CX5 2.0SP VS CX5 2.2 2WD

wonder

CX5 2.0SP VS CX5 2.2 2WD
« เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2017, 20:31:15 »
2.0 SP AT (2WD)  1,530,000 บาท

2.2 XD AT (2WD)  1,560,000 บาท

เพิ่ม3หมื่น ได้เครื่องดีเซลที่ดูแล้วประหยัดพอๆกับเบนซิน2.0 แรงดีกว่า แต่ขาดระบบ i-ACTIVSENSE เป็นเพื่อนๆเลือกคันไหนครับ



Slipknot`

Re: CX5 2.0SP VS CX5 2.2 2WD
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2017, 20:42:51 »
ดีเซลประหยัดกว่าด้วยครับ
ใจอยากจะไป2.2แต่กลัวน้ำดัน เอาเบนซินดีกว่า



koboab

Re: CX5 2.0SP VS CX5 2.2 2WD
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2017, 20:50:10 »
ถ้าไม่เอารุ่นใหม่ตัวท๊อป ก็ไปเอารุ่นเก่าดีกว่า ส่วนลดเยอะดี  :P



@MIN

Re: CX5 2.0SP VS CX5 2.2 2WD
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2017, 20:56:28 »
2.2 XD ครับ   ดีเซลแรงบิด 450 nm  ขับสนุกมากๆ สั่งได้อย่างใจ , ประหยัดน้ำมันกว่าเยอะ
I have enough of making money. Now I want to make time.



Gine

Re: CX5 2.0SP VS CX5 2.2 2WD
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2017, 21:28:10 »
ถ้ารอได้ก็ดี รอดูคนซื้อดีเซลในรุ่นนี้ดูก่อน ว่าใช้แล้วยังมีปัญหาไหม



ToRo

Re: CX5 2.0SP VS CX5 2.2 2WD
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2017, 22:02:00 »
เอาชัวร์ก็เบนซิลครับ



zyber

Re: CX5 2.0SP VS CX5 2.2 2WD
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2017, 22:23:03 »
เชียร์ให้ซื้อเครื่องเบนซิลกันเยอะๆครับ
คนขับเครื่องดีเซลจะได้ดูไม่โหล
จากโฉมเก่า 2 ปีที่แล้ว เครื่องดีเซลตัว MC ยังไม่มีใครน้ำดันเลย
ปัญหาจะเกิดกับตัวแรกเก่อนไมเนอร์เป็นส่วนใหญ่
และวันนี้ทางมาสด้าได้เพิ่ม warranty เกี่ยวกับเครื่องยนต์ดีเซล ส่วนขับเคลื่อนไปอีก 6 ปีทุกคัน



Disk™

Re: CX5 2.0SP VS CX5 2.2 2WD
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2017, 23:06:53 »
เป็นผมไป Diesel ครับ น่าจะขับมันกว่าเยอะครับ
User Review : ฟิล์มเซรามิค SolarFX (รีวิวแรกของผมครับ)
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=53654.0

User Review : Remap ECU Toyota Fortuner ที่ ECU Thailand by RPT
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=71384.0



Devil13

Re: CX5 2.0SP VS CX5 2.2 2WD
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2017, 06:57:29 »
ชอบลองของใหม่ไปดีเซล
เน้นชัวร์เบนซินครับ

ถ้าเป็นผมเอาเบนซิน เน้นชัวร์ไม่อยากมีปัญหา ยิ่งขับไกลๆ ยิ่งห่วง สายชิว สตาทแล้วต้องไปได้ ปัญหาต้องไม่มี



V221

Re: CX5 2.0SP VS CX5 2.2 2WD
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2017, 08:03:51 »
ถ้าเป็นผมจะเลือกเบนซินเพราะส่วนตัวชอบออปชั่นครับ
BMW 750E M SPORT



Suriya 640

Re: CX5 2.0SP VS CX5 2.2 2WD
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2017, 08:25:24 »
ชอบดีเซล หรือ ออฟชั่นครับ ก้ต้องเลือก สักอย่างละครับ



TheZero

Re: CX5 2.0SP VS CX5 2.2 2WD
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2017, 10:33:11 »
ตามเม็นท์ บน ถ้า mazda ยังไม่แก้ปัญหา Diesel ให้จบ อย่าเสี่ยง มีปัญหามา มันไม่สนุก ทุกข์เปล่าๆ



dnu

Re: CX5 2.0SP VS CX5 2.2 2WD
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2017, 11:05:10 »
ผมขอแนะนำกลุ่มเฟสบุ๊ค Thai mazda cx5 help club ครับ มีคนใช้รถดีเซลที่เดือดร้อนจากปัญหาเครื่องพังเยอะเลย และรวมคนเบนซินที่เห็นใจชาวดีเซล ลองเข้าไปดูครับ แล้วคุณจะตัดช้อยมาสด้าดีเซลออกไปทันที

ปล.ผมใช้ CX5 ดีเซลรุ่นแรก ขยายประกันเครื่องให้ 6 ปี 180000 กม. แต่ไม่ตอบโจทย์ ขับไประแวงไปไม่มีควมสุขเลย คนที่เปลี่ยนเครื่องใช้เวลา 1-3 เดือน มีรถใช้แทนหรือไม่แล้วแต่ดวง ถ้าการพังของเครื่องลุกลามไปอย่างอื่นก็ลุ้นเองว่าต้องจ่ายเพิ่มมั้ย มีคนในกลุ่มได้เปลี่ยนเครื่องแต่ต้องจ่าค่าหัวฉีดเอง 5หมื่นกว่า



TORA

Re: CX5 2.0SP VS CX5 2.2 2WD
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2017, 11:19:12 »
อย่าไปดีเซลเลยครับ ค่าซ่อมโหดมากๆๆ รวบรวมใน Club มาให้ดูกันครับ
1. ขับได้ประมาณ 5 ปี 60,000 กม เปลี่ยนปั๊มแรงดันสูง รวมค่าแรง และชิ้นส่วนเล็กๆน้อยๆ 65,500 บาท
2. ใช้มา 3 ปี วิ่งไปประมาณ 6x,xxx ไฟรูปเครื่องโชว์ แล้วกระตุก เร่งไม่ขึ้น เลยจอดแล้วเรียกบริการฉุกเฉิน ยกเข้าศูนย์แถววิภาวดี   ศูนยฺ์แจ้ง เทอร์โบพัง แล้วชาร์ปมีปัญหา ประเมินค่าซ่อม อยู่ที่ 190,000 เทอร์โบลูกละ 140,000
3. เปลี่ยน แบต ตอนก่อนครบปี หมดไป 6 พันกว่า(แบตนอกประมาณ 3,500บาท)
4. ไฟรูปเครื่องยนต์โชว์ตลอดครับ ดีเซล 2.2ครับ วิ่ง 120000+ ทางศูนย์ถอดทำความสะอาด ตัว EGR ให้ ตอนนี้ใช้งานได้ตามปกติ รูปเครื่องยนต์ไม่ขึ้นแล้ว(หวังว่าจะเป็นอย่างนี้ไปตลอด) ทางศูนย์บอกว่ามันเป็นตัวกรองมลพิษ (ประมาณนั้น ผมเรียกไม่ถูก) ใช้ๆไปคราบเขม่ามันจับตัวกันมาก ทำให้เครืองทำงานได้ไม่เต็มที่ ไฟเลยโชว์

อันนี้แถม
ที่ผมเจอมากับตัวครับ ( cx5 ดีเซล)
1. กระจกมองข้าง ปรับไฟฟ้า  8,724.78 บาท(อะไหล่+ค่าบริการ+ภาษี)
2. สายพาน+ชุดลูกรอกสายพาน  8,827 บาท
3. ค่าแรงตรวจเช็ค I-stop กระพริบ  560 บาท
4. ค่าแรงตรวจเช็คความร้อนขึ้นสูง   560 บาท
(หมายเหตุ รายการที่ 3 กับ 4  เข้าศูนย์ครั้งเดียวกันแต่เช็ค 2 อย่าง)
คิดว่า แพง มั้ยครับ

แพงครับ ยังไงก็แพง บางทีผมแอบสงสัย นี่ผมกำลังขับรถยุโรปอยู่หรือ ทำไมราคาอะไหล่แพงขนาดนี้ ที่ผมรับทราบมานะครับ
1. ยางหุ้มเพลาขับ 6,730 บาท (ราคาร้านข้างนอก รับเปลี่ยนค่ายางหุ้มเพลา ตัวละ 800 บาท)
2. ซีลเพลาขับตัวใน 4,779 บาท
3. ลูกปืนล้อหน้า ตัวละ 14,000 บาท
5. มอเตอร์พัดลมหม้อน้ำ คู่ละ 14,796 บาท (เทียบกับของแท้ อัลติส ใส่กันได้พอดี ราคาตัวละไม่ถึงสองพัน)

ผมก็ใช้ MAZDA3 ตัวปัจจุบันอยู่นะ เห็น CX-5 ตัวใหม่อยากไปมาก แต่เห็นราคาอะไหล่แล้ว ขอกลับไปคิดใหม่ก่อนอะครับ



mongolias

Re: CX5 2.0SP VS CX5 2.2 2WD
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2017, 11:58:37 »
ในขณะที่ยังไม่แน่ใจว่าดีเซล แก้ปัญหาน้ำดันจบแล้วหรือยัง ผมจิ้มเบนซินไว้ก่อนครับ

ส่วนตัวออกตัวเบนซินรุ่นเก่ามา เท่าที่ใช้ก็ไม่ได้รู้สึกอืดอะไรมากมายอะไร มีแต่ช่วงเกียร์1 จะหน่วงๆหน่อยแค่นั้นครับ



wonder

Re: CX5 2.0SP VS CX5 2.2 2WD
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2017, 12:54:14 »
ในขณะที่ยังไม่แน่ใจว่าดีเซล แก้ปัญหาน้ำดันจบแล้วหรือยัง ผมจิ้มเบนซินไว้ก่อนครับ

ส่วนตัวออกตัวเบนซินรุ่นเก่ามา เท่าที่ใช้ก็ไม่ได้รู้สึกอืดอะไรมากมายอะไร มีแต่ช่วงเกียร์1 จะหน่วงๆหน่อยแค่นั้นครับ

กินน้ำมันเยอะไหมครับ 2.0เบนซิน



sootman

Re: CX5 2.0SP VS CX5 2.2 2WD
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2017, 13:19:29 »
ฟังเรื่องดีเซลแล้วสยองมากๆ เลยครับ มีเพื่อนใช้อยู่เหมือนกันก็บ่นเรื่องค่าอะไหล่ที่แพงมาก



Nyquist

Re: CX5 2.0SP VS CX5 2.2 2WD
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2017, 14:21:12 »
ดีเซล Mazda ไม่ได้มีปัญหาแค่ CX-5 นะครับ

ใน 2 และ CX-3 ก็เจอเช่นเดียวกัน



DiKiBoyZ

Re: CX5 2.0SP VS CX5 2.2 2WD
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2017, 17:32:14 »
ถ้าไม่รีบ ปล่อยไปสักพักก่อนครับ รอดูว่า ปัญหา หรือ defect มีอะไรบ้าง เพราะรถรุ่นใหม่ๆ เปิดตัว lot แรกๆ จะชอบเป็น

แต่ก็ยังดีอย่างว่า CX-5 ตัวนี้ใช้หลายๆ ยังคล้ายๆ จากตัวเดิม(ไม่รู้ปัญหาเดิมด้วยหรือปาว 555)

ถ้ามีรถใช้ รอดูอาการไปสักระยะ ประมาณ Motor Show เม.ย.61 ค่อยตัดสินใจ ยังไม่สาย



SM.

Re: CX5 2.0SP VS CX5 2.2 2WD
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2017, 18:12:33 »
ถ้าเป็นผมจะเลือกเบนซินเพราะส่วนตัวชอบออปชั่นครับ

+1



sootman

Re: CX5 2.0SP VS CX5 2.2 2WD
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2017, 08:29:30 »
มาดูราคาตัว 2.0SP อีกทีนึง โอ้โห....ราคาขึ้นไป 1.5 ล้านแล้ว คิดถึงตอนที่ตัวเองจะไปซื้อพวกรถ D-seg เครื่อง 2.0 ราคาขึ้นไป 1.4 ล้าน ผมว่ามันก็แพงมากแล้วนะ



mongolias

Re: CX5 2.0SP VS CX5 2.2 2WD
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2017, 14:10:52 »
ในขณะที่ยังไม่แน่ใจว่าดีเซล แก้ปัญหาน้ำดันจบแล้วหรือยัง ผมจิ้มเบนซินไว้ก่อนครับ

ส่วนตัวออกตัวเบนซินรุ่นเก่ามา เท่าที่ใช้ก็ไม่ได้รู้สึกอืดอะไรมากมายอะไร มีแต่ช่วงเกียร์1 จะหน่วงๆหน่อยแค่นั้นครับ

กินน้ำมันเยอะไหมครับ 2.0เบนซิน
วิ่งระหว่าง ศรีราชา - อมตะนคร E20 ผมได้ประมาณ 12 ++ ก.ม./ลิตร ครับ
ล่าสุดพยายามเหยียบให้ไม่เกิน 110 ในช่วงวิ่งสาย 7 (ทำได้มั่งไม่ได้มั่ง) อยู่ที่ 12.65 ก.ม./ลิตรครับ
สำหรับผมถือว่าประหยัดใช้ได้เลยล่ะ กับรถทรงนี้ น้ำหนักแบบนี้

ปล.วิ่งสาย 7 ราวๆ 25 ก.ม. คุมความเร็วได้ กับวิ่งในเมือง+ ในนิคมที่แล้วแต่วัน บางวันก็ไปได้เรื่อยๆบางวันก็ความเร็วระดับหนอนชาเขียวอีก 15 ก.ม. ต่อ 1 เที่ยวครับ



Automotive Innovations

Re: CX5 2.0SP VS CX5 2.2 2WD
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2017, 14:39:27 »
อย่าไปดีเซลเลยครับ ค่าซ่อมโหดมากๆๆ รวบรวมใน Club มาให้ดูกันครับ
1. ขับได้ประมาณ 5 ปี 60,000 กม เปลี่ยนปั๊มแรงดันสูง รวมค่าแรง และชิ้นส่วนเล็กๆน้อยๆ 65,500 บาท
2. ใช้มา 3 ปี วิ่งไปประมาณ 6x,xxx ไฟรูปเครื่องโชว์ แล้วกระตุก เร่งไม่ขึ้น เลยจอดแล้วเรียกบริการฉุกเฉิน ยกเข้าศูนย์แถววิภาวดี   ศูนยฺ์แจ้ง เทอร์โบพัง แล้วชาร์ปมีปัญหา ประเมินค่าซ่อม อยู่ที่ 190,000 เทอร์โบลูกละ 140,000
3. เปลี่ยน แบต ตอนก่อนครบปี หมดไป 6 พันกว่า(แบตนอกประมาณ 3,500บาท)
4. ไฟรูปเครื่องยนต์โชว์ตลอดครับ ดีเซล 2.2ครับ วิ่ง 120000+ ทางศูนย์ถอดทำความสะอาด ตัว EGR ให้ ตอนนี้ใช้งานได้ตามปกติ รูปเครื่องยนต์ไม่ขึ้นแล้ว(หวังว่าจะเป็นอย่างนี้ไปตลอด) ทางศูนย์บอกว่ามันเป็นตัวกรองมลพิษ (ประมาณนั้น ผมเรียกไม่ถูก) ใช้ๆไปคราบเขม่ามันจับตัวกันมาก ทำให้เครืองทำงานได้ไม่เต็มที่ ไฟเลยโชว์

อันนี้แถม
ที่ผมเจอมากับตัวครับ ( cx5 ดีเซล)
1. กระจกมองข้าง ปรับไฟฟ้า  8,724.78 บาท(อะไหล่+ค่าบริการ+ภาษี)
2. สายพาน+ชุดลูกรอกสายพาน  8,827 บาท
3. ค่าแรงตรวจเช็ค I-stop กระพริบ  560 บาท
4. ค่าแรงตรวจเช็คความร้อนขึ้นสูง   560 บาท
(หมายเหตุ รายการที่ 3 กับ 4  เข้าศูนย์ครั้งเดียวกันแต่เช็ค 2 อย่าง)
คิดว่า แพง มั้ยครับ

แพงครับ ยังไงก็แพง บางทีผมแอบสงสัย นี่ผมกำลังขับรถยุโรปอยู่หรือ ทำไมราคาอะไหล่แพงขนาดนี้ ที่ผมรับทราบมานะครับ
1. ยางหุ้มเพลาขับ 6,730 บาท (ราคาร้านข้างนอก รับเปลี่ยนค่ายางหุ้มเพลา ตัวละ 800 บาท)
2. ซีลเพลาขับตัวใน 4,779 บาท
3. ลูกปืนล้อหน้า ตัวละ 14,000 บาท
5. มอเตอร์พัดลมหม้อน้ำ คู่ละ 14,796 บาท (เทียบกับของแท้ อัลติส ใส่กันได้พอดี ราคาตัวละไม่ถึงสองพัน)

ผมก็ใช้ MAZDA3 ตัวปัจจุบันอยู่นะ เห็น CX-5 ตัวใหม่อยากไปมาก แต่เห็นราคาอะไหล่แล้ว ขอกลับไปคิดใหม่ก่อนอะครับ
หืออออออออ รากเลือด
Toyota Camry 2.0G ACV41 2012 MC Black Interior
Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 2WD MY 2017
Ssangyong Stavic SV270  2006
Honda HR-V EL 2016 My Own
Toyota Fortuner 2.4V 2WD Big MC 2020
Haval H6 PHEV 2022
Mercedes-Benz E220CDI W210 2001