อย่าไปดีเซลเลยครับ ค่าซ่อมโหดมากๆๆ รวบรวมใน Club มาให้ดูกันครับ
1. ขับได้ประมาณ 5 ปี 60,000 กม เปลี่ยนปั๊มแรงดันสูง รวมค่าแรง และชิ้นส่วนเล็กๆน้อยๆ 65,500 บาท
2. ใช้มา 3 ปี วิ่งไปประมาณ 6x,xxx ไฟรูปเครื่องโชว์ แล้วกระตุก เร่งไม่ขึ้น เลยจอดแล้วเรียกบริการฉุกเฉิน ยกเข้าศูนย์แถววิภาวดี ศูนยฺ์แจ้ง เทอร์โบพัง แล้วชาร์ปมีปัญหา ประเมินค่าซ่อม อยู่ที่ 190,000 เทอร์โบลูกละ 140,000
3. เปลี่ยน แบต ตอนก่อนครบปี หมดไป 6 พันกว่า(แบตนอกประมาณ 3,500บาท)
4. ไฟรูปเครื่องยนต์โชว์ตลอดครับ ดีเซล 2.2ครับ วิ่ง 120000+ ทางศูนย์ถอดทำความสะอาด ตัว EGR ให้ ตอนนี้ใช้งานได้ตามปกติ รูปเครื่องยนต์ไม่ขึ้นแล้ว(หวังว่าจะเป็นอย่างนี้ไปตลอด) ทางศูนย์บอกว่ามันเป็นตัวกรองมลพิษ (ประมาณนั้น ผมเรียกไม่ถูก) ใช้ๆไปคราบเขม่ามันจับตัวกันมาก ทำให้เครืองทำงานได้ไม่เต็มที่ ไฟเลยโชว์
อันนี้แถม
ที่ผมเจอมากับตัวครับ ( cx5 ดีเซล)
1. กระจกมองข้าง ปรับไฟฟ้า 8,724.78 บาท(อะไหล่+ค่าบริการ+ภาษี)
2. สายพาน+ชุดลูกรอกสายพาน 8,827 บาท
3. ค่าแรงตรวจเช็ค I-stop กระพริบ 560 บาท
4. ค่าแรงตรวจเช็คความร้อนขึ้นสูง 560 บาท
(หมายเหตุ รายการที่ 3 กับ 4 เข้าศูนย์ครั้งเดียวกันแต่เช็ค 2 อย่าง)
คิดว่า แพง มั้ยครับ
แพงครับ ยังไงก็แพง บางทีผมแอบสงสัย นี่ผมกำลังขับรถยุโรปอยู่หรือ ทำไมราคาอะไหล่แพงขนาดนี้ ที่ผมรับทราบมานะครับ
1. ยางหุ้มเพลาขับ 6,730 บาท (ราคาร้านข้างนอก รับเปลี่ยนค่ายางหุ้มเพลา ตัวละ 800 บาท)
2. ซีลเพลาขับตัวใน 4,779 บาท
3. ลูกปืนล้อหน้า ตัวละ 14,000 บาท
5. มอเตอร์พัดลมหม้อน้ำ คู่ละ 14,796 บาท (เทียบกับของแท้ อัลติส ใส่กันได้พอดี ราคาตัวละไม่ถึงสองพัน)
ผมก็ใช้ MAZDA3 ตัวปัจจุบันอยู่นะ เห็น CX-5 ตัวใหม่อยากไปมาก แต่เห็นราคาอะไหล่แล้ว ขอกลับไปคิดใหม่ก่อนอะครับ