วันนี้จะมารีวิวรถอีกคันที่ส่วนตัวคิดว่าแปลกๆสไตล์รถตลาด ที่มีขายแต่เซลล์ไม่เชียร์ ไม่ลด ไม่แถม ไม่ง้อ ไม่บอกว่าต้องรอรถนานแค่ไหน
โดยคันนี้เป็นรุ่นย่อย 2.8V ซึ่งจะต่างกับตัว G หลักๆคือได้เบาะแถวสองเป็นเบาะแยกครับ โดยที่เหตุผลที่กีดฟันมาตัวท็อปคืออยากได้เบาะหนังกับล้อ 17 ครับ
ซึ่งส่วนอื่นๆแทบจะไม่ต่างกับตัว G รองท็อปเลย ซึ่งในตอนแรกโจทย์ในการเลือกของผมคืออยากได้รถที่ไม่โหลและมีสิ่งที่อยากได้คือ พื้นไม่สูงมาก คนสูงแค่ 160 ขึ้นได้อย่างสบายๆ
พื้นที่ภายในกว้างขวาง มีบลูทูต ถ้าได้เครื่องดีเซลด้วยจะดีมากๆ มันเลยเหลือตัวเลือกแค่ Innova, Grand Carnival และ V60 D3
ซึ่งในตัวเลือกนี้คนอ่านอาจเดานะครับว่าเอามาขนญาติไปเชงเม้งหรือพาผู้สูงอายุไปห้างบ่อยหรือเปล่า ซึ่งเปล่าเลยครับ ใช้คนเดียวนี่แหละ
แค่รสนิยมผมอาจจะขัดกับหลักเหตุผลในการซื้อรถของคนทั่วไปหน่อยตรงที่ผมชอบรถพวกมินิแวนหรือ MPV นี่แหละ วึ่งคันไหนมีประตูสไล์จะชอบเป็นพิเศษ
ซึ่งเอาจริงๆคือใช้ได้ไม่เต็มฟังชั่นมันนั่นแหละ แค่ชอบตัวรถประมาณนั้น ตัวที่ผมอยากได้จริงๆคือ VW Sharan TDI ตัวล่าสุดแต่ไทยมันดันไม่มีขายนี่สิ
โดยที่หลังจากได้ใช้ชีวิตกับมันมาพักนึง รู้สึกไม่ผิดหวังจริงๆที่เลือกรุ่นนี้ มันมีให้ครบจบทุกอย่างที่เราต้องการจริงๆ
เริ่มจากภายนอกกันก่อนที่ดูเผินๆเหมือนคันจะใหญ่กว่า Fortuner นิดนึง แต่ด้วยเส้นสายด้านข้างที่เรียบร้อบไม่หวือหวาแบบพี่ใหญ่ Fortuner
ทำให้มันดูเป็นมิตรกับผู้คนที่พบเห็นมากขึ้น อีกทั้งยังไม่ทำลายทัศนวิสัยรถด้านหน้าแบบอีกรุ่นหนึ่งซึ่งมันถูกยกสูงจนไฟหน้าส่องเข้าพอดีกระจกมองหลังของคันข้างหน้าเป๊ะๆ
ภายนอกโดยรวมดูติ๋มๆ เรียบๆเหมือนออกแบบมาให้ขับไปซื้อของที่ Tops หรือ Foodland ในวันสุดสัปดาห์หรือขนจักรยานไปปั่นมากกว่าขนคน
เริ่มจากภายนอกกันก่อนที่ดูเผินๆเหมือนคันจะใหญ่กว่า Fortuner นิดนึง แต่ด้วยเส้นสายด้านข้างที่เรียบร้อบไม่หวือหวาแบบพี่ใหญ่ Fortuner
ทำให้มันดูเป็นมิตรกับผู้คนที่พบเห็นมากขึ้น อีกทั้งยังไม่ทำลายทัศนวิสัยรถด้านหน้าแบบอีกรุ่นหนึ่งซึ่งมันถูกยกสูงจนไฟหน้าส่องเข้าพอดีกระจกมองหลังของคันข้างหน้าเป๊ะๆ
ภายนอกโดยรวมดูติ๋มๆ เรียบๆ เหมือนออกแบบมาให้ขับไปซื้อของที่ Tops หรือ Foodland ในวันหยุดสุดสัปดาห์ซะมากกว่าใช้งานทุกวัน
ซึ่งนี่เป็นเหตุผลที่ทำให้ผมเลือกซื้อเพราะหน้าตามันดูเฉิ่มๆ ติ๋มๆ นี่แหละดุไม่มีพิษมีภัย ซึ่งขัดกับบุคลิคการขับของผมซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นพิษภัย(?) ต่อชาวบ้านพอกับรถตู้วิน
ในด้านกำลังวังชาใครจะเชื่อว่ามินิแวนตาติ๋มๆแบบนี้มันจะแรง แรงพอๆกับ Fortuner TRD ซะด้วย ซึ่งด้วยพละกำลังขนาดนี้เท่าที่ใช้มาคือเหลือเฟือครับ
ถ้าเป็นคนขับรถแบบเรื่อยๆไม่รีบก็กด Eco ตามด้วย Cruise Control เป็นอันจบครับ ชีวิตง่ายๆสบายๆขับรถฟังเพลงไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็ถึง
แต่ถ้ามีกระบะควันดำมาจี้หรือปาดแล้วพ่นควันใส่จนหัวร้อนละก็ มันก็พร้อมจะเป็นม้าศึกตัวโตให้คุณเหมือนกัน
ด้วยอัตราเร่งจาก Cruising Speed ที่ 110kmh สามารถทะยานไปถึงแถว 160kmh แบบสบายๆ ฉีกพวกกระบะสันดารเสียหรือรถส่งของหัวร้อนได้อย่างไม่ยากเลย
แต่รถแรงอย่างเดียวไม่พอช่วงล่างต้องพร้อม โดยช่วงล่างติดรถมานั้นจากความรู้สึกที่ผมขับผ่านเส้นทางหลายๆแบบ ส่วนตัวคิดว่าค่อนข้างดีเลยสำหรับรถประเภทนี้
ให้เทียบกับสิ่งที่ใกล้เคียงกันที่เคยขับ Fortuner 3.0 2wd ตัวสุดท้ายก่อนปรับโฉมซึ่งพอเทียบแล้วความนุ่มนวลโดยรวมดีกว่า For ตัวเก่าพอสมควร
จะแพ้ก็แค่ตรงถนนคอนกรีตที่สภาพแย่ที่มีหลุมขรุขระต่อเนื่อง ในจุดนี้จะยังนิ่งไม่เท่า ในส่วนของถนนที่ไปในกรุงเทพความนุ่มนวลและการตอบสนองค่อนข้างติดไปทางนุ่ม
แต่ยังมีความเฟิร์มเหลืออยู่บ้าง แต่ถ้าวิ่งบนทางด่วนยาวๆ คือสวรรค์เลยครับ ความนุ่มนวลเต็มร้อย ขับแล้วไม่เครียดเหมือนรถบางรุ่นที่ช่วงล่างไม่ค่อยเป็นมิตรแม้กระทั่งทางด่วน
โดยที่ช่วงล่างเดิมๆนั้นยังพออำนวยให้บู้ได้บ้าง แต่อย่าคาดหวังว่าจะคมเท่า Fortuner TRD ตัวล่าสุดที่เขาได้ช่วงล่างพิเศษ เอาเป็นว่าบู้กับรถเดิมหรือกระบะไม่โมช่วงล่างแบบไม่เสียวเป็นพอ
ในส่วนของภายในตำแหน่งนั่งนั้นทัศนวิสัยสอบผ่านเลยครับ มีกระจกโอเปร่าเล็กๆด้านหน้าช่วยให้มุมอับของเสา A น้อยลงพอสมควร
และแผงควบคุมแอร์ซึ่งตั้งอยู่บนคอนโซลเลย ไม่ได้ฝั่งอยู่แถววิทยุแบบรถทั่วไปทำให้คนแขนสั้นๆสามารถเอื้อมมือไปปรับได้โดยไม่รบกวนการขับขี่เท่าไหร่
จะงงๆนิดหน่อยก็ตรงปรับแรมลมซึ่งแอร์ดิจิตอลที่ผมเคยใช้ทั้งหมดจะเป็นแบบปุ่มขึ้นลง แต่คันนี้มาเป็นแบบปุ่มหมุน ต้องลองปรับทีละอย่างถึงได้เจอวิธีปรับมัน
โดยตัวระบบปรับอากาศนั้นเป็นแบบอุณหภูมิเท่ากันทั้งคัน ไม่ได้ให้เป็น Dual หรือ Quad Zone แต่อย่างใด และมีสวิชคุมพัดลมชุดหลังตามประสารถเบาะเยอะของโตต้า
ระบบประอากาศภายในถือว่าเด็ดมากตรงที่ให้แอร์มาถึง 3 แถวทำให้กระจายความเย็นให้ด้านหลังอย่างทั่วถึง
ตัววิทยุที่ให้มานั้นเป็นจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วใช้ระบบ Android ควบคุม ซึ่งตัววิทยุนั้นค่อนข้างจะน่าขัดใจตรงที่อินเตอร์เฟสมันดันไปคล้ายพวก Android TV Box
ซึ่งออกแบบกันมาค่อนข้างจะทื่อๆไม่น่าใช้ แต่เครื่องเสียงนั้นคุณภาพเสียงผมมองว่าสมราคา แบบเดิมๆฟังได้ยาวๆ ถ้าคันไปจัดเครื่องเสียงมาเพิ่ม
ซึ่งในความที่มันเป็นจอระบบ Android แถมต่อเน็ตด้วยตัวมันทำให้ผมคาดหวังว่าจะสามารถลงแอพบางตัวที่ใช้ตอนขับรถเช่น Spotify แต่ดันไม่ให้ลงซะงั้น
ซึ่งจากที่ลองเล่นมาผมยังไม่เจอวิธีเปิด Google Assistant และไม่เจอวิธีลงแอพเพิ่มในจอรุ่นนี้
ในด้านอัตราสิ้นเปลืองนั้นโอเคเลยสำหรับผม เติมเต็มถังที่ 55 ลิตรเท่าที่ผมลองจับๆดูคือวิ่งไปแถวๆ 550 กิโลเข็มจะตกลงมาอยู่ที่ 1/4 พอดี
ซึ่งผมคิดว่าถ้าวิ่งจนมันขึ้นเตือนเลยน่าจะอยู่ที่แถว
ผมได้ลองเติมกลับเต็มถังแล้วกดเครื่องดู ผลออกมาที่ 13.xx km/l ในการขับแบบปนๆกันทั้งนอก-ในเมือง
เส้นทางที่จับคือ ปากเกร็ด > อยุธยา > Central Eastville > มหาชัย > ปากเกร็ด > บางนา > ปากเกร็ด > บางนา แล้วจึงเติมเต็มถังอีกรอบ
ส่วนตัวดีกว่าที่คิดมากๆครับ คิดว่ามันจะกินซัก 10km/l ซะอีกซึ่งจากที่จับคือดีมากสำหรับรถไซส์นี้
โดยรวมสำหรับคันนี้ถ้าใช้รถในเมืองและนอกเมืองสลับกันผมว่ามันตอบโจทย์ได้ดีเลยแหละ มีอุปกรณ์มาให้เพียงพอ
ทั้งความบันเทิงและความปลอดภัย หน้าตาก็ไม่ได้ดูดันแบบรุ่นอื่นๆ ช่วยแอบแฝงความแรงได้อีก ถ้าใครเป็นคอ Sleeper น่าจะชอบคันนี้เลย
จะมีขัดใจก็แค่เรื่องฝาท้ายที่รถราคาขนาดนี้ให้เป็นแบบไฟฟ้ามาเลยก็ได้นะ บานก็ไม่ใช่เล็กๆดันให้มายกเองซะงั้น
กับการตกแต่งแถวคันเกียร์ที่ผมคิดว่ามันทื่อไปหน่อย เหมือนลืมใส่อะไรมาให้มันดูมีความงามตรงจุดนั้น