ผมยอมรับว่าผมอิจฉาคนอินโด (อินเดีย) ที่ได้ใช้รถราคาถูกมาก เมื่อเทียบกับบ้านเรา อีกทั้งอินโดยังมีเกียร์ AT ด้วย
แต่มาคิดดูอีกที ถ้าผลิตในบ้านเรา ทั้งค่าแรง ค่าภาษีอันซับซ้อน (เก็บ Vat ท้องถิ่น สรรพสามิตและอื่นๆ ที่ไร้สาระ)
ยังไงต่อให้เอามา ก็คงไม่มีทางต่ำกว่า 3.5 แสนแน่ๆ
ผมมาคิดดู บ้านเราก็ยังมีข้อดี คือ อย่างน้อยสินค้าที่เราผลิต เราเน้น Global เน้นการส่งออกไปต่างประเทศ ดังนั้นการสร้างมาตราฐานสูงๆ เช่น ถุงลมข้าง ม่าน ESP co2 ต่ำกว่า 100 ก็น่าจะดีกว่า ผมว่าเฟส 2 คนบ้านเราคงซื้อกันแน่ๆ และส่งออกก็น่าจะพอไปได้ เพราะมันเป็นสินค้าสากล
ดีกว่าการไปชนกับอินโด ที่เขายอมลด spec ความปลอดภัย (ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะโครงสร้างความปลอดภัย) และมลพิษ แต่ไปเน้นราคา เน้นขายในประเทศเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งถ้าเราทำแบบเขา ก็คงไม่สามารถดึงดูดนักลงทุนได้เพราะ บ้านเราคนไม่ชอบรถแบบอินโด และค่าใช้จ่ายในการผลิตสูงกว่า ถ้าจำไม่ผิด ผมเคยเรียนในวิชาสาย Safety อินโดเขาค่อนข้างใช้แรงงานคนในการประกอบมาก(แบบเดียวกับอินเดีย) แต่บ้านเราใช้คนน้อยกว่า คุณภาพดีกว่า
อีกอย่าง ผมว่าถ้ารถราคาถูกมาขายมากเกินไปในบ้านเรา คนก็จะเปลี่ยนรถกันบ่อยขึ้น ราคามือสอง คงแย่ลงมากๆ ไม่สมดุล อย่างน้อย เฟส 2 ราคาคงไม่ถูกลง แต่ปลอดภัยขึ้น ประหยัดขึ้น ซึ่งน่าจะทำให้ ราคามือสอง ไม่ทรุดไปมากกว่านี้ แต่ถ้าทำรถราคาแบบ Green car มือสองคงเน่าหนัก
คิดอย่างไรกันครับ ขอความเห็นจากทุกท่านครับ ขอบคุณครับ