ตอนเราเริ่มทำงานเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เงินเดือนพอๆกับคุณ SP (22K บาท) เราออก Mazda 2 ดีเซลมาใช้ โดยเป็นเงินเก็บ 200K บาท + ที่บ้านช่วยอีก 500K บาท (ผ่อนคืนก็ได้ / ไม่คืนก็ได้)
ตอนนั้น ไม่มีภาระอะไร ยังอยู่กับที่บ้าน รถก็ยังไม่มีค่าใช้จ่ายใหญ่ๆ นอกจากค่าน้ำมันรถ เก็บเงินเดือนละ 10K บาทได้สบายๆ
พอเงินเดือนขึ้น มีช่วงนึงที่มีความคิดว่าจะเปลี่ยนรถเป็น C-Segment ซะด้วยซ้ำ
พอเข้าปีที่สองเท่านั้นแหละ เราถึงมาค้นพบว่าการเป็นผู้ใหญ่นั้น มีค่าใช้จ่ายมากกว่าที่เราคิด
- เงินฝากประจำ (10K บาท /เดือน)
- ประกันสังคม (750 บาท /เดือน)
- กองทุน LTF (10K - 15K บาท /ปี)
- ประกันสะสมทรัพย์ (35K / ปี)
รถยนต์เอง ก็มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เราไม่ได้คิดถึงในตอนแรก
- ประกันภัยรถยนต์ (20K บาท /ปี)
- ภาษีรถยนต์ (1.5K บาท /ปี)
- ค่าบำรุงรักษา (2-3K บาท /6 เดือน)
- ค่าผ่อนรถยนต์ (3-5K บาท /เดือน)
- น้ำมัน (2-3K บาท /เดือน)
- ที่จอดรถยนต์ (2.7K บาท /เดือน)
- ค่าล้างรถ (300 บาท /เดือน)
อันนี้ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน รวมถึงค่าใช้จ่ายเดือนอื่นๆที่ได้มาเพราะกิเลส (ค่าผ่อนโทรศัพท์มือถือ ค่าผ่อนล้อแมกซ์) ตอนนี้เงินเดือน 35K บาท ยังช็อตในหลายๆเดือนเลยค่ะ
.
.
เราไม่แน่ใจว่าการปรับเงินเดือนในสายงานของคุณ SP เป็นอย่างไรบ้าง แต่ถ้าให้แนะนำ ส่วนตัวคงแนะนำให้ซื้อรถไม่เกิน B-Segment หรือว่าถ้าอยากได้สูงหน่อย อาจจะเขยิบไป Expander/BR-V
สำหรับตัวเราเอง ถ้าเงินเดือนยังไม่ถึง 50K บาท คงต้องพับโปรเจกต์ขยับไป C-Segment ไปอีกสักพักนึงเลยค่ะ