ผู้เขียน หัวข้อ: ต่อยอดจาก เรื่อง ซื้อรถศูนย์ หรือ รถเกรย์  (อ่าน 6764 ครั้ง)

ออฟไลน์ keangac

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 184
ผมบอกก่อนเลยนะครับ ว่า เป็นกลาง เกรย์ นำเข้ามา โดยจ่ายภาษีไม่เต็มจริงครับ  แต่ ถ้ามองย้อนกลับไป ที่ราคาตลาดรถ ยุโรป กับ เมืองไทย  ขอบอกเลยว่า ทางรัฐบาลไทย ขูดรีดภาษีรถเกินไป   ในที่นี้ผมรวมทุกแบรนด์ในประเทศไทยเลยนะครับ ถ้าได้มีโอกาสไปเหนราคารถในตลาดยุโรป คุณจะตกใจมาก ราคารถ Honda , Toyota  ราคาถูกกันกว่าเกือบครึ่ง  ยิ่งรถทางฝั่งยุโรปไม่ต้องพูดถึง อภิมหาโหด ถ้าจำไม่ผิด Mini ไม่ถึงล้าน ดังนั้น ผมจึงคิดว่า มันเปนภาษีส่วนที่ทางรัฐบาลไม่ควรจะได้เยอะเกินควร   (ขอนอกเรื่องนิดนึง ที่ทางคุณ Jimmy บอกว่า สูญเสียไปเป็น พันล้าน  มันก็จริงครับ แต่ผมว่ามีทางอื่นที่รัฐบาลสูญเสียอีกเยอะครับ   พวก ร้านอาหาร  มีใครในที่นี้ กินเสร็จจ่ายเงิน เคยขอใบกำกับภาษีมั๊ยครับ ผมตอบแทนเลยว่า มีไม่ถึง 5% แล้วทางร้านอาหารหละครับ ยิ้มสิครับ ไม่เอาใบกำกับภาษี เค้าก็ไม่คิดในคอมพิวเตอร์  ส่วนจะเปนอย่างไรต่อไปนั้น ทุกคนน่าจะทราบกันดีนะครับ ว่าเปนยังงัย)  กลับมาที่รถครับ มันเปนตรรกะง่ายๆของโลกครับ  รถเหมือนกัน Optionเยอะกว่าด้วยซ้ำ แต่ราคาถูกกว่ากัน 5แสนถึงล้าน และศูนย์ใหญ่บางรายก็รับซ่อมรถเกรย์ ( MBT)
 ดังนั้น มันเป็นเรื่องธรรมดาครับที่คนส่วนใหญ่จะไปมองที่รถเกรย์ (เอาง่ายๆ สมมุติ มีคนเอา Swift  , Mirage เข้ามาในไทย แล้วราคา มันถูกกว่า 5หมื่น-แสน แต่Optionอาจจะมากกว่าหรือเท่ากัน คุณจะเลือกอะไรครับ อันนี้ก็ต้องกลับไปคิดเองนะครับ)  เพราะที่สุดแล้ว  ประโยคที่ว่า It's your Choice ก็จะเกิดขึ้นกับคุณครับ   ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ LimitedEdition

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,410
Re: ต่อยอดจาก เรื่อง ซื้อรถศูนย์ หรือ รถเกรย์
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: เมษายน 07, 2012, 09:38:04 »
ผมมองว่า เรื่องนี้คุยกันต่อในกระทู้เดิมก็ได้นี่ครับ ไม่เห็นจำเป็นจะต้องมาตั้งเป็นกระทู้ใหม่เลย

ส่วนเรื่องที่คุณเขียนมา มันก็จริงครับ เป็นการมองความจริงอีกข้างหนึ่ง
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะรัฐบาลจะขูดรีดภาษีประชาชนมากเกินไปหรือไม่อย่างไร
การเลี่ยงภาษีก็คือการกระทำที่ผิดกฎหมายครับ คงไม่สามารถพลิกให้เป็นถูกได้ไม่ว่าจะด้วยกรณีใดใด

ออฟไลน์ jimodz

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 32
    • อีเมล์
Re: ต่อยอดจาก เรื่อง ซื้อรถศูนย์ หรือ รถเกรย์
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: เมษายน 07, 2012, 09:59:11 »
ไม่ได้ดูกระทู้เก่าแต่
ราคารถเค้าอาจถูกกว่าเราครับ
แต่กว่าจะได้ ราคา on the road ของเค้าก็โดนอีกหลายอย่างนะ ครับ

ออฟไลน์ นายพรานจ๋าหมีมาแล้ว

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,874
  • เส้นขอบฟ้า
Re: ต่อยอดจาก เรื่อง ซื้อรถศูนย์ หรือ รถเกรย์
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: เมษายน 07, 2012, 10:10:44 »
ผมบอกก่อนเลยนะครับ ว่า เป็นกลาง เกรย์ นำเข้ามา โดยจ่ายภาษีไม่เต็มจริงครับ  แต่ ถ้ามองย้อนกลับไป ที่ราคาตลาดรถ ยุโรป กับ เมืองไทย  ขอบอกเลยว่า ทางรัฐบาลไทย ขูดรีดภาษีรถเกินไป   ในที่นี้ผมรวมทุกแบรนด์ในประเทศไทยเลยนะครับ ถ้าได้มีโอกาสไปเหนราคารถในตลาดยุโรป คุณจะตกใจมาก ราคารถ Honda , Toyota  ราคาถูกกันกว่าเกือบครึ่ง  ยิ่งรถทางฝั่งยุโรปไม่ต้องพูดถึง อภิมหาโหด ถ้าจำไม่ผิด Mini ไม่ถึงล้าน ดังนั้น ผมจึงคิดว่า มันเปนภาษีส่วนที่ทางรัฐบาลไม่ควรจะได้เยอะเกินควร   (ขอนอกเรื่องนิดนึง ที่ทางคุณ Jimmy บอกว่า สูญเสียไปเป็น พันล้าน  มันก็จริงครับ แต่ผมว่ามีทางอื่นที่รัฐบาลสูญเสียอีกเยอะครับ   พวก ร้านอาหาร  มีใครในที่นี้ กินเสร็จจ่ายเงิน เคยขอใบกำกับภาษีมั๊ยครับ ผมตอบแทนเลยว่า มีไม่ถึง 5% แล้วทางร้านอาหารหละครับ ยิ้มสิครับ ไม่เอาใบกำกับภาษี เค้าก็ไม่คิดในคอมพิวเตอร์  ส่วนจะเปนอย่างไรต่อไปนั้น ทุกคนน่าจะทราบกันดีนะครับ ว่าเปนยังงัย)  กลับมาที่รถครับ มันเปนตรรกะง่ายๆของโลกครับ  รถเหมือนกัน Optionเยอะกว่าด้วยซ้ำ แต่ราคาถูกกว่ากัน 5แสนถึงล้าน และศูนย์ใหญ่บางรายก็รับซ่อมรถเกรย์ ( MBT)
 ดังนั้น มันเป็นเรื่องธรรมดาครับที่คนส่วนใหญ่จะไปมองที่รถเกรย์ (เอาง่ายๆ สมมุติ มีคนเอา Swift  , Mirage เข้ามาในไทย แล้วราคา มันถูกกว่า 5หมื่น-แสน แต่Optionอาจจะมากกว่าหรือเท่ากัน คุณจะเลือกอะไรครับ อันนี้ก็ต้องกลับไปคิดเองนะครับ)  เพราะที่สุดแล้ว  ประโยคที่ว่า It's your Choice ก็จะเกิดขึ้นกับคุณครับ   ขอบคุณครับ


Like  ::)

ออฟไลน์ ArmMoTo

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 396
Re: ต่อยอดจาก เรื่อง ซื้อรถศูนย์ หรือ รถเกรย์
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: เมษายน 07, 2012, 10:17:28 »
ถึงราคารถของเค้าจะถูกกว่ามาก

แต่พวกประกัน พวกค่าจอดรถอะไรพวกนี้ แพงมหาโหดเลยนี่ครับ  :o

ปล. กฎหมายก็คือกฏหมายละเนอะ  :-\

ออฟไลน์ keangac

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 184
Re: ต่อยอดจาก เรื่อง ซื้อรถศูนย์ หรือ รถเกรย์
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: เมษายน 07, 2012, 10:29:40 »
ถูกครับ กฏหมาย ก็คือ กฏหมาย ผมไม่ได้บอกว่าผิด  แต่มันคือช่องทางของเค้า ที่จะจ่ายภาษีไม่เต็ม อย่างร้านอาหาร คนไม่เอาใบกำกับภาษี ก็เป็นช่องทางของร้านอาหาร ผมว่า เรื่องภาษี มันพูดยากนะครับ  เพราะถ้าดูกันจริงๆเนี่ย ของบางอย่างบ้านเรายังคงถูก เพราะ ไม่มีราคาต้นทุนที่เรียกว่า ภาษี (ป้าขายข้าวแกง  คนขายผักในตลาด ไม่มีครับ)

ส่วน เรื่อง ราคา กับ Option ก็อย่างที่บอกครับ           ใครคิดว่าซื้อศูนย์สบายใจ มันก็ถูก
                                                                           ใครคิดว่า ซื้อเกรย์ แล้วเอ่าส่วนต่าง ไปเป็นค่าซ่อมบำรุง มันก็ถูกอีก  ดังนั้น มันคือ   นานาจิตตังครับ อยู่ที่คนตัดสินใจมากกว่า

 ;D     

ออฟไลน์ eaowpj

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 610
Re: ต่อยอดจาก เรื่อง ซื้อรถศูนย์ หรือ รถเกรย์
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: เมษายน 07, 2012, 11:23:27 »
http://www.rd.go.th/publish/7060.0.html ผู้ประกอบการที่ไม่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม  จากตัวอย่างของคุณ ตามข้อ 1. เขาไม่มีหน้าที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มอยู่แล้วนี่ครับ เอามาเทียบกันไม่ได้หรอกครับ

1.ผู้ไม่มีหน้าที่เสีย 2.ผู้ที่มีหน้าที่เสียภาษีโดยเสียภาษีถูกต้อง 3.ผู้มีหน้าที่เสียภาษีแต่หาทางยกเว้นภาษีหรือลดหย่อนภาษี 4.ผู้มีหน้าที่เสียภาษีแต่เลี่ยงไม่เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ถูกต้อง กลุ่มเหล่านี้มันก็ต่างกันนะครับ กลุ่ม 1-2 ผมว่าเขารู้สึกสบายใจแต่กระเป๋าเบาหน่อย กลุ่ม 3 ก็รู้สึกสบายใจแต่ถ้ามีการตรวจสอบ มีเสียวเหมือนกัน แต่ถ้าแจ้งถูกต้องก็ไม่ต้องกังวลอะไร เหลือตังก์มากหน่อย กลุ่ม 4 เหลือตังก์มากสุด แต่กลัวการตรวจสอบมาก พวเกรย์น่าจะกลุ่ม 3 ส่วนใหญ่ผมว่าเขาเสียภาษีถูกต้องนะครับ ส่วนพวกจดประกอบน่าจะกลุ่ม 3-4

จริงอยู่ว่าภาษีมันเป็นกฎหมายเทคนิค เหมือนกฎหมายจราจร ป่าสงวน คนหลีกเลี่ยงไม่รู้สึกว่าผิดศีลธรรมเหมือน ความผิดต่อศีลธรรมเช่น การลักขโมย ฆ่าคนตาย ฉ้อโกง แต่ทำไมถ้าเราทำผิด เวลาเจอสรรพากรศุลกากรเราต้องกลัว เจอตำรวจจราจรเราต้องกลัวขนาดเจอจ่าเฉยเรายังตกใจเลย เจอเจ้าหน้าที่อุทยานเราต้องกลัว แสดงว่าเรารู้ว่ามันผิดนิครับ

เอาเป็นว่าจะซื้อเกรย์ถ้าเขาเสียภาษีถูกต้องไม่ว่าจะหาทางยกเว้นลดหย่อนอะไรก็ตาม ก็ตามสะดวกครับ แต่ถ้าเสียไม่ถูกต้องก็ตามสะดวกเหมือนกันครับ แต่มันไม่สบายใจครับ  :)


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 07, 2012, 11:28:31 โดย eaowpj »

ออฟไลน์ Blur

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 529
    • อีเมล์
Re: ต่อยอดจาก เรื่อง ซื้อรถศูนย์ หรือ รถเกรย์
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: เมษายน 07, 2012, 12:54:12 »
จะว่ารัฐบาลต้องดูโครงสร้างภาษีทั้งระบบครับ

เมกา รถถูก แต่น้ำมันตอนนี้ 5เหรียญนะครับ 150 บาทครับ

เอามั้ยครับ?

แล้วถ้าภาษีนำเข้าถูกๆ ก็คงไม่มีบริษํทไหนมาตั้งโรงงานผลิตในเมืองไทยหรอกครับ
ส่งออกมาขายง่ายกว่าครับ
พอทุกเจ้าเสียภาษีต่ำหมด ไม่ตั้งโรงงาน ราคาก็สูงกันอยู่ดีแหละครับ
เพราะไม่จำเป็นต้องขายถูก เนื่องจากขาดทุน เจ๊งก็กลับประเทศง่ายๆครับ

ภาษีถูกไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป
ยุคนายกอานัน ที่ลดภาษี เป็นไงครับ รถนำเข้ามากันเพียบครับ
สุดท้ายเจ๊งหนีกลับประเทศ ปล่อยคนใช้โดนลอยแพ

ภาษีต้องดูภาพรวมทั้งระบบครับ ไม่ใช่อย่างใดอย่างหนึ่ง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 07, 2012, 13:00:19 โดย Blur »

ออฟไลน์ LimitedEdition

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,410
Re: ต่อยอดจาก เรื่อง ซื้อรถศูนย์ หรือ รถเกรย์
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: เมษายน 07, 2012, 14:00:11 »
ถ้าคุณนิยามคำว่า "จ่ายภาษีไม่เต็ม" คือ การลดหย่อนภาษี
ใช้วิธีการบริหารจัดการรายรับและรายจ่าย เพื่อให้มีภาระทางภาษีน้อยที่สุด
ผมก็โอเคครับ แบบนั้นไม่เรียกว่าผิดกฎหมาย และเป็นสิ่งที่หลายคนทำกัน

แต่ถ้าคุณนิยามว่าเป็นการเลี่ยงภาษีโดยใช้วิธีที่ไม่ถูกต้อง เช่น
ตีว่าเป็นรถมือสอง โดยการใช้ให้ไมล์วิ่งขึ้นไปแล้ว หรือโปรแกรมไมล์เข้าไปใหม่
แบบนี้ยังไงก็ผิดกฎหมาย เข้าใจนะครับ?

ดังนั้น ไม่ว่าจะขายข้าวแกงหรือว่าอสังหาริมทรัพย์ เลี่ยงภาษีก็ผิดทั้งนั้น

จริงจริงแล้ว เรื่องขายข้าวแกง ขายของในตลาด มันเป็นเรื่องอีกมุมนึงเลยด้วยซ้ำ
พวก Informal sector แบบที่ไม่มีระบบบันทึกรายได้ที่แน่นอน ไม่ได้เป็นรูปแบบบริษัท
แบบนี้มีปัญหาทุกประเทศครับ และเป็นเรื่องปกติที่รัฐไม่สามารถจัดเก็บภาษีจาก Informal sector กลุ่มนี้ได้ 100%
เพราะมันไม่มีโครงสร้าง ไม่มีรูปร่าง ไม่มี Entity ที่จับต้องได้ และถ้าคิดตามมูลค่าที่สูญเสียไปแล้ว
มันเป็นส่วนน้อยเมื่อเทียบกับ รายได้ที่เกิดจากบริษัท ห้าง ร้าน ใหญ่ใหญ่ ดังนั้น เอาเวลาสร้างระบบให้ informal sector
ไปจัดการกวดขันการจ่ายภาษีกับบริษัทใหญ่ให้เรียบร้อยดีกว่า ได้เงินเข้าเต็มเม็ดเต็มหน่วยกว่า และได้ประโยชน์กว่า

ส่วนเรื่อง ภาษีรถยนต์ในไทย และต่างประเทศ ผมว่าเราพูดกันมาหลายทีมาก จนหลังหลังนี่ผมไม่อยากจะตอบแล้ว
ผมเห็นด้วยกับคุณ Blur ว่าเราต้องดูทั้งโครงสร้าง เมืองไทยอะไรเป็นเศรษฐกิจหลักของประเทศ สภาพการแข่งขันเป็นอย่างไร
นโยบายทางเศรษฐกิจเป็นอย่างไร ของเหล่านี้ต้องนำมาประมวลร่วมกันแล้วมากำหนดภาษีต่างต่างครับ
รถยนต์ที่อเมริกาถูก แต่เวลาเข้า Maintenance หรือซ่อมเวลาเกิดอุบัติเหตุที ราคาแทบจะขายรถทิ้งแล้วซื้อใหม่กันเลย
เพื่อนรุ่นพี่ผม ขับ Accord ไปชนบน Freeway ฝากระโปรงโก่ง หม้อน้ำแตก ด้านหน้าพังแต่เครื่องไม่เป็นไร
ถ้าเป็นเมืองไทยก็คงซ่อมเซียงกงกลับมาได้ แต่ที่นี่ประเมินค่าซ่อมมา 8,000 เหรียญ เพราะค่าแรงแพง

นี่ยังไม่พูดไปถึงการประกันรถยนต์ การต่อทะเบียน การตรวจสภาพรถยนต์ ค่าจอดรถ ค่าภาษีในแต่ละเมือง ค่าผ่านทาง
ซึ่งทั้งหมดมันเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น เมื่อคุณนำรถออกไปวิ่ง ยกเว้นว่าจะซื้อรถแล้วยกล้อลอยจอดไว้ดูเล่นในโรงรถ
อย่างนั้นก็คงจะถูกกว่าจริงจริง

=================

ขอแก้ไขข้อมูลคุณ Blur นิดนึงนะครับ อเมริกาขายน้ำมันเป็น Gallon ดังนั้นที่ระดับ $4-$5 นี่หมายถึง 1 Gallon ครับ
หารออกมาแล้วถูกกว่าของประเทศไทยอยู่นิดหน่อย

ออฟไลน์ Blur

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 529
    • อีเมล์
Re: ต่อยอดจาก เรื่อง ซื้อรถศูนย์ หรือ รถเกรย์
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: เมษายน 07, 2012, 14:14:43 »
ขอบคุณครับ 55

ออฟไลน์ keangac

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 184
Re: ต่อยอดจาก เรื่อง ซื้อรถศูนย์ หรือ รถเกรย์
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: เมษายน 07, 2012, 16:44:41 »

ส่วนเรื่อง ภาษีรถยนต์ในไทย และต่างประเทศ ผมว่าเราพูดกันมาหลายทีมาก จนหลังหลังนี่ผมไม่อยากจะตอบแล้ว
ผมเห็นด้วยกับคุณ Blur ว่าเราต้องดูทั้งโครงสร้าง เมืองไทยอะไรเป็นเศรษฐกิจหลักของประเทศ สภาพการแข่งขันเป็นอย่างไร
นโยบายทางเศรษฐกิจเป็นอย่างไร ของเหล่านี้ต้องนำมาประมวลร่วมกันแล้วมากำหนดภาษีต่างต่างครับ
รถยนต์ที่อเมริกาถูก แต่เวลาเข้า Maintenance หรือซ่อมเวลาเกิดอุบัติเหตุที ราคาแทบจะขายรถทิ้งแล้วซื้อใหม่กันเลย
เพื่อนรุ่นพี่ผม ขับ Accord ไปชนบน Freeway ฝากระโปรงโก่ง หม้อน้ำแตก ด้านหน้าพังแต่เครื่องไม่เป็นไร
ถ้าเป็นเมืองไทยก็คงซ่อมเซียงกงกลับมาได้ แต่ที่นี่ประเมินค่าซ่อมมา 8,000 เหรียญ เพราะค่าแรงแพง

นี่ยังไม่พูดไปถึงการประกันรถยนต์ การต่อทะเบียน การตรวจสภาพรถยนต์ ค่าจอดรถ ค่าภาษีในแต่ละเมือง ค่าผ่านทาง
ซึ่งทั้งหมดมันเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น เมื่อคุณนำรถออกไปวิ่ง ยกเว้นว่าจะซื้อรถแล้วยกล้อลอยจอดไว้ดูเล่นในโรงรถ
อย่างนั้นก็คงจะถูกกว่าจริงจริง

=================

ขอแก้ไขข้อมูลคุณ Blur นิดนึงนะครับ อเมริกาขายน้ำมันเป็น Gallon ดังนั้นที่ระดับ $4-$5 นี่หมายถึง 1 Gallon ครับ
หารออกมาแล้วถูกกว่าของประเทศไทยอยู่นิดหน่อย

Informal Factor ผมเห็นด้วยครับ   แต่ราคา Maintenance ค่าจอด ค่าต่อทะเบียน ผมว่า มันก็เหมาะสมกับรายรับที่นั่นนะครับ  ต้องยอมรับว่าค่าครองชีพที่ต่างประเทศสูงมาก แต่ต้องมองเรื่องรายรับด้วย ถ้าจะพูดกันจริงๆแล้ว ผมว่า ประเทศไทย เป็นประเทศที่ค่าครองชีพสูงมาก ถ้าเทียบกับมูลค่าของเงินกับสิ่งของ      ค่าแรง 1 ชม.ขั้นต่ำผมให้เลย 40 ซื้อข้างแกง+น้ำ 35 บาท เหลือ 5 บาท ในทางกลับกัน ที่ต่างประเทศ ในที่นี้ ผมขอพูดถึงประเทศออสเตรเลีย เพราะผมเคยไปทำงานที่นั่นช่วงหนึ่ง ค่าแรงขั้นต่ำของคนในประเทศ (ย้ำว่าคนในประเทศ) คือ 25เหรียญ / ชม. ,  วันเสาร์ - อาทิตย์ *2  , วันหยุด *3            ข้าว1จาน+น้ำ  15เหรียญ  เหลือ 10 เหรียญ   ดังนั้น ต่อให้ค่า Maintenanceแพง แต่เค้าก็ได้รายรับ มากกว่าคนในประเทศไทยเยอะครับ  ผมอยู่มาปีนึง เกบเงินได้มากกว่าอยู่ไทย2ปีอีกครับ >_<

ออฟไลน์ pongisra

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,459
Re: ต่อยอดจาก เรื่อง ซื้อรถศูนย์ หรือ รถเกรย์
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: เมษายน 07, 2012, 17:38:47 »
จะว่ารัฐบาลต้องดูโครงสร้างภาษีทั้งระบบครับ

เมกา รถถูก แต่น้ำมันตอนนี้ 5เหรียญนะครับ 150 บาทครับ

เอามั้ยครับ?

แล้วถ้าภาษีนำเข้าถูกๆ ก็คงไม่มีบริษํทไหนมาตั้งโรงงานผลิตในเมืองไทยหรอกครับ
ส่งออกมาขายง่ายกว่าครับ
พอทุกเจ้าเสียภาษีต่ำหมด ไม่ตั้งโรงงาน ราคาก็สูงกันอยู่ดีแหละครับ
เพราะไม่จำเป็นต้องขายถูก เนื่องจากขาดทุน เจ๊งก็กลับประเทศง่ายๆครับ

ภาษีถูกไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป
ยุคนายกอานัน ที่ลดภาษี เป็นไงครับ รถนำเข้ามากันเพียบครับ
สุดท้ายเจ๊งหนีกลับประเทศ ปล่อยคนใช้โดนลอยแพ

ภาษีต้องดูภาพรวมทั้งระบบครับ ไม่ใช่อย่างใดอย่างหนึ่ง

5เหรียญ นี่ต่อ gallon นะครับ ราคาน้ำมันที่เมกาพอๆกับไทยครับ บางอย่างถูกกว่าด้วยซ้ำ

ออฟไลน์ ch>.<

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 102
Re: ต่อยอดจาก เรื่อง ซื้อรถศูนย์ หรือ รถเกรย์
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: เมษายน 07, 2012, 18:09:03 »

Informal Factor ผมเห็นด้วยครับ   แต่ราคา Maintenance ค่าจอด ค่าต่อทะเบียน ผมว่า มันก็เหมาะสมกับรายรับที่นั่นนะครับ  ต้องยอมรับว่าค่าครองชีพที่ต่างประเทศสูงมาก แต่ต้องมองเรื่องรายรับด้วย ถ้าจะพูดกันจริงๆแล้ว ผมว่า ประเทศไทย เป็นประเทศที่ค่าครองชีพสูงมาก ถ้าเทียบกับมูลค่าของเงินกับสิ่งของ      ค่าแรง 1 ชม.ขั้นต่ำผมให้เลย 40 ซื้อข้างแกง+น้ำ 35 บาท เหลือ 5 บาท ในทางกลับกัน ที่ต่างประเทศ ในที่นี้ ผมขอพูดถึงประเทศออสเตรเลีย เพราะผมเคยไปทำงานที่นั่นช่วงหนึ่ง ค่าแรงขั้นต่ำของคนในประเทศ (ย้ำว่าคนในประเทศ) คือ 25เหรียญ / ชม. ,  วันเสาร์ - อาทิตย์ *2  , วันหยุด *3            ข้าว1จาน+น้ำ  15เหรียญ  เหลือ 10 เหรียญ   ดังนั้น ต่อให้ค่า Maintenanceแพง แต่เค้าก็ได้รายรับ มากกว่าคนในประเทศไทยเยอะครับ  ผมอยู่มาปีนึง เกบเงินได้มากกว่าอยู่ไทย2ปีอีกครับ >_<

ผมว่ามันดูนอกประเด็นไปนะครับ รายได้ก็ส่วนรายได้ ราคารถก็ส่วนราคารถครับ
แล้วก็การจ่ายภาษีไม่เต็มของgrey นี้มันคนละกรณีกับเลี่ยงภาษีนะครับ มันคือการบิดเบือนความจริงเกี่ยวกับการนำเข้าหรือจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่รัฐเพื่อช่วยในการบิดเบือนการเก็บภาษี พูดง่ายๆมันผิดกฏหมายเต็มๆครับ

บ้านเราเก็บภาษีแพงผมว่าถูกต้องแล้วครับ รถยนต์จัดเป็นสินค้าฟุ้มเฟือยถ้ายังเก็บภาษีถูกคงขาดดุลกระจุยกระจายแน่นอน ที่ญี่ปุ่นค่าต่อทะเบียนรถอย่างcamryสิบปีซื้อคันใหม่ได้แน่นอนครับ เขาจึงขับ K-Car ซะส่วนมากเพราะต่อทะเบียนถูก ตอนคุณพ่อไปเรียนญี่ปุ่นซื้อรถมือสองที่โน้นค่าทะเบียนแพงกว่าราคารถครับ! เพราะก่อนจะได้ทะเบียนต้องตรวจ ตรอ.ให้ผ่านรวมทะเบียนก็เกือบแสนบาท! ไม่รวมค่าจอดรถนะครับเคยได้ยินว่ารถนอนแพงกว่าคนครับ =="
ส่วนเมืองไทยไม่ควรเอาอย่างเพราะรัฐจะเก็บภาษีได้ยากเย็นยิ่งกว่าเดิม เพื่อนผมพ่อเป็นดาบดำรวจซื้อกระบะสี่ประตูให้มันขับ ตอนนี้ทะเบียนหมดพ่อเขียนใบสั่งติดรถไว้แล้วก็ขับร่อนไปทั่วสบายๆไม่ต้องจ่ายสักบาท ผมละเซ็งแต่ก็ทำไรไม่ได้จะไปด่าพ่อล่อแม่มันให้เสียเพื่อนก็ใช่เรื่อง

grey คือ ผู้ขายรถที่ไม่ต้องลงทุนด้านการบำรุงรักษาและการบริการ และนำเอารายได้บางส่วนที่ควรเป็นของรัฐออกไปอย่างผิดกฏหมาย เพื่อกำไรในการขายที่เพิ่มขึ้น และราคาขายที่ต่ำลง
ผมเข้าใจคำว่าgreyแบบนี้ครับ

ออฟไลน์ eaowpj

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 610
Re: ต่อยอดจาก เรื่อง ซื้อรถศูนย์ หรือ รถเกรย์
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: เมษายน 07, 2012, 20:01:07 »
ู^^^^^ เลี่ยงภาษีเป็นคำกว้างนะครับ เป็นคำธรรมดาในข่าว ไม่ใช่คำตามกฎหมาย ความหมายของผมก็คือ ทำให้เสียภาษีไม่ถูกต้องหรือตรงตามกฎหมาย (search google คำว่า "เลี่ยงภาษี" เจอเรื่องรถด้วยและเรื่องอื่น ๆ อีกมากมาย) กินความรวมถึงการสำแดงเท็จ หรือให้สินบนเจ้าหน้าที่เพื่อไม่ให้ถูกตรวจสอบความจริงหรือถูกตรวจสอบแต่เสียภาษีในเกณฑ์ต่ำทั้งที่ต้องเสียในเกนฑ์ที่สูงกว่า ให้นักศึกษาไทยที่ไปศึกษาในต่างประเทศซื้อรถในต่างประเทศแล้วถือครองไว้..กี่ปีขึ้นไปแล้วนำเข้ามาขายโดยไม่ทำตามเงื่อนไขของกฎหมาย และอื่น ๆ อีกมากมาย แตกต่างในแง่วิธีการ  จากความเห็นของคุณ ผมก็เห็นด้วยนะครับเพราะตามข่าวก็เห็นอยู่มาก ยังไงผมว่าเกรย์ส่วนใหญ่เสียภาษีถูกต้องนะครับ แต่ถ้าจดประกอบนั่นแหละน่ากังวล
             ผมเห็นด้วยที่รถเป็นสินค้าฟุ่มเฟืิอย ยิ่งรถนำเข้าไม่มีส่วนสร้างรายได้เข้าไทยสักบาทเดียวควรเสียภาษีสูง เป็นกำแพงภาษี ผมว่าไม่แปลกนะครับ ประเทศเราส่งออกสินค้าเกษตร ต่างประเทศเขาก็มีกำแพงภาษีเหมือนกัน แม้เราจะเข้า WTO ก็ตาม ภาษีนำเข้าก็ต้องเป็นไปตามที่ WTO กำหนดเช่น โควต้า เว้นแต่ทำ FTA
            ค่าครองชีพเมื่อเทียบกับรายได้ถือว่าค่ากินอยู่เราสูง ที่เป็นอย่างนี้ผมว่าเป็นเพราะรายได้เราต่ำเสียมากกว่าครับ จริง ๆ ราคาอาหาร เราถูกมากถ้าเทียบกับออสเตรเลีย และอีกอย่างหนึ่ง (คนไทย) รายได้ต่ำแต่จะนำเข้ารถที่ไม่มีส่วนที่ำทำให้ประเทศไทยสร้างการจ้างงาน ก็เสียภาษีให้รัฐซะก็ดีเหมือนกัน ลดการขาดดุลยการค้า
            ผมว่าภาษีข้อไหนไม่เป็นไปแนวทางนโยบายรัฐ ล้าสมัย ก็ควรแก้ไข  :)
                 

ออฟไลน์ LimitedEdition

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,410
Re: ต่อยอดจาก เรื่อง ซื้อรถศูนย์ หรือ รถเกรย์
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: เมษายน 07, 2012, 20:46:24 »

ส่วนเรื่อง ภาษีรถยนต์ในไทย และต่างประเทศ ผมว่าเราพูดกันมาหลายทีมาก จนหลังหลังนี่ผมไม่อยากจะตอบแล้ว
ผมเห็นด้วยกับคุณ Blur ว่าเราต้องดูทั้งโครงสร้าง เมืองไทยอะไรเป็นเศรษฐกิจหลักของประเทศ สภาพการแข่งขันเป็นอย่างไร
นโยบายทางเศรษฐกิจเป็นอย่างไร ของเหล่านี้ต้องนำมาประมวลร่วมกันแล้วมากำหนดภาษีต่างต่างครับ
รถยนต์ที่อเมริกาถูก แต่เวลาเข้า Maintenance หรือซ่อมเวลาเกิดอุบัติเหตุที ราคาแทบจะขายรถทิ้งแล้วซื้อใหม่กันเลย
เพื่อนรุ่นพี่ผม ขับ Accord ไปชนบน Freeway ฝากระโปรงโก่ง หม้อน้ำแตก ด้านหน้าพังแต่เครื่องไม่เป็นไร
ถ้าเป็นเมืองไทยก็คงซ่อมเซียงกงกลับมาได้ แต่ที่นี่ประเมินค่าซ่อมมา 8,000 เหรียญ เพราะค่าแรงแพง

นี่ยังไม่พูดไปถึงการประกันรถยนต์ การต่อทะเบียน การตรวจสภาพรถยนต์ ค่าจอดรถ ค่าภาษีในแต่ละเมือง ค่าผ่านทาง
ซึ่งทั้งหมดมันเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น เมื่อคุณนำรถออกไปวิ่ง ยกเว้นว่าจะซื้อรถแล้วยกล้อลอยจอดไว้ดูเล่นในโรงรถ
อย่างนั้นก็คงจะถูกกว่าจริงจริง

=================

ขอแก้ไขข้อมูลคุณ Blur นิดนึงนะครับ อเมริกาขายน้ำมันเป็น Gallon ดังนั้นที่ระดับ $4-$5 นี่หมายถึง 1 Gallon ครับ
หารออกมาแล้วถูกกว่าของประเทศไทยอยู่นิดหน่อย

Informal Factor ผมเห็นด้วยครับ   แต่ราคา Maintenance ค่าจอด ค่าต่อทะเบียน ผมว่า มันก็เหมาะสมกับรายรับที่นั่นนะครับ  ต้องยอมรับว่าค่าครองชีพที่ต่างประเทศสูงมาก แต่ต้องมองเรื่องรายรับด้วย ถ้าจะพูดกันจริงๆแล้ว ผมว่า ประเทศไทย เป็นประเทศที่ค่าครองชีพสูงมาก ถ้าเทียบกับมูลค่าของเงินกับสิ่งของ      ค่าแรง 1 ชม.ขั้นต่ำผมให้เลย 40 ซื้อข้างแกง+น้ำ 35 บาท เหลือ 5 บาท ในทางกลับกัน ที่ต่างประเทศ ในที่นี้ ผมขอพูดถึงประเทศออสเตรเลีย เพราะผมเคยไปทำงานที่นั่นช่วงหนึ่ง ค่าแรงขั้นต่ำของคนในประเทศ (ย้ำว่าคนในประเทศ) คือ 25เหรียญ / ชม. ,  วันเสาร์ - อาทิตย์ *2  , วันหยุด *3            ข้าว1จาน+น้ำ  15เหรียญ  เหลือ 10 เหรียญ   ดังนั้น ต่อให้ค่า Maintenanceแพง แต่เค้าก็ได้รายรับ มากกว่าคนในประเทศไทยเยอะครับ  ผมอยู่มาปีนึง เกบเงินได้มากกว่าอยู่ไทย2ปีอีกครับ >_<

Informal Sector ครับ ไม่ใช่ Informal Factor

ผมเห็นด้วยกับเรื่องอัตราส่วนรายได้ต่อค่าครองชีพครับ ว่าที่อเมริกาเหมาะสมกว่า แต่ว่านี่มันคนละประเด็นกับที่เราคุยกันอยู่
เรื่องการจัดเก็บภาษี การจัดตั้งอัตราภาษี แล้วก็วิธีการนำเข้าของ Grey Market ครับ

ถ้าจะให้พูดถึงเรื่องอัตราค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ ต้องคุยกันยาวครับ คุณเทียบกับออสเตรเลีย แล้วเศรษฐกิจของออสเตรเลียคืออะไรครับ
Competitive Advantage ของประเทศเค้า คือเรื่องแรงงาน เรื่องฐานการผลิต เรื่องคุณภาพแรงงาน หรือเงินลงทุนจากต่างประเทศแบบเราหรือเปล่า
ถ้าลองปรับเงินเดือนพนักงานขั้นต่ำให้สูงแบบอยู่กันสบายดูสิครับ ฐานการผลิตจากต่างชาติ ก็คงย้ายออกไปประเทศเพื่อนบ้านกันหมด
แล้วเราจะเอารายได้มาจากไหนครับ ขายข้าวขายผลไม้ที่ผลผลิตและราคา เป็นไปตามฤดูกาลอย่างเดียว เดี๋ยวนี้ฝนฟ้าอากาศก็ไม่เข้าร่องเข้ารอย
กำลังการผลิตก็ไม่แน่นอน  สถานการณ์การเมืองก็ไม่แน่นอน รายได้จากการท่องเที่ยวก็ลดต่ำลง แล้วถ้าประเทศไม่มีเงินเข้ามาจากต่างชาติ
แล้วเราจะเอาเงินมาจากไหน พอรายได้รวมของประเทศลดลง รัฐก็ต้องจัดเก็บภาษีมากขึ้นเพื่อให้มีเงินไปหมุนเวียนในกิจการของประเทศ
ก็ยิ่งกลายเป็นข้าวยากหมากแพงหนักกว่าเดิมเข้าไปอีก ราคาสินค้าเพิ่มขึ้น คนตกงานเพิ่มขึ้น มี Gap ระหว่างคนจนกับคนรวยมากขึ้น
ผมว่าสังคมมันคงวุ่นวายกว่าที่เป็นอยู่อีกหลายเท่าครับ

ต้องลองอยู่ต่างประเทศแล้วใช้ชีวิตแบบคนประเทศนั้นดูครับ อย่าอยู่แบบทำงานเพื่อเก็บเงินกลับบ้าน
แล้วก็จะทราบว่า ถึงแม้ว่ารายได้กับรายจ่ายดูจะมีความสัมพันธ์กันมากกว่า แต่ก็ไม่ได้เหลือเงินเก็บมากมายอะไร
นี่คุณทำงานต่างประเทศ ได้เงินเป็น Australian Dollar แล้วกลับมาแลกเป็นเงินบาท มันก็ต้องเหลือเยอะกว่าแน่นอนครับ เทียบกันไม่ได้