ส่วนเรื่อง ภาษีรถยนต์ในไทย และต่างประเทศ ผมว่าเราพูดกันมาหลายทีมาก จนหลังหลังนี่ผมไม่อยากจะตอบแล้ว
ผมเห็นด้วยกับคุณ Blur ว่าเราต้องดูทั้งโครงสร้าง เมืองไทยอะไรเป็นเศรษฐกิจหลักของประเทศ สภาพการแข่งขันเป็นอย่างไร
นโยบายทางเศรษฐกิจเป็นอย่างไร ของเหล่านี้ต้องนำมาประมวลร่วมกันแล้วมากำหนดภาษีต่างต่างครับ
รถยนต์ที่อเมริกาถูก แต่เวลาเข้า Maintenance หรือซ่อมเวลาเกิดอุบัติเหตุที ราคาแทบจะขายรถทิ้งแล้วซื้อใหม่กันเลย
เพื่อนรุ่นพี่ผม ขับ Accord ไปชนบน Freeway ฝากระโปรงโก่ง หม้อน้ำแตก ด้านหน้าพังแต่เครื่องไม่เป็นไร
ถ้าเป็นเมืองไทยก็คงซ่อมเซียงกงกลับมาได้ แต่ที่นี่ประเมินค่าซ่อมมา 8,000 เหรียญ เพราะค่าแรงแพง
นี่ยังไม่พูดไปถึงการประกันรถยนต์ การต่อทะเบียน การตรวจสภาพรถยนต์ ค่าจอดรถ ค่าภาษีในแต่ละเมือง ค่าผ่านทาง
ซึ่งทั้งหมดมันเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น เมื่อคุณนำรถออกไปวิ่ง ยกเว้นว่าจะซื้อรถแล้วยกล้อลอยจอดไว้ดูเล่นในโรงรถ
อย่างนั้นก็คงจะถูกกว่าจริงจริง
=================
ขอแก้ไขข้อมูลคุณ Blur นิดนึงนะครับ อเมริกาขายน้ำมันเป็น Gallon ดังนั้นที่ระดับ $4-$5 นี่หมายถึง 1 Gallon ครับ
หารออกมาแล้วถูกกว่าของประเทศไทยอยู่นิดหน่อย
Informal Factor ผมเห็นด้วยครับ แต่ราคา Maintenance ค่าจอด ค่าต่อทะเบียน ผมว่า มันก็เหมาะสมกับรายรับที่นั่นนะครับ ต้องยอมรับว่าค่าครองชีพที่ต่างประเทศสูงมาก แต่ต้องมองเรื่องรายรับด้วย ถ้าจะพูดกันจริงๆแล้ว ผมว่า ประเทศไทย เป็นประเทศที่ค่าครองชีพสูงมาก ถ้าเทียบกับมูลค่าของเงินกับสิ่งของ ค่าแรง 1 ชม.ขั้นต่ำผมให้เลย 40 ซื้อข้างแกง+น้ำ 35 บาท เหลือ 5 บาท ในทางกลับกัน ที่ต่างประเทศ ในที่นี้ ผมขอพูดถึงประเทศออสเตรเลีย เพราะผมเคยไปทำงานที่นั่นช่วงหนึ่ง ค่าแรงขั้นต่ำของคนในประเทศ (ย้ำว่าคนในประเทศ) คือ 25เหรียญ / ชม. , วันเสาร์ - อาทิตย์ *2 , วันหยุด *3 ข้าว1จาน+น้ำ 15เหรียญ เหลือ 10 เหรียญ ดังนั้น ต่อให้ค่า Maintenanceแพง แต่เค้าก็ได้รายรับ มากกว่าคนในประเทศไทยเยอะครับ ผมอยู่มาปีนึง เกบเงินได้มากกว่าอยู่ไทย2ปีอีกครับ >_<
Informal Sector ครับ ไม่ใช่ Informal Factor
ผมเห็นด้วยกับเรื่องอัตราส่วนรายได้ต่อค่าครองชีพครับ ว่าที่อเมริกาเหมาะสมกว่า แต่ว่านี่มันคนละประเด็นกับที่เราคุยกันอยู่
เรื่องการจัดเก็บภาษี การจัดตั้งอัตราภาษี แล้วก็วิธีการนำเข้าของ Grey Market ครับ
ถ้าจะให้พูดถึงเรื่องอัตราค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ ต้องคุยกันยาวครับ คุณเทียบกับออสเตรเลีย แล้วเศรษฐกิจของออสเตรเลียคืออะไรครับ
Competitive Advantage ของประเทศเค้า คือเรื่องแรงงาน เรื่องฐานการผลิต เรื่องคุณภาพแรงงาน หรือเงินลงทุนจากต่างประเทศแบบเราหรือเปล่า
ถ้าลองปรับเงินเดือนพนักงานขั้นต่ำให้สูงแบบอยู่กันสบายดูสิครับ ฐานการผลิตจากต่างชาติ ก็คงย้ายออกไปประเทศเพื่อนบ้านกันหมด
แล้วเราจะเอารายได้มาจากไหนครับ ขายข้าวขายผลไม้ที่ผลผลิตและราคา เป็นไปตามฤดูกาลอย่างเดียว เดี๋ยวนี้ฝนฟ้าอากาศก็ไม่เข้าร่องเข้ารอย
กำลังการผลิตก็ไม่แน่นอน สถานการณ์การเมืองก็ไม่แน่นอน รายได้จากการท่องเที่ยวก็ลดต่ำลง แล้วถ้าประเทศไม่มีเงินเข้ามาจากต่างชาติ
แล้วเราจะเอาเงินมาจากไหน พอรายได้รวมของประเทศลดลง รัฐก็ต้องจัดเก็บภาษีมากขึ้นเพื่อให้มีเงินไปหมุนเวียนในกิจการของประเทศ
ก็ยิ่งกลายเป็นข้าวยากหมากแพงหนักกว่าเดิมเข้าไปอีก ราคาสินค้าเพิ่มขึ้น คนตกงานเพิ่มขึ้น มี Gap ระหว่างคนจนกับคนรวยมากขึ้น
ผมว่าสังคมมันคงวุ่นวายกว่าที่เป็นอยู่อีกหลายเท่าครับ
ต้องลองอยู่ต่างประเทศแล้วใช้ชีวิตแบบคนประเทศนั้นดูครับ อย่าอยู่แบบทำงานเพื่อเก็บเงินกลับบ้าน
แล้วก็จะทราบว่า ถึงแม้ว่ารายได้กับรายจ่ายดูจะมีความสัมพันธ์กันมากกว่า แต่ก็ไม่ได้เหลือเงินเก็บมากมายอะไร
นี่คุณทำงานต่างประเทศ ได้เงินเป็น Australian Dollar แล้วกลับมาแลกเป็นเงินบาท มันก็ต้องเหลือเยอะกว่าแน่นอนครับ เทียบกันไม่ได้