ผู้เขียน หัวข้อ: จริงหรือครับ ที่รถ CC น้อย แต่ต้องแบกน้ำหนักตัวใหญ่ กินน้ำมันน้อยกว่า??  (อ่าน 10597 ครั้ง)

ออฟไลน์ saransaran

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 55
    • อีเมล์
เริ่มเห็นเป็นเทรนด์สำหรับรถที่ CC น้อย แบกน้ำหนักตัวใหญ่ แต่เพิ่ม Turbo เข้าไปเพื่อรีดแรงม้าให้วิ่งออก อย่างเช่น Ford Ranger 2.2 ที่แบกน้ำหนักเกือบสองตัน หรือโฟกัสอีโคบูสต์ หรือแม้แต่ Swift 1.2 ที่ปกติ ควรจะเป็น 1.5 ถึงจะเหมาะกับขนาดตัว

มันจะทำให้กินน้ำมันน้อยลงได้เหรอครับ แล้วในระยะยาว มันจะทำให้เครื่องสึกหรอเร็วขึ้น โทรมเร็วขึ้นหรือเปล่า เหมือนเอานักมวยรุ่นเล็ก ข้ามรุ่นไปชกรุ่นใหญ่ ขนาดตัว D-Max ตัวเก่าของผม เมื่อก่อนกินน้ำมัน 15 โลลิตร ตอนนี้เหลือ 12 โลลิตร

ออฟไลน์ Oslan

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 659
ขนาดตัว Swift ผมมองว่า 1.2 โออยู่นะ

ถ้า Swift ต้อง 1.5 ถึงจะเหมาะ แล้ว Almera ไม่ต้อง 2000 เหรอครับ ฮา  ;D

ออฟไลน์ hong_G

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 683
  • I aM HoNG
    • อีเมล์
ผมว่า มันอยู่ที่ แรงม้า-แรงบิด/น้ำหนัก นะครับ

ต่อให้เครื่องเล็กลง แต่แรงม้า-แรงบิด เหมาะสม ก็ประหยัดน้ำมันได้ครับ

อย่าง Mazda3 1.6 ตัวรถหนัก ใส่เครื่องเล็กแบบนี้ไม่ได้ช่วยให้ประหยัดเลย กินกว่าเครื่อง 2.0 เสียอีก T__T

ส่วน March , Almera , Swift พวกนี้เป็น B-Segment ตีตั๋วเด็ก..บางประเทศใส่เครื่อง 1.2 , 1.4 ขายก็มีครับ  อีกทั้ง เครื่อง 1.5 ของ Swift เก่าแรงม้า-แรงบิด แทบไม่ต่างกับ 1.2 ของ New Swift เท่าไหร่เลยครับสูสีมาก

 

ออฟไลน์ Zx-III

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 723
volvo s60ใหม่ไงครับ 1.6turbo อัตราเร่ง กินน้ำมันดีกว่าเบนซินเจ้าอื่นอีก

ออฟไลน์ RUKTOOKKHON

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 382
การจะปล่อยรถออกมาแต่ละรุ่น ผมว่ามันเป็นโปรเจ็คใหญ่อยู่นะ
เขาคงทดสอบ และทำวิจัยมาแล้วล่ะ และรถรุ่นใหม่ๆ มักจะพัฒนามากกว่ารุ่นเก่า (ในภาพรวม)


แต่ยังไงก็ต้องดูกันยาวๆล่ะครับ

ออฟไลน์ jAk`CS

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 612
เครื่องยนต์สมัยนี้พัฒนาไปเยอะครับ ไม่จำเป็นต้องพึ่งCCสูงๆเหมือนสมัยก่อนก็แรงได้ ประหยัดได้

ทักทายกันได้ครับ > http://www.facebook.com/tangkuangheng

2016' >>> BMW X1 ปลายปีนะเก็บตังแพร๊บ Y_Y
2015' >>> Peugeot 207CC
2014' >>> Attrage GLS Ltd.
2013' >>> Alphard 2.4 Sport
2012' >>> Fiesta 1.5 Sport
2008' >>> Camry ACV40
2005' >>> Wish 2.0 Q-Limited
2000' >>> Soluna Minor' 1.5 GLI

ออฟไลน์ mongolias

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,364
Trend สมัยนี้คือ เครื่องเล็กๆ ประหยัดน้ำมัน
แต่ตัวผมเอง ชอบรถเครื่องใหญ่มากกว่านะ เพราะมักจะทนกว่า ถ้าอยากประหยัดจับไปติดแก๊สก็จบ

ตย. Mazda 3 1.6 ค่อนข้างจะชัดเจนว่า ขนาดของเครื่องยนต์ ควรเหมาะสมกับน้ำหนักของรถด้วย รถเครื่องใหญ่ไม่จำเป็นว่าจะต้องกินน้ำมันมากกว่าเครื่องเล็กเสมอไปครับ

ออฟไลน์ tokyo

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 632
ผมว่า มันอยู่ที่ แรงม้า-แรงบิด/น้ำหนัก นะครับ

ต่อให้เครื่องเล็กลง แต่แรงม้า-แรงบิด เหมาะสม ก็ประหยัดน้ำมันได้ครับ

อย่าง Mazda3 1.6 ตัวรถหนัก ใส่เครื่องเล็กแบบนี้ไม่ได้ช่วยให้ประหยัดเลย กินกว่าเครื่อง 2.0 เสียอีก T__T

ส่วน March , Almera , Swift พวกนี้เป็น B-Segment ตีตั๋วเด็ก..บางประเทศใส่เครื่อง 1.2 , 1.4 ขายก็มีครับ  อีกทั้ง เครื่อง 1.5 ของ Swift เก่าแรงม้า-แรงบิด แทบไม่ต่างกับ 1.2 ของ New Swift เท่าไหร่เลยครับสูสีมาก

เห้นด้วยเลยครับ บางคนที่เปลี่ยนเครื่องจาก 1.6ไป2.3 ยังบอกเลยว่า กินน้ำมันแทบไม่ต่างจากเดิม
07 mazda 3

NgoH

  • บุคคลทั่วไป
อยู่ที่แรงม้า แรงบิต เหมาะสมกับช่วงความเร็วที่เท่าไหร่
 ขับช่วงความสูง กินกว่า เนื่องจาก ต้องเค้นรอบเครื่องมากเพื่อให้ได้กำลัง
ซีซีน้อยและซีซีมาก แรงม้ามากแรงบิตมากขับช่วงความเร็วสูงประหยัด กว่า เพราะไม่ต้องเค้นแรงแรงมากเครื่องไม่ต้องทำงานหนัก
ซีซีน้อย แรงม้าน้อยแรงบิตน้อย อาจประหยัดกว่าที่ความเร็วต่ำ

ออฟไลน์ 2k

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,752
อยากให้มาสด้าเอารุ่นที่ccน้อยๆมาใส่เทคโนโลยีเทอโบบ้างได้แล้ว โตโยต้า นิสสัน ฟอร์ด เค้ากำลังมาทางนี้กันหมด เดี๋ยวตกยุคน๊า
หมาเฝ้าบ้านแจกฟรีจ้า www.dogfindhome.com


ออฟไลน์ pong_ru

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 216
เริ่มเห็นเป็นเทรนด์สำหรับรถที่ CC น้อย แบกน้ำหนักตัวใหญ่ แต่เพิ่ม Turbo เข้าไปเพื่อรีดแรงม้าให้วิ่งออก อย่างเช่น Ford Ranger 2.2 ที่แบกน้ำหนักเกือบสองตัน หรือโฟกัสอีโคบูสต์ หรือแม้แต่ Swift 1.2 ที่ปกติ ควรจะเป็น 1.5 ถึงจะเหมาะกับขนาดตัว

มันจะทำให้กินน้ำมันน้อยลงได้เหรอครับ แล้วในระยะยาว มันจะทำให้เครื่องสึกหรอเร็วขึ้น โทรมเร็วขึ้นหรือเปล่า เหมือนเอานักมวยรุ่นเล็ก ข้ามรุ่นไปชกรุ่นใหญ่ ขนาดตัว D-Max ตัวเก่าของผม เมื่อก่อนกินน้ำมัน 15 โลลิตร ตอนนี้เหลือ 12 โลลิตร

เมืองไทยคิดภาษีตาม ซีซี ผู้ขายต้องการทำราคาเลยนำแต่รุ่น ซีซี ต่ำเข้ามา ในอเมริกา เบนซ์ 1.8 ไม่มีขายหรอก ถึงมีก็คงไม่มีใครซื้อ เห็นมีแต่ 3000 - 3500 ซีซี เวลาใช้งานในเมือง หรือรถติด ก็ใช้เทคโนโลยีบังคับให้มันทำงานแค่ 1500 ซีซี

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,048
สมัยนี้ ทำได้อยู่แล้วครับ ถ้ามีเทอร์โบยิ่งสบาย แต่ก็สึกหรอเหมือนเครื่องเทอร์โบอื่นๆทั่วไปนั่นแหละ

แต่ตัวผมเอง ชอบรถเครื่องใหญ่มากกว่านะ เพราะมักจะทนกว่า ถ้าอยากประหยัดจับไปติดแก๊สก็จบ

กลัวว่าติดแก๊ส เครื่องก็จะเสื่อมเร็วกว่าปกติเหมือนกันน่ะสิครับ

ออฟไลน์ panjap

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,256
เริ่มเห็นเป็นเทรนด์สำหรับรถที่ CC น้อย แบกน้ำหนักตัวใหญ่ แต่เพิ่ม Turbo เข้าไปเพื่อรีดแรงม้าให้วิ่งออก อย่างเช่น Ford Ranger 2.2 ที่แบกน้ำหนักเกือบสองตัน หรือโฟกัสอีโคบูสต์ หรือแม้แต่ Swift 1.2 ที่ปกติ ควรจะเป็น 1.5 ถึงจะเหมาะกับขนาดตัว

มันจะทำให้กินน้ำมันน้อยลงได้เหรอครับ แล้วในระยะยาว มันจะทำให้เครื่องสึกหรอเร็วขึ้น โทรมเร็วขึ้นหรือเปล่า เหมือนเอานักมวยรุ่นเล็ก ข้ามรุ่นไปชกรุ่นใหญ่ ขนาดตัว D-Max ตัวเก่าของผม เมื่อก่อนกินน้ำมัน 15 โลลิตร ตอนนี้เหลือ 12 โลลิตร

เมืองไทยคิดภาษีตาม ซีซี ผู้ขายต้องการทำราคาเลยนำแต่รุ่น ซีซี ต่ำเข้ามา ในอเมริกา เบนซ์ 1.8 ไม่มีขายหรอก ถึงมีก็คงไม่มีใครซื้อ เห็นมีแต่ 3000 - 3500 ซีซี เวลาใช้งานในเมือง หรือรถติด ก็ใช้เทคโนโลยีบังคับให้มันทำงานแค่ 1500 ซีซี

http://www.mbusa.com/mercedes/vehicles/class/class-C/bodystyle-SDN
อเมริกามีขายเยอะไปครับ เครื่อง 1.8 เทอร์โบ สมัยก่อน lancer champ เราขาย เครื่อง 1.5 ยังมีเลยแถว north america & canada

แนวโน้มรถทางยุโรป จะไปกันที่เครื่องเล็ก ติดเทอร์โบ กันหมด ดู bmw สิครับ รุ่นใหม่ เป็นเทอร์โบ ทุกตัว  รถญุี่ปุ่นก็แนวโน้มไปแบบนั้้นทั้งนั้น

NgoH

  • บุคคลทั่วไป
US ประเทศใหญ่โต เครื่องเล็กวิ่งไม่ไหวแน่ๆ จากนิวยอค-แอลเอ

ออฟไลน์ jimsrsa

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 405
    • อีเมล์
ต้องใช้ระบบเกียร์ทดช่วยครับ เดี๋ยวนี้ก็มี CVT มาช่วยไง 5-10 Speed แล้วมั้ง

ออฟไลน์ O_o"

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,436
Mercedes-Benz E250 CGI  เป็นอีก1ตัวอย่าง ครับ วิ่ง 110 อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 13 กิโลเมตร/ลิตร

ford Ecoboost  เครื่องยนต์ 3 สูบ ขนาด 1.0 ลิตร

ออฟไลน์ pong_ru

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 216
เริ่มเห็นเป็นเทรนด์สำหรับรถที่ CC น้อย แบกน้ำหนักตัวใหญ่ แต่เพิ่ม Turbo เข้าไปเพื่อรีดแรงม้าให้วิ่งออก อย่างเช่น Ford Ranger 2.2 ที่แบกน้ำหนักเกือบสองตัน หรือโฟกัสอีโคบูสต์ หรือแม้แต่ Swift 1.2 ที่ปกติ ควรจะเป็น 1.5 ถึงจะเหมาะกับขนาดตัว

มันจะทำให้กินน้ำมันน้อยลงได้เหรอครับ แล้วในระยะยาว มันจะทำให้เครื่องสึกหรอเร็วขึ้น โทรมเร็วขึ้นหรือเปล่า เหมือนเอานักมวยรุ่นเล็ก ข้ามรุ่นไปชกรุ่นใหญ่ ขนาดตัว D-Max ตัวเก่าของผม เมื่อก่อนกินน้ำมัน 15 โลลิตร ตอนนี้เหลือ 12 โลลิตร

เมืองไทยคิดภาษีตาม ซีซี ผู้ขายต้องการทำราคาเลยนำแต่รุ่น ซีซี ต่ำเข้ามา ในอเมริกา เบนซ์ 1.8 ไม่มีขายหรอก ถึงมีก็คงไม่มีใครซื้อ เห็นมีแต่ 3000 - 3500 ซีซี เวลาใช้งานในเมือง หรือรถติด ก็ใช้เทคโนโลยีบังคับให้มันทำงานแค่ 1500 ซีซี

http://www.mbusa.com/mercedes/vehicles/class/class-C/bodystyle-SDN
อเมริกามีขายเยอะไปครับ เครื่อง 1.8 เทอร์โบ สมัยก่อน lancer champ เราขาย เครื่อง 1.5 ยังมีเลยแถว north america & canada


แนวโน้มรถทางยุโรป จะไปกันที่เครื่องเล็ก ติดเทอร์โบ กันหมด ดู bmw สิครับ รุ่นใหม่ เป็นเทอร์โบ ทุกตัว  รถญุี่ปุ่นก็แนวโน้มไปแบบนั้้นทั้งนั้น

z,

ออฟไลน์ pong_ru

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 216
ผมหมายถึงรถขนาดใหญ่แล้วมาใส่เครื่องเล็ก เช่น E-Class S-Class   พวก E-200 cgi E-250 cgi มันมาเมืองไทยเพราะเหตุผลด้านภาษี  ผมอยากชับเครื่องใหญ่ที่มีเทคโนโลยีไฮบริด และการสั่งให้เครื่องทำงานเพียงบางสูบ แต่ยามที่ต้องการพลังให้มาครบ ๆ ทุกสูบ   ผมเองใช้ V60 มาสองอาทิตย์แล้ว อัตราเร่งดี พละกำลังพอเพียงอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะมาจากเครื่อง 1600 CC  แต่ทุกครั้งที่เหยียบฟิลลิ่งมันเป็นอีกแบบ ไม่เหมือนเหยียบเครื่องหกสูบ 2500 CC  ในเรื่องการกินน้ำมัน ผมใช้ E85 ในเมืองรถติด ๆ เฉลี่ยประมาณ 5 กิโลลิตร เดินทางไกล กรุงเทพ - ปากช่อง - กรุงเทพ เฉลี่ย 9 กิโลลิตร  กินพอ ๆ กับหกสูบ 2500 CC (เติม E10)  (ราคาน้ำมันต่างกันลิตรละ 17 บาท เศษ)   ที่ชอบมากคือระบบครูทคอนโทลแบบแปรผัน  อันนี้สุดยอด

ออฟไลน์ saransaran

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 55
    • อีเมล์
ไม่เหมือนเหยียบเครื่องหกสูบ 2500 CC  ในเรื่องการกินน้ำมัน ผมใช้ E85 ในเมืองรถติด ๆ เฉลี่ยประมาณ 5 กิโลลิตร เดินทางไกล กรุงเทพ - ปากช่อง - กรุงเทพ เฉลี่ย 9 กิโลลิตร  กินพอ ๆ กับหกสูบ 2500 CC (เติม E10)  (ราคาน้ำมันต่างกันลิตรละ 17 บาท เศษ)

อันนี้เป็น Volvo V60 เหรอครับ กิน 5 โลลิตรในเมืองเนี่ย

ออฟไลน์ MystogaN

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,472
ตอนนี้อยากรู้มากว่า 2,000CC TwinPowerTurbo จะกินเท่าไหร่นะคับ :P

ออฟไลน์ นครอัญมณี

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,181
    • นครอัญมณี
    • อีเมล์
ไม่จริงครับ

แรงม้า แรงบิด ต้องสมตัวรถครับ ถึงจะประหยัด

Civic 1.8 โฉมปัจจุบัน ถือเป็นตัวอย่างที่ดี ครับ
ซึ่ง
แรงกว่า และ ประหยัดกว่า รถเครื่อง 1.5 หลายๆคัน หลายๆยี่ห้อ
แรงใกล้ๆ แต่ประหยัดกว่า รถเครื่อง 2.0 หลายๆคัน หลายๆยี่ห้อ
รักรถมาก
รักครอบครัวมากกว่า
รักชาติ-ศาสน์-กษัตริย์มากที่สุด

ออฟไลน์ pong_ru

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 216
ไม่เหมือนเหยียบเครื่องหกสูบ 2500 CC  ในเรื่องการกินน้ำมัน ผมใช้ E85 ในเมืองรถติด ๆ เฉลี่ยประมาณ 5 กิโลลิตร เดินทางไกล กรุงเทพ - ปากช่อง - กรุงเทพ เฉลี่ย 9 กิโลลิตร  กินพอ ๆ กับหกสูบ 2500 CC (เติม E10)  (ราคาน้ำมันต่างกันลิตรละ 17 บาท เศษ)

อันนี้เป็น Volvo V60 เหรอครับ กิน 5 โลลิตรในเมืองเนี่ย
Volvo V60 เติม E85 รถติดมาก ๆ อนุเสาวรีย์ชัย - พระรูปทรงม้า ไปกลับ เช้า เย็น 5 วัน เฉลี่ยได้ 5 กม./ลิตร
                 ความเร็วคงที่ที่ 110 กม./ชม. เฉลี่ยได้ประมาณ 11 กม./ลิตร