+++ อีโคคาร์เฟส 2 ต้อง 1,000 ซีซี คันละ 4- 4.5 แสนบาท พร้อมประเด็นนัวเนียพัลวัน+++

HOMY_DEMIO

ผมรวบรวมข่าว อีโคคาร์เฟส 2 ที่จะต้องมีความจุเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร
ราคาคันละ 4-4.5 แสนบาท จากสิทธิ์ภาษี 14%

-----------------------------

5 ค่ายรถเกาะติดอีโคคาร์ 2 คาดดันเครื่องยนต์ 1000 ซีซีราคา 4.5 แสนบูมตลาด

ผู้ผลิตอีโคคาร์เกาะติดนโยบาย ก.อุตฯ ดัน “อีโคคาร์ 2” บูมตลาดรถใหม่ เคาะเงื่อนไขลงทุนเร็วๆ นี้ คาดเป็นรถเล็กเครื่องยนต์ 1000ซีซีแนวโน้มราคา 4-4.5 แสนบาทต่อคันเท่ารถคันแรก ส.อ.ท.ออกโรงเตือนรัฐรอบคอบควรให้เวลา 5 รายเก่า 8 ปี ขณะที่ผู้ผลิตชิ้นส่วนฯ บุกพบ รมว.อุตฯ วันนี้ช่วยดูแลเอสเอ็มอีและชัดเจนอีโคคาร์ 2
       
       นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงโครงการรถยนต์ประหยัดพลังงานตามมาตรฐานสากลหรืออีโคคาร์ ที่กระทรวงอุตสาหกรรมกำลังศึกษาที่จะเปิดเป็นระยะที่ 2 ภายใน 1 เดือนนี้ว่า ขณะนี้ค่ายรถยนต์กำลังรอความชัดเจนจากรัฐบาล ซึ่งเบื้องต้นคาดว่ารถยนต์ที่เหมาะสมจะทำอีโคคาร์ 2 จะเป็นเครื่องยนต์ขนาด 1000 ซีซีที่ต่ำกว่าอีโคคาร์แรกที่มีขนาดไม่เกิน 1200 ซีซี ซึ่งจะทำให้มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่า 100 กรัมต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร และจะสอดรับกับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ที่คาดว่าจะอยู่ระดับประมาณ 14% ดังนั้นภาพรวมราคารถรุ่นนี้หากออกมาใหม่ราคาเฉลี่ยจะคล้ายกับรถยนต์คันแรกคือประมาณคันละ 4-4.5 แสนบาท
       
       อย่างไรก็ตาม นโยบายดังกล่าวหลักการนั้นถือเป็นนโยบายที่ดีแต่อยากให้ดำเนินนโยบายอย่างรอบคอบ ให้เวลาผู้ผลิต 5 รายเดิมที่ได้เข้ามาลงทุนผลิตรถอีโคคาร์อยู่แล้วก่อน 8 ปีหรืออีโคคาร์ 2 ควรเกิดในปี 2561 เนื่องจากการลงทุนระยะแรกได้กำหนดให้มีการผลิตอีโคคาร์ตั้งแต่ปีที่ 5 เป็นต้นไป แต่ละรายต้องมีการผลิตไม่ต่ำกว่า 1 แสนคันต่อปี
       
       “ค่ายรถ 5 รายที่ลงทุนอีโคคาร์เฟสแรกได้มีการเปิดขายรายแรกเมื่อ 3 ปีก่อนซึ่งก็เท่ากับเพิ่งเริ่มไป 3 ปีเอง และโตโยต้าจะเปิดในสิ้นปีนี้ ดังนั้นเมื่อมีการเปิดปีที่ 5 การผลิตก็จะต้องเป็นแสนคันต่อปี แต่ละรายก็ลงทุนสูงควรจะให้เวลาก่อนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและให้ความเป็นธรรมแก่นักลงทุน” นายศุภรัตน์กล่าว
       
       แหล่งข่าวกล่าวว่า ค่ายรถยนต์ 5 ค่าย ได้แก่ โตโยต้า ฮอนด้า นิสสัน มิตซูบิชิ และซูซูกิ ซึ่งได้รับส่งเสริมการลงทุนอีโคคาร์ลอตแรกไปแล้วนั้นไม่เห็นด้วยที่จะประกาศส่งเสริมปีนี้และสามารถขยายการลงทุนได้ทันทีปี 2557 เพราะกลัวเกรงว่าเงื่อนไขจะออกมาทำให้เกิดการเสียเปรียบโดยเฉพาะค่ายโตโยต้าที่เปิดตัวช้าสุด ขณะอีโคคาร์ 2 จะเอื้อให้ค่ายอื่นๆ เช่น ฟอร์ด มาสด้า ฯลฯ ลงมาเล่นตลาดรถเล็กได้มากขึ้น
       
       แหล่งข่าวจาก ส.อ.ท.กล่าวว่า วันนี้ (5 ส.ค.) สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทยและกลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ ส.อ.ท.จะเข้าพบกับนายประเสริฐ บุญชัยสุข รมว.อุตสาหกรรม เพื่อสอบถามถึงแนวทางการส่งเสริมการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ตามยุทธศาสตร์ใหม่ โดยเฉพาะต้องการให้บีโอไอดูแลผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยที่ขณะนี้ผู้ผลิตชิ้นส่วนจากญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในไทยมากและยังได้รับการส่งเสริมฯ จากบีโอไอทำให้อนาคตชิ้นส่วนของไทยจะอยู่ลำบาก จึงเห็นว่าการส่งเสริมฯ ควรจะพิจารณาเฉพาะกับชิ้นส่วนที่ไม่มีคนไทยผลิตเท่านั้น ขณะเดียวกันจะสอบถามถึงนโยบายอีโคคาร์ 2 ด้วย ซึ่งควรจะให้ความสำคัญต่อผู้ประกอบการไทยที่เป็นเอสเอ็มอีให้มากขึ้น


http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000096284




HOMY_DEMIO

เร่งสรุปเงื่อนไขลงทุนอีโคคาร์เฟส2

นายประเสริฐ  บุญชัยสุข  รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้นางอรรชกา  สีบุญเรือง  รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นหัวหน้าคณะทำงานพิจารณารายละเอียดการส่งเสริมการลงทุนผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล (อีโคคาร์) ระยะที่ 2  ร่วมกับสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ซึ่งจะพิจารณาเงื่อนไขและหลักเกณฑ์การส่งเสริมการลงทุน คาดว่า ได้ข้อสรุปภายใน 1 เดือน  และจะเร่งประกาศนโยบาย เพื่อให้ผู้ประอบการตัดสินใจลงทุน

นายอุดม  วงศ์วิวัฒน์ไชย  เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า หลังจากคณะทำงานพิจารณารายละเอียดส่งเสริมการลงทุนผลิตรถอีโคคาร์ระยะที่ 2 ได้ข้อสรุปแล้วจะเสนอคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนที่มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นประธานพิจารณากำหนดสิทธิประโยชน์  คาดว่า จะประกาศนโยบายส่งเสริมการลงทุนได้ภายในปี 56 และผู้ประกอบการสามารถขยายการลงทุนได้ในปี 57

สำหรับการกำหนดสิทธิประโยชน์อีโคคาร์ระยะที่ 2 ในส่วนของภาษีสรรพสามิตจะพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลังที่ปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่  จากระยะที่ 1 อยู่ที่ 17 % ซึ่งโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ของกระทรวงการคลังเป็นกรอบใหญ่ที่ใช้กับรถยนต์ทุกประเภท  แต่สิทธิประโยชน์ของอีโคคาร์ จะแยกออกมา เพราะภาครัฐต้องการส่งเสริมการลงทุนผลิตรถยนต์ประเภทนี้ให้เป็นโปรดักแชมเปี้ยน จึงต้องมีสิทธิประโยชน์อื่นเพิ่ม โดยมาตรการส่งเสริมการลงทุนนี้ จะช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมากขึ้น  และช่วยสนับสนุนให้การผลิตรถยนต์เป็นไปตามเป้าหมาย 3 ล้านคัน ภายในปี 60

รายงานข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า เงื่อนไขการขอรับส่งเสริมการลงทุนผลิตรถอีโคคาร์ระยะที่ 1 กำหนดให้บริษัทรถยนต์ต้องมีการผลิตจริง 100,000 คัน ภายใน 5 ปี  โดยอัตราการใช้น้ำมันต้องไม่เกิน 5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร การปล่อยก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ไม่เกิน 120 กรัม ต่อ กิโลเมตร  รวมทั้งผ่านมาตรฐานไอเสียระดับยูโร 4 หรือสูงกว่า และความปลอดภัยไม่น้อยกว่ามาตรฐานบังคับในยุโรป  และต้องมีการผลิตเครื่องยนต์ การผลิตระบบส่งกำลัง การผลิตชิ้นส่วนเครื่องยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ด้วย

http://www.dailynews.co.th/businesss/222156




HOMY_DEMIO

นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงโครงการรถยนต์ประหยัดพลังงานตามมาตรฐานสากล หรือ อีโคคาร์ ที่กระทรวงอุตสาหกรรมกำลังศึกษาเพื่อที่จะเปิดเป็นระยะ (เฟส) ที่ 2 ภายใน 1 เดือนนี้ ว่า ขณะนี้ค่ายรถยนต์ต่างๆกำลังรอความชัดเจนจากรัฐบาล ในเบื้องต้นคาดว่ารถยนต์ที่เหมาะสมจะทำอีโคคาร์ 2 จะเป็นเครื่องยนต์ขนาด 1,000 ซีซี ซึ่งต่ำกว่าอีโคคาร์เฟสแรก ที่มีขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 1,200 ซีซี

ทั้งนี้ จะทำให้มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์น้อยกว่า 100 กรัมต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร (กม.) และจะสอดรับกับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ที่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับประมาณ 14% ดังนั้นภาพรวมราคาของรถรุ่นนี้หากออกมาใหม่ ราคาเฉลี่ยจะคล้ายกับรถยนต์คันแรก คือประมาณคันละ 4-4.5 แสนบาท

สำหรับนโยบายดังกล่าวของรัฐบาล ในหลักการแล้ว ส.อ.ท.มองว่าถือเป็นนโยบายที่ดี แต่อย่างไรก็ตามอยากให้ดำเนินนโยบายอย่างรอบคอบ ให้เวลากับผู้ผลิต 5 รายเดิม ที่ได้เข้ามาลงทุนผลิตรถอีโคคาร์อยู่แล้วก่อน 8 ปี หรืออีโคคาร์ 2 ควรเกิดในปี 2561 เนื่องจากการลงทุนระยะแรกได้กำหนดให้มีการผลิตอีโคคาร์ตั้งแต่ปีที่ 5 เป็นต้นไป แต่ละรายต้องมีการผลิตไม่ต่ำกว่า 1 แสนคันต่อปี

“ค่ายรถ 5 ราย ที่ลงทุนผลิคอีโคคาร์ในเฟสแรก ได้มีการเปิดขายรายแรกเมื่อ 3 ปีก่อน ซึ่งก็เท่ากับเพิ่งเริ่มไป 3 ปีเอง และโตโยต้าจะเปิดในสิ้นปี 2556 นี้ ดังนั้นเมื่อมีการเปิดปีที่ 5 การผลิตก็จะต้องเป็นหลักแสนคันต่อปี แต่ละรายจะต้องลงทุนสูง ดังนั้นกระทรวงอุตสาหกรรมควรจะให้เวลากับค่ายรถก่อน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความเป็นธรรมต่อนักลงทุน”นายศุภรัตน์กล่าว

แหล่งข่าว กล่าวว่า ค่ายรถยนต์ 5 ค่าย ได้แก่ โตโยต้า ,ฮอนด้า ,นิสสัน ,มิตซูบิชิ และซูซูกิ ซึ่งได้รับส่งเสริมการลงทุนอีโคคาร์ในเฟสแรกไปแล้วนั้น ไม่เห็นด้วยที่จะประกาศส่งเสริมใหม่ในปี 2556 นี้ และสามารถขยายการลงทุนได้ทันทีปี 2557 เพราะเกรงว่าเงื่อนไขที่จะออกมาจะทำให้เกิดการเสียเปรียบ โดยเฉพาะค่ายโตโยต้าที่เปิดตัวอีโคคาร์ช้ากว่าค่ายรถยนต์อื่นๆ ขณะอีโคคาร์ 2 จะเอื้อให้ค่ายรถยนต์อื่นๆ เช่น ฟอร์ด และมาสด้า เป็นต้น เข้ามาลงทุนในตลาดรถเล็กได้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 5 สิงหาคม 2556 นี้ สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย และกลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ ส.อ.ท. จะเข้าพบนายประเสริฐ บุญชัยสุข รมว.อุตสาหกรรม เพื่อสอบถามถึงแนวทางการส่งเสริมการลงทุน ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ตามยุทธศาสตร์ใหม่ โดยเฉพาะต้องการให้ทางบีโอไอดูแลผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยมากขึ้น

โดยขณะนี้มีผู้ผลิตชิ้นส่วนจากญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น และยังได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอด้วย ทำให้อนาคตผู้ผลิตชิ้นส่วนของไทยจะอยู่อย่างลำบาก ดังนั้นการส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอ จึงควรจะพิจารณาเฉพาะกับชิ้นส่วนที่ไม่มีคนไทยผลิตเท่านั้น ขณะเดียวกันจะสอบถามถึงนโยบายอีโคคาร์ 2 ด้วย ซึ่งควรจะให้ความสำคัญกับผู้ประกอบการไทยที่เป็นเอสเอ็มอีให้มากขึ้น

http://www.naewna.com/business/62909




GreenG



ใช้ E85 ได้เหลือ 12% เองนะครับ ;)



top3245

...4-4.5 แสนบาท...    แสดงว่า เกียร์ธรรมดา 4 แสน เกียร์ออโต้ 4.5 แสน

ผมว่ามันก็ยังไม่ถูกนะ  จะดีกว่าถ้าอยู่ที่ 3 - 3.5 แสน คือ เอาแบบให้มันเป็น E-CO Car คันเล็กๆให้ใช้ในเมืองจริงๆ ไปเลย



uthen - bay

Re: +++ อีโคคาร์เฟส 2 ต้อง 1,000 ซีซี คันละ 4- 4.5 แสนบาท พร
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: สิงหาคม 05, 2013, 15:12:11 »
ผมรวบรวมข่าว อีโคคาร์เฟส 2 ที่จะต้องมีความจุเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร
ราคาคันละ 4-4.5 แสนบาท จากสิทธิ์ภาษี 14%

-----------------------------

5 ค่ายรถเกาะติดอีโคคาร์ 2 คาดดันเครื่องยนต์ 1000 ซีซีราคา 4.5 แสนบูมตลาด

ผู้ผลิตอีโคคาร์เกาะติดนโยบาย ก.อุตฯ ดัน “อีโคคาร์ 2” บูมตลาดรถใหม่ เคาะเงื่อนไขลงทุนเร็วๆ นี้ คาดเป็นรถเล็กเครื่องยนต์ 1000ซีซีแนวโน้มราคา 4-4.5 แสนบาทต่อคันเท่ารถคันแรก ส.อ.ท.ออกโรงเตือนรัฐรอบคอบควรให้เวลา 5 รายเก่า 8 ปี ขณะที่ผู้ผลิตชิ้นส่วนฯ บุกพบ รมว.อุตฯ วันนี้ช่วยดูแลเอสเอ็มอีและชัดเจนอีโคคาร์ 2
       
       นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงโครงการรถยนต์ประหยัดพลังงานตามมาตรฐานสากลหรืออีโคคาร์ ที่กระทรวงอุตสาหกรรมกำลังศึกษาที่จะเปิดเป็นระยะที่ 2 ภายใน 1 เดือนนี้ว่า ขณะนี้ค่ายรถยนต์กำลังรอความชัดเจนจากรัฐบาล ซึ่งเบื้องต้นคาดว่ารถยนต์ที่เหมาะสมจะทำอีโคคาร์ 2 จะเป็นเครื่องยนต์ขนาด 1000 ซีซีที่ต่ำกว่าอีโคคาร์แรกที่มีขนาดไม่เกิน 1200 ซีซี ซึ่งจะทำให้มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่า 100 กรัมต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร และจะสอดรับกับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ที่คาดว่าจะอยู่ระดับประมาณ 14% ดังนั้นภาพรวมราคารถรุ่นนี้หากออกมาใหม่ราคาเฉลี่ยจะคล้ายกับรถยนต์คันแรกคือประมาณคันละ 4-4.5 แสนบาท
       
       อย่างไรก็ตาม นโยบายดังกล่าวหลักการนั้นถือเป็นนโยบายที่ดีแต่อยากให้ดำเนินนโยบายอย่างรอบคอบ ให้เวลาผู้ผลิต 5 รายเดิมที่ได้เข้ามาลงทุนผลิตรถอีโคคาร์อยู่แล้วก่อน 8 ปีหรืออีโคคาร์ 2 ควรเกิดในปี 2561 เนื่องจากการลงทุนระยะแรกได้กำหนดให้มีการผลิตอีโคคาร์ตั้งแต่ปีที่ 5 เป็นต้นไป แต่ละรายต้องมีการผลิตไม่ต่ำกว่า 1 แสนคันต่อปี
       
       “ค่ายรถ 5 รายที่ลงทุนอีโคคาร์เฟสแรกได้มีการเปิดขายรายแรกเมื่อ 3 ปีก่อนซึ่งก็เท่ากับเพิ่งเริ่มไป 3 ปีเอง และโตโยต้าจะเปิดในสิ้นปีนี้ ดังนั้นเมื่อมีการเปิดปีที่ 5 การผลิตก็จะต้องเป็นแสนคันต่อปี แต่ละรายก็ลงทุนสูงควรจะให้เวลาก่อนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและให้ความเป็นธรรมแก่นักลงทุน” นายศุภรัตน์กล่าว
       
       แหล่งข่าวกล่าวว่า ค่ายรถยนต์ 5 ค่าย ได้แก่ โตโยต้า ฮอนด้า นิสสัน มิตซูบิชิ และซูซูกิ ซึ่งได้รับส่งเสริมการลงทุนอีโคคาร์ลอตแรกไปแล้วนั้นไม่เห็นด้วยที่จะประกาศส่งเสริมปีนี้และสามารถขยายการลงทุนได้ทันทีปี 2557 เพราะกลัวเกรงว่าเงื่อนไขจะออกมาทำให้เกิดการเสียเปรียบโดยเฉพาะค่ายโตโยต้าที่เปิดตัวช้าสุด ขณะอีโคคาร์ 2 จะเอื้อให้ค่ายอื่นๆ เช่น ฟอร์ด มาสด้า ฯลฯ ลงมาเล่นตลาดรถเล็กได้มากขึ้น
       
       แหล่งข่าวจาก ส.อ.ท.กล่าวว่า วันนี้ (5 ส.ค.) สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทยและกลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ ส.อ.ท.จะเข้าพบกับนายประเสริฐ บุญชัยสุข รมว.อุตสาหกรรม เพื่อสอบถามถึงแนวทางการส่งเสริมการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ตามยุทธศาสตร์ใหม่ โดยเฉพาะต้องการให้บีโอไอดูแลผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยที่ขณะนี้ผู้ผลิตชิ้นส่วนจากญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในไทยมากและยังได้รับการส่งเสริมฯ จากบีโอไอทำให้อนาคตชิ้นส่วนของไทยจะอยู่ลำบาก จึงเห็นว่าการส่งเสริมฯ ควรจะพิจารณาเฉพาะกับชิ้นส่วนที่ไม่มีคนไทยผลิตเท่านั้น ขณะเดียวกันจะสอบถามถึงนโยบายอีโคคาร์ 2 ด้วย ซึ่งควรจะให้ความสำคัญต่อผู้ประกอบการไทยที่เป็นเอสเอ็มอีให้มากขึ้น


http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000096284



กราบขอบคุณสำหรับข่าวสารนะครับท่าน

อ่านแล้วยังงงครับ  ตกลงรถอีโคคาร์เฟส 2 เครื่อง 1000 cc ราคา คันละ 4 - 4.5 แสนบาท

ทางนั้นเค้าเขียนข่าวผิดหรือเปล่าครับ เพราะราคาต่อคันมันน่าจะอยู่ที่ 1 - 1.5 แสนบาท  สูงสุดน่าจะอยู่ที่ 2 แสนบาท หรือไม่งั้นรุ่นท็อปสุดสำหรับเครื่องแบบ 1000 cc ก็ควรจะอยู่ที่ 3 แสนปลายๆ

ถ้าราคาต่อคัน ตั้ง 4 - 4.5  แสนบาทจริง  เป็นผม รถมันประหยัดนํ้ามันแค่ไหนก็ไม่ซื้อครับ ราคาระดับ 4 แสนกว่าๆแบบนี้ไปซื้อรถอีโคคาร์เครื่อง 1200 cc รุ่นกลางๆ ค่อนท็อปได้เลย แถมดีกว่าด้วย เรื่องประหยัดแน่นอน ว่ามันคงสู้แบบพวกเครื่อง 1000cc ไม่ได้ แต่สำหรับคนที่ต้องการรถที่สามารถใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันทั่วๆไปได้ ในงบที่จำกัด  ถ้าซื้อก็ต้องซื้อให้มันคุ้มค่าไปเลย ใช้ยาว  ( ยกเว้นว่าบ้านรวย หรือ มีพื้นที่จอดรถเยอะ สามารถหาซื้อรถได้หลากหลายแบบมาใช้งาน อันนั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง )
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 05, 2013, 15:52:09 โดย uthen - bay »



5thAvenue

เฟสนี้ ผมว่าขอเป็นรถคันที่สอง ใช้ขับเข้าเมือง จะเวิร์คมากเลยครับ ราคาเกียร์อัตโนมัติ 299,000 ไหวไหมครับ

เครื่อง 800 - 1000
3 ประตู และปัดหลัง (เข้าใจว่ารถ 3 ประตูขายยาก และต้นทุนสูง T .T)
เกียร์ CVT
ABS และถุงลมฝั่งคนขับ และโครงสร้างนิรภัย
กุญแจ Immo (ใส่รีโมทให้ตัวท๊อป)
กระจกไฟฟ้าแค่คู่หน้า (สวิตช์เอาไว้ตรงคันเกียร์ก็ได้ จะได้ไม่ต้องทำเยอะ)
คู่หลังมือหมุน หรือ ฝากระดกไปเลย
วิทยุ FM และ USB ลำโพง 2 ตัว
ประหยัดน้ำมันในเมือง เฉลี่ยเกิน 16 กม.ลิตร
นอกเมือง เอาซัก 30 ไปโลด
Flex Fuel
ไฟหน้า ฮาโลเจน ไฟท้ายหลอดไส้ธรรมดา
ล้อกระทะสีเงินเงา และดุมโครเมี่ยม
กระจกมองข้างสีดำ แต่มือจับทำสี
กระจกมองข้างปรับมือ (เอาก้านในรถนะ ขี้เกียจเปิดกระจก)

ห้ามถามว่า รถสมัยนี้ยังมีออพชั่นแค่นี้หรอ แหงล่ะ ก็ที่มันแพงไม่ใช่เพราะออพชั่นหรอ?

แฮปปี้ละ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 05, 2013, 15:28:57 โดย 5thAvenue »



NONT4477

ถ้ามาจริงน่าจะเป็น Suzuki Alto, Nissan Pixo
ECO car แท้ๆๆ ไม่มี B-car ตีตั๋วเด็ก
น่าใช้ดีครับ
Top Gear's Biggest FAN!!! (IN MY House)
I'm NAC1701  ^ ^



HOMY_DEMIO

ถ้ามาจริงน่าจะเป็น Suzuki Alto, Nissan Pixo
ECO car แท้ๆๆ ไม่มี B-car ตีตั๋วเด็ก
น่าใช้ดีครับ

Pixo จะหยุดผลิตที่อินเดียแล้วนะครับ
เพราะหมดสัญญากับซูซูกิ

และไม่แน่ใจว่านิสสันจะทำ A-car (ไม่ใช่ดัทสัน) เองหรือเปล่า


แต่กรณีของ suzuki ที่มาโวย ผมว่า alto 2014 คงใส่เครื่อง 1.2 แน่ ๆ
พอมีแผนนี้ออกมาเลยไม่พอใจ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 05, 2013, 15:38:20 โดย HOMY_DEMIO »



5thAvenue

สอบถามนะครับ โครงการ K-Car ในบ้านเรา มีสิทธิ์เป็นไปได้สูงไหมครับ

เห็นว่าญี่ปุ่นกำลังขยายตลาดออกนอกประเทศอยู่



HOMY_DEMIO

สอบถามนะครับ โครงการ K-Car ในบ้านเรา มีสิทธิ์เป็นไปได้สูงไหมครับ

เห็นว่าญี่ปุ่นกำลังขยายตลาดออกนอกประเทศอยู่

ต้องตามต่อไปเรื่อย ๆ
เพราะนโยบาย เคคาร์โกอินเตอร์ กับ อีโคคาร์ 1.0 ลิตร
เป็นจิ๊กซอว์ที่เพิ่งเริ่มครับ




grev

4แสน เครื่อง 1000 เจริญเถอะ แพงเว่อร์มาก
เริ่มต้นสัก 3แสนต้นกำลังสวยเลย
สำหรับคนที่เงินเดือนไม่เยอะแต่จำเป็นต้องใช้รถ



GreenG

อยากให้เป็น A-segment ขยายร่าง หลังคาสูง ฐานล้อสัก 2350-2400 ต้นๆ ยาวสัก 3.6-3.7 ม. ถ้ามีเก๋งด้วยจะดีมากครับ

ราคา ตัว top ไม่เกิน 4.5 แสนตัวล่างๆ 2 ปลายถึง 3 ต้นๆ



6162002

ถ้าเครื่อง 1ลิตร สี่แสนกว่า 

ผมก็ยังคงเลือก มาสด้า2 ตัวล่างสุด 5แสนแปด  อยู่ดี  -.-



bam v60

ส่วนตัวผมว่าน่าจะพอก่อนนะครับ สำหรับโครงการสนับสนุนให้ซื้อรถ น่าจะเอางบมาขยายโครงการขนส่งสาธารณะต่างๆ ดีกว่า เพราะแค่โครงการแรกนี่ก็เห็นผล ทำให้รถติด และปัญหาหนี้เน่า มลพิษ ตามมาเป็นพรวนเลย :'(



JONNY

ผมเชื่อว่ามันมาดึงยอดขายอีโค่ารได้เยอะเลยดูแล้วราคานี้
และราคารถมือสองก็จะตกต่ำลงอีก

ว่าไปแล้วฟอร์ดเข้าทางเลยนะมีเครื่องยนต1.0 turbro ที่มีสมรรถนะดี



Slipknot`




Tan Int


ถ้า Ford อารมณ์ขึ้น เอา Ka รุ่นถัดไป วาง 1.0EcoBoost มาจะเกิดอะไรขึ้น?
ผล: ไม่เกิดอะไร เพราะเป็นไปไม่ได้(หรือยาก)  :'(

ถ้ามีจริงๆมันก็ดีเหมือนกัน เพราะจะได้ประหยัดๆกันอีก คราวนี้ขอ 23-25 กม/ลิตร กับไอเสียต่ำกว่า 100 g/km ไหวมั้ยเนี่ย
แต่ถ้าให้ดี ดูแลรถเก่าหน่อยเถอะ ออกกฏหมายว่าติดแก๊สรัฐจ่ายครึ่งหนึ่ง หรือไม่ก็จูนติด E85 รัฐแจก 5 พันก็ว่าไป ทำไงก็ได้ให้ปล่อยไอเสียน้อยลง
ผมว่าเป็นทางออกที่ดีไม่แพ้กันเลย สำหรับคนที่งบไม่พอเปลี่ยนรถ
1994 Civic EH9 (4dr) VTi (Made in Japan)
1998 Civic EK 1.6VTi-E Special Edition
2011 Corolla Altis E CNG (Come back)



HOMY_DEMIO


ถ้า Ford อารมณ์ขึ้น เอา Ka รุ่นถัดไป วาง 1.0EcoBoost มาจะเกิดอะไรขึ้น?
ผล: ไม่เกิดอะไร เพราะเป็นไปไม่ได้(หรือยาก)  :'(

ถ้ามีจริงๆมันก็ดีเหมือนกัน เพราะจะได้ประหยัดๆกันอีก คราวนี้ขอ 23-25 กม/ลิตร กับไอเสียต่ำกว่า 100 g/km ไหวมั้ยเนี่ย
แต่ถ้าให้ดี ดูแลรถเก่าหน่อยเถอะ ออกกฏหมายว่าติดแก๊สรัฐจ่ายครึ่งหนึ่ง หรือไม่ก็จูนติด E85 รัฐแจก 5 พันก็ว่าไป ทำไงก็ได้ให้ปล่อยไอเสียน้อยลง
ผมว่าเป็นทางออกที่ดีไม่แพ้กันเลย สำหรับคนที่งบไม่พอเปลี่ยนรถ

แผนของ Ford Value-B คือตัดเทอร์โบทิ้งนะ เน้นฉีดตรง (แค่นี้หรูมากแล้วสำหรับตลาดเกิดใหม่)




GreenG


ถ้า Ford อารมณ์ขึ้น เอา Ka รุ่นถัดไป วาง 1.0EcoBoost มาจะเกิดอะไรขึ้น?
ผล: ไม่เกิดอะไร เพราะเป็นไปไม่ได้(หรือยาก)  :'(

ถ้ามีจริงๆมันก็ดีเหมือนกัน เพราะจะได้ประหยัดๆกันอีก คราวนี้ขอ 23-25 กม/ลิตร กับไอเสียต่ำกว่า 100 g/km ไหวมั้ยเนี่ย
แต่ถ้าให้ดี ดูแลรถเก่าหน่อยเถอะ ออกกฏหมายว่าติดแก๊สรัฐจ่ายครึ่งหนึ่ง หรือไม่ก็จูนติด E85 รัฐแจก 5 พันก็ว่าไป ทำไงก็ได้ให้ปล่อยไอเสียน้อยลง
ผมว่าเป็นทางออกที่ดีไม่แพ้กันเลย สำหรับคนที่งบไม่พอเปลี่ยนรถ

แผนของ Ford Value-B คือตัดเทอร์โบทิ้งนะ เน้นฉีดตรง (แค่นี้หรูมากแล้วสำหรับตลาดเกิดใหม่)



ฉีดตรงจะเหมาะกับบ้านเราไหมนะครับ เพราะว่าบ้านเรา ต้องเติม E85 ได้ด้วยนะครับ

น่าเป็นห่วงจัง

แต่ผมขอฉีดคู่พอครับ แบบนิสสัน



Volta

แต่ก่อนคงได้แต่ขำกับโครงการนี้ จะไหวเหรอ เครื่องแค่นั้น จะวิ่งออกหรือ เอามาก็ขายไม่ได้...บลาๆๆๆ

แต่พอมองราคาน้ำมันในปัจจุบัน รถผม Fiesta เต็มถัง ในเมืองได้เฉลี่ย 350 โล
รถเพื่อเป็นนิสันมาชร์ ได้ เกือบ 500 โล

ทำไห้ต้องเปลี่ยนมุมมองต่อรถ Eco car ใหม่เลยครับ ประหยัดมาก ถึงแม้ว่าพวกอตราเร่งจะด้อยกว่า
แต่มันก็ชดเชยด้วยเงินในกระเป๋าที่จ่ายไปน้อยกว่าด้วยเช่นกัน

ยิ่งถ้าเป็นกลุ่มคนที่มีรายได้ไม่มาก ยังไงพวกเขาก็คาดหวังกับความประหยัดน้ำมันเป็นหลักด้วย
อีกทั้งตลาดราคาที่ต่ำกว่า 4 แสน ก็ยังเปิดกว้าง

ค่ายไหนขยับตัวก่อนก็ได้เปรียบชิงยอดขายได้เยอะแน่ๆครับ
สวัสดีทุกๆคนครับ



IncarRus

เตรียมพบกับ,,, เครื่อง 1.0 Ecoboost + เกียร์ธรรมดา



kenno

ใจจริงไม่อยากให้รัฐแทงแซงเรื่องตลาดรถยนต์เท่าไรอยากให้เป็นไปตามกลไกลตลาดมากกว่าที่ผ่านมาแสดงให้เห็นแล้วว่ายิ่งแทรกแซงผมกระทบยิ่งมากทั้งเรื่อง
รถติด มลพิษ กระทบยอดตก Fake Demand หนี้เน่า
เอาเงินไปพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้มีประสิทธิภาพและไม่คอรับชั่นดีกว่าครับ



iKrit

เอา Focus 1.0 Ecoboost มาตีตั๋วเด็กเลย เอิ้กๆ

หรือเอาโครงการ N-One (Premium K-Car) มาต่อยอดเป็น โครงการ Eco-Car เฟส 2 ในไทยไปเลย หุหุ (อย่าทำดูถูกแบบ Brio อีกนะเฟ้ย  >:( )
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 06, 2013, 01:07:19 โดย iKrit »
"การไม่มีดราม่าเป็นลาภอันประเสริฐ"
แต่มนุษย์มาม่าบางคนก็ชอบเปิดประเด็นทุกที เอ้อ...แปลก



Nkn69

อยากได้ N one

N one เหมือนกัน

ถ้าได้มาจะแฮปปี้มาก  ;D ;D



ghia

อัตราสิ้นเปลืองไม่ต่ำกว่า 20 - 25 กม./ล.

รองรับ E85

ปล่อยมลพิษต่ำกว่า 100 มก./กม.

ถ้ามาตามนี้อาจจะต้องออกกฎอะไรมาเพิ่มอีกซักข้อเพื่อสร้างแต้มต่อให้กับ 5ยี่ห้อที่ขอก่อนหน้านี้

อาจจะให้ใช้การวัดอัตราความสิ้นเปลืองโดยใช้น้ำมัน E20 - E85 แทนใช้ เบนซินทั่วไปก็ได้ แค่นั้นก็ต้องเซ็ทให้เครื่องประหยัดกว่าปกติ 7- 25%  แล้วครับ


หลังจจากจบเรื่อง อีโค่คาร์เฟส2 แล้ว ยังมีเรื่องให้มันกันต่ออีกครับ


สเปครถกระบะใหม่บ้านเรา ที่ตอนนี้ติดเรื่องน้ำหนักรถที่ 1600 กก. ซึ่งตอนนี้ทุกยี่ห้อก็แทบจะหนักเกินกันอยู๋แล้ว

ยิ่งถ้าไฮลักซ์ตัวใหม่จะออก ยิ่งไม่น่ารอด

ตอนนี้เห็นว่าจะขอขยับไปเป็น 2.2 - 2.5 ตัน

เรื่องทุกอย่างทำมาหมดแล้ว เหลือแค่ว่าจะเข้า ครม. เมื่อไหร่เท่านั้นเอง
???????????? ??????????? ????????????????? ????????????????????? ??????????????????? ???????????????? ?????????????????????? ???????????????????? ???????????????? ???????????????? ????????????????? ??????????????????