ผู้เขียน หัวข้อ: // ผลทดสอบ อัตราเร่ง อัตราสิ้นเปลือง Honda CR-V e:HEV RS AWD : 1,729,000 บาท //  (อ่าน 9697 ครั้ง)

ออฟไลน์ deertesla

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,245
เรื่องประอัตราสิ้นเปลือง  อยากจะยกตัวอย่างนึง

Cx5  เครื่อง 2.5   เบนซิน  กับ 2.2 ดีเซล

ในตาราง อัตราสิ้นเปลืองต่างกันนิดเดียวไม่เยอะ

แต่ถ้าใช้ในเมือง  ดีเซลยังไปได้ 11-12  ถ้าไม่ติดเว่อร์จริงๆ
เบนซิน  8 ก็ดีแล้วครับ   เหมือนๆกับ xtrail 2.5 ล่ะ  ในเมืองซดหยั่งกับถังรั่วทีเดียว

ส่วนไฮบริดก็ตามนั้นครับนอกเมืองไม่ใช่ทาง  เอาไว้วิ่งในเมืองรถติดล้วนๆ 

การทดสอบ HLM ก็เน้นนอกเมืองเพราะควบคุมตัวแปรได้ง่ายกว่า
เอาจริงผมอยากจะเสนอทีมงานนะ  หาพื้นที่โล่งๆ วิ่งวนเป็นวงกลมสลับหยุดนิ่ง เร่งบ้าง เบรคบ้าง แต่เปลืองเวลามหาศาลเลย

ที่ผิดหวังจริงๆ นี่คือโมเดลใหม่  แต่ผลงานกลับเอาชนะ โมเดลเก่าๆไม่ได้ในหลายด้าน
เป็นผมเอาตัว CRV CVT พอครับ  ก็เพราะไไฮบริดเจ้านี้มันฟิกซ์เกียร์ต่างจากโตโยต้าหรือค่ายอื่นที่ยัดมาหลายเกียร์ครับ

ทางเว็ปก็เทสแบบนี้มาตั้งนานแล้วทำไมมามีประเด็นกระทู้นี้ 5555
นั่นแหละครับ ใครไปขัดใจสาวกคือผิดมหันต์ครับ

ออฟไลน์ deertesla

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,245
ถ้าดูจาก Eco Sticker ก็จะไม่แปลกใจหรอกครับ มันก็ได้เท่านี้แหละ จะหวังให้ได้เท่า accord กับรถที่น้ำหนักเปล่า 17xx ทรงก็ต้านลม + AWD อีก ได้เท่านี้ก็ดีถมถืดละครับ

Hybrid ของ Honda มันประหยัดจริงถ้าในเมืองเป็นหลักครับ ประหยัดกว่า Toyota ด้วย เพราะแบตใหญ่กว่า แต่นอกเมืองที่ความเร็วเดินทาง เครื่องทำงานเป็นหลัก มันก็คืออัตราสิ้นเปลืองของเครื่อว 2.0 ที่ดีกว่าเดิมหน่อยเพราะเป็นแบบ atkinson

แต่ Toyota จะความเร็วไหนมันก็เป็น Hybrid Synergy Drive หมด ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองแบบ combine กับ extra urban ถึงแพ้ Toyota
จากที่ดูอัตราทดเกียร์  e-cvtของโตโยต้ามันไ่ม่ใช่ฟิกซ์เกียร์แบบฮอนด้านะครับ เค้ายังยัดเกียร์ planetary ใส่ไว้ให้ด้วยไม่แปลกที่มาอัตราสิ้นเปลืองดีกว่าครับ

ออฟไลน์ Aleister TJ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,007
  • มีเงินเป็นล้านก็ซื้อเมื่อวานไม่ได้ แต่ถ้าร้อยล้านก็ช่างเมื่อวานมันเถอะ
    • อีเมล์
2 ดีเซลจ่ายกับข้าวที่บ้านสวนได้สบาย ggezy  ::)
My Car History ~

Honda City ZX
Toyota Yaris 1.2E
Mazda3 Skyactive 2.0S
Mazda 2 SkyActiv 1.5 High Plus L
Mitsubishi Pajero Sport 2.4 Elite

ออฟไลน์ Catbus

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 682
จากผลการทดสอบ เราสามารถสรุปได้ใช่มั้ยครับ
ถ้าวิ่งทางไกล วิ่งเร็วๆ ไปใช้ hybrid ของโตโยต้าดีกว่าสินะครับ

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,505
คนอยากได้รถ AWD คงรับได้กับอัตราการกินน้ำมัน ประมาณนี้นะครับ ถ้าไม่งั้นก็ไป ขับ2 ดีกว่า

รถ ไฮบริด + AWD เข้าใจว่าน้ำหนักคงมากกว่าปกติแน่ๆ รุ่นนี้ถ้าจำไม่ผิด ก็ 18xx ก.ก. แล้ว

ออฟไลน์ Dante Haversham

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 144
    • อีเมล์
เหมือน e:hev ของ honda จะใช้เครื่องยนต์เป็นหลักตอนวิ่งความเร็วสูงๆ
อย่าง hrv ทำได้ 18.36 km/L แต่เห็นในกลุ่มใช้งานจริงก็มี 20 ขึ้นเยอะอยุ่นะครับ

เดาว่าถ้าใช้งานทั่วไป ไม่ได้วิ่งด้วยความเร็วยาวๆ น่าจะอยุ่ที่ 17-18 km/L

มันคือ mislead ของการนำผลทดสอบของ HLM มาเปรียบเทียบบนตารางไงครับ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเปรียบเทียบระหว่างเครื่องยนต์ต่างรูปแบบ

เพราะการวิ่งบนสภาพจราจรจริงในชีวิตประจำวัน
ICE จะกินมากกว่าที่ HLM test อยู่พอควร
แต่ HEV จะประหยัดกว่าที่ HLM test

เรียกว่าอัตราสิ้นเปลืองจริง จะวิ่งออกจากผลเทส
ไปกันคนละทางครับ

เหตุผลง่ายๆ คือ ในการใช้งานบนสภาพจราจรจริง
การชะลอ การเบรค การลดความเร็ว สำหรับรถ ICE
คือการทิ้งระยะทางที่ควรจะวิ่งได้ไปเปล่าๆ
แต่กับรถ HEV มันจะเกล็บพลังงานจลน์กลับมาใช้ใหม่ครับ

สำหรับพวก HEV ผมเห็นด้วย 100% เลยครับ แล้วแต่รุ่นเลยว่าระบบ hybrid ทำงานยังไง ผลเลยค่อนข้างจะเพี้ยน

แต่พวก ICE ผมว่ามันก็ยังคงเป็นวิธีที่ดีอยู่นะครับ สำหรับทดสอบวิ่งระยะไกลๆ ความเร็วนิ่งๆ ว่ากินเท่าไหร่ แล้วเราก็มาหักลบออกจากการใช้งานจริงซัก 3-4 km/L ขึ้นอยู่กับเท้าหนักไม่หนักกับสภาพการจราจร

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,048
ไม่ impressed ครับ
แต่นั่นล่ะ รุ่นนี้ไม่ใช่ Impreza แต่ก็ถือว่าไม่เลว

ออฟไลน์ PREM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,209
แสดงให้เห็นจุดอ่อนของ powertrain นี้ ซึ่งตรงกับรีวิวฝั่งอเมริกา คือเรื่องอัตราทดจากเครื่อง fixed ทำให้ขับความเร็วเดินทางแล้วรอบสูง กินน้ำมัน
2014 Mazda CX-5 2.5 S
2016 Volvo XC60 D4 
2019 Honda Jazz RS+
2020 Volvo V60 T8 Inscription
2022 Mazda CX-30 SP

ออฟไลน์ deertesla

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,245
แสดงให้เห็นจุดอ่อนของ powertrain นี้ ซึ่งตรงกับรีวิวฝั่งอเมริกา คือเรื่องอัตราทดจากเครื่อง fixed ทำให้ขับความเร็วเดินทางแล้วรอบสูง กินน้ำมัน
นั่นแหละครับทำไมจะขี้เหนียวเรื่องระบบเกียร์กันด้วยนะค่ายนี้

ออฟไลน์ U9WS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,176
  • slower is better
เครื่องดีๆใน civic​ accord พอมาอยู่ใน crv แย่หมด
Xtrail กับ cx5 กลับไม่หนีเก๋งในค่ายตัวเองเท่าไหร่

ออฟไลน์ Left lane driver

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 716
เอาอย่างนี้ครับ  ผมยกตัวอย่างแบบสมมติตัวเลขละกัน

ผลทดสอบแบบ HLM

รถ A : 18.5 km/l  (HEV ยี่ห้อใดก็ได้)
รถ B : 17.5 km/l  (ICE ยี่ห้อใดก็ได้)

เทียบแบบนี้  มันพอ ๆ กัน จะใช้ HEV ไปทำไมใช่มั้ยล่ะครับ

แต่สิ่งที่ผมเสนอคือ

รถ A : 18.5 km/l จากวิธีมาตรฐาน HLM  แต่เพิ่มเติม ยืมมาทดสอบและวิ่งใช้งานรวม 700 km เติมน้ำมันกลับ 31L =  22.58 km/l

รถ B : 17.5 km/l จากวิธีมาตรฐาน HLM แต่เพิ่มเติม ยืมมาทดสอบและวิ่งใช้งานรวม 500 km เติมน้ำมันกลับ 36L =  13.88 km/l

* Remark *
อัตราสิ้นเปลืองอ้างอิงจากการเติมน้ำมันกลับตอนคืนรถ ไม่สามารถเทียบระหว่างรถ A กับรถ B ได้โดยตรง
เนื่องจากสภาวะการจราจรและลักษณะการใช้งานที่ต่างกรรมต่างวาระ

แต่ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองทั้ง 2 แบบ สามารถเทียบให้เห็นว่า
กรณีรถ A การใช้งานในสภาวะชีวิตประจำวันมีแนวโน้มที่จะประหยัดมากกว่าการวิ่งด้วยความเร็วคงที่ 110 km/hr.
รถณีรถ B การใช้งานในสภาวะชีวิตประจำวันมีแนวโน้มที่จะประหยัดน้อยกว่าการวิ่งด้วยความเร็วคงที่ 110 km/hr.

ที่ผมคิดถึงเรื่องนี้ เพราะก่อนที่ผมจะใช้รถ HEV ก็เทียบตรง ๆ ตามตารางผลทดสอบนี่แหละ
และพบว่า HEV ไม่เห็นจะช่วยประหยัดได้เท่าไหร่เลย  แต่ก็แปลกใจกับต่างประเทศที่นิยมใช้รถ HEV กัน
และต่างพูดว่ามันประหยัดกว่ากันมาก
และเมื่อได้ลองใช้จริงจึงพบว่า  อัตราสิ้นเปลืองมันต่างไปจากที่เคยดูจากตารางเพียงอย่างเดียวโดยที่รับรู้มาโดยตลอดว่า
ผลการทดสอบแบบวิ่งนิ่ง ๆ 110 จะให้อัตราสิ้นเปลืองที่ดีที่สุด และเมื่อใช้จริงจะไม่สามารถประหยัดได้เท่านั้น

ทำใจไว้ว่ามันจะกินมากกว่าการทดสอบแบบ HLM แน่นอน   ซึ่งผมก็เลยถูก mislead จากการเชื่อ ศรัทธา ผลทดสอบ
แบบนี้มาก่อนไงครับ 
และแน่นอนว่า เมื่อมาถึงปัจจุบัน เริ่มพบว่า การเทียบอะไรตรง ๆ แบบที่เคยทำกันมา วิธีการมันเริ่มจะไม่พอสำหรับ
กลุ่มรถ HEV และ BEV จึงเริ่มคิด วิเคราะห์ว่า เพราะอะไรมันจึงเป็นเช่นนั้น  ต่างจากสิ่งที่เราเคยเชื่อกันมาโดยตลอด
ซึ่งผมคิดว่า สิ่งที่ต่างกันก็คือทั้ง HEV และ BEV ต่างก็มีระบบ regenerative ที่ดึงเอาพลังงานที่เสียไปกลับคืนมา
โดยที่ ICE มันไม่มีระบบนี้  ดังนั้น การ Test ICE ที่จะได้ค่าอัตราสิ้นเปลืองที่ดีที่สุดคือ วิ่งยังไงให้มีการสูญเสีย
ระยะทางวิ่งไปกับการชะลอ การเบรค ให้น้อยที่สุด นั่นคือการวิ่งด้วยความเร็วนิ่ง ๆ เป็นระยะทางยาว ๆ ที่สุดเท่าที่จะทำได้

เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ววิธีการทดสอบใดจะดีที่สุด  บอกตรง ๆ ว่า ผมก็ยังไม่ทราบ และผมเองก็ไม่ได้ว่าการทดสอบแบบ
ที่ HLM ทำอยู่นั้นมันไม่ดี   เพียงแต่ผมขอแค่เพิ่มเติมข้อมูลอีกหน่อย ตรงที่เอาค่าการใช้งานทั้งหมดที่เกิดจากการยืมรถ
ในครั้งนั้นมาแปะไว้ด้วย เท่านั้นเอง ซึ่งทางทีมงานก็ไม่ต้องจัดการทดสอบเพิ่ม  เพียงแค่ set trip meter และ จดค่า
จำนวนลิตรของน้ำมันที่เติมก่อนคืนรถเท่านั้นเอง ซึ่งก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่เหนือบ่ากว่าแรงไม่ใช่หรือสำหรับทีมงาน

และสำหรับคนอ่านอย่างเราล่ะ  ถ้ามีข้อมูลเสริมประกอบการพิจารณาเพิ่มขึ้น มันก็ไม่ใช่เรื่องดีหรอกหรึอครับ
ุ้
ผมมองว่าถ้าทีมงานจะกรุณาเพิ่มข้อมูลตรงนี้ให้จริง  และท่านผู้อ่านที่ไม่ชอบใจข้อมูลตรงนี้ก็เลือกที่จะมองข้าม
แล้วไปยึดถึงข้อมูลเฉพาะในส่วนที่ทดสอบแบบวิ่งนิ่ง ๆ 110 ก็ได้นี่ครับ  ไม่เห็นจะเสียหายอะไร

อ้อ! ยังมีประเด็น PHEV อีกนะครับ  ที่การใช้งานจริง เจ้าของรถจะต้องจ่ายทั้งค่าไฟและค่าน้ำมัน
แต่ในตารางการทดสอบคิดระยะทางทั้งหมดหารด้วยน้ำมัน แต่ไม่ได้เอาไฟฟ้ามาคิดด้วย  นี่ก็เป็นอีกประเด็น
ที่น่าจะขบคิดกันต่อครับ
ตรงนี้ผมว่าคุณเข้าใจผิดเองนะครับ
คือวิ่ง 110 มันไม่ใช่ความเร็วที่รถจะประหยัดที่สุด แต่มันคือความเร็วที่คนทั่วๆไปขับเวลาเดินทางไกล
แล้วเว็ปนี้ก็ไม่ได้ทดสอบว่ารถแต่ละรุ่นมันจะประหยัดสุดได้กี่ km/l แต่เขาทดสอบว่า ณ ความเร็ว 110 km/h ซึ่งเป็นความเร็วใช้เดินทาง รถมีอัตราสิ้นเปลืองเท่าไหร่
ถึงรถมันอาจจะทำอัตราสิ้นเปลืองได้ดีกว่านี้ที่ความเร็วอื่นๆ แต่มันก็ไม่ใช่ความเร็ว 110 ที่เป็นมาตรฐานทดสอบ

และถ้าจะให้จดเลข trip meter ตั้งแต่ยืมรถมา แล้วเติมน้ำมันกลับตอนคืนรถเพื่อหาอัตราสิ้นเปลือง
มันก็ไม่ได้สะท้อนถึงอัตราสิ้นเปลืองที่แท้จริงอยู่ดีครับ เพราะต้องทำพวกอัตราเร่ง ทำ top speed มีกดคันเร่งมิดบ่อยๆ
ถ้ารถคันไหนขับมันส์หน่อยก็อาจจะกดบ่อยๆเป็นว่าเล่นตลอดการทดสอบ ถ้าคันไหนช่วงล่างห่วยๆก็อาจจะไม่กล้าขับเร็ว แค่นี้ก็ error กระจายแล้วครับ
ไหนจะต้องจอดถ่ายรูป ถ่ายคลิปรีวิว แต่ละคันใช้เวลาถ่ายทำไม่เท่ากันอีก
ตอนคืนรถเผลอๆอาจได้เห็นอัตราสิ้นเปลือง 10 km/l ในรถน้ำมันเพียวๆ หรือ 9 km/l ในรถไฮบริด กลายเป็นว่า misleading หนักกว่าเดิมอีกครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 27, 2023, 00:45:48 โดย Left lane driver »

ออฟไลน์ Tsengok

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 30
รอดูอัตราสิ้นเปลือง เครื่อง turbo
ถ้าพอๆกันก็มีลังเล เพราะรอรถนานมาก ehev rs
ยอมรับว่าจอง ehev ไปเพราะเรื่องประหยัดน้ำมัย สำหรับ AWD ด้วยส่วนนึง แต่ผลลัพธ์ก็เห็นได้ว่าไม่ประหยัดมากอย่างที่คิด

ถ้าเทียบกับ accord ehev พี่จิมทำไว้ ที่ 18.7 km/l ใช้จริงก็ราวๆ นั้น มีแต่ 20-23 บ้างแล้วแต่การจราจร (เท่าที่สังเกตุ ehev วิ่งๆ สลับจอด จะประหยัด ถ้าวิ่งยาวๆ ไม่)

แต่ด้วยความ AWD จะเอามาแต่วิ่งในเมืองก็กระไรอยู่

ถ้าเทียบการใช้งาน เน้น ออก ตจว ใช้เครื่องอะไรก็ได้ ice หรือ hybrid