ตอนนี้ยังมี "รถดี" ที่ไม่พึ่งพาหรือพึ่งพิงระบบคอมพิวเตอร์บ้างไหมครับ?

thanawanch

เจ้าวอลโว่ที่บ้านผมมีอาการแปลกๆ เลยโทรถามศูนย์ตลิ่งชันเพื่อจะสอบถามอาการเบื้องต้นว่ามันปกติ หรือมันอ๊อง
ช่างให้คำตอบอะไรไม่ได้นอกเสียจากบอกว่า "ต้องเอาเข้ามาเช็คโค้ด"
.
.
อือ...มันทำให้ผมได้กลับมาคิดว่า เดี๋ยวนี้ รถเป็นยานพาหนะ หรือ รถคือคอมพิวเตอร์ ไปเสียแล้ว
.
.
ผมอายุไม่มากครับ 30ต้นๆ แต่ก็ถือว่าแก่พอที่จะได้ลิ้มรสการขับรถที่เป็นยานพานหะจริงๆ
กล่าวคือ เคยได้ขับ ได้ลองรถที่ผ่านการจูน การเซ็ตช่วงล่าง มาจากโรงงานแล้วมันเป๊ะ มันโดน มันใช่ มัน reliable
ถ้ามีอาการอ๊องๆก็ทิ่มหัวเข้าไปให้ช่างเอาน็อต เอาประแจไข เปิดฝากระโปรงเปลี่ยนถ่ายของเหลว
.
.
แต่พอเข้าสู่ยุคปัจจุบัน รถเป็นมากกว่ายานพาหนะ มันกลายเป็นอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ เป็นคอมพิวเตอร์ที่เคลื่อนที่ได้
เราต้องหมั่น "อัพเดต" ซอฟแวร์ให้เป็นเวอร์ชั่นปัจจุบัน แก้ไขbug ตรวจสอบError code ฯลฯ
การปรับเซตช่วงล่างกลายเป็นหน้าที่ของคอมพิวเตอร์ที่จะ customize และ personalize ให้เข้ากับความชอบของแต่ละบุคคล
มากกว่าที่จะเป็นการเซตค่า default "วัดกึ๋น" และ "วัดใจ" งานวิศวกรรมจากโรงงาน
.
.
อยากทราบว่าในยุคปัจจุบันนี้ ยังมี "รถดี" ป้ายแดง ที่ดีมาจากโรงงาน และพึ่งพา&พึ่งพิงระบบคอมพิวเตอร์น้อยถึงน้อยที่สุด อยู่บ้างไหมครับ?




Symphonic

คำถามนี้ตอบยากเลยครับ แต่ถ้าให้วิเคราะห์ความต้องการจากคำถามคือ
ต้องการรถที่ใช้ระบบแม็คคานิกส์ล้วน ไม่ใช้ไฟฟ้าควบคุมและต้องให้เพอร์ฟอร์แมนซ์ที่พอใจ

แบ่งเป็นสองประเด็นคือ
1.รถที่ใช้ระบบแมคคานิกส์ล้วน
2.เพอร์ฟอร์แมนซ์เป็นที่พอใจ

ข้อแรก ก็คงมีแต่รถรุ่นล่างๆ เน้นประหยัด ไม่มีลูกเล่น
แต่คงยังต้องมีระบบอิเล็กทรอนิกส์มาควบคุมให้ผ่าน
Regulation ต่างๆ พวก มลพิษ และความปลอดภัยล่ะครับ
เลี่ยงไม่ได้

ส่วนข้อสองคือ เจ้าของรถล้วนๆ เลยครับ ว่ารับได้แค่ไหน
และต้องเป็นคนส่วนใหญ่ด้วย เพราะบริษัทรถคงต้องมอง
ลูกค้าคนกลุ่มมากเป็นหลักครับ

ไม่ต้องอะไรมาก แค่รถ D Seg ที่เพิ่งเปิดตัวมาใหม่เมื่อไม่กี่วันมานี้
ยังมีคนบ่นเลยว่า ควรมีฝาท้ายไฟฟ้ามาได้แล้ว 
ก็เมื่อลูกค้าอยากได้ บริษัทรถก็ต้องพยายามใส่มาล่ะครับ



nmd

ที่จริงแล้วพวก code ต่างๆ ทำให้การเช็คความผิดปกติทำได้ง่ายขึ้นครับ
แต่บางทีมันเอ๋อได้ ด้วยปัจจัยบางอย่าง เช่น อุณหภูมิ ความชื้น (เพราะใช้ sensor)
ทำให้ต้องอัพเดตมันเรื่อยๆ เพื่อทำให้มันเสถียร



helloweentz

รถที่ออฟชั่นเยอะๆ ใช้ประมาณ เกิน 7 ปี ระบบเทคโนโลยี ชอบ เอ๋อ

ถ้าออฟชั่นน้อย สิ่งความสะดวกก็น้อย ต้องแลก อีก  8)
BRV 2016
Mileage :  173,583
รายการซ่อม :
เกียร์
แอร์
โช๊คหลัง
ลูกยางยึดท่อ
เพลาขับ



ฟง อวิ๋น

ถ้ารถยุโรปที่ขายในบ้านเราก็นึกไม่ออกแล้วครับว่าจะมีไหม

อย่าง FORD Ranger รุ่นล่างสุดก็ยังต้องพึ่งตัวเช็ค error code อยู่ดี

อย่างพี่โต ถ้าเป็น Yaris H/B ก็ยังมีระบบไม่มาก การ update firmware ผมไม่เคยได้ยินว่าต้องทำ
แต่พอเป็น Yaris Ativ, Yaris Cross, Veloz ที่เป็น Daihutsu มีระบบเยอะขึ้น ถึงมีจอแสดงข้อมูลก็บอกไม่หมดต้องไปจิ้มเครื่องมือที่ศูนย์อยู่ดี

ขอตอบแบบไม่กวน ผมว่าคงจะยังเหลือแต่ Suzuki ละครับ ที่ยังมีโอกาสเป็นแบบที่ท่านว่า (อย่าง Swift ก็เป็นรถที่ดีพอได้ครับ)

แต่เอาเข้าจริง เครื่องเช็ค Error Code สมัยนี้ ก็หาง่าย ต่อให้เป็นรุ่นที่รองรับ Benz หรือ BMW ก็ราคาไม่แพงมากเหมือนแต่ก่อนแล้วครับ
Isuzu SLX, Accord G4, Colorado, Hilux Tiger, Lancer I, Triton, D-Max Cab4, TiiDA, Mazda2 I, Mazda2 II, D-Max, Fortuner, Sunny B14, Jazz GK, Accord G9, Mazda2 Sky, GLA200, Yaris, Alphard30, Lancer II, Lander III, Ranger, XL7, Forester SK, Swift, Stargazer, Aion V



peanutbutter

ค่อนข้างยากเลยครับรถยนต์รุ่นที่ทำตลาดปัจจุบันหรือย้อนไป อย่างน้อยใช้ obd เช็ค code เพื่อวิเคราะห์ความผิดปกติของระบบตัวรถ จากโจทย์คันเดิมขับวอลโว่ ลองเปลี่ยนมาใช้รถญี่ปุ่นแบรนด์หลักดูไหมครับ หรือ Suzuki swift แบบท่านด้านบนแนะนำก็น่าสนใจ ระบบไม่ซับซ้อน เครื่อง n/a



Tien.W

รถสมัยนี้ มีกล่อง ecu หมด แม้แต่ กระบะตอนเดียว ตัวล่างสุด จะทำอะไร ยังต้องเช็ค code เลยครับ



Sit: )

การใช้คอมเช็คเป็นเรื่องที่ดีนะครับ
ลองสมมุตินะครับ รถ 6 สูบ ถ้าไม่รู้ว่าความผิดปกติเกิดที่สูบไหน สับของลองกันวุ่นเลยนะครับ

ผมว่าการใช้เครื่องมือ ช่วยหาเป้าได้เร็วกว่าเยอะ



kiwiwi

การใช้คอมเช็คเป็นเรื่องที่ดีนะครับ
ลองสมมุตินะครับ รถ 6 สูบ ถ้าไม่รู้ว่าความผิดปกติเกิดที่สูบไหน สับของลองกันวุ่นเลยนะครับ

ผมว่าการใช้เครื่องมือ ช่วยหาเป้าได้เร็วกว่าเยอะ
ทำให้นึกไปถึงสมัยใช้ e34 เลยครับ ปั๊มติ๊กเสีย แต่เจ้าของอู่ลองตั้งแต่ จานจ่าย ไอดี(เซ็นเซอร์​ล้ินเปีกผีเสื้อ)​ จนสุดท้ายก็ปั๊มติ๊กจากคันข้างๆที่มาซ่อมช่วงล่าง

เครื่องอ่านโค้ดสมัยก่อนยังแพงอยู่เลยครับ น้อยอู่ที่จะมี



apinui

ผมว่าคุณกำลังเข้าใจผิด เกี่ยวกับระบบการทำงานของรถยนต์ในขั้้นพื้นฐานซึ่งเป็นแบบนี้มานานแล้ว และยังเป็นอยู่ในปัจจุบันนะ

ทำไมรถมีปัญหา ต้องเช็คโค็ด วุ่นวายกับคอมฯ ระบบเยอะ บราๆ ... ย้อนเวลาไปรถยนต์คาบูเรเตอร์ ที่ไม่มีระบบไฟฟ้า หรือ ระบบหัวฉีด EFI รุ่นแรกๆเลยก็ได้ เวลามีปัญหา เครื่องสะดุด เดินไม่เรียบ เร่งไม่ขึ้น หรืออื่นๆ

เวลาเข้าศูนย์หรือเข้าอู่ ช่างจะเดาอาการเองว่า น่าจะเกิดจากอะไร เช่น น้ำมันบาง หัวเทียนบอด ลิ้นปีกสกปรก หรืออื่นๆและก็แก้ไปตามที่ช่างคิดว่าอาจจะเกิดตรงนั้น และมีหลายครั้งคือ แก้ไม่หาย ล้างลิ้นปีกแล้ว รอบเครื่องก็ยังสวิงเหมือนเดิม (คิดว่าประสบการตรงนี้คุณคงไม่เคยเจอ) ทีนี้ก็เดาไปเรื่อยเลย จนมีคำที่พูดกันมากว่า "แก้ไม่จบ" ก็เพราะไม่เจอปัญหาที่แท้จริงไง

ยุคต่อมา ได้มีการพัฒนาโดยการฝังเซ็นเซอร์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของเครื่องยนต์มากขึ้น เพื่อนำมาเป็นตัววิเคราะห์อาการ ฟ้องอาการ รวมถึงเป็นตัวให้เครื่องยนต์เรียนรู้การทำงานได้เอง โดยการใส่เซ็นเซอร์ O2 Co2 เซ็นเซอร์แรงดันน้ำมันเครื่อง เซ้นเซอร์วัด ไอดี ไอเสีย และอื่นๆอีกมากมายเป็นร้อยๆจุด แม้แต่แอร์ก็ยังมีเซ็นเซอร์เลย

และทีนี้ ศูนย์รวมข้อมูลทั้งหมดก็จะไปรวมอยู่ในกล่องควบคุมที่เรียกกันว่า กล่อง ECU ซึ่งมันจะทั้งบรรทึก ประมวลผล และควบคุมระบบเครื่องยนต์รวมถึงระบบขับเคลื่อนทั้งหมดไว้

มาถึงตรงนี้คุณน่าจะพอเข้าใจเพิ่มแล้วว่า ทำไม เวลาเข้าศูนย์ ใครๆก็จะไม่กล้าตอบคำถามคุณว่า รถเสียที่อะไร แต่ให้มาเสียบกล่องเช็ค Error เพราะสาเหตุมันเยอะ การเสียบกล่องมันจะเป็นการแก้ปัญหาได้ถูกจุด เพราะมันจะบอกว่า อะไรของรถคุณผิดปกติ

หมอรักษาคน ถ้าวิเคราะห์อาการไม่แน่ชัด หมอจะสั่งตรวจเลือด เพราะเลือดมันจะบอกทุกอย่างในร่างกาย ... ECUก็เหมือนเลือดอะครับ เสียบกล่องรู้เลย อะไรพังไม่ต้องเดา

จากภาพ ลองดูครับ ในรถหนึงคันมีอะไรบ้าง และรถปัจจุบัน ระบบเยอะกว่านี้มาก รถเร่งไม่ขึ้น ปัญหาอาจไม่ใช่ที่เครื่องยนต์แต่ทรัคชั่น อาจทำงานผิดปกติก็ได้ ช่างไม่รู้เดาอาการยกเครื่องใหญ่โต ก็มีมาแล้วนะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 23, 2024, 11:49:42 โดย apinui »



samaklen

มีในรถในอดีตที่เราขับครับ
ตั้งแต่มีระบบหัวฉีดจ่ายเชื้อเพลิง
ระบบคอมพิวเตอร์ที่ท่านว่าก็เริ่มมีมาครับ
ผมก็คิดถึงเหมือนกัน
ถ้าไม่ใช่รถใหม่
ที่วิ่งๆ กันอยู่ ก็มาสด้ากระบะ Familia ครับ



off_033

เอาแบบไม่มีระบบคอมเลยคงต้องย้อนไปสมัยเครื่องคาร์บูเรเตอร์โน่นละครับ

การมี ecu ไม่ใช่เรื่องวุ่นวาย  แต่คุณภาพและตำแหน่งที่วางต่างหาก เดี๋ยวนี้ชอบเอาไปไว้ในห้องเครื่องร้อนๆ 

เจอบ้านเราเข้าไปก็เจ๊งกันหมด มีไม่กี่ยี่ห้อที่ทนถึกพออยู่ได้



ฟง อวิ๋น

ผมว่าคุณกำลังเข้าใจผิด เกี่ยวกับระบบการทำงานของรถยนต์ในขั้้นพื้นฐานซึ่งเป็นแบบนี้มานานแล้ว และยังเป็นอยู่ในปัจจุบันนะ

ทำไมรถมีปัญหา ต้องเช็คโค็ด วุ่นวายกับคอมฯ ระบบเยอะ บราๆ ... ย้อนเวลาไปรถยนต์คาบูเรเตอร์ ที่ไม่มีระบบไฟฟ้า หรือ ระบบหัวฉีด EFI รุ่นแรกๆเลยก็ได้ เวลามีปัญหา เครื่องสะดุด เดินไม่เรียบ เร่งไม่ขึ้น หรืออื่นๆ

เวลาเข้าศูนย์หรือเข้าอู่ ช่างจะเดาอาการเองว่า น่าจะเกิดจากอะไร เช่น น้ำมันบาง หัวเทียนบอด ลิ้นปีกสกปรก หรืออื่นๆและก็แก้ไปตามที่ช่างคิดว่าอาจจะเกิดตรงนั้น และมีหลายครั้งคือ แก้ไม่หาย ล้างลิ้นปีกแล้ว รอบเครื่องก็ยังสวิงเหมือนเดิม (คิดว่าประสบการตรงนี้คุณคงไม่เคยเจอ) ทีนี้ก็เดาไปเรื่อยเลย จนมีคำที่พูดกันมากว่า "แก้ไม่จบ" ก็เพราะไม่เจอปัญหาที่แท้จริงไง

ยุคต่อมา ได้มีการพัฒนาโดยการฝังเซ็นเซอร์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของเครื่องยนต์มากขึ้น เพื่อนำมาเป็นตัววิเคราะห์อาการ ฟ้องอาการ รวมถึงเป็นตัวให้เครื่องยนต์เรียนรู้การทำงานได้เอง โดยการใส่เซ็นเซอร์ O2 Co2 เซ็นเซอร์แรงดันน้ำมันเครื่อง เซ้นเซอร์วัด ไอดี ไอเสีย และอื่นๆอีกมากมายเป็นร้อยๆจุด แม้แต่แอร์ก็ยังมีเซ็นเซอร์เลย

และทีนี้ ศูนย์รวมข้อมูลทั้งหมดก็จะไปรวมอยู่ในกล่องควบคุมที่เรียกกันว่า กล่อง ECU ซึ่งมันจะทั้งบรรทึก ประมวลผล และควบคุมระบบเครื่องยนต์รวมถึงระบบขับเคลื่อนทั้งหมดไว้

มาถึงตรงนี้คุณน่าจะพอเข้าใจเพิ่มแล้วว่า ทำไม เวลาเข้าศูนย์ ใครๆก็จะไม่กล้าตอบคำถามคุณว่า รถเสียที่อะไร แต่ให้มาเสียบกล่องเช็ค Error เพราะสาเหตุมันเยอะ การเสียบกล่องมันจะเป็นการแก้ปัญหาได้ถูกจุด เพราะมันจะบอกว่า อะไรของรถคุณผิดปกติ

หมอรักษาคน ถ้าวิเคราะห์อาการไม่แน่ชัด หมอจะสั่งตรวจเลือด เพราะเลือดมันจะบอกทุกอย่างในร่างกาย ... ECUก็เหมือนเลือดอะครับ เสียบกล่องรู้เลย อะไรพังไม่ต้องเดา

จากภาพ ลองดูครับ ในรถหนึงคันมีอะไรบ้าง และรถปัจจุบัน ระบบเยอะกว่านี้มาก รถเร่งไม่ขึ้น ปัญหาอาจไม่ใช่ที่เครื่องยนต์แต่ทรัคชั่น อาจทำงานผิดปกติก็ได้ ช่างไม่รู้เดาอาการยกเครื่องใหญ่โต ก็มีมาแล้วนะ



+1,000,000  :) :) :)
Isuzu SLX, Accord G4, Colorado, Hilux Tiger, Lancer I, Triton, D-Max Cab4, TiiDA, Mazda2 I, Mazda2 II, D-Max, Fortuner, Sunny B14, Jazz GK, Accord G9, Mazda2 Sky, GLA200, Yaris, Alphard30, Lancer II, Lander III, Ranger, XL7, Forester SK, Swift, Stargazer, Aion V



SM.

เอาแบบไม่มีระบบคอมเลยคงต้องย้อนไปสมัยเครื่องคาร์บูเรเตอร์โน่นละครับ

การมี ecu ไม่ใช่เรื่องวุ่นวาย  แต่คุณภาพและตำแหน่งที่วางต่างหาก เดี๋ยวนี้ชอบเอาไปไว้ในห้องเครื่องร้อนๆ 

เจอบ้านเราเข้าไปก็เจ๊งกันหมด มีไม่กี่ยี่ห้อที่ทนถึกพออยู่ได้

+1



PREM

ตั้งแต่รถมี ECU มี OBD ก็ถือว่ามีอะไรผิดปกติก็ต้องพึ่งระบบคอมแล้วแหละครับ ตัวอย่าง common สุดๆ เช่นไฟ check engine ที่ต้องไปเสียบ OBD ถึงรู้ว่าอะไรผิดปกติ ซึ่ง OBD นี่เข้าใจว่าเริ่มใช้ตั้งแต่ปลาย 80s เป็นต้นมา เพราะฉะนั้นรถสมัยนี้ที่ไม่พึ่งระบบคอมเลยคงไม่มีครับ แต่ถ้าพึ่งให้น้อยสุดคงต้องพวกรถที่เทคโนโลยีออพชั่นน้อยๆ
2013 Mercedes E 63 AMG (W212)
2016 Volvo XC60 D4 
2019 Honda Jazz RS+
2020 Volvo V60 T8 Inscription
2022 Mazda CX-30 SP



V221

ยากมากครับสำหรับรถสมัยนี้ น้อยสุดคงเป็นพวกEco carตัวเริ่มต้น ยิ่งรถยุโรปมีกล่องเยอะแยะไปหมด อัพเดทFirmwareกันทางOnlineหมดแล้ว BMW 750eผมก็เพิ่งกลับมาจากศูนย์ไม่นานหลังจากขึ้นMessageว่าHigh voltage batteryและหลังจากนั้นตามด้วยDrivetrain แต่สามารถใช้ได้ปกติหลังจากสถานะResolvedของรถเอง แต่ศูนย์ก็ขอให้เอาไปเช็คCodeซึ่งหลังจากนั้นก็มีCodeเด้งตอนทดสอบวิ่งจริงๆ ช่างต้องลงโปรแกรม2ครั้งที่เรียกว่าAdaptive gearเพราะมีCodeหลังจากลงครั้งแรกแล้วไปลองวิ่งทดสอบ2วัน โชคดีที่หายเป็นปกติ ไม่งั้นอาจจะต้องเปลี่ยนสมองหรือMechatronicของเกียร์ที่มีปัญหาบางคันสำหรับ750และ760 ตัวใหม่ล่าสุด

IMG 0554" border="0
IMG 0555" border="0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 24, 2024, 07:35:03 โดย V221 »
BMW 750E M SPORT



Weetting

ย้อนกลับไปรถที่เป็นหัวฉีดแต่ไม่มีกล่อง ECU 

กระบะก็ยุค 2000 นั่นแหละครับ

หรือเก่าลงไปอีกก็ พวก ม้าโดด  มังกร 

สายเข้าป่าโคตรชอบลุยน้ำท่วมยันเบาะคนขับมันก็ไปได้ถ้ามีสนอคเกิ้ล 

THE Manual Gearbox Preservation Society
Drive diesel until last day



dht_tubes

ในมุมนึงมันเช็คได้ละเอียดขึ้นเป็นเรื่องดีแต่ปัญหาของช่างไทยกับลูกค้าที่เจอกันมาเยอะก็คือมีโค้ดให้เช็คแต่เปลี่ยนแล้วก็ยังไม่หายนี่สิ

ผมเดาว่าเจ้าของกระทู้อาจจะหมายความถึงเรื่องค่าใช้จ่ายของชิ้นส่วนที่เพิ่มขึ้นในกรณีถ้ามันเสียเมื่อเทียบกับสมัยก่อนที่มีอุปกรณ์จำพวกนี้น้อยกว่า แล้วที่ปฏิเสธไม่ได้คืออุปกรณ์ไฟฟ้าเหล่านี้ราคามันโหดจริงๆ




NoName__???

กระบะ  ยุค 2000 ของที่บ้าน เอาไว้ทุกปาล์ม ยังมีให้เสียบเช็ค code เลย อาจจะไม่ใช่ OBD2 เต็มระบบ แต่ช่างที่ดูแลประจำเค้าก็เสียบตลอด มันแก้ปัญหาได้ตรงจุดกว่าจะลองถอดๆใส่ๆเอง



XMSL

วงการเครื่องยนต์พารามอเตอร์กำลังจะเริ่มเปลี่ยนผ่านจากเครื่องคาร์บูเป็นหัวฉีด ข้อดีที่มองเห็นชัดๆอันแรกคือประหยัดน้ำมัน 20-30% แต่ก็แลกมาด้วยราคาที่แพงขึ้นเยอะและความยุ่งยากที่ต้องให้ศูนย์อ่านค่าจากกล่องให้ ผู้ใช้ที่จูนเครื่อง รีบิลท์คาบูฯ จนชำนาญแล้วส่วนใหญ่ยังคงไม่คิดจะเปลี่ยนเพียงแค่ให้ได้มาซึ่งความประหยัด แต่วงการรถยนต์ที่ต้องเปลี่ยนเป็น EFI (ซึ่งทำให้ต้องมีระบบอีเลคทรอนิคซับซ้อนตามมา) น่าจะโดนบังคับเรื่องมาตรฐานไอเสีย แม้แต่ในสนามแข่งที่มีกฏกติกาควบคุมก็โดนเรื่องสิ่งแวดล้อมบังคับครับ.



DiKiBoyZ

รถดี คืออะไร ยังนิยามไม่ได้เลยครับ

มันมีแต่รถที่เหมาะสมกับเจ้าของ ทั้งในแง่การใช้งาน ราคา รวมถึง เทคโนโลยี(สำคัญ) ด้วยเช่นกัน

เอาง่ายๆ ตอนนี้ กระจกไฟฟ้าหมดแล้ว ถามว่า อยากได้กระจกมือหมุนไหม? ตอบว่า ไม่ใครอยากได้หรอกครับ

เช่นนั้น มันก็ตามยุคตามสมัย ครับ จะปฏิเสธได้ไหม คำตอบคือได้ ก็ไปเอารถที่ราคาถูกหน่อย ตัวล่างๆ ตัวเริ่ม เลย

แต่ถามว่า มันใช่รถที่คุณอยากจะซื้อไหม มันอาจจะไม่ใช่ ถูกไหม....