จริงหรือครับ ที่รถ CC น้อย แต่ต้องแบกน้ำหนักตัวใหญ่ กินน้ำมันน้อยกว่า??

saransaran

เริ่มเห็นเป็นเทรนด์สำหรับรถที่ CC น้อย แบกน้ำหนักตัวใหญ่ แต่เพิ่ม Turbo เข้าไปเพื่อรีดแรงม้าให้วิ่งออก อย่างเช่น Ford Ranger 2.2 ที่แบกน้ำหนักเกือบสองตัน หรือโฟกัสอีโคบูสต์ หรือแม้แต่ Swift 1.2 ที่ปกติ ควรจะเป็น 1.5 ถึงจะเหมาะกับขนาดตัว

มันจะทำให้กินน้ำมันน้อยลงได้เหรอครับ แล้วในระยะยาว มันจะทำให้เครื่องสึกหรอเร็วขึ้น โทรมเร็วขึ้นหรือเปล่า เหมือนเอานักมวยรุ่นเล็ก ข้ามรุ่นไปชกรุ่นใหญ่ ขนาดตัว D-Max ตัวเก่าของผม เมื่อก่อนกินน้ำมัน 15 โลลิตร ตอนนี้เหลือ 12 โลลิตร



Oslan

ขนาดตัว Swift ผมมองว่า 1.2 โออยู่นะ

ถ้า Swift ต้อง 1.5 ถึงจะเหมาะ แล้ว Almera ไม่ต้อง 2000 เหรอครับ ฮา  ;D



hong_G

ผมว่า มันอยู่ที่ แรงม้า-แรงบิด/น้ำหนัก นะครับ

ต่อให้เครื่องเล็กลง แต่แรงม้า-แรงบิด เหมาะสม ก็ประหยัดน้ำมันได้ครับ

อย่าง Mazda3 1.6 ตัวรถหนัก ใส่เครื่องเล็กแบบนี้ไม่ได้ช่วยให้ประหยัดเลย กินกว่าเครื่อง 2.0 เสียอีก T__T

ส่วน March , Almera , Swift พวกนี้เป็น B-Segment ตีตั๋วเด็ก..บางประเทศใส่เครื่อง 1.2 , 1.4 ขายก็มีครับ  อีกทั้ง เครื่อง 1.5 ของ Swift เก่าแรงม้า-แรงบิด แทบไม่ต่างกับ 1.2 ของ New Swift เท่าไหร่เลยครับสูสีมาก

 



Zx-III

volvo s60ใหม่ไงครับ 1.6turbo อัตราเร่ง กินน้ำมันดีกว่าเบนซินเจ้าอื่นอีก



RUKTOOKKHON

การจะปล่อยรถออกมาแต่ละรุ่น ผมว่ามันเป็นโปรเจ็คใหญ่อยู่นะ
เขาคงทดสอบ และทำวิจัยมาแล้วล่ะ และรถรุ่นใหม่ๆ มักจะพัฒนามากกว่ารุ่นเก่า (ในภาพรวม)


แต่ยังไงก็ต้องดูกันยาวๆล่ะครับ



jAk

เครื่องยนต์สมัยนี้พัฒนาไปเยอะครับ ไม่จำเป็นต้องพึ่งCCสูงๆเหมือนสมัยก่อนก็แรงได้ ประหยัดได้




mongolias

Trend สมัยนี้คือ เครื่องเล็กๆ ประหยัดน้ำมัน
แต่ตัวผมเอง ชอบรถเครื่องใหญ่มากกว่านะ เพราะมักจะทนกว่า ถ้าอยากประหยัดจับไปติดแก๊สก็จบ

ตย. Mazda 3 1.6 ค่อนข้างจะชัดเจนว่า ขนาดของเครื่องยนต์ ควรเหมาะสมกับน้ำหนักของรถด้วย รถเครื่องใหญ่ไม่จำเป็นว่าจะต้องกินน้ำมันมากกว่าเครื่องเล็กเสมอไปครับ



tokyo

ผมว่า มันอยู่ที่ แรงม้า-แรงบิด/น้ำหนัก นะครับ

ต่อให้เครื่องเล็กลง แต่แรงม้า-แรงบิด เหมาะสม ก็ประหยัดน้ำมันได้ครับ

อย่าง Mazda3 1.6 ตัวรถหนัก ใส่เครื่องเล็กแบบนี้ไม่ได้ช่วยให้ประหยัดเลย กินกว่าเครื่อง 2.0 เสียอีก T__T

ส่วน March , Almera , Swift พวกนี้เป็น B-Segment ตีตั๋วเด็ก..บางประเทศใส่เครื่อง 1.2 , 1.4 ขายก็มีครับ  อีกทั้ง เครื่อง 1.5 ของ Swift เก่าแรงม้า-แรงบิด แทบไม่ต่างกับ 1.2 ของ New Swift เท่าไหร่เลยครับสูสีมาก

เห้นด้วยเลยครับ บางคนที่เปลี่ยนเครื่องจาก 1.6ไป2.3 ยังบอกเลยว่า กินน้ำมันแทบไม่ต่างจากเดิม
07 mazda 3



NgoH

อยู่ที่แรงม้า แรงบิต เหมาะสมกับช่วงความเร็วที่เท่าไหร่
 ขับช่วงความสูง กินกว่า เนื่องจาก ต้องเค้นรอบเครื่องมากเพื่อให้ได้กำลัง
ซีซีน้อยและซีซีมาก แรงม้ามากแรงบิตมากขับช่วงความเร็วสูงประหยัด กว่า เพราะไม่ต้องเค้นแรงแรงมากเครื่องไม่ต้องทำงานหนัก
ซีซีน้อย แรงม้าน้อยแรงบิตน้อย อาจประหยัดกว่าที่ความเร็วต่ำ



2k

อยากให้มาสด้าเอารุ่นที่ccน้อยๆมาใส่เทคโนโลยีเทอโบบ้างได้แล้ว โตโยต้า นิสสัน ฟอร์ด เค้ากำลังมาทางนี้กันหมด เดี๋ยวตกยุคน๊า
หมาเฝ้าบ้านแจกฟรีจ้า www.dogfindhome.com




pong_ru

เริ่มเห็นเป็นเทรนด์สำหรับรถที่ CC น้อย แบกน้ำหนักตัวใหญ่ แต่เพิ่ม Turbo เข้าไปเพื่อรีดแรงม้าให้วิ่งออก อย่างเช่น Ford Ranger 2.2 ที่แบกน้ำหนักเกือบสองตัน หรือโฟกัสอีโคบูสต์ หรือแม้แต่ Swift 1.2 ที่ปกติ ควรจะเป็น 1.5 ถึงจะเหมาะกับขนาดตัว

มันจะทำให้กินน้ำมันน้อยลงได้เหรอครับ แล้วในระยะยาว มันจะทำให้เครื่องสึกหรอเร็วขึ้น โทรมเร็วขึ้นหรือเปล่า เหมือนเอานักมวยรุ่นเล็ก ข้ามรุ่นไปชกรุ่นใหญ่ ขนาดตัว D-Max ตัวเก่าของผม เมื่อก่อนกินน้ำมัน 15 โลลิตร ตอนนี้เหลือ 12 โลลิตร

เมืองไทยคิดภาษีตาม ซีซี ผู้ขายต้องการทำราคาเลยนำแต่รุ่น ซีซี ต่ำเข้ามา ในอเมริกา เบนซ์ 1.8 ไม่มีขายหรอก ถึงมีก็คงไม่มีใครซื้อ เห็นมีแต่ 3000 - 3500 ซีซี เวลาใช้งานในเมือง หรือรถติด ก็ใช้เทคโนโลยีบังคับให้มันทำงานแค่ 1500 ซีซี



Ruksadindan

สมัยนี้ ทำได้อยู่แล้วครับ ถ้ามีเทอร์โบยิ่งสบาย แต่ก็สึกหรอเหมือนเครื่องเทอร์โบอื่นๆทั่วไปนั่นแหละ

แต่ตัวผมเอง ชอบรถเครื่องใหญ่มากกว่านะ เพราะมักจะทนกว่า ถ้าอยากประหยัดจับไปติดแก๊สก็จบ

กลัวว่าติดแก๊ส เครื่องก็จะเสื่อมเร็วกว่าปกติเหมือนกันน่ะสิครับ



panjap

เริ่มเห็นเป็นเทรนด์สำหรับรถที่ CC น้อย แบกน้ำหนักตัวใหญ่ แต่เพิ่ม Turbo เข้าไปเพื่อรีดแรงม้าให้วิ่งออก อย่างเช่น Ford Ranger 2.2 ที่แบกน้ำหนักเกือบสองตัน หรือโฟกัสอีโคบูสต์ หรือแม้แต่ Swift 1.2 ที่ปกติ ควรจะเป็น 1.5 ถึงจะเหมาะกับขนาดตัว

มันจะทำให้กินน้ำมันน้อยลงได้เหรอครับ แล้วในระยะยาว มันจะทำให้เครื่องสึกหรอเร็วขึ้น โทรมเร็วขึ้นหรือเปล่า เหมือนเอานักมวยรุ่นเล็ก ข้ามรุ่นไปชกรุ่นใหญ่ ขนาดตัว D-Max ตัวเก่าของผม เมื่อก่อนกินน้ำมัน 15 โลลิตร ตอนนี้เหลือ 12 โลลิตร

เมืองไทยคิดภาษีตาม ซีซี ผู้ขายต้องการทำราคาเลยนำแต่รุ่น ซีซี ต่ำเข้ามา ในอเมริกา เบนซ์ 1.8 ไม่มีขายหรอก ถึงมีก็คงไม่มีใครซื้อ เห็นมีแต่ 3000 - 3500 ซีซี เวลาใช้งานในเมือง หรือรถติด ก็ใช้เทคโนโลยีบังคับให้มันทำงานแค่ 1500 ซีซี

http://www.mbusa.com/mercedes/vehicles/class/class-C/bodystyle-SDN
อเมริกามีขายเยอะไปครับ เครื่อง 1.8 เทอร์โบ สมัยก่อน lancer champ เราขาย เครื่อง 1.5 ยังมีเลยแถว north america & canada

แนวโน้มรถทางยุโรป จะไปกันที่เครื่องเล็ก ติดเทอร์โบ กันหมด ดู bmw สิครับ รุ่นใหม่ เป็นเทอร์โบ ทุกตัว  รถญุี่ปุ่นก็แนวโน้มไปแบบนั้้นทั้งนั้น



NgoH

US ประเทศใหญ่โต เครื่องเล็กวิ่งไม่ไหวแน่ๆ จากนิวยอค-แอลเอ



jimsrsa

ต้องใช้ระบบเกียร์ทดช่วยครับ เดี๋ยวนี้ก็มี CVT มาช่วยไง 5-10 Speed แล้วมั้ง



pong_ru

เริ่มเห็นเป็นเทรนด์สำหรับรถที่ CC น้อย แบกน้ำหนักตัวใหญ่ แต่เพิ่ม Turbo เข้าไปเพื่อรีดแรงม้าให้วิ่งออก อย่างเช่น Ford Ranger 2.2 ที่แบกน้ำหนักเกือบสองตัน หรือโฟกัสอีโคบูสต์ หรือแม้แต่ Swift 1.2 ที่ปกติ ควรจะเป็น 1.5 ถึงจะเหมาะกับขนาดตัว

มันจะทำให้กินน้ำมันน้อยลงได้เหรอครับ แล้วในระยะยาว มันจะทำให้เครื่องสึกหรอเร็วขึ้น โทรมเร็วขึ้นหรือเปล่า เหมือนเอานักมวยรุ่นเล็ก ข้ามรุ่นไปชกรุ่นใหญ่ ขนาดตัว D-Max ตัวเก่าของผม เมื่อก่อนกินน้ำมัน 15 โลลิตร ตอนนี้เหลือ 12 โลลิตร

เมืองไทยคิดภาษีตาม ซีซี ผู้ขายต้องการทำราคาเลยนำแต่รุ่น ซีซี ต่ำเข้ามา ในอเมริกา เบนซ์ 1.8 ไม่มีขายหรอก ถึงมีก็คงไม่มีใครซื้อ เห็นมีแต่ 3000 - 3500 ซีซี เวลาใช้งานในเมือง หรือรถติด ก็ใช้เทคโนโลยีบังคับให้มันทำงานแค่ 1500 ซีซี

http://www.mbusa.com/mercedes/vehicles/class/class-C/bodystyle-SDN
อเมริกามีขายเยอะไปครับ เครื่อง 1.8 เทอร์โบ สมัยก่อน lancer champ เราขาย เครื่อง 1.5 ยังมีเลยแถว north america & canada


แนวโน้มรถทางยุโรป จะไปกันที่เครื่องเล็ก ติดเทอร์โบ กันหมด ดู bmw สิครับ รุ่นใหม่ เป็นเทอร์โบ ทุกตัว  รถญุี่ปุ่นก็แนวโน้มไปแบบนั้้นทั้งนั้น

z,



pong_ru

ผมหมายถึงรถขนาดใหญ่แล้วมาใส่เครื่องเล็ก เช่น E-Class S-Class   พวก E-200 cgi E-250 cgi มันมาเมืองไทยเพราะเหตุผลด้านภาษี  ผมอยากชับเครื่องใหญ่ที่มีเทคโนโลยีไฮบริด และการสั่งให้เครื่องทำงานเพียงบางสูบ แต่ยามที่ต้องการพลังให้มาครบ ๆ ทุกสูบ   ผมเองใช้ V60 มาสองอาทิตย์แล้ว อัตราเร่งดี พละกำลังพอเพียงอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะมาจากเครื่อง 1600 CC  แต่ทุกครั้งที่เหยียบฟิลลิ่งมันเป็นอีกแบบ ไม่เหมือนเหยียบเครื่องหกสูบ 2500 CC  ในเรื่องการกินน้ำมัน ผมใช้ E85 ในเมืองรถติด ๆ เฉลี่ยประมาณ 5 กิโลลิตร เดินทางไกล กรุงเทพ - ปากช่อง - กรุงเทพ เฉลี่ย 9 กิโลลิตร  กินพอ ๆ กับหกสูบ 2500 CC (เติม E10)  (ราคาน้ำมันต่างกันลิตรละ 17 บาท เศษ)   ที่ชอบมากคือระบบครูทคอนโทลแบบแปรผัน  อันนี้สุดยอด



saransaran

ไม่เหมือนเหยียบเครื่องหกสูบ 2500 CC  ในเรื่องการกินน้ำมัน ผมใช้ E85 ในเมืองรถติด ๆ เฉลี่ยประมาณ 5 กิโลลิตร เดินทางไกล กรุงเทพ - ปากช่อง - กรุงเทพ เฉลี่ย 9 กิโลลิตร  กินพอ ๆ กับหกสูบ 2500 CC (เติม E10)  (ราคาน้ำมันต่างกันลิตรละ 17 บาท เศษ)

อันนี้เป็น Volvo V60 เหรอครับ กิน 5 โลลิตรในเมืองเนี่ย



MystogaN

ตอนนี้อยากรู้มากว่า 2,000CC TwinPowerTurbo จะกินเท่าไหร่นะคับ :P



นครอัญมณี

ไม่จริงครับ

แรงม้า แรงบิด ต้องสมตัวรถครับ ถึงจะประหยัด

Civic 1.8 โฉมปัจจุบัน ถือเป็นตัวอย่างที่ดี ครับ
ซึ่ง
แรงกว่า และ ประหยัดกว่า รถเครื่อง 1.5 หลายๆคัน หลายๆยี่ห้อ
แรงใกล้ๆ แต่ประหยัดกว่า รถเครื่อง 2.0 หลายๆคัน หลายๆยี่ห้อ
รักรถมาก
รักครอบครัวมากกว่า
รักชาติ-ศาสน์-กษัตริย์มากที่สุด



pong_ru

ไม่เหมือนเหยียบเครื่องหกสูบ 2500 CC  ในเรื่องการกินน้ำมัน ผมใช้ E85 ในเมืองรถติด ๆ เฉลี่ยประมาณ 5 กิโลลิตร เดินทางไกล กรุงเทพ - ปากช่อง - กรุงเทพ เฉลี่ย 9 กิโลลิตร  กินพอ ๆ กับหกสูบ 2500 CC (เติม E10)  (ราคาน้ำมันต่างกันลิตรละ 17 บาท เศษ)

อันนี้เป็น Volvo V60 เหรอครับ กิน 5 โลลิตรในเมืองเนี่ย
Volvo V60 เติม E85 รถติดมาก ๆ อนุเสาวรีย์ชัย - พระรูปทรงม้า ไปกลับ เช้า เย็น 5 วัน เฉลี่ยได้ 5 กม./ลิตร
                 ความเร็วคงที่ที่ 110 กม./ชม. เฉลี่ยได้ประมาณ 11 กม./ลิตร