 เถิน ลี้ แล้วก็ซ้ำเส้นเดิมที่เคยเอา E38 ไป คือ
ใช้เส้น 1009 ขึ้นทางดอยอินทนนท์
พอถึงด่านที่ 2 ก็เลี้ยวซ้าย ใช้เส้น 1192 ลงไปทางแม่แจ่ม
ต่อด้วยเส้น 1088 และ 1263 เพื่อไปชมทุ่งบัวตองที่ดอยแม่อูคอ
และขับขึ้นไปทางเส้น 108 ไปปางอุ๋ง และกลับลงทางปาย เชียงใหม่ ลำปาง จนมาครบ loop ที่เถิน
ซึ่งทางนี้จะซ้ำกับหลายปีที่แล้วทั้งเส้น อยากลองเส้นใหม่ๆที่ยังไม่เคยไปมากกว่า เลยตัดตัวเลือกนี้ออกไป
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_5059f7bbfb616a124cbe.jpeg)
-
หาข้อมูลเรื่องเส้นทางไปเรื่อยๆ จนไปเจอเพื่อนสมาชิกแนะนำเส้นทางไปดอยแม่อูคอ ในเพจท่องเที่ยวแม่ฮ่องสอน
แนะนำครบทุกเส้นทางเลย เป็นประโยชน์มากๆ
เพื่อนสมาชิกไปมาช่วงวันปิยะ บอกว่า
เส้น 108 ตั้งแต่เลยแยกเข้า แม่แจ่ม ไป เรียกว่า นรก หลุมเยอะ พังเยอะ
กระบะรูดได้ / เก๋งต้องหยอด...จนเจอป้าย เข้าเขตแม่สะเรียง เมื่อไหร่ ถนนถึงดีครับ
เลยตัดตัวเลือกที่ 1 ออกไป , ตอนนี้เหลือแค่ตัวเลือกที่ 2 คือ เถิน ลี้ ฮอด แล้วใช้ 1088 ขึ้นแม่แจ่ม
กับ ตัวเลือกที่ 3 คือ เส้น 12 แยกออกไปแม่สอด แล้วขึ้นเหนือด้วยเส้น 105 เลียบชายแดนและแม่น้ำเมย
ในใจคิดว่า ไปแม่สอดก็ดีเหมือนกันนะ เคยไปแม่สอดนานมากแล้ว ตั้งแต่สมัยถนนเป็น 2 เลนสวนกัน
ปัจจุบันเป็นสี่เลนนานแล้ว คราวนี้ไม่เอารถใหญ่แบบ E38 ไป
จะเอารถญี่ปุ่น เกียร์ธรรมดาไปขับเล่นดูบ้าง โดยคันที่คิดว่าจะเอาไปก็คือ
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_9033b8c9838d26516243.jpeg)
-
ตอนแพลน ดอกบัวตองยังไม่บาน ก็คอยติดตามเพจท่องเที่ยวแม่ฮ่องสอนตลอด
จะมีรายงานว่าบานกี่ % แล้ว วางแผนว่ารอดอกบัวตองบานเต็มที่แล้วจะไป
พอถึงเวลาที่ดอกบาน 100% ติดภารกิจไปไม่ได้ช่วงนั้น เลยไปหลังจากนั้น ซึ่งพอจะมีวันว่างอยู่ 5 วัน
ปรากฎว่า ที่บ้านอยากไปด้วย และอยากนั่ง C350e ไป บอกว่ารถเงียบ นุ่ม สบาย
แล้วบอกว่านั่ง subaru เสียง(เครื่อง+ท่อ)ดังตลอดเวลา เสียงดังเหมือนนั่งเครื่องบิน
ในใจผมก็คิดว่า เหมือนนั่งเครื่องบินตรงไหน
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_9056a37a3ad169cb940e.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_88880ef3dee540e50c7d.jpeg)
-
พอได้ยินว่าที่บ้านอยากนั่ง C350e ไป
ผมซึ่งแพลนมานานและเฝ้าติดตามเพจท่องเที่ยวแม่ฮ่องสอนมาตลอด เพื่อจะเอารถญี่ปุ่น เกียร์ธรรมดาไปขับ
ก็เลยบอกออกไปอย่างหนักแน่นว่า
.
.
.
เอา C350e ไปก็ได้
จบข่าว หมดกัน ฝันเหยียบคลัชสับเกียร์ทางภูเขาในรอบนี้
ไว้รอบหน้าค่อยหาโอกาสเอารถที่อยากขับ ไปขับใหม่
C350e คันนี้ ตั้งแต่ได้มาปีกว่าๆ ส่วนใหญ่ก็เสียบปลั๊กชาร์จไฟไว้ขับในเมือง รถติดๆ
อันนี้คือรูปที่ถ่ายหน้าจอไว้ก่อนออกเดินทาง น้ำมันเต็ม แบตเต็ม เลขกิโลอยู่ที่ 56,809
ได้มาตอน 53,883 ก็คือ ได้มาปีกว่าๆ พึ่งขับไป 2,926 กม.
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_5080fca7a28944c610bd.jpeg)
ภาพต่อมาแสดงถึง ลักษณะของการที่รถคันนี้ถูกใช้
3,747 กม. ล่าสุด (เป็นการใช้จากเจ้าของเดิม 821 กม.)
ความเร็วเฉลี่ย 17 กม/ชม (แถวละแวกบ้านรถค่อนข้างติด)
เป็นการวิ่งโดยเครื่องยนต์ไม่ติด 2,184 กม. (ตรงที่เป็นสีเขียว รูปเครื่องยนต์ OFF)
อัตราสิ้นเปลือง 5.4 ลิตร ต่อ 100 กม. (18.52 กม./ลิตร)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_5082b4a52cf9cd634177.jpeg)
-
สองภาพข้างล่างนี้
ภาพแรกก็คือ ก่อนจะออกทริป 0 กม. , ยังไม่ได้ใช้น้ำมัน 0 ลิตร , ความเร็วเฉลี่ยก็ 0 กม./ชม
ส่วนที่ขึ้นว่า 0:25h คือ start รถมาแล้ว 25 นาที ด้วยระบบไฟฟ้า เข็มวัดรอบยังไม่ขึ้น
เชื่อมโยงกับภาพที่สอง คือ 25 นาทีด้วยระบบไฟฟ้านี้ แบตลดลงเหลือ 97%
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_5083dbecbea4ff1f8902.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_508440514d08aeea1d75.jpeg)
ส่วนตัวผม เวลาใช้คันนี้ออกต่างจังหวัด จะชอบขับแบบให้เครื่องยนต์ติดต่อเนื่อง จะไม่ชอบให้ติดๆดับๆ
ติดๆดับๆ เช่น ขับโดย turbo ติดบูสมา อยู่ๆเจอไฟแดง รถจอดนิ่ง เครื่องยนต์ดับลงทันที
หรือจังหวะกำลังจะแซงเลนสวน ตอนยังไม่แซง ยกคันเร่งหมด ไหลตามคันหน้าไป เครื่องยนต์ดับซะก่อน
ซึ่งสามารถเลือกให้เครื่องยนต์ติดต่อเนื่องได้ 2 mode คือ Sport และ Sport+
ในแต่ละ mode จะมีค่าที่ set มาไว้ให้ 5 อย่าง คือ
เครื่องยนต์ , ช่วงล่าง , พวงมาลัย , การหน่วงเวลายกคันเร่ง , แอร์
หรือจะเลือกปรับในแต่ละอย่างเองก็ได้ โดยใช้ mode Individual
(ขออภัยมีสายไฟพาดผ่าน)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_5138df57dc1abe3e72a6.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_51373a6c9b60ee2bdf48.jpeg)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_513991d8a77334751464.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_5140e2f0912b2b4ac45e.jpeg)
หรือมีอีกทางที่ให้เครื่องติดต่อเนื่อง คือ เลือกใช้เครื่องยนต์ปั่นไฟเข้าแบต
-
เริ่มออกเดินทาง คน 3 คน สัมภาระเต็มรถ
เนื่องจากคันนี้เป็น plug in hybrid มีน้ำหนักแบตเยอะ เฉพาะน้ำหนักรถเปล่าก็เกิน 1,700 กิโลกรัมแล้ว
เมื่อบวกน้ำหนักคน 3 คนและสัมภาระเต็มคัน ผมว่าน้ำหนักรวมมีประมาณ 1,900 กิโลกรัม+-
ออกจากบ้าน ผมเลือก Individual ปรับเอง ให้เครื่องเป็น sport+
ส่วนพวงมาลัย ช่วงล่าง และแอร์ เป็น comfort
วิ่งทางด่วนขั้น 2 ลงบางปะอิน ต่อด้วยเส้น 347 แล้วก็พหลโยธินไปยาวๆ
จากการสังเกต เมื่อใช้ mode sport+ เหยียบครึ่งคันเร่ง เกียร์จะเปลี่ยนให้ที่ประมาณ 3000 รอบ/นาที
เกียร์ซึ่งมี 7 จังหวะ ไม่ค่อยขึ้นเกียร์ 6 ให้ ส่วนใหญ่ใช้สูงสุดแค่ 5 ,
ยกเว้นขับ 100 นิดๆ นิ่งๆ ไม่เร่งขึ้น ซักระยะนึง เกียร์ถึงจะเปลี่ยนเป็น 6 ให้
ส่วนเกียร์ 7 ไม่ขึ้นให้เลย ผมขับไม่เกิน 120 กม/ชม อาจจะขึ้นให้ในความเร็วมากกว่านี้
ตัวรถ set มาให้ขับเรื่อยๆ สบายๆ
เพราะขนาดว่าใช้ mode sport+ และเหยียบครึ่งคันเร่ง ดูจากหน้าจอ Energy flow
แบตไฮบริดไม่ส่งกำลังมาช่วยเลย
การบริหารพลังงานไฟฟ้าใน mode Sport และ Sport+ จะต่างจากพรีอุสอีกคันที่ผมใช้อยู่
ในพรีอุส แบตไฮบริดจะส่งกำลังช่วยหรือรับการชาร์จ แทบจะตลอดเวลา
ส่วน C350e ใน mode Sport และ Sport+ ถ้าขับแบบปกติ ไม่เหยียบจมคันเร่ง
ในขณะที่เหยียบคันเร่ง ดูจากหน้าจอ Energy flow มันใช้เครื่องยนต์ขับเคลื่อนลงล้อเพียวๆ
ไม่แบ่งพลังงานไปชาร์จแบตไฮบริด (ถ้าถอนคันเร่ง ปล่อยไหล หรือเบรก ถึงจะชาร์จไฟเข้าแบตไฮบริด)
แบตไฮบริดก็ไม่ได้ส่งกำลังมาช่วยขับเคลื่อน
ฟีลลิ่งในการขับ ไม่ได้รู้สึกถึงแรงดึง แรงกระชากใดๆ
ไม่ได้รู้สึกว่าขับรถที่มีแรงบิดระดับ 600 นิวตันเมตร ตามสเปคในกระดาษ
เพราะพอแบตไฮบริดไม่ได้ส่งกำลังมาช่วย
ก็เหมือนขับรถที่เครื่อง 2.0 ลิตร 211 แรงม้า และรถมีน้ำหนักรวมบรรทุก 1900 กิโลกรัม+-
คงต้องเหยียบมากกว่าที่ผมขับ ถึงจะได้แรงม้า 279 และแรงบิด 600 นิวตันเมตร ตามสเปค
แต่รถคันอื่นที่เคยขับมา ที่มีแรงม้าหรือแรงบิดน้อยกว่านี้
บางคันเหยียบแค่ครึ่งคันเร่ง ก็รู้สึกถึงแรงดึง แรงกระชากที่มากกว่านี้แล้ว
คงอยู่ที่การ set รถ ว่าจะให้ตอบโจทย์อะไร ซึ่ง C350e set มาให้ตอบโจทย์การขับเรื่อยๆ นิ่มๆ นิ่งๆ สบายๆ
ถ้าใครเห็นตัวเลขแรงม้า 279 แรงม้า และ แรงบิด 600 นิวตันเมตร แล้วหวังว่าจะขับมันส์ ขับสนุก
อาจจะไม่เป็นอย่างที่หวัง
ผมนึกถึงกระทู้ที่เคยอ่านในบอร์ดนี้กระทู้หนึ่ง
เจ้าของกระทู้ถามว่าจะจูน C350e ให้แรงขึ้นได้อย่างไร เพราะขับแล้วไม่ได้รู้สึกถึงแรงดึงอะไรเลย
เจ้าของกระทู้บอกว่าเอาไปลองมาแล้ว 0-100 km/h ได้ 6.5 วินาที
เพื่อนสมาชิกก็สงสัยกันว่า ตามสเปค รถมีแรงม้า 279 แรงม้า แรงบิด 600 นิวตันเมตร
0-100 km/h สเปคคือ 5.9 วินาที , เอาไปลองเองก็ได้ 6.5 วินาที ยังไม่เร็วเหรอ ทำไมถึงรู้สึกว่าไม่มีแรงดึง
จนเพื่อนสมาชิกถามว่าเดิมใช้รถอะไร , เจ้าของกระทู้บอก subaru wrx sti a line หน้าแมว
เลยได้เข้าใจกันว่า มันอยู่ที่ฟีลลิ่ง ไม่ใช่แค่ตัวเลข 0-100 ในกระดาษ
ทั้ง 2 คันนี้ set รถมาตอบโจทย์ลูกค้าคนละกลุ่ม แม้ตัวเลข 0-100 จะดูไม่ต่างกันมาก แต่ฟีลลิ่งต่างกันเยอะมาก
ซึ่งถ้าว่ากันตามจริง ก็ถือว่าทาง mercedes set รถได้ตรงความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายแล้ว
เพราะคนส่วนใหญ่ที่ซื้อ C350e ก็น่าจะซื้อเพื่อขับสบาย นั่งสบาย มากกว่าขับสนุก
อย่างสมาชิกในบ้านผม ซึ่งเคยนั่งทั้ง C350e และ WRX STi
ถ้าให้เค้าเลือกรถนั่ง loop แม่ฮ่องสอนระหว่าง 2 คันนี้
ให้เลือก 100 ครั้ง เค้าก็เลือก C350e ทั้ง 100 ครั้ง และครั้งนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น
แต่ถ้าให้ผมเลือกขับ 2 คันนี้ไป loop แม่ฮ่องสอน ให้เลือก 100 ครั้ง ผมก็เลือก WRX STi ทั้ง 100 ครั้งเช่นกัน
จูน C350e ให้แรงขึ้นได้ไหมครับ
https://community.headlightmag.com/index.php?topic=52745.0
-
กลับมาที่การเดินทางกันต่อ ระหว่างทางก็มีแวะปั๊มพักบ้างเป็นระยะ
และหลังจากขับมาได้ 353 กิโลเมตร ถึงกำแพงเพชร ก็ได้เวลาเติมน้ำมัน
การเติมน้ำมันทุกครั้งในทริปนี้ จะเติมเต็มถังจนหัวจ่ายตัด และเติมต่ออีกนิดเดียวให้ได้จำนวนเงินลงหลักสิบ
gasohol95 ครั้งแรกนี้เติมไป 900 บาท 27.91 ลิตร
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_5151035bd23b93c498c6.jpeg)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_51520a25ad973cb2b638.jpeg)
-
จากหน้าจอ From start ของรถ ที่วัดตั้งแต่ออกจากบ้าน ขับมา 353 กม.
เป็นการขับเคลื่อนแบบเครื่องยนต์ไม่ติดแค่ 4 กม. เพราะใช้ Sport+ ให้เครื่องติดมาตลอด
4 กม. นัั้น คือ 4 กม. ตอนเริ่มออกจากบ้าน ช่วงนั้นรถติดๆ ก็ใช้โหมดไฟฟ้า
ก่อนจะขึ้นทางด่วนซักพัก ก็ค่อยกดเป็น Sport+ ให้เครื่องยนต์ติดขึ้นมา
353 กม. ที่ขับมานี้ ทางค่อนข้างโล่ง ขับประมาณ 115 กม./ชม มาได้ตลอดทาง
ที่เห็นความเร็วเฉลี่ยอยู่แค่ 71 กม./ชม เพราะตอนแวะพักจอดในปั๊ม
บางคนอยู่ในรถ บางคนออกไปนอกรถ หมุนเวียนกันไปมา เลยสตาทรถเปิดแอร์ในรถไว้ตลอด โดยใช้โหมดไฟฟ้า
รถเลยนับเวลาและความเร็วเฉลี่ยไปเรื่อยๆ ความเร็วเฉลี่ยเลยตกลงมาเรื่อยๆ
353 กม. เติมจริง 27.91 ลิตร คำนวณอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงได้ 12.65 กม./ลิตร
onboard computer แสดง 7.4L/100km แปลงเป็น กม./ลิตร ได้ 13.51 กม./ลิตร
onboard computer แสดงระยะทางที่วิ่งได้ เกินจริงไป 6.83%
แบตไฮบริด เหลือ 72%
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_515370acdb02d7c9cfce.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_515403a835b3ff69f796.jpeg)
ผมเคยวัดอัตราเติมจริงของรถที่เคยขับเทียบกับ onboard computer พบว่า
ในคันเดียวกัน วัดคนละครั้ง ค่าความคลาดเคลื่อนก็ต่างกันไป บางครั้ง 3% บางครั้ง 6% ฯลฯ
(onboard computer แสดงค่าดีกว่าความเป็นจริงแทบทุกครั้ง)
รถหลายๆคันที่เคยวัดมา ค่าความคลาดเคลื่อนส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในช่วงประมาณ 3-6%
-
และจากในปั๊มที่กำแพงเพชรนี้ ก่อนเริ่มขึ้นเขาจากตากไปแม่สอด
ก็ได้ถ่ายรูปดอกยางไว้ เป็น before เอาไว้เทียบสภาพกับหลังจบทริป
ยางที่ใช้ คือ Pirelli P ZERO PZ4 MOE
treadwear 280 , traction AA , temperature A
หน้า 225/40 R19 93 Y (หน้าซ้ายผลิต 0324 )(หน้าขวาผลิต 0723)
หลัง 255/35 R19 96 Y (หลังทั้งซ้ายและขวาผลิต 0423)
ช่วงล่างเป็นถุงลม
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_43916bb73d3c6506a0d6.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_439377fcd9703b29f04a.jpeg)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_43946501bdf1852f8b54.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_439545b76e72e861d004.jpeg)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_43765277b57f731f6d15.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_43789e27c0d6ee335dbd.jpeg)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_43790a1dc7046bf17fd2.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_4380bd81466152b2319e.jpeg)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_43819911fc65ff233e90.jpeg)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_4382f9d137fbf888ea34.jpeg)
-
จากตาก เลี้ยวซ้ายเข้าเส้น 12 ข้ามภูเขาไปแม่สอด
เส้น 12 นี้พาดผ่านในแนวขวาง จากชายแดนตะวันตกติดพม่าที่แม่สอด
ไปทางตะวันออก ผ่าน ตาก สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ขอนแก่น กาฬสินธ์ุ จนติดชายแดนลาวที่มุกดาหาร
เส้นที่นิยมขับกันช่วงเขาค้อ ก็คือเส้นหมายเลขเดียวกันนี้ 12
ทริปนี้ขับเส้น 12 เฉพาะช่วงตากไปแม่สอด
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_519115c2b37e2204743b.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_519203b976b48ab2a310.jpeg)
สภาพพื้นผิวถนน ดีมาก เรียบตลอดตั้งแต่ตากถึงแม่สอด
แต่พอเริ่มคดเคี้ยวขึ้นเขา รู้เลยว่าทางภูเขาไม่ใช่สิ่งที่ถนัดของ C350e
เข้าใจเลยกับคำว่า รถหนักทำให้แรงทางตรงเหมือนรถเบาได้ ทำให้ไม่รู้สึกว่ากำลังขับรถที่หนักอยู่
แต่รถหนักซ่อนน้ำหนักเมื่อเจอทางโค้งไม่ได้
ถ้าโค้งเดียว ยังพอได้อยู่ แต่โค้งที่ต่อเนื่องซ้ายแล้วขวา ขวาแล้วซ้าย
โมเมนตัมที่เยอะมันเหวี่ยงไปออกอีกทางตั้งแต่โค้งแรกแล้ว จะดึงกลับอีกทางได้ยากกว่ารถเบา
ขับซิกแซกได้ไม่คล่องตัวเท่ารถเบา
ส่วนยาง p zero pz4 runflat ดีมากๆ ไม่มีร้องเลย ยางเกาะอยู่ แต่ตัวรถเอียงและเหวี่ยงเกิน
เลยปรับโหมดการขับขี่ใหม่ ที่ Individual
ช่วงล่างถุงลม เปลี่ยนจาก Comfort เป็น Sport+ เลย จะได้ไม่โยน
พวงมาลัย เปลี่ยนจาก Comfort เป็น Sport จะได้คมขึ้น (พวงมาลัย ไม่มี mode Sport+)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_514102504bfa1af964f2.jpeg)
-
จากตากไปแม่สอดนี้ ถนนอย่างน้อยสี่เลน มีเกาะกลางกั้นตลอด ไม่มีสองเลนสวนกันแบบสมัยก่อน
ไม่มีรอต่อคิวแซงเป็นขบวนยาว เพราะไม่ต้องรอเลนสวนว่างเพื่อที่จะแซงรถช้าในเลนตัวเอง
และมี emergency exit ramp สำหรับรถใหญ่ที่เบรกแตก เพื่อให้วิ่งขึ้นไปหยุด
สภาพเส้นทาง เรียบแบบที่เห็นเลย
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_5279b6d79bd8e6bda50d.jpeg)
ขอเทียบกับอีกเส้นทางที่เพื่อนสมาชิกหลายคนคงรู้จักกันดี เพราะเป็นทางขับผ่านไปเชียงใหม่ คือ ช่วงขุนตาล
ซึ่งเป็นถนนสี่เลนมีเกาะกลางกั้นตลอดทางเช่นกัน
โดยเฉลึ่ยแล้วเส้นแม่สอดจะมีรัศมีโค้งที่แคบกว่า
เส้นขุนตาล ถ้าขึ้นก็คือขึ้น ลงคือลง ต่อเนื่องกันไป
เส้นแม่สอด บางโค้งซ้ายขวาที่ต่อเนื่องกัน ขึ้นแล้วลง ลงแล้วขึ้น
และเส้นแม่สอด มีระยะทางที่ยาวกว่า
เริ่มตั้งแต่โค้งแรกที่เริ่มซ้ายขวาต่อเนื่อง จนถึงโค้งก่อนถึงตัวเมืองแม่สอด ผมใช้เวลาขับอยู่ 40 นาที
ส่วนสำหรับตัวรถ หลังจากปรับช่วงล่างและพวงมาลัยให้ sport ขึ้นแล้ว
ก็ยังรู้สึกว่าไม่เหมาะกับแบบเล่นโค้งในถนนนี้ครับ ยังเหวี่ยงและโยนมากเกินอยู่ดี
ส่วนยางก็ยังยอดเยี่ยมเหมือนก่อนเปลี่ยนโหมดช่วงล่างและพวงมาลัย เกาะได้ดีมากๆ ไม่มีไถล ไม่มีร้องเลย
ถ้าใครขับ C350e ซัก 5/10 ไปเรื่อยๆ ชิลๆ อย่างนี้สบายๆครับ รถมัน set ให้เหมาะกับการขับแบบนี้อยู่แล้ว
ระหว่างทางจากตากไปแม่สอดนี้ ผมมองกระจกหลังเห็นรถคันนึงใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
เลยเข้าเลนซ้าย ตีไฟเลี้ยวซ้ายส่งสัญญาณให้แซงผมได้เลย
เป็น honda city ทะเบียน ตาก ดูไลน์การขับแล้วเชี่ยวชาญทางนี้มาก ขับได้เนียนๆเลย ดูเหมือนไม่เร็ว แต่เร็ว
ผมขับตามห่างๆ ไม่จี้ ไม่แซง แค่อยากดูไลน์ของรถเจ้าถิ่น และลองขับตามไลน์นั้น
ปรากฎว่าไลน์ที่เห็น honda city ไปได้เนียนๆ ส่วนรถผมเหวี่ยงไม่ไหว 555
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_5222e4d61e239c40ad14.jpeg)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_5223b3dff2c74dff26d5.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_52246cea17831dfa480f.jpeg)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_52259f727ecca2acbd19.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_52269dc94ea086116dbc.jpeg)
-
คืนนั้น ค้างที่ โรงแรมเซ็นทาราไลฟ์แม่สอด
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_52439346fbbc7d66a081.jpeg)
ออกมาแวะชมอ่างเก็บน้ำห้วยลึก ไม่ไกลจากตัวเมือง
และทานมื้อเย็นริมอ่างเก็บน้ำห้วยแม่สอด
มีชาวเมืองมาวิ่งออกกำลังกาย และมานั่งปิคนิคผ่อนคลายริมอ่างเก็บน้ำพอสมควร
จากตอนกลางวันที่ขับช่วงตาก-แม่สอด อุณหภูมิ 35.5 องศาเซลเซียส
พอพระอาทิตย์ตก อากาศเย็นลงเร็วมาก อุณหภูมิเหลือประมาณ 24 องศา
บรรยากาศดีมาก นั่งชิลๆ ดูคน ดูน้ำไปเพลินๆ
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_524405adc6520e251251.jpeg)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_52450a533deca16fd223.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_524629d3225c70faccf5.jpeg)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_5247ca228afa563a602b.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_524800f2aa97212fe94d.jpeg)
-
วันต่อมา 6 โมงเช้า อากาศหนาว 16 องศา
จากแม่สอดเดินทางขึ้นเหนือไปตามเส้น 105 เลียบชายแดน และแม่น้ำเมย
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_5254b2ffd63378e81f62.jpeg)
แวะเติมน้ำมันที่แม่ระมาด เต็มถัง
ซึ่งการขับในถังที่ผ่านมาก็คือ จากปั๊มกำแพงเพชร มาตาก และวิ่งข้ามเขา ตาก-แม่สอด
รวมถึงวิ่งในตัวเมืองแม่สอดเล็กน้อยตอนไปทานอาหารเย็นใช้ไฟฟ้าล้วน รวมแล้วใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 15 กม.
โหมดการขับขี่ช่วงอื่นก็คือ ปรับเอง Individual เครื่องยนต์เป็น Sport+ ให้เครื่องยนต์ติดต่อเนื่อง
ตอนเติมน้ำมันที่ปั๊มที่แม่ระมาด เลขกิโลอยู่ที่ 57,359 (ขับมา 196 กม. จากการเติมเต็มถังครั้งที่แล้ว)
จำนวนเงิน 600 บาท , น้ำมัน 18.399 ลิตร , gasohol95 32.61บาท/ลิตร
คำนวณอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงจากการเติมจริง ได้ 10.65 กม/ลิตร
อุณหภูมิภายนอกตอนอยู่ที่ปั๊ม ตอน 8 โมงครึ่ง ยังหนาวอยู่
แต่สูงกว่าตอนช่วง 6 โมงเช้านิดนึง คือ มาอยู่ที่ 19 องศา
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_4521a748818594b50dea.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_452218295a38e9dccba6.jpeg)
-
ออกจากปั๊มที่แม่ระมาดมาได้ 83 กม. ประมาณชั่วโมงครึ่ง
ก็แวะพักรถ พักคน ที่หมวดทางหลวงท่าสองยาง ชมวิวแม่น้ำเมย ฝั่งพม่า และจุดลงเรือข้ามแม่น้ำ
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_525573c7bf55e419c3c5.jpeg)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_447657fa06bfedc5a40f.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_44758c5446cb7160e8f4.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_4457cb497d7606ca1dec.jpeg)
ขับลัดเลาะ คดเคี้ยว ตามเส้น 105 เลียบชายแดน เลียบแม่น้ำเมย
เป็นทาง 2 เลนสวนกัน มีด่านความมั่นคงเป็นระยะๆ
บนเส้น 105 ผมเริ่มเห็นมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์หลายกลุ่ม บางคันก็มาเดี่ยว ทั้งสวนมาและแซงผมขึ้นไป
ดูแล้วเส้น 105 นี้ น่าจะเป็นที่ชื่นชอบของผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์เช่นกัน
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_5292d3772821f28a7c3b.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_5299a73581c335ce7c45.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_53000c2514be4a0683e9.jpeg)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_5297dd59c00cd36313d0.jpeg)
-
มาจนถึงแม่สะเรียง ก็เติมน้ำมันอีกรอบ
ที่แม่สะเรียง ตอนนี้เที่ยงครึ่ง อุณหภูมิสูงขึ้นมาเป็น 27 องศาแล้ว
(กลางวันกับกลางคืนอุณหภูมิต่างกันได้เป็นสิบกว่าองศา ไม่เหมือนในกรุงเทพ ที่ต่างกันไม่มาก)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_52722d15cc9a5f8837a1.jpeg)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_5274552d9e3ef6159976.jpeg)
ตอนใช้รถในปั๊ม จะกดเป็น E-MODE ใช้ไฟฟ้าล้วน
แต่ระหว่างทางจากแม่ระมาดมาแม่สะเรียง ยัง set ให้เครื่องเป็น Sport+
ให้เครื่องติดต่อเนื่อง และคารอบไว้สูงหน่อย เพราะเป็นทางคดเคี้ยวขึ้นลงเขา
จะได้ใช้ประโยชน์จากรอบที่สูงขึ้นในการเร่งขึ้นเนิน และในการใช้ engine brake ในการลงเนิน
ซึ่งลักษณะการขับของผมกับ C350e ช่วงทางบนเขา เหยียบอย่างมากประมาณครึ่งคันเร่ง
เพราะมีรอบกับเกียร์ต่ำช่วยอยู่ เลยไม่จำเป็นต้องกดลึก
ดูากหน้าจอ Energy flow ระหว่างขับ ก็เหมือนเดิม คือ เครื่องอยู่ใน mode Sport+ ถ้าเหยียบคันเร่ง ครึ่งคันเร่ง+-
- เครื่องยนต์ส่ง power ลงล้อล้วนๆ ไม่แบ่งส่วนนึงมาชาร์จแบตไฮบริด
- และแบตไฮบริดไม่ส่งกำลังมาช่วยขับเคลื่อนล้อ
- แบตไฮบริดได้รับการชาร์จเมื่อถอนคันเร่งหมดแล้วปล่อยให้รถไหลไปตามแรงเฉื่อย หรือเมื่อเหยียบเบรก
ระดับแบตไฮบริดที่ปั๊มในแม่สะเรียงนี้จึงยังอยู่ที่ 99%
1% ที่หายไป ก็คือ ขับโหมดไฟฟ้าในปั๊ม+จอดเปิดแอร์รอคนซื้อของในปั๊ม
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_527027ae0d80430da5fd.jpeg)
-
From start คือ จากที่ start เครื่อง(ทั้งไฟฟ้าและน้ำมัน) วิ่งมาในวันนี้
จากโรงแรมที่แม่สอด มาถึงปั๊มที่แม่สะเรียง
ระยะทาง 230 กม.
ใช้เวลา 4 ชั่วโมง 47 นาที (เวลาเยอะเนื่องจากเป็นทางคดเคี้ยวตามเขา และเลาะเลียบชายแดน ไม่ใช่เส้นตรง)
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 9.1 ลิตร / 100 กิโลเมตร
ความเร็วเฉลี่ย 48 km/h
ใน 230 กม. นี้ เป็นการขับโดยเครื่องยนต์ไม่ติด 1 กม. (ช่วงออกจากโรงแรม)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_5271a92ff5db4daa07cd.jpeg)
มาดูปริมาณน้ำมันที่เติมจริงกันครับ
เลขกิโล 57,556
เติมน้ำมันไป 600 บาท
เป็นจำนวน 18.18 ลิตร
gasohol95 33.00บาท/ลิตร
ระยะทางจากปั๊มที่แม่ระมาด จนถึงปั๊มที่แม่สะเรียง 57,556-57,359 = 197 กม.
คิดเป็นอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 10.83 กม/ลิตร
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_527526b0ea336f84ba3d.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_527682372ecd5b68f740.jpeg)
-
ออกจากแม่สะเรียง ขับขึ้นเหนือไปตามเส้น 108 (105 มาบรรจบกับ 108 ที่แม่สะเรียง)
เส้นทางก็เป็นสองเลนสวน ลัดเลาะไปตามภูเขา แต่ 108 ไม่ได้เลียบชายแดน
(105 ช่วงก่อนมาเจอ 108 ก็เบี่ยงห่างออกจากชายแดนมาระยะนึงแล้ว)
ขับมาได้ประมาณ 1 ชั่วโมง ก็แวะทานมื้อกลางวันที่ จุดชมวิวแม่ลาหลวง
อากาศข้างนอกถ้ากลางแดดรู้สึกร้อน แต่ในเพิงเย็นสบายมาก
มีหลายคนมานั่งมานอนสั่งเครื่องดื่มมากินชิลๆในเพิง
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_53078e3e6255a8019e2b.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_448585895ca9d7e938e2.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_54689c4b7c72687850b6.jpeg)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_547031d5016b899687eb.jpeg)
-
ทานมื้อกลางวันเสร็จ ก็ขับต่อไปยังทุ่งบัวตอง ดอยแม่อูคอ
ช่วงที่ผมไป ดอกโรยไปประมาณนึงแล้ว แต่ก็ยังมีคนมาเที่ยวอยู่พอสมควร
เห็น mazda mx5 คันนึง ผมส่งรูปให้คนที่อยู่ในกลุ่ม mx5 ดู
เค้าบอกว่าเป็นรุ่นน้ำหนักเบา 990S (990 กิโลกรัม)
ผมคิดว่าขับรถเบา มาทางภูเขาแบบนี้ น่าจะสนุก
ไว้วันหลังผมจะหาโอกาสมาใหม่ด้วยรถที่เบากว่านี้ คราวที่แล้ว E38 คราวนี้ C350e หนักๆทั้งนั้น
แต่เท่าที่จำได้ ผมว่า E38 แม้จะคันใหญ่กว่า แต่ขับทางนี้สนุกกว่า C350e นะครับ
ไม่รู้ว่าเป็นปัจจัยด้านใดบ้าง , คราว E38 ก็นั่ง 3 คน ของเต็มคันเช่นกัน
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_531402766eac9b4fb887.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_54779de8e964caf1560a.jpeg)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_5478f6524d1cc0dad810.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_451816ffd2d579ebd14d.jpeg)
จากแม่อูคอ ก็ขับกลับลงทางเดิม คือ ขุนยวม
ตอนแพลนว่าจะเอา WRX STi ไป ผมกะจะขับต่อไปจากทุ่งบัวตอง ไปทางบ้านหนองเขียว แล้วลงทางแม่จ๋า
เท่าที่ศึกษาเส้นทางมา ดูคลิปดูรีวิวเส้นนี้มาประมาณนึง นี่ก็เป็นอีกเส้นที่อยากขับ
เพื่อนสมาชิกที่อยากขับเลยทุ่งบัวตอง ไปทางบ้านหนองเขียว แล้วลงไปบรรจบกับเส้น 108 ที่แม่จ๋า
ลองดูคลิป ดูรีวิวประกอบการพิจารณาก่อนนะครับ อย่าพึ่งปักหมุดแล้วไปเลย
แต่ครั้งนี้พาที่บ้านมาด้วย ถ้าจะต่อไปทางที่ว่า เดี๋ยวคนในรถจะตื่นเต้นเกินไป เลยขอลงทางเดิมก่อน
จากขุนยวมก็ขับไปพักที่แม่ฮ่องสอน
เสียดายว่าช่วงถนนนี้ (ขุนยวมไปแม่ฮ่องสอน) ซึ่งผมชอบที่สุดจากครั้งที่เอา E38 มา
คราวนี้เป็นการขับตอนกลางคืน มืดมิด มืดแบบมืดจริงๆ ไม่มีไฟถนน รถสวนน้อยมาก
ขับเลี้ยวไปเลี้ยวมา ซ้ายขวาซ้ายขวา คันเดียวกลางป่ากลางเขาไปยาวๆ ได้ฟีลไปอีกแบบ
พักที่ บีทู แม่ฮ่องสอน ไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลย เพราะมาถึงก็มืดแล้ว
-
เช้าวันรุ่งขึ้น ตีห้าครึ่ง อากาศที่โรงแรมอยู่ที่ 17.5 องศา
ขับออกไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ วัดพระธาตุดอยกองมู
อยู่ในโรงแรมใช้ E-MODE ไฟฟ้าล้วน เพราะตีห้าครึ่ง น่าจะยังหลับกันอยู่หลายห้อง
ดู range แล้วขับได้ 9 กม. ระยะทางจากโรงแรมไป วัดพระธาตุดอยกองมู 2.5 กม. แต่มีช่วงขึ้นเขา
คิดว่าน่าจะพอขับใช้ไฟฟ้าล้วนไปถึงได้อยู่ ปรากฎว่าไม่ได้ 555
เครื่องยนต์ติดขึ้นมาก่อนจะถึงแค่ประมาณ 100 เมตร
อากาศข้างบนวัดเย็นมาก บวกกับมีลม หนาวเลย มีคนขึ้นมาดูหมอกดูพระอาทิตย์ขึ้นประมาณ 20 คน
ต่างคนต่างทักทายกัน มาจากไหน ไปทางไหนต่อ แชร์ที่เที่ยวกัน
พูดกันถ้อยทีถ้อยอาศัย ดีทั้งบรรยากาศ ดีทั้งผู้คน
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_54895a8e45fbe959e49b.jpeg)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_4582f3bd94220de0fa26.jpeg)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_4584a0e45282594df542.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_5490c0f76dffd369474e.jpeg)
-
ดูพระอาทิตย์ขึ้น ดูหมอก ดูเมือง ทำบุญ ไหว้พระ เสร็จแล้วก็กลับมาเข้าโรงแรม
ซักพักนึงก็ออกมา check out เพื่อไปจุดหมายต่อไป บ้านรักไทย
แต่ก่อนจะไปบ้านรักไทย มาเติมน้ำมันกันก่อน เติมในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน เต็มถังเช่นเคย
น้ำมันถังที่ขับมา คือ จากแม่สะเรียง ขึ้นไปชมทุ่งบัวตองดอยแม่อูคอ และขับมาแม่ฮ่องสอน
เส้นทางก็คล้ายๆที่ผ่านมา คือ สองเลนสวนกัน คดเคี้ยวไปตามภูเขา
มีติดรถใหญ่ รถช้า ต้องรอจังหวะแซงบ้าง แต่ไม่เยอะ
Mode เครื่องยนต์ที่วิ่งมาก็เหมือนเดิม Sport+ เครื่องติดต่อเนื่อง
มีใช้ไฟฟ้าขับเคลื่อนแค่จากโรงแรมไปจนเกือบถึง วัดพระธาตุดอยกองมู
เกือบ 8 โมงเช้า อากาศยังเย็นอยู่ 16.5 องศา
เลขกิโล ณ ปั๊มที่แม่ฮ่องสอน อยู่ที่ 57,777
ระยะทางที่ขับมาจากปั๊มที่แล้วที่แม่สะเรียง คือ 57,777-57,556 = 221 กม.
เติมน้ำมันไป 730 บาท
จำนวน 21.95 ลิตร
gasohol95 33.25 บาท/ลิตร
คำนวณอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันจากการเติมจริงได้ 10.07 กม./ลิตร
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_5495a53ace8c4932e081.jpeg)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_549659025903061cc1fb.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_5497d2fb680b255bd517.jpeg)
-
ออกจากเมืองแม่ฮ่องสอน เดินทางไปทานมื้อเช้าที่บ้านรักไทย
บรรยากาศระหว่างทางจากแม่ฮ่องสอน ไปบ้านรักไทย
ปกติอยู่กรุงเทพ ปรับแอร์ในรถไว้ที่ 25 องศา
แต่ระหว่างทางจากแม่ฮ่องสอนไปบ้านรักไทย ปรับแอร์ไว้ที่ 23 ลมยังออกมาเป็นลมอุ่นจากฮีตเตอร์
เพราะอากาศข้างนอกอุณหภูมิน้อยกว่า 20 องศา
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_533817ad07456f87aca0.jpeg)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_5340482edcf978db191f.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_53411d058985a97509da.jpeg)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_5342bd974247664c0a0a.jpeg)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_55258d5b6811e7195de8.jpeg)
บ้านรักไทยเปลี่ยนไปจากที่เคยมาครั้งที่แล้วเยอะมากๆ
คราวก่อน ร้านค้าต่างๆมีอยู่แค่ฝั่งซ้ายของอ่างเก็บน้ำ (ฝั่งที่เจอตั้งแต่ขับรถเข้าหมู่บ้าน)
ครั้งที่แล้ว เหล่ารถที่มาเที่ยวก็มาจอดที่ฝั่งนี้ เลือกซื้อของ ทานอาหาร และขับย้อนกลับทางเดิม
แต่ครั้งที่แล้ว ผมขับอ้อมไปอีกฝั่ง เพราะอยากขับดูบรรยากาศรอบอ่างเก็บน้ำ
อีกฟากนึงแทบไม่มีร้านค้าอะไรเลย นักท่องเที่ยวก็ไม่มี มีรถผมขับอยู่คันเดียว
ส่วนวันที่ผมไปล่าสุด อีกฝั่งเปลี่ยนไปเยอะมากๆ มีร้านค้า มีที่พักขึ้นมาเยอะมาก
มีรถกอล์ฟพานั่งรอบอ่างเก็บน้ำ รถนักท่องเที่ยวก็ให้เดินรถทางเดียว
คือ ถ้าจะออกจากหมู่บ้าน ก็ต้องขับอ้อมไปอีกฝั่งของอ่างเก็บน้ำ แบบนี้ก็ดีเพราะจะได้มี traffic ไปอีกฝั่งด้วย
ไม่รู้ว่าให้เดินรถแบบนี้ทุกวันรึเปล่า (วันที่ผมไปเป็นวันพฤหัส)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_55274df732dfe3c90d99.jpeg)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_552838dd120c335dc3f1.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_498190b0c144f18a19c8.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_5530284fe7163fb6c5ea.jpeg)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_55313fd9ba46ce5e5b30.jpeg)
-
หลังจากทานมื้อเช้าที่บ้านรักไทย และเดินซื้อของ ก็ออกเดินทางต่อมาที่ปางอุ๋ง
คราวก่อนนอนที่ปางอุ๋ง ตื่นมาตอนเช้าไอหมอกขึ้นเหนือทะเลสาบสวยมาก
เส้นทางไปปางอุ๋ง หลังจากผ่านสามแยกที่ซ้ายไปปางอุ๋ง ขวาไปบ้านรักไทยแล้ว
หลายช่วงถนนแคบมาก เวลารถสวนกันต้องจอดแล้วค่อยๆไหลผ่านกัน
เรื่องแซงนี่ อย่าเลย ขนาดสวนยังลำบาก ค่อยๆตามกันไปดีกว่า
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_554142040afc5e1945ac.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_4619f2d40865535868e7.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_46204639f1db03ce0815.jpeg)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_5540e370e9abe92def94.jpeg)
-
หลังจากเดินเล่นในปางอุ๋งซักพักใหญ่ๆ จุดหมายต่อไปก็บ้านจ่าโบ่
ระหว่างทางไปบ้านจ่าโบ่ แวะชมน้ำตกผาเสื่อ
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_46338020348d6cb3eb15.jpeg)
เจ้าหน้าที่ที่น้ำตกผาเสื่อ แจ้งว่าสามารถใช้บัตรเข้าชมถ้ำปลาได้ด้วย เพราะเป็นอุทยานแห่งชาติเดียวกัน
หลังจากขับลงมาจากน้ำตกผาเสื่อซักพัก เจอถ้ำปลา ก็เลยแวะเข้าไปชม
พอวนมาจอดรถ เจอ mx5 คันที่เจอที่ทุ่งบัวตองอีกครั้ง
altis ดูเล็กแล้วเมื่อเทียบกับกระบะคันข้างๆ , แต่ mx5 พอมาเทียบกับ altis แล้ว mx5 ดูเล็กลงไปอีกมากๆ
ในใจผมยังคิดเหมือนเดิมว่า ขับคันเล็กๆ เบาๆ เส้นทางภูเขาแบบนี้ น่าจะสนุกนะ
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_5548afff1ca1438223b0.jpeg)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_55498ffeaf092e6388b3.jpeg)
ตอนจะออกจากถ้ำปลา เดินมาที่จอดรถ เห็นกลุ่ม big bike กำลังสตาทเครื่องเพื่อเดินทางต่อ
สตาทกันทีละคัน เรียงกันออกไป เสียงดังบึ่มๆๆๆ รถตัวเองเสียงเงียบ ขอมายืนฟังรถคนอื่นละกัน555
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_4634fdcd3e0716b5889e.jpeg)
-
ออกจากถ้ำปลา ขับมุ่งหน้าไปบ้านจ่าโบ่
ระหว่างทาง แวะชมวิวที่ จุดชมวิวลุกข้าวหลาม โค้งที่ 1,548 ตลาดมูเซอดำ
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_5569ab9baa882de673d8.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_463659c7db06c9ad8e1f.jpeg)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_5557b66eceef7b156b38.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_5570122802ee44ef5979.jpeg)
ไปบ้านจ่าโบ่ ใช้เส้น 1095 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปเส้น 1226 ,
ช่วงต้นๆของ 1226 นี้ ทางไม่ค่อยดี เป็นหลุมบ่อ ต้องค่อยๆไป
แวะทานมื้อกลางวันที่บ้านจ่าโบ่ จอดรถกันฝั่งตรงข้ามร้าน มีมัสแตงสีเหลืองมาจอดต่อท้าย เด่นสุดๆ
นึกถึงกระทู้ในบอร์ดนี้ที่เล่าว่าสาวๆจะขึ้นแต่มัสแตงสีแดงของเพื่อน
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_5562eb239dc1933a5375.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_55633ae5661d02efc6f0.jpeg)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_55646726a5cd790811f0.jpeg)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_55658920b731438b2e97.jpeg)
-
ออกจากบ้านจ่าโบ่ ขับมุ่งหน้าไปทางปาย
แวะชมวิวที่จุดชมวิวดอยกิ่วลม เป็นจุดชมวิวที่ใหญ่ รถแวะเยอะ
ปกติจุดชมวิวอื่นๆจะชมวิวฝั่งเดียว แต่ที่นี่ทำเป็นจุดชมวิวทั้งสองฝั่งถนน
เสร็จจากจุดนี้ ก็มุ่งหน้าเข้าปาย ไปชมพระอาทิตย์ตกดินที่ร้าน Two Huts Pai
ที่นี่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ นั่งชมวิวยามเย็น ชมพระอาทิตย์ตกดิน
ไม่ใช่ร้านแนวปาร์ตี้เสียงดนตรีดัง แต่เป็นร้านนั่งดื่มสบายๆ ดนตรีคลอเบาๆ
เกินกว่า 90% ของลูกค้าในร้านเป็นคนต่างชาติ
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_5576fdc54093653046a8.jpeg)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_5577dc7718e3cfbc80e1.jpeg)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_5578a57b42877cd5537c.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_5579c1e620ed809ef0e0.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_5580e9c4928ce951c8ed.jpeg)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_5374110a65db9219ffd1.jpeg)
คืนนี้พักในตัวเมืองปาย ที่ Ai Pai Hotel เพราะจะเห็นว่าใกล้ถนนคนเดินและมีที่จอดรถ
ไม่ได้ถ่ายตอนกลางคืน เพราะมาถึงโรงแรมมืดแล้ว แต่มีถ่ายเล็กน้อยตอนเช้า
ตัวโรงแรมห่างจากถนนคนเดิน 50 เมตร
หลังจากทานอาหารมื้อเย็นเสร็จ ก็ออกมาเที่ยวชมถนนคนเดิน และเข้าพักผ่อน
ภาพถนนในตัวเมืองปาย
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_53778f37f5735bdf0c24.jpeg)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_5378b110bef73e633c5a.jpeg)
-
เช้าวันต่อมา ทานมื้อเช้าที่โรงแรม เอาของขึ้นรถ และเติมน้ำมันในตัวเมืองปาย
พอมาดูรูปที่รอคิวเติมน้ำมัน ก็นึกได้ว่า ปั๊มนี้เป็นปั๊มแรกเลยที่ต้องต่อคิวเติม
ทุกการเติมน้ำมันที่ที่ผ่านมาในทริปนี้ สามารถขับเข้าหาหัวจ่ายที่ว่างได้ทันที
รวมถึงการเติมในปั๊มอื่นในทริปนี้ต่อจากนี้เช่นกัน ที่ไม่มีคิวรอเติม
เมืองท่องเที่ยว รถเยอะ ใช้น้ำมันกันเยอะ
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_4729bf2627440967d068.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_4726add353dd5cc266d9.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_4730b89c11b5a0ea1788.jpeg)
ตอนเติมน้ำมัน เวลาประมาณ 9 โมงครึ่ง อากาศยังเย็นอยู่ที่ 18 องศา
เติมครั้งนี้เลขกิโลอยู่ที่ 57,970 (193 กิโลเมตรจากการเติมครั้งก่อนที่แม่ฮ่องสอน)
ถังที่ผ่านมาเป็นการขับจากแม่ฮ่องสอน ไป บ้านรักไทย ปางอุ๋ง บ้านจ่าโบ่ two huts และเข้าตัวเมืองปาย
เติมไป 800 บาท
จำนวน 24.21 ลิตร
gasohol95 33.04 บาท/ลิตร
set ให้เครื่องยนต์เป็น Sport+ ให้เครื่องติดต่อเนื่องเช่นเคย
คำนวณเป็นอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงได้ 7.97 กม./ลิตร
เป็นอัตราสิ้นเปลืองที่สิ้นเปลืองมากกว่าถังอื่นๆ
ถังอื่นๆยังเห็นเลข 2 หลัก 1x.xx กม./ลิตร
ถังนี้ ตกลงมาเหลือ 7.97 กม./ลิตร เช้าใจว่าเพราะตอนไปบ้านรักไทยและปางอุ๋ง ทางแคบ
ติดรถใหญ่ ติดรถช้าเป็นระยะๆ ต้องคลานตามรถใหญ่ไปเป็นขบวน แซงไม่ได้
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_5592bab062eee9c60c88.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_5596bbc43af5a2040e35.jpeg)
-
หลังจากออกจากปั๊ม แวะไปชม พระพุทธโลกุตระมหามุนี ที่วัดพระธาตุแม่เย็น ไม่ไกลจากตัวเมือง
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_4733c26b0adf08e10bc4.jpeg)
ต่อจากนั้นไปน้ำพุร้อนโป่งเดือด จากเส้น 1095 เลี้ยวเข้าไปอีกประมาณ 6 กม.
ทางค่อนข้างแคบ จะสวนกันต้องจอดแล้วค่อยๆสวนกัน
จากที่ชำระเงินค่าเข้าอุทยาน ขับลึกเข้าไปอีกหน่อย มีที่จอดรถด้านใน
จากที่จอดรถ เดินไปน้ำพุร้อนประมาณ 400 เมตร บางช่วงมีขึ้นเป็นขั้นบันได แต่เทคอนกรีตให้ตลอด
ตรงที่จอดรถด้านใน มีทำเป็นสระให้ลงไปแช่น้ำร้อนได้หลายๆคน
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_560196d42e150e27b623.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_47442ec6ed7b02a77efd.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_560217f3ba1371535020.jpeg)
จากน้ำพุร้อนโป่งเดือด ขับออกมาตามเส้น 1095 มาซักพัก
แวะทานมื้อกลางวันที่ Good View Food & Coffee
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_560774ffa90397cacdb7.jpeg)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_56086a896d1687585aa8.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_4757450d66a06599a9ba.jpeg)
-
ทานมื้อกลางวันเสร็จ ยิงยาวๆไปที่เขื่อนแม่กวง และ สะพานแขวนเชื่อมใจ
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_5623131b61cd24e00537.jpeg)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_56245d591cf3ca1b684f.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_56253216b6b37de186e6.jpeg)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_5626c41b499687304ec9.jpeg)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_47795923f77b42166a47.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_5627a966f5f008c14d49.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_56284af3ff696cf23db8.jpeg)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_562960af5d7e9703cf2a.jpeg)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_563055443681465153a1.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_56312d27e380f1f76ba6.jpeg)
-
จากนั้นก็ขับไปค้างที่ลำปาง
วันถัดมา ระหว่างทางที่ขับกลับกรุงเทพ แวะเติมน้ำมันที่ตาก
เลขกิโลอยู่ที่ 58,449 (ขับมา 479 กม. จากการเติมน้ำมันล่าสุดที่ปาย)
ถังนี้เป็นการขับจากปายลงมาและแวะตามทาง วัดพระธาตุแม่เย็น น้ำพุร้อนโป่งเดือ เขื่อนแม่กวง สะพานแขวนเชื่อมใจ
ข้ามขุนตาล มาค้างลำปาง และมาแวะเติมน้ำมันที่ตาก
จากปาย ถึงลำปาง เครื่องเป็น Sport+
จากลำปางลงมา ปรับเครื่องเป็น Sport
เติมเต็มถัง 1,310 บาท
จำนวน 40.532 ลิตร
gasohol95 32.32 บาท/ลิตร
คำนวณอัตราสิ้นเปลืองจากการเติมจริงได้ 11.82 กม/ลิตร
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_5638e556037d650040a0.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_563998a5b6ec0b37b135.jpeg)
จากลำปางขับถึงกรุงเทพ เลือก mode การขับเป็น mode ที่เค้า set มาให้ คือ Sport
mode นี้ ถ้าเหยียบคันเร่งปกติ เหมือนเหยียบคันเร่งคันอื่นๆ เกียร์จะเปลี่ยนให้ที่ประมาณ 2500 รอบ
และเกียร์ขึ้น 6 และ 7 ให้ง่ายมาก , ความเร็วซัก 90 กม./ชม ก็ขึ้นเกียร์ 7 ให้แล้ว
(แต่ถ้าเป็น Sport+ จะคาไว้ที่เกียร์ 5 เพื่อให้มีรอบเครื่องเร่งได้ในทันที)
แต่ mode Sport นี้ เครื่องก็จะติดต่อเนื่องเช่นกัน
สรุปว่า สำหรับการเหยียบคันเร่งปกติ คือ อย่างมากครึ่งคันเร่ง จุดที่ Sport ต่างจาก Sport+ มีแค่ 2 อย่าง คือ
1 Sport เปลี่ยนเกียร์ให้ที่ 2500 รอบ , Sport+ เกียร์เปลี่ยนที่ 3000 รอบขึ้นไป
2 Sport ขึ้นให้ทุกเกียร์จนถีง 7 ขึ้นง่ายเหมือนรถปกติ ,
Sport+ คาไว้ให้ที่เกียร์ 5 , คา 5 รอนานมาก , จนรถมันแน่ใจจริงๆว่าเราไม่เร่งต่ออีก ถึงจะขึ้น 6 ให้
แต่ถ้ากดลึกกว่านี้ อาจจะมีความแตกต่างเพิ่มขึ้นจากกำลังไฟฟ้าจากแบตไฮบริดเข้ามาช่วยต่างกัน
ถึงบ้าน น้ำมันยังเหลือเกือบครึ่ง เลยไม่ได้เติมอีกที
ภาพด้านล่างนี้ คือ onboard computer แสดงข้อมูลการขับจากลำปางถึงบ้าน
ใช้โหมด Sport ขับ เวลารถโล่ง ตั้ง cruise control ที่ 115 กม./ชม
จากบางปะหันใช้เส้น 347 รถไม่ค่อยโล่ง ความเร็วตามๆกันมาได้ 80-90 กม/ชม
ขึ้นทางด่วนขั้น 2 รถติดแถวก่อนถึงแยกไปพระราม9 ยาวนานมาก
และมาติดอีกครั้งจากทางลงสีลมถึงบ้าน ยาวนานมากเช่นกัน
onboard computer แสดง
ระยะทาง 613 กม.
ใช้เวลา 8 ชั่วโมง 25 นาที
อัตราสิ้นเปลือง 6.9 ลิตร/ 100 กม. (14.49 กม./ลิตร)
ถ้าเทียบคร่าวๆจากที่เคยคำนวณในถังแรกว่า onboard แสดงค่าดีกว่าความเป็นจริง 6.83%
อัตราสิ้นเปลืองจริง ก็ได้ประมาณ 13.56 กม./ลิตร
ความเร็วเฉลี่ย 73 กม./ชม
ระยะทางที่ขับโดยเครื่องยนต์ไม่ติด 14 กม. (ช่วงติดบนทางด่วนขั้น 2 และช่วงสีลมถึงบ้าน)
ใช้เวลาเยอะ และความเร็วเฉลี่ยเท่านี้เพราะเวลาจอดรอคนในปั๊มจะใช้โหมดไฟฟ้า
เปิดแอร์ให้คนที่ทำอะไรเสร็จก่อนมานั่งรอในรถได้ รถเลยนับเวลา และความเร็วเป็น 0 เข้าไปเฉลี่ยด้วย
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_56402af8b973ae72f6aa.jpeg)
-
ภาพข้างล่างนี้ คือ สภาพยางหน้าทั้ง 2 ข้าง หลังจากพึ่งล้าง เพื่อเปรียบเทียบว่าจะมีรอยแตกปริอย่างใดหรือไม่
เลขกิโล หลังจากถึงบ้าน อยู่ที่ 58,885
ทริป loop แม่ฮ่องสอนนี้ ขับไป 58,885 - 56,809 = 2,076 กม.
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_564173c10dbf1a4cc762.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_5017ae1593ab63d978c5.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_5018c1d2804f5c8ca837.jpeg)
ด้วยระยะทางที่ไกล คดเคี้ยว ใช้เวลาขับนาน บวกกับมีสลอตวันว่างอยู่ไม่กี่วัน
เลยพักได้แค่เมืองละคืนเดียวเท่านั้น ถ้ามีเวลามากๆจะอยู่เมืองละหลายๆคืน
และยังไม่ได้แวะสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ในละแวกเส้นทางอีกเยอะมากๆ
มีหลายๆที่ ที่อยากแวะ แต่ข้อจำกัดด้านเวลาทำให้ต้องผ่านไป ไว้มีโอกาสค่อยไปใหม่
พูดถึงเส้นทางที่ชอบที่สุด หลายท่านก็ชอบเส้นทางที่ต่างกัน คนชอบโค้งก็ชอบโค้งที่ต่างกันไป
บางคนชอบโค้ง high speed , บางคนชอบโค้งหักศอก , บางคนชอบโค้งเปลี่ยนระดับความสูงเยอะๆ ฯลฯ
สำหรับทริปนี้ ผมชอบเส้นตากแม่สอดที่สุดครับ
ความเร็วในโค้ง องศาโค้ง การเปลี่ยนระดับความสูงขึ้นลง ฯลฯ อยู่ในช่วงที่ผมชอบพอดี
เสียดายว่าช่วงจากขุนยวมไปแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นช่วงที่ผมชอบที่สุดในคราวที่แล้ว
มาครั้งนี้ กว่าจะถึงช่วงตรงนี้ก็มืดแล้ว
ไว้คราวหน้า ถ้าไป loop แม่ฮ่องสอนอีกครั้งด้วยเส้นทางอื่น หรือด้วยรถคันอื่น หรือได้ขับไปที่อื่นๆ
ถ้ามีโอกาส และมีเวลาจะมารีวิวอีก
ขอขอบคุณทุกท่านที่อ่านกันมาถึงตรงนี้ครับ
-
นั่งอ่านจนจบครับ ดูแล้วทริปนี้ ความสุขน่าจะอยู่ที่การได้ขับรถกับทางโค้งนะเนี่ย ... ส่วนผู้โดยสารอีก 2 คนก็เป็นผลพลอยได้ไปคือได้เปลี่ยนบรรยากาศ
ปายผมเคยไปนะ แต่แนวเที่ยวผมคือแนวแค๊มปิ้งครับ กางเต้นท์ เส้นทางเลยต่างออกไป เบื่อเส้นทางไม่ได้ครับ เพราะเป้าหมายคือต้องไปลงเต้นท์จุดที่เราเคยพัก เพราะ การไปกางเต้นท์ในที่ๆเราไม่เคยไป มันเสี่ยงจะไม่มีที่ลงเอาครับ
โดยผมจะไปทาง อินทนนท์นั่นแหละครับ แต่พอถึงอินทนนท์ก็ลงเต้นท์สัก 1 คืน อีกวันค่อยไปต่อ จะเป็นแบบนี้ ขากลับ ก็กลับมาทางเดิม ลงเต้นท์ที่เดิม และก้กลับเลย มันอาจจะน่าเบื่อหน่อย แต่ครอบครัวชอบแบบนี้ครับ 5555 เน้นมีที่นอน
ทีนี้ฟิลลิ่งการขับรถทางเขา ผมเข้าใจนะ ผมก็ชอบ และกับรถมาสด้า3 ที่มันเหมือนสกดจิตตัวเองมาตลอดว่า ช่วงล่างฉัน เหนือกว่ารถญี่ปุ่นในตลาดทั้งหมดแล้ว (เป็นการสกดจิตตัวเองนะครับ55) ผมเลยชอบมั่นหน้ามั่นโหนกลองโค้งกับเค้าไปทั่ว แต่ก็จะไม่ค่อยได้ใส่แบบสุดฝีมือเท่าไร เพราะ ภรรยาในรถก็จะคอยเบรคตลอด ดึงหูหยิกแขน จนเราหมดอารมไปหลายที
ดังนั้น ผมคิดว่า ถ้าคุณ marvel ได้มีโอกาสมาคนเดียว ด้วยรถที่เราเลือกเช่น STI ผมว่า การเดินทางและความสนุกในโค้งจะมากกว่านี้อีกนะ ;D ;D ;D
-
นั่งอ่านจนจบครับ ดูแล้วทริปนี้ ความสุขน่าจะอยู่ที่การได้ขับรถกับทางโค้งนะเนี่ย ... ส่วนผู้โดยสารอีก 2 คนก็เป็นผลพลอยได้ไปคือได้เปลี่ยนบรรยากาศ
ปายผมเคยไปนะ แต่แนวเที่ยวผมคือแนวแค๊มปิ้งครับ กางเต้นท์ เส้นทางเลยต่างออกไป เบื่อเส้นทางไม่ได้ครับ เพราะเป้าหมายคือต้องไปลงเต้นท์จุดที่เราเคยพัก เพราะ การไปกางเต้นท์ในที่ๆเราไม่เคยไป มันเสี่ยงจะไม่มีที่ลงเอาครับ
โดยผมจะไปทาง อินทนนท์นั่นแหละครับ แต่พอถึงอินทนนท์ก็ลงเต้นท์สัก 1 คืน อีกวันค่อยไปต่อ จะเป็นแบบนี้ ขากลับ ก็กลับมาทางเดิม ลงเต้นท์ที่เดิม และก้กลับเลย มันอาจจะน่าเบื่อหน่อย แต่ครอบครัวชอบแบบนี้ครับ 5555 เน้นมีที่นอน
ทีนี้ฟิลลิ่งการขับรถทางเขา ผมเข้าใจนะ ผมก็ชอบ และกับรถมาสด้า3 ที่มันเหมือนสกดจิตตัวเองมาตลอดว่า ช่วงล่างฉัน เหนือกว่ารถญี่ปุ่นในตลาดทั้งหมดแล้ว (เป็นการสกดจิตตัวเองนะครับ55) ผมเลยชอบมั่นหน้ามั่นโหนกลองโค้งกับเค้าไปทั่ว แต่ก็จะไม่ค่อยได้ใส่แบบสุดฝีมือเท่าไร เพราะ ภรรยาในรถก็จะคอยเบรคตลอด ดึงหูหยิกแขน จนเราหมดอารมไปหลายที
ดังนั้น ผมคิดว่า ถ้าคุณ marvel ได้มีโอกาสมาคนเดียว ด้วยรถที่เราเลือกเช่น STI ผมว่า การเดินทางและความสนุกในโค้งจะมากกว่านี้อีกนะ ;D ;D ;D
ขอบคุณครับคุณ apinui
ผมชอบดู youtuber ไทยช่องท่องเที่ยว หลายช่องก็เป็นแนว camping ดูสนุก+เพลินดีครับ
ได้เส้นทางใหม่ๆ ได้สถานที่เที่ยวใหม่ๆจากช่องเหล่านี้เยอะเลยครับ
-
คนรีวิว ที่บอกว่า ทางนรก ในเพจนั้น ก็ผมเองแหละ 55+
เหลืออีกเส้น ที่น่าขับ สำหรับคนชอบโค้ง นะครับ นั่นคือ ปาย - อ.กัลยานิวัฒนา - สะเมิง
รถน้อย โค้งเยอะ ใช้ได้อยู่ครับ
ถนนเสียจะมี
1. ก่อนถึง สวนสนวัดจันทร์ หยอดๆไปหน่อย
2. ออกจาก วัดจันทร์ ไป ช่วงนี้เสียเยอะหน่อย หยอดไปเรื่อยๆ
อ้อ เส้นนี้ วิวสวยครับ มีจุดชมวิวอยู่ ถ้าเทศกาล หนีรถติดได้
ผมวิ่ง ปาย - วัดจันทร์ ตั้งแต่ สมัยใช้ Civic FD แต่ตอนนั้น ขากลับยังต้องกลับมาปาย
จน หลายปีก่อน วัดจันทร์ - สะเมิง ทำเสร็จ ก็วิ่งเส้นนั้นตลอด
ปล. ผมชอบนอน สวนสนวัดจันทร์ มันเหมือน safe zone ของผม เบื่อๆ เซ็งๆ ก็ขับรถไปนอนนั่น
-
คนรีวิว ที่บอกว่า ทางนรก ในเพจนั้น ก็ผมเองแหละ 55+
เหลืออีกเส้น ที่น่าขับ สำหรับคนชอบโค้ง นะครับ นั่นคือ ปาย - อ.กัลยานิวัฒนา - สะเมิง
รถน้อย โค้งเยอะ ใช้ได้อยู่ครับ
ถนนเสียจะมี
1. ก่อนถึง สวนสนวัดจันทร์ หยอดๆไปหน่อย
2. ออกจาก วัดจันทร์ ไป ช่วงนี้เสียเยอะหน่อย หยอดไปเรื่อยๆ
อ้อ เส้นนี้ วิวสวยครับ มีจุดชมวิวอยู่ ถ้าเทศกาล หนีรถติดได้
ผมวิ่ง ปาย - วัดจันทร์ ตั้งแต่ สมัยใช้ Civic FD แต่ตอนนั้น ขากลับยังต้องกลับมาปาย
จน หลายปีก่อน วัดจันทร์ - สะเมิง ทำเสร็จ ก็วิ่งเส้นนั้นตลอด
ปล. ผมชอบนอน สวนสนวัดจันทร์ มันเหมือน safe zone ของผม เบื่อๆ เซ็งๆ ก็ขับรถไปนอนนั่น
ขอบคุณครับคุณ Tien.W
เห็นคุณ Tien.W โพสแนะนำทางในเพจท่องเที่ยวแม่ฮ่องสอนก็จำได้ครับ
เพราะได้อ่านที่คุณ Tien.W โพสให้ความรู้ใน web อื่นมาตั้งแต่ก่อนมี web headlightmag
โชคดีที่เห็นโพสแนะนำทางนั้นก่อน ไม่อย่างนั้นอาจตัดสินใจขับไปเส้นที่ถนนไม่ดีนั้นแล้ว
เคยดูคลิปเมื่อหลายๆปีก่อน ตั้งแต่ยังไม่ได้ทำทาง
รู้สึกเส้นวัดจันทร์จะเป็นอีกเส้นที่เป็นที่นิยมของเหล่าออฟโร้ด
ได้เส้นทางใหม่มาอีกเส้นเก็บไว้ในลิสต์ สะเมิง-สวนสนวัดจันทร์-ปาย น่าสนใจมากๆครับ
ยิ่งวิวสวยยิ่งชอบมาก ไว้ต้องหาโอกาสไปขับในเส้นนี้
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_5660732a789bb46668c2.jpeg)