1.ในความเป็นจริงแล้ว เคยมีการทดสอบแล้ว
ไม่ใช่แค่ผม แต่แม้แต่รายการ Mega Clever ก็ยังเคยทำเทปนี้ออกมาแล้ว
ผลสรุปก็คือ ขึ้นอยู่กับความเร็วที่ใช้ และรอบเครื่องยนต์
สมมติ ถ้าคุณเหยียบแช่ 2,500 รอบ/นาทีเท่ากัน นิ่งๆ สมองกลของเครื่องยนต์ จะคำนวน
และจ่ายน้ำมันเข้าไปเผาไหม้ อย่างต่อเนื่องเท่ากัน เหมาะสม ดังนั้น จะประหยัดน้ำมันมากกว่าครับ
แต่..ถ้าเร่ง แล้วถอน หากรอบเครื่องยนต์ไม่ได้สูงมากนัก แม้ว่าจะเร่งไปถึงแค่ 2,000 รอบ เท่ากัน
แต่จังหวะที่เร่งขึ้นไปถึง 2,500 รอบ/นาที นั้น สมองกลจะเรียนรู้ว่า คุณต้องการเร่งแล้วปล่อย
ดังนั้น เพื่อรักษาระดับความเร็วรถ สมองกลจะสั่งให้ฉีดจ่ายน้ำมันเพิ่มเข้าไป ในช่วงจาก
รอบเครื่องที่คุณใช้อยู่ เช่น สมมติ 1,500 รอบ/นาที ไปถึง 2,500 รอบ ให้มากขึ้นกว่าปกติ
นั่นละครับ สาเหตุที่จะทำให้วิธี เร่งแล้วปล่อย อาจทำให้กินน้ำมันเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ได้
2. ขับแบบนั้น ถ้าอยู่ในสนามแข่ง วันฝนไม่ตก พื้นแทร็กแห้ง ผิวแทร็กไม่ลื่น ทำได้ครับ
แต่สำหรับถนนในกรุงเทพ...หากไม่ชำนาญ ระวังนิดนึงครับ
อ่านโค้งข้างหน้าให้ขาด ว่าควรใช้ความเร็วเท่าไหร่ ถนนแต่ละสาย มีความเร็วจำกัดของมันอยู่
และคนขับรถที่ดีจะต้องรู้ด้วยประสบการณ์ของตัวเขาเอง เช่น ถนนเส้นนี้ ไม่ควรวิ่งเกิน 60
เผื่อมีตัวอะไรมาตัดหน้า เป็นต้น // โค้งนี้ รถคันข้างน้าเขาเลี้ยวเท่าไหร่ เราควรเลี้ยวแค่ไหน
ถอนคันเร่ง หน้าโค้ง หรือถ้าจะต้องเบรก ให้เบรกก่อนที่รถจะเริ่มเข้าโค้ง จนได้ความเร็วเหมาะสม
ตามต้องการ ก็เริ่มเลี้ยวพวงมาลัย ไปตามองศาที่ต้องการ เลี้ยงไว้นิ่งๆ ไม่ต้องไปทำแบบนักแข่ง
ที่พยายาม หักซ้ายทีขวาที เพื่อดันให้ล้อจิกโค้ง
อันนั้น เป้นเทคนิคที่จะใช้ได้เฉพาะกรณีที่คุณ เข้าโค้งมาด้วยความเร็วสูงไป และเบรกด้านหน้าโค้ง
ช่วยลดความเร็วลงมาได้ไม่มากนัก การทำเช่นนั้น เพื่อใชโยชน์จากแรงเสียดทานของยางคู่หน้า
ด้วยการ ขืนและผ่อน ๆ เพื่อให้รถผ่านออกจากโค้งได้อย่างปลอดภัย
อยู่กลางโค้งแล้ว คุณคงเริ่มปรับตัวกับโค้งได้แล้ว เลี้ยงพวงมาลัยให้นิ่ง เติมน้ำหนักคันเร่งลงไป
ได้อีกสักหน่อยนึง แล้วพารถออกจากโค้งไป ไม่ควรให้ถึงกับ Kick Down จน Torque Converter
เปลี่ยนเกียร์ลงต่ำให้ในโค้ง อันนั้น มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอันตรายได้ครับ
สำหรับทางโค้งบนถนนเมืองไทย เวลาเข้าโค้ง อย่าพยายามตัดเลน เพราะอาจมีรถคันอื่น
พยายามจะแซงคุณขึ้นมา ถ้าคุณไปตัดเลนเขา อันตรายอาจเกิดขึ้นได้