[solo]

ในวันที่ 14 ตุลาคม 2025 ทาง Microsoft จะเลิกสนับสนุน Windows 10 อย่างเป็นทางการ ซึ่งบริการทางเทคนิด และระบบความปลอดภัย จะไม่มีอีกต่อไป ทว่า Windows 10 ยังคงตำแหน่งระบบปฎิบัติการที่มีผู้ใช้มากที่สุดทั่วโลก จะเกิดอะไรขึ้นหากวันนั้นมาถึง
.
"มีเครื่อง PC กว่า 240 ล้านเครื่อง ที่ไม่สามารถอัปเกรดเป็น Windows 11 ได้"
.
ตามข้อมูลจากทาง Statcounter เผย Windows 10 มีสัดส่วนผู้ใช้งานมากถึง 58.7% ในขณะที่ 38.1% เป็นของ Windows 11 ตัวอย่างเช่น PCs for People องค์กรการกุศลแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ ที่คอยนำเครื่อง PC เก่า ๆ มาซ่อมแซมให้ใช้งานได้ และแจกจ่ายให้กับผู้ที่ขาดแคลน แต่แน่นอนว่าเครื่องเหล่านั้นยังใช้ Windows 10 แต่ข่าวการเลิกสนับสนุน Windows 10 ของ Microsoft ก็กำลังสร้างความกังวลอย่างมาก สืบเนื่องจากเครื่อง PC รุ่นเก่าหลายรุ่น ไม่สามารถใช้งาน Windows 11 ที่เป็นระบบปฎิบัติการตัวล่าสุดได้ เนื่องด้วยข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์
.
ตามข้อกำหนดของ Windows 11 ต้องมีสเปกอย่างน้อยซีพียู Intel เจน 8 ขึ้นไป ฝั่ง AMD ก็ต้องเป็น Ryzen 2000 ขึ้นไป พร้อมกับแรมขนาด 4GB และพื้นที่เก็บข้อมูลขนาด 64GB จุดสำคัญคือต้องมีความเข้ากันได้กับ TPM 2.0 หรือระบบความปลอดภัยสมัยใหม่ด้วย แน่นอนว่าหากใช้ 2 ซีพียูดังกล่าวคงไม่มีปัญหา ทว่ากับเครื่อง PC รุ่นเก่าส่วนมาก มักมีชิปซีพียูที่ต่ำกว่าความต้องการของ Windows 11 จึงเป็นอุปสรรคสำคัญในการอัปเกรดในปัจจุบันนี้เอง
.
ถ้าหากใช้ Windows 10 ต่อไป ก็ต้องเผชิญกับความเสี่ยงด้านความปลอดภัยอย่างเลี่ยงไม่ได้ และเสี่ยงผิดกฎระเบียบ GDPR ที่ว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลทั่วไปด้วย ซึ่งหากไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบได้ ก็อาจส่งผลให้ต้องจ่ายค่าปรับจำนวนมาก สุดท้ายเครื่อง PC ที่ใช้ได้เฉพาะ Windows 10 อัปเกรดเป็น  Windows 11 ไม่ได้ ก็อาจกลายเป็น E-Waste หรือขยะอิเล็กทรอนิกส์ในที่สุด และมีจำนวนมากด้วย
.
"การใช้งาน Windows 10 ในตอนนี้ ถือเป็นความคิดที่แย่"
.
Chester Wisniewski ซีอีโอของ Sophos ซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัยจากอังกฤษ ได้กล่าวกับทางสื่อ Tom's Hardware พร้อมกล่าวเพิ่มเติมว่า Microsoft กำลังทำให้อุปกรณ์ PC ในองค์กรล้าสมัย พร้อมกล่าวเหน็บว่า "พวกเขา" (หรือ Microsoft) คงไม่อยากให้ใครใช้ Windows มากขึ้น
.

[off_033]

คนใช้ window10 ก็ใช้ไปเหมือนเดิม  ไม่ใช่ว่าจอจะดับเข้าไม่ได้อีก

แต่จะไม่ได้รับการ update ใหม่ๆ  และอาจจะมีช่องโหว่บางตัวให้โจมดีได้ ี

user 9ามบ้านคงไม่ได้ผลกระทบมานัก  แต่ถ้าเป็นองค์การณ์ก็ต้อง upgrade กันอยู่แล้วครับ

[PaPaMan]

คนใช้ window10 ก็ใช้ไปเหมือนเดิม  ไม่ใช่ว่าจอจะดับเข้าไม่ได้อีก

แต่จะไม่ได้รับการ update ใหม่ๆ  และอาจจะมีช่องโหว่บางตัวให้โจมดีได้ ี

user 9ามบ้านคงไม่ได้ผลกระทบมานัก  แต่ถ้าเป็นองค์การณ์ก็ต้อง upgrade กันอยู่แล้วครับ

ผู้ใช้งานตามบ้านก็ได้รับผลกระทบเหมือนกันครับ ตอนนี้สามารถ upgrade เป็น Windows 11 ได้ฟรี แต่หลังตุลาคมเมื่อไม่ support Windows10 แล้ว ถ้าจะ upgrade (ถ้าเครื่องรองรับ) ได้ข่าวว่าจะต้องจ่ายตังค์ครับ


ส่วนรถยนต์ถ้า บ.แม่ไม่ support software แล้วก็ยังใช้งานได้ตามปกติครับ เพียงแต่ว่าอาจไม่รองรับการใช้งานบางฟังก์ชั่น ก็เท่านั้นเอง

[เนื้อน่องไม่หนัง]

window10 ถ้ามี license สามารถอัฟเกรดได้ครับ หลังจากนี้มีค่าใช่จ่ายไหมผมไม่แน่ใจครับ
ถ้า upgrade ไม่ได้ คือเครื่องต้องเก่าประมาณนึงแล้วครับ กลุ่ม AMD Ryzen gen 1 / intel core gen 6 ลงไป ซึ่งขายช่วงปี 2017
เท่ากับว่าเครื่องที่ไม่สามารถอัฟเกรดได้ อายุประมาณ 8 ปีแล้ว ผมกรัทบยังไงก็มีแน่ๆครับ ถ้าเปน องกรณ์น่าจะเช่าเครื่องใหม่กันแล้วครับ

ในมุมของรถ มองว่าไม่มีผลกระทบครับ อะไรที่ใช้งานได้ มันจะใช้ได้ต่อไป อาจมี limit บ้างเช่นการเล่น เครื่องยุค fullhd อาจเล่น 4k ได้ แต่ไม่ลื่นอะไรแบบนี้
Navigation ถ้ามีติดเครื่อส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีอัฟเดทให้อยู่แล้ว แต่เอาให้มั่นใจหน่อย อาจเลือกเปน รถที่มี Carplay/AndroidAuto ก็ตัดปัญหาไปได้เยอะครับ (แต่แลกมากับการที่ต้องพึ่งพา โทรศัพท์)

[ถ้าพี่ไม่ตบก้านไฟเลี้ยวตอนเลี้ยวผมจะตบพี่แทนนะครับ]

ก็น่าจะมีนะครับ ถ้าsoftware กินทรัพยากรมาขึ้นเรื่อยๆ แบบพวก graphic หรือการประมวลในการขับขี่ต่างๆ เพราะ hardware ของรถยนต์มันค่อนข้าง fix มาตั้งแต่ออกโรงงาน ติ๊กเพิ่มไม่ได้

[apinui]

เล่าให้อ่าน แต่อย่าด่าผมนะ 5555 (ผมกลัว) ในเมื่อมี 2 ประเด็น ผมก็ขอเล่า 2 ประเด็นนะ

1.window10 การไม่อัพเดท ไม่ซัพพอร์ท มันจะไม่ปลอดภัย มันเสี่ยงบราๆ อะไรนั่น มันเป็นเรื่องที่กลัวกันไปเองทั้งนั้นครับ มันไม่มีหรอก ...

ผมมีคอมพิวเตอร์ที่บ้าน 1 เครื่อง เครื่องนี้ผมประกอบเล่นเกมส์ สเป็ก I3 10105f+rx6600xt ประกอบมาตั้งแต่ CPU ตัวนี้ออกมาใหม่ๆ และผมใช้ Crack window 10 และมันก็อัพเดทได้มาตั้งแต่นั้น ... ต่อมา  Win11 ออกและบอกว่า ให้คนใช้ win10 อัพเดทเป็น win11 ซะเพราะจะเลิกสนับสนุน win10 แล้ว ผมก็กดอัพเลย ตกลงผมอัพได้ และยังใช้งานเล่นเกมส์ ตอบแช็ทได้ด้วย Win11 Crack อยู่จนถึงทุกวันนี้ ... เอาล่ะ มันเถื่อนมันผิดกฏหมายครับ ถ้ามีเงินรับปากว่าจะซื้อแท้ แต่ที่จะนำเสนอคือ ... ผมยังไม่เคยเจอเลยครับไอ้ความไม่ปลอดภัยที่ว่ากันน่ะ ...

ไวรัสไม่เคยเข้า เครื่องใช้งานได้ดีปกติทุกอย่าง เติมเงินลง steam ซื้อเกมส์ได้ เงินไม่เคยหาย ID ต่างๆที่ลงไว้ไม่เคยโดน Hack รวมถึง ID facebook ผมยังไม่เคยโดน Hack เลยสักครั้ง ดังนั้นความเห็นผม สำหรับผู้ใช้ที่เป็น user เล็กๆตามบ้าน เค้าไม่สนใจหรอกครับใช้ไปเถอะ .. ไม่ต้องไปกังวลอะไรกับแค่ windows ทั้งที่มือถือคุณโดนดูดทั้งภาพ เบอร์โทร เสียง พฤติกรรมการใช้อยู่ทุกวัน ยังไม่เห็นกลัวกันเลย ... รู้ตัวกันหรือเปล่า

2.Software รถจีนจะใช้ได้ไหม ... อันนี้ผมก็มีประสบการตรงกับ software จีนตรงๆเหมือนกันแต่ไม่ใช่รถยนต์นะคือ ..ผมมีเครื่องให้อาหารแมวอัตโนมัติที่ควบคุมผ่านแอ็ปได้อยู่ และใช้งานมาแล้ว 3 ปี ซึ่งตอนนี้ แอ็ปนั้นใช้ไม่ได้แล้ว ชื่อแอ็ปยังมีให้โหลดจาก playstore แต่ไม่สามารถลงทะเบียนได้ เพราะไม่มี server ให้เชื่อมต่อแล้ว

สรุปสั่นๆ แอ็ปจากเครื่องให้อาหารอัตโนมัติจากจีน มันเทผมเรียบร้อยครับ เครื่องยังใช้งานได้ดี แต่สั่งการต่างๆไม่ได้แล้ว ตอนแรกก็คิดว่าแอ็ปมีปัญหา เลยเอามือถือเครื่องอื่นติดตั้งก็ขึ้นว่าไม่สามารถเชื่อมต่อกับแอ็ปได้ ...

ดังนั้นรถ EV จีน ถ้าเค้าเท ไอ้ระบบที่เคยเชื่อมต่อกับมือถือได้โดยที่ใช้ server เป็นตัวกลางถ้าเค้าเท มันก็จะใช้อะไรไม่ได้เลย ตั้งค่าต่างๆไม่ได้ เหมือนเครื่องให้อาหารแมวที่ผมโดนอยู่นี่แหละ

[XMSL]

ประเด็นคือเราไม่จำเป็นต้องได้ support อะไรจาก os ของรถยนต์เราเท่าไหร่ไงครับ พอมันเริ่มไม่มีบั๊คแล้วทางผู้ผลิตก็แทบจะไม่มีอัพเดทอะไรตามมาอยู่แล้ว จริงๆการไม่ support ทางคอมพิวเตอร์ os ก็อาจจะแค่ไม่มีไดรเวอร์อะไรที่ออกใหม่ ปัญหาโน่นนี่ไม่สามารถรายงานได้ โน้ตบุ้คผมปี 18 ก็ยังใช้ windows 10 และคงไม่อัพเดท

[SM.]

ผมว่าเป็นไปได้นะครับ เพราะจะให้มา support กันไปตลอด คงไม่ไหว

ตัว OS ในรถก็คงรองรับ apple carplay / android auto ไปได้อีกระยะนึง พอนานไปก็คงไม่รองรับ version ใหม่แล้ว ก็เหมือน OS มือถือแหละครับ มือถือรุ่นเก่าเกินไปก็อาจจะไม่รองรับ OS ใหม่ๆ ได้

[DiKiBoyZ]

ต้องแยกเงื่อนไขด้วยครับ

1. คนที่ใช้ Widnows 10 (แบบ ไม่มีลิขสิทธิ์) อันนั้นตัดทิ้งไปเลย จะ update หรือไม่ เรื่องของคุณ

2. คนที่ใช้ Windows 10 (แบบมีลัขสิทธิ์) แต่ hardware ไม่มีรองรับ Windows 11 มันก็ไม่มีสามารถ upgrade เป็น Windows 11 ได้นะครับ อย่าลืมตรงนี้

3. คนที่ใช้ Windows 10 (แบบมีลิขสิทธิ์) และ Hardware รองรับ Windows 11 แต่ไม่อยาก upgrade อันนี้ ก็มีเยอะ แต่สุดท้ายก็ต้องเลือกว่า จะไปต่อ หรือ อยู่กับ Windows 10 ที่ไม่มี pix pack แล้ว (ใช้ได้นะ ไม่ใช่ว่าไม่ได้)

3. คนที่ใช้ Windows 10 (แบบมีลิขสิทธิ์) และ Hardware รองรับ Windows 11 แล้ว upgrade เป็น Windows 11 ไปแล้ว (รวมถึงผมด้วย) อันนี้คงไม่ใช่ปัญหาอะไร

แล้ว พอนึกภาพออกไหม จากข้อ 2. มันก็เหมือน iPhone หลายๆ รุ่น ที่ไม่รองรับ iOS เวอร์ชั่นใหม่ๆๆ แล้ว

รถยนต์ ผมว่า มันก็ทำนองเดียวกันนั้นละครับ เขาก็คงปล่อย update ไปเรื่อยๆ ตราบใด ที่มันทำงานได้กับ Hardware เดิม

แต่ถ้าถึงจุดที่ Software เดินหน้าต่อ แต่ Hardware มันไปต่อไปไหว มันก็คงสภาพแบบนี้แหละ ไม่ต่างกันหรอก

ปล.ระบบในรถผม ก็ update ผ่าน wifi ได้เช่นกัน แต่หลักๆ รู้สึกว่า มันไม่มีอะไรให้ update แล้วนะ 2-3 ปี หลังมานี้

[V221]

BMW ตอนนี้ก็Updateตลอด มีทุกๆ4เดือนเลยครับ Upผ่านInternetของรถ

[nobody123]

Volvo แบบไม่มีซิม
1. ระบบในหน้าจอ อัพเดตผ่าน Wifi เช่น แผนที่ หรือ แอปต่าง ๆ
อันนี้ ตราบเท่าที่ Volvo กลางยังจ่ายเงินซื้อสิ่งนั้นให้ลูกค้าอยู่ ก็ได้ตลอดครับ
นอกจากแผนที่ ก็เช่น ระบบค้นหาสถานที่กิน/นอน หรือ รถผมฟังวิทยุต่างประเทศ ฟรี (ผ่าน Wifi) ซึ่งบริการเดียวกันนี้ ถ้าในมือถือ เสียเงิน ครับ
2. ระบบสำคัญ เช่น การแบ่งการขับระหว่างมอเตอร์ กับ สันดาปภายใน หรือแม้กระทั่งการทำให้มอเตอร์ทำงานราบรื่นขึ้น (ราบรื่นขึ้นตอนวนขึ้นลานจอด จริง) ตลอดจน ADAS เป็นต้น รถ*ไม่*อัพเดตผ่าน Wifi ให้ครับ ต้องไปศูนย์เท่านั้น (อัพฟรี จนถึงรอบปีนี้รถผมออกมา 6-7 ปีแล้ว ก็ยังมีอัพอยู่)
ถ้าเราดูแนวคิด Volvo ก็น่าจะออกมาประมาณนี้อยู่แล้ว คือ แยกสิ่งที่ไม่เกี่ยวกับความปลอดภัยหรือชุดขับ กับ สิ่งที่เกี่ยว ให้อัพเดตด้วยวิธีที่ต่างกัน