เมื่อขับรถแล้วเจอแอ่งน้ำที่โค้งควรทำอย่างไรดี.....

iKrit

พอดีว่าเรื่องเกิดเมื่อวานที่ทางด่วนรามอินทราครับ

ระหว่างเดินทางไปเรียน ฝนก็ตกปลอยๆ ก็ไม่ได้แย่อะไร วิ่งซ้ายมาปกติ จนกระทั่งทางด่วนลดระดับลงแล้วเจอโค้งให้ด่านจากทางวังทองหล่างวิ่งเข้ามาได้

ระหว่างที่วิ่งด้วยความเร็วลดลงมาที่ 80km/h โดยประมาณ ( จาก 90km/h ) ก็เจอแอ่งน้ำใหญ่ๆ แอ่งหนึ่งกลางโค้งเลย ใจก็คิดว่า "ซวยแล้วตู ขนาดแค่ 40 รถยังจะเหิน แล้วนี่ตูขับมา 80" จะหักหลบก็ไม่ได้ ไม่งั้นเสียหลักแน่

และแล้วรถก็พุ่งลงแอ่งน้ำนั้นทันที....

เสียงน้ำที่แอ่งตอนที่รถพุ่งเข้าไปนั่นเสียงซู่!!! ดังมาก เหมือนใครเอาสายดับเพลิงฉีดใส่อย่างแรง

อาการรถตอนนั้นเริ่มแฉลบออกข้างทาง ผมก็ทำได้แค่ปล่อยคันเร่งแล้วประคองรถต่อให้มันไม่เสียหลัก เพราะจำได้ว่าถ้ารถลงแอ่งน้ำด้วยความเร็วสูงแล้วเริ่มเสียหลัก ห้ามเหยียบเบรกเป็นอันขาด ไม่งั้นปัด แล้วก็ผ่านมาได้ด้วยดี

หลังจากที่ผ่านเหตุการณ์มาได้ ผมก็คิดต่อในใจก็คิดว่า "ตรูจะไม่ขับที่เลนซ้ายหรือขวาตอนถนนเปียกอีกต่อไปแล้วววว T-T"


( หันไปมองรถคันข้างๆ ที่วิ่งเร็วกว่า มันก็วิ่งกันได้ปกติ - -" )


ไม่ทราบว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมา ผมได้ปฎิบัติถูกต้องหรือป่าวครับ หรือว่าต้องแก้ไข หรือปฎิบัติอะไรเพิ่มเติมบ้างครับ?

เพราะจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาสรุปได้ดังนี้...
1. ความเร็วรถอยู่ประมาณ 80km/h (สงสัยต่อไปคงต้องลดเหลือ 60km/h แล้วล่ะมั้ง แต่จะโดนจิ้มตูดรึป่าวเนี่ย?)
2. เจอแอ่งน้ำใหญ่แล้วไม่หักหลบทันที เพราะกลัวรถปัดแล้วหมุน
3. พยายามชะลอรถเท่าที่เป็นไปได้โดยไม่เหยียบเบรก(ปล่อยคันเร่งอย่างเดียว)
4. ประคองพวงมาลัยไม่ให้หมุนเลี้ยวมากเกินไป


แล้วถ้ามันหลีกเลี่ยงไม่ได้จนรถหมุนแล้วควรปฎิบัติอย่างไรครับ?
เพราะเท่าที่ทราบมาคือยังไงก็ห้ามเหยียบเบรก แล้วให้ควบคุมรถให้ได้อย่างเดียวใช่ไหมครับ?
(คิดถึง vdo ที่รถเหยียบโดนสิ่งแปลกปลอมบนถนนจนเสียหลักแล้วพลิกคว่ำยับ)
แล้วถ้าเหยียบเบรก ระบบ ABS จะคงช่วยได้หรือไม่ครับ?


แก้ไขเพิ่มเติม
-----
จุดพิกัดที่เกิดเหตุประมาณจุดนี้น่ะครับ
13.771675, 100.606297
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 05, 2010, 07:22:30 โดย iKrit »
"การไม่มีดราม่าเป็นลาภอันประเสริฐ"
แต่มนุษย์มาม่าบางคนก็ชอบเปิดประเด็นทุกที เอ้อ...แปลก



last_dezember

ของผมปล่อยคันเร่ง แล้วจับพวงมาลัยให้แน่น ครับ



patzahut

ประคองพวงมลัย   ผมว่าเบรคใช้ได้นะ  แต่แค่แตะช่วยเบาๆพอ รถไม่น่าจะเสียหลัก



boykung

ไม่ทราบว่าใช้ยางอะไรครับ

ใช้ยางดีๆ มันก็ช่วยได้เยอะเหมือนกันนะครับ
Hyundai Grand Starex 2012
Kia Rio 2013
Volvo XC60 D4 Hybrid with Engine Oil 2013
Mercedes Benz S300Hybrid AMG 2014
BMW 420D Coupe M Sport 2016



อืม...นะ

ที่ทำมาผมว่าถูกในระดับนึงแล้วนะครับ
จริงๆแล้วเนี่ยเข้าโค้งด้วยความเร็ว 80 นั่นมันในสถานะถนนแห้งเลยนะครับ
แต่สำหรับสถานการณ์นี้ ก็น่าจะสามารถเหยียบเบรคได้เล็กน้อยก่อนกระโจนลงแอ่งน้ำ
จะได้ช่วยลดความเร็วลงได้อีกนิดนึง มือก็จับพวงมาลัยให้มั่นคงเพื่อเตรียมบังคับรถให้อยู่ในทิศทางที่ถูกต้อง
ที่สำคัญคืออย่ากระทืบเบรคแรง หรือหักพวงมาลัยมากเกินไปในจังหวะกระโจนลงน้ำ
เท่านี้ก็น่าจะช่วยได้เยอะแล้วนะครับ  ;)
'18 Honda Jazz gk5 s mt
'11 Volkswagen Scirocco R
'04 Honda Integra dc5 Type R
'96 Honda Prelude bb1



keanetona

ไม่ทราบว่าใช้ยางอะไรครับ

ใช้ยางดีๆ มันก็ช่วยได้เยอะเหมือนกันนะครับ

นั่นสิครับ ตอนนั้นที่ผมใช้มิชลื่น MXV8 ตอนนั้นรู้สึกได้เลยนะครับว่ารถเหิรน้ำ แต่พอใช้ ES501 รู้สึกดีขึ้นเยอะ



J!MMY

Krit ทำถูกแล้วละ

แต่จะบอกว่า เดี๋ยวนี้ เมื่อใดก็ตามที่ฝนตก โค้งบนทางด่วน จะเริ่มอันตรายขึ้น
เพราะท่อระบายน้ำเดี๋ยวนี้ สารพัดขยะ อุดตันบานตะเกียง มีผลต่อการท่วมขังของน้ำตามมา
ดังนั้น ถ้าเมื่อใดต้องเข้าโค้ง อยู่เลนกลางไว้ก่อนเป็นการดีครับ

ผมก็เพิ่งเจอ ตรงโค้งพระราม 3 ตัว S มุ่งหน้าเข้าคลองเตย  รถแฉลบเล็กน้อย
แต่ถือพวงมาลัยนิ่งๆ ห้ามเหยียบเบรกเพาะตกใจ ก็เอาอยู่แล้วครับ



truesanu

เบื่อมากเลยฝนตก ทางแถวบ้านนี้ตกแปปเดียวน้ำท่วมถนนอย่างลึก สงสัยท่อมันตันไปหมดแล้วละมั้ง



LimitedEdition

ทำถูกแล้วครับ
ถ้าเจอแบบสุดวิสัย แก้อะไรไม่ทันจริงๆ

ก็ยกคันเร่ง แล้วประคองพวงมาลัยอย่างเดียว
หากเสียหลักก็เตรียมแก้อาการกันต่อไป
ห้ามเหยียบหรือเลียเบรกเป็นอันขาด โดยเฉพาะตอนลงแอ่งน้ำไปแล้ว

ยกเว้นจะเซียนจัดจนกระทั่งดริฟท์ได้ อันนั้นก็เชิญชิฟท์เกียร์ลง
แล้วกดคันเร่งเต็มปั่นล้อคู่หลัง พร้อมแต่งพวงมาลัยได้ตามสะดวก



zzzz

สุดวิสัย ไม่ทันตั้งตัว ถ้าโค้งแคบๆเบรกมีหมุนแน่ครับ

ปล่อยคันเร่ง จับพวงมาลัยให้แน่น ตั้งสติให้ดี
ทีเหลือก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพของตัวรถ และ ยางที่เราใช้แล้วหละครับ

ฝนตก ไปช้าๆ หาช่องโล่งๆวิ่งนะครับ
รักเต่า ใช้เต่า



wingzerocustom

ขอถามด้วยครับ ในกรณีที่วิ่งมาเร็วทางตรงแล้วเจอแอ่งน้ำ ถ้าหลบแล้วล้อข้างนึงจะโดนน้ำแน่ ๆ

อันนี้ควรจะให้ล้อทั้งสองข้างโดนน้ำให้เท่ากัน หรือ ให้โดนแอ่งน้ำแค่ข้างเดียวอ่ะครับ


เพราะผมเคยขับรถแล้วเจอแอ่งน้ำ แล้วล้อข้างนึงก็เข้าไปในแอ่ง ทำให้รู้สึกว่า ล้อข้างที่โดนน้ำนี่มันช้าลงแต่อีกข้างที่ไม่โดน

มันเหมือนความเร็วลงมาไม่ทันอ่ะครับ อย่างนี้อันตรายหรือเปล่าอ่ะครับ ถ้ามาเร็วมาก น่าจะทำให้รถหมุนได้หรือป่าวอ่ะครับ
(แอ่งน้ำ น้ำค่อนข้างเยอะ 1/4 ของล้อ อ่ะครับ)
นี่เธอรู้ป่าวว่า เชียงใหม่ มีทะเลนะ
คิดไม่ถึงล่ะสิ
.......
.......
แต่เรา คิดถึง นะ



iKrit

ไม่ทราบว่าใช้ยางอะไรครับ

ใช้ยางดีๆ มันก็ช่วยได้เยอะเหมือนกันนะครับ

เป็นยางที่ติดมาจากโรงงานน่ะครับ

Goodyear GT3 175/65/R15

ผมคิดว่าคงเป็นเพราะยางด้วยล่ะครับ ต่อไปคงหายางแบบดีๆ มาใส่ให้มันหน้ากว้างขึ้นอีกนิดนึงเป็น 185 น่ะครับ ตอนนี้ใช้ของเดิมให้ครบไปซัก 2 ปีก่อนแล้วค่อยเปลี่ยนครับ :)

ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นนะครับ ต่อไปตอนเวลาเข้าโค้งคงต้องขับให้ช้าลงกว่าเดิมอีก และพยายามอยู่กลางให้ได้มากที่สุด จะได้ไม่เกิดปัญหา ^^"
"การไม่มีดราม่าเป็นลาภอันประเสริฐ"
แต่มนุษย์มาม่าบางคนก็ชอบเปิดประเด็นทุกที เอ้อ...แปลก



iKrit

ขอถามด้วยครับ ในกรณีที่วิ่งมาเร็วทางตรงแล้วเจอแอ่งน้ำ ถ้าหลบแล้วล้อข้างนึงจะโดนน้ำแน่ ๆ

อันนี้ควรจะให้ล้อทั้งสองข้างโดนน้ำให้เท่ากัน หรือ ให้โดนแอ่งน้ำแค่ข้างเดียวอ่ะครับ


เพราะผมเคยขับรถแล้วเจอแอ่งน้ำ แล้วล้อข้างนึงก็เข้าไปในแอ่ง ทำให้รู้สึกว่า ล้อข้างที่โดนน้ำนี่มันช้าลงแต่อีกข้างที่ไม่โดน

มันเหมือนความเร็วลงมาไม่ทันอ่ะครับ อย่างนี้อันตรายหรือเปล่าอ่ะครับ ถ้ามาเร็วมาก น่าจะทำให้รถหมุนได้หรือป่าวอ่ะครับ
(แอ่งน้ำ น้ำค่อนข้างเยอะ 1/4 ของล้อ อ่ะครับ)

^
^
^
เออ นั่นสิ = =a
แต่ผมว่าข้างเดียวน่าจะดีกว่ามั้งครับ อย่างน้อยอีกข้างมันยังพอคุมได้อยู่บ้าง
เดี๋ยวรอความเห็นต่อไปแล้วกันครับ :)
"การไม่มีดราม่าเป็นลาภอันประเสริฐ"
แต่มนุษย์มาม่าบางคนก็ชอบเปิดประเด็นทุกที เอ้อ...แปลก



6162002

ของผมก็ปล่อยให้มันลงข้างเดียวแหละครับ เพราะถ้าให้ลงสองข้าง คงลงข้างทาง แล้วกลัวคุมอะไรไม่ได้  ตั้งสติไว้ดีๆก็พอครับ เป็นไปได้ ก็อย่าลงมันทั้งสองล้อดีกว่า เลี่ยงไม่ได้ ก็ขับไม่ต้องเร็วมาก ตั้งสติดีๆ อย่าตกใจก็พอครับ



SignifeR

เป็นผมผมก็ไม่เบรก ไม่หลบ ไม่กดคันเร่งเพิ่มนะ คือถอนคันเร่งกับประคองพวงมาลัย พอลงตูมไป ก็ประคองพวงมาลัยดีๆ
หลังจากนั้นก็เชนเกียร์ลงแล้วก็ซัดออกจากแอ่งน้ำไปอย่างสวยงาม

ปล.ปกติเป็นคนชอบลงน้ำครับ
In Garage Subaru Impreza GDG WRX  y2008 // Nissan March 1.2E y2011



Supermax

เป็นผมผมก็ไม่เบรก ไม่หลบ ไม่กดคันเร่งเพิ่มนะ คือถอนคันเร่งกับประคองพวงมาลัย พอลงตูมไป ก็ประคองพวงมาลัยดีๆ
หลังจากนั้นก็เชนเกียร์ลงแล้วก็ซัดออกจากแอ่งน้ำไปอย่างสวยงาม

ปล.ปกติเป็นคนชอบลงน้ำครับ

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ
เกร็งข้อมือให้ดีก็พอ ห้ามตกใจ



patzahut

เป็นผมผมก็ไม่เบรก ไม่หลบ ไม่กดคันเร่งเพิ่มนะ คือถอนคันเร่งกับประคองพวงมาลัย พอลงตูมไป ก็ประคองพวงมาลัยดีๆ
หลังจากนั้นก็เชนเกียร์ลงแล้วก็ซัดออกจากแอ่งน้ำไปอย่างสวยงาม

ปล.ปกติเป็นคนชอบลงน้ำครับ

พี่อาร์ต คนหรือรถกันแน่ที่ชอบลงน้ำครับ ;D



Fly to dream

เข้ามาเก็บความรู้ อิอิ ยิ่งชอบขับเร็วๆอยู่ด้วย ;D
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย



MyName

Re: เมื่อขับรถแล้วเจอแอ่งน้ำที่โค้งควรทำ
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2010, 16:38:41 »
เข้ามาเก็บความรู้ด้วยอีกคนครับ ปกตินี่เจอแอ่งนี่ แตะเบรคทันที แล้วก็ปัดแบบไม่มีเยื่อใย หุหุ
2022 - Nissan Almera 1.0 Turbo VL
2016 - Mazda 2 1.5XD High Plus L
2008 - Mitsubishi Space Wagon 2.4 GLS Ltd. !User'Review Click here!
1997 - Daihatsu Mira Mint 850cc AT



boykung

เป็นผมผมก็ไม่เบรก ไม่หลบ ไม่กดคันเร่งเพิ่มนะ คือถอนคันเร่งกับประคองพวงมาลัย พอลงตูมไป ก็ประคองพวงมาลัยดีๆ
หลังจากนั้นก็เชนเกียร์ลงแล้วก็ซัดออกจากแอ่งน้ำไปอย่างสวยงาม

ปล.ปกติเป็นคนชอบลงน้ำครับ

เหมือนจะสื่อถึง อ่าง  ;D ;D ;D
Hyundai Grand Starex 2012
Kia Rio 2013
Volvo XC60 D4 Hybrid with Engine Oil 2013
Mercedes Benz S300Hybrid AMG 2014
BMW 420D Coupe M Sport 2016



rchai24

เมื่อเช้า เจอกระบะโผล่มาแค่หัว..ข้างๆสะพานโค้งเส้น 345 (จากเส้นสะพานพระราม 4) คาดว่าคงเลี้ยวแล้วเอาไม่อยู่ ..

ถ้าจะให้ปลอดภัยสุด.. ลดความเร็วก่อนเข้าโค้งดีกว่าครับ (ถ้าทำทันนะ) ถ้าไม่ทันเลี้ยงคันเร่งระหว่างโค้งกับจับพวงมาลัยแน่นๆ.. ช่วยให้ยึดถนนขึ้น (ไม่ควรเหยียบเบรค) เพราะแรงเข้าสู่ศูนย์กลางคงที่ ทำให้ไม่หลุดโค้งน่ะครับ (แต่หวาดเสียวมาก.. เพราะรถเอียงเลย ออกแนวรถดริฟ เหอๆ)

โชคดีครับ
(-_-")



FyGI

เคยเจอแอ่งน้ำขนาดใหญ่หน้า Toyota Buzz สาขาเกษตร-นวมินทร์

ตอนนั้นทำได้แค่ สองมือจับพวงมาลัยให้มั่นคงที่สุด ยก teen ออกจากคันเร่ง

สุดท้ายก็ผ่านมาได้ด้วยดี แต่แอบเข้าใกล้ฟุตบาทไปหน่อย



|||

เคยวิ่ง120 ทางตรงๆเนี่ยแหละครับ อยู่ดีๆเจอแอ่งน้ำขัง ดีนะจับพวงมาลัยแน่น แต่ปวดมือไปสองวันเลย น่ากลัวจริงๆ



udis

วันอาทิตย์ที่ผ่านมาขับกลับทางกรุงเทพตอนบ่ายๆ ฝนตกหนักมาก
แต่ก็เจอบางช่วงที่ฝนตกใหม่ๆที่เค้าว่าช่วงนี้จะลื่นที่สุด

เจอแอ่งน้ำทางโค้ง จับพวงมาลัยปกติน่ะแหละครับ
เพราะมันไม่ได้แหว่งอะไรมากเลยครับ จับไว้ธรรมดาก็อยู่ครับ

แต่เข้าใจว่ารถแต่ละคันไม่เหมือนกัน อาจต้องออกแรงมากน้อยไม่เท่ากัน
อันนี้ต้องรู้พฤติกรรมรถตัวเองดีดีครับ

เรื่องคันเร่งก็เยียบไปปกติครับ ผมเคยเยียบส่งเพิ่ม รถก็นิ่งปกติครับ
แต่ถ้ายางรถแย่แล้ว ก็ลำบากหน่อยครับ อย่าลืมดูยางด้วยครับ

ผมเคยบอกว่ายาง Yokohama A10 ติดรถเดิมของผมมา ถนนเปียกนี่เกาะได้กลางๆ
ผมขอเปลี่ยนคำพูดล่ะกัน วิ่ง 140(ช่วงแซง ปกติวิ่ง 100 นิดๆ)
เกาะเยี่ยมมากครับ แซงซ้าย แซงขวาช่วงทางโค้งช่วงฝนตกหนักๆ แอ่งน้ำผ่านสบายครับ

อีกอย่าง ก่อนเข้าโค้งแต่ละโค้ง เราควรจะทราบแล้วนะครับ ว่ารถเราที่ขับอยู่เข้าที่เท่าไหร่ถึงจะปลอดภัยนะครับ
แน่นอนว่าช้าแต่ชัวว์ไว้ก่อนเป็นดีครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 05, 2010, 20:41:15 โดย udis »



rchai24

อันนี้วิธีเข้าโค้งสำหรับมือใหม่..เผื่อมีประโยชน์ครับ (^^)

การเข้าโค้งสำหรับมือใหม่

เพื่อความเข้าใจโดยง่ายและปลอดภัย จะขอแบ่งการเข้าโค้งออกเป็น 4 ขั้นตอน
เมื่อรถวิ่งมาถึงทางโค้ง สิ่งที่จะต้องทำมีดังต่อไปนี้ (ห้ามทำสลับกัน)


1. เบรก เพื่อชะลอความเร็วให้เหมาะสมกับโค้งนั้นๆ การเบรกทำให้น้ำหนักรถถ่ายมาด้านหน้า ส่งผลให้รถหน้าทิ่ม ท้ายยก ยางหน้ามี traction มากกว่ายางหลัง(หน้าเกาะกว่าหลัง) ท้ายรถเบา
ถ้าเบรกหนักเกินจนล้อล็อค ยางจะไถไปกับพื้นถนนและขาดการควบคุม ไม่ว่าจะหักพวงมาลัยยังไงรถก็จะไม่เลี้ยว(ยางรับภาระเกินความสามารถ) จนกว่าจะคลายเบรกเพื่อให้ยางรับภาระน้อยลงจึงจะสามารถควบคุมทิศทางได้อีก

2. เปลี่ยนเกียร์ลง (shift down) เพื่อให้อัตราทดเกียร์เหมาะสมกับความเร็วระหว่างที่อยู่ในโค้งและกดคันเร่งออกจากโค้ง หากเปลี่ยนเกียร์ได้ไม่นุ่มนวลจะทำให้รถมีอาการหน้าทิ่ม น้ำหนักรถจะถ่ายมายังล้อหน้า

3. ปล่อยเบรก เมื่อลดความเร็วลงอยู่ในระดับที่เหมาะสมกับโค้งแล้วให้ปล่อยเบรก ณ จุดนี้น้ำหนักรถจะเริ่มถ่ายไปข้างหลัง

4. เลี้ยวและเดินคันเร่ง น้ำหนักรถจะถ่ายไปข้างหลังมากขึ้นจากการเดินคันเร่ง และถ่ายไปด้านข้างจากการหักพวงมาลัยเลี้ยว น้ำหนักคันเร่งขึ้นอยู่กับสถานการณ์ อย่างน้อยที่สุดให้คลอคันเร่งตลอดเวลาที่อยู่ในโค้ง
ไม่ควร เข้าโค้งแบบใส่เกียร์ว่างหรือไม่เหยียบคันเร่งเลย(ลอยเข้าไป) เพราะการคลอคันเร่งจะทำให้มีกำลังส่งถ่ายไปยังล้อตลอดเวลา ทำให้อาการรถมั่นคงขึ้น แต่ไม่ควรเกินลิมิตของยางที่รับได้เพราะจะทำให้รถ understeer หรือ oversteer ได้

แรกๆอาจจะยังไม่ค่อยคล่องและมีรอยต่อระหว่างการ เบรก เปลี่ยนเกียร์ ปล่อยเบรก เลี้ยว เดินคันเร่ง ฝึกไปเรื่อยๆครับ พยายามทำให้ไม่มีรอยต่อระหว่างแต่ละอย่าง แล้วก็ปรับน้ำหนักมากน้อยของแต่ละอัน ฝึกบนนถนนในชีวิตประจำวันด้วยก็ได้นะครับ จะช่วยให้ขับได้อย่างปลอดภัยขึ้น



สิ่งที่ควรระวังที่สุดสำหรับมือใหม่ คือ

ไม่ควรเหยียบเบรกในขณะที่พวงมาลัยไม่ตรง (เลี้ยวไปเบรกไป) การเลี้ยวไปเบรก(trail braking)ไปไม่ใช่สิ่งที่ผิด อันที่จริงเป็นสิ่งที่นักขับทุกคนต้องทำได้หากต้องการจะเร็ว

แต่สำหรับมือใหม่แล้วมันยากที่ตัวท่านจะรู้ถึงลิมิตของยางและอาการต่างๆของรถตลอดจนการแก้ไขการเสียการทรงตัวของรถ ดังนั้นมือใหม่จึงยังไม่ควรใช้เทคนิค trail braking หรือเบรกควบคุมน้ำหนักเบรกขณะเข้าโค้ง

การเบรคขณะเข้าโค้งส่งทำให้รถได้รับแรงจากสองทางคือ

1. การเบรกทำให้น้ำหนักรถจะถ่ายไปอยู่ล้อหน้า ทำให้ล้อหน้าเกาะกว่าล้อหลัง น้ำหนักด้านหลังจะเบา ท้ายจะยก

2. การเลี้ยวทำให้น้ำหนักรถถ่ายไปด้านข้างในทิศทางตรงกันข้ามกับทิศที่เราจะเลี้ยวไป ทำให้รถเอียงออกหนีโค้ง

ถ้าแรงสองอย่างนี้รวมกันแล้วเกินภาระที่ยางล้อหลังจะรับได้ จะทำให้ ท้ายออกหรือท้ายปัดนั่นเอง(oversteer) จนอาจถึงขั้นรถหมุนได้

การที่บอกไว้ด้านบนว่าให้เริ่มปล่อยเบรกและคลอคันเร่งก่อนที่จะเลี้ยวเป็นการถ่ายน้ำหนักให้ไปอยู่ล้อหลังเหมือนเดิม หน้ารถจะได้ไม่ทิ่มขณะอยู่ในโค้ง น้ำหนักรถจะกระจายอย่างสมดุล ไม่มีล้อใดรับภาระมากกว่าล้ออื่นเยอะๆจนทำให้เสียอาการ ล้อทั้งสี่จะเกาะถนนเท่าๆกัน รถจะไม่หมุน

แต่ขณะอยู่ในโค้งหากเราเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงเกินกว่ายางจะรับภาระได้ รถก็จะไถลออกด้านนอก(แหกโค้ง หรือ understeer นั่นเอง)

เพราะการเลี้ยวคือการที่รถต้องพยามยามฝืนแรงที่ส่งมาจากทางตรงโดยใช้ความฝืด(friction) ที่ยางทำกับถนน เป็นตัวเปลี่ยนทิศทางของรถให้เลี้ยว ถ้าหากแรงที่ส่งจากทางตรงสูงเกินไป

เมื่อเราต้องการที่จะเลี้ยว ศักยภาพของยางในการที่จะฝืนรถให้เลี้ยวก็จะเหลือน้อยลง ถ้าหากหักพวงมาลัยมากเกิน รถก็จะแถออกด้านข้าง ทำให้เลี้ยวไม่เข้า
วิธีแก้คือต้องชะลอความเร็ว(ยกคันเร่งหรือแตะเบรก แต่ถ้าจะแตะเบรกล้อต้องตั้งตรง ไม่เช่นนั้นก็จะกลายเป็น oversteer ทำให้ท้ายออก รถหมุน) เพื่อให้ยางมีประสิทธิภาพเหลือมากพอที่จะเลี้ยว

สรุปข้อห้ามและข้อควรกระทำขณะเข้าโค้งสำหรับมือใหม่

1. ห้ามเบรกอย่างรุนแรงขณะเข้าโค้ง

2. ห้ามเหยียบคลัชแช่ไว้ขณะเข้าโค้ง

3. เบรกให้เสร็จก่อนจะเริ่มเลี้ยว

4. ไม่เปลี่ยนเกียร์ขณะอยู่ในโค้ง เพราะการ shift down ที่ไม่นุ่มนวลจะทำให้รถหน้าทิ่ม และผลจะเป็นแบบ oversteer

5. หลังจากเบรกเสร็จให้เริ่มคลอคันเร่ง (น้ำหนักคันเร่งแล้วแต่สถานการณ์ ถ้าช้าไปก็เติมได้ ถ้าความเร็วสูงพอแล้วก็แค่คลอไป)

6. ถ้าไม่แน่ใจว่าโค้งนั้นต้องใช้ความเร็วเท่าใด ให้ใช้ความเร็วต่ำกว่าที่ประเมินไว้ (ปลอดภัยไว้ก่อน)

7. หากมีข้อสงสัยหรือไม่มั่นใจ ให้ถามคนมีประสบการณ์ทันที

8. เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่าเข้าโค้งแล้วไม่มั่นใจหรือกลัว แสดงว่าเราขับเร็วเกินฝีมือ ให้ชะลอความเร็วลง

9. ไม่หักพวงมาลัยแบบฉับพลับ หรือกระตุกพวงมาลัยเวลาเลี้ยวหรือแซง เพราะจะทำให้รถเสียการทรงตัว

10. อย่าเอาเวลาเป็นตัววัดฝีมือตัวเองเป็นอันขาด ขับช้ากว่าแต่กลับบ้านปลอดภัย ย่อมดีกว่าเร็วแต่เสียวและเสี่ยง

credits: http://www.minisaturdays.com/ by ed_miniza



kritphakhin

เคยลงน้ำบ่อยมากแอ่งน้ำบ่อยมากๆ เวลาฝนตกแต่ก็ปล่อยให้ลงไปไม่เร่งไม่เบรก