เท่าที่ได้ยินมา eco sport พึ่งเริ่มทดลองสายการผลิตที่โรงงานฟอร์ดระยองเมื่อ เดือนที่แล้วนี้เองครับ
ส่วนหนึ่งช้ากว่ากำหนดเพราะผู้ผลิตชิ้นส่วนจาก"อินเดีย"ส่งชิ้นส่วนไม่ได้ตามแผน
ชิ้นส่วนที่ส่งมาก็มีปัญหาบ้างเหมือนกัน เลยทำให้แผนช้ากว่ากำหนดไปอีก
หลายคนอาจจะกังวลว่ารถที่ผลิตมาพวกนี้จะไปไหน ขอบอกให้หายกังวลว่ารถที่ทดลองประกอบนี้
เมื่อประกอบเสร็จแล้วจะถูกส่งไป"ทำลาย"ครับ ดังนั้นไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะเอาไปขายให้คนทั่วไป
คาดว่าน่าจะขึ้นไลน์การผลิตเพื่อส่งขายได้ประมาณเดือนกันยายน แล้วเริ่มแนะนำผลิตภัณท์ได้ตุลาคม-พฤศจิกายน ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดอีก
ส่วนเรื่องเฟียสต้านั้น ตอนนี้ถ้าตัวเลขไม่ผิดพลาด ทั้งประเทศมียอดรถที่จอดใสต็อครอขายอยู่ประมาณ 8,000 - 12,000 คัน
อยู่ที่ดีลเลอร์ประมาณครึ่งหนึ่ง อยู่ที่ฟอร์ดอีกครึ่งหนึ่ง ซึ่งตัวเลขนี้ลดลงจากช่วงต้นไตรมาสสองลงมาแล้วจากเกือบ 20,000 คัน
ส่วนหนึ่งมีการย้ายไปส่งออก ทำให้สต็อคที่ฟอร์ดพอหายใจคล่องบ้าง
โดยปรกติโรงงานจะมีการคาดการณ์ยอดขายล่วงหน้า3-6เดือนเพื่อเตรียมสั่งชิ้นส่วนสำหรับการผลิต
โดยให้ดีลเลอร์ช่วยคาดการณ์ส่วนหนึ่งและรับคำสั่งซ์้อจากต่างประเทศอีกส่วนหนึ่ง
หลังจากนั้นเค้าจะมีค่าประมาณการณ์ที่บวกเพิ่มเข้าไปอีกตามสถานการณ์
การที่เฟียสต้าค้างสต็อคเยอะเนื่องจากเกิด "ดีมานด์เทียม" ขึ้นมา ทำให้หลายฝ่ายคาดการณ์ยอดขายผิดไปเยอะจากความเป็นจริง
ดังนั้นพอสต็อคเดิมยังปล่อยออกไม่ได้ แต่ยังไงโรงงานก็ต้องผลิตอกมาทุกวันเพื่อไม่ให้ efficiency ของตัวเองต่ำกว่าเป้าที่กำหนด
เพียงแต่อาจจะลดความเร็วในการผลิตลงมา
เช่น จากเดิมเคยผลิตได้ เดือนละ 3000 คัน ก็จะลงมาเหลือยอดต่ำสุดที่สามารถสร้างรายได้เลี้ยงให้โรงงานพออยู่ได้ อาจจะที่ีประมาณ 1500 คัน
ดังนั้นทุกเดือนก็จะมีรถออกมาเพิ่มในสต็อคเรื่อยๆ
รถทุกคันที่ผลิตมาจะต้องถูกบันทึกค่าใช้จ่ายที่เป็น "ดอกเบี้ย" ที่เกิดจากการลงทุน
โดยปรกติรถคันละ 1ล้านบาท ก็จะต้องเสียดอกเบี้ยประมาณวันละ 200 บาท
แล้วถ้ารถจอดอยู่ซัก 1เดือน ดอกเบี้ยก็กินกำไรไปแล้ว 6000 บาท โดยที่ยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย
แล้วถ้ามีรถจอดอยู่ซัก 5000 คัน จอดอยู่1เดือน แค่ค่าดอกเบี้ยก็ซัดไป 30,000,000 บาทแล้ว
โอ๊ว......... แม่เจ้าาาาาา