รถคันปัจจุบันที่ใช้อยู่ทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 230กม./ชม. วิ่งเส้นพระราม2 ทางตรง ได้รับใบสั่งขับเร็วเกินกำหนด คือ 137กม./ชม.(เกินความสามารถรถแค่ ครึ่งกว่า ๆเอง) ถูกตรวจจับด้วยเครื่องตรวจความเร็วพร้อมด้วยภาพถ่ายจาก LASER SPEED CAMERA
ความรู้สึกแรกเมื่อได้รับใบสั่งทางจม. ยอมรับความผิดอย่างไม่เต็มใจ แล้วไอ้คันที่มันแซงเราไปจะโดนด้วยไหม สงสัย สังสัย อันเป็นความผิดตามพรบ.จราจรทางบก พุทธศักราช 2522 มาตรา67 วรรคหนึ่ง ต้องโทษปรับ 400บ. โดยให้ส่งชำระค่าปรับไปยัง.....พร้อมแนบซองเล่าติดแสตมป์จ่าหน้าถึงตัวเอง เพื่อจักส่งใบเสร็จรับเงินค่าปรับมายังตัวเองอีกที
วันนี้ ไม่ได้เร็วเท่าเดิมแต่เห็นแสงไฟแว่บ ๆแต่ไกล มีรถจอดขวางพร้อมหน่วยกู้ภัย พอใกล้ อ้อ มีอุบัติเหตุชนรถมอเตอร์ไซด์ล้ม หมวกกันน็อคแตก พร้อม....นอนนิ่งมีผ้าขาวคลุมมิดอีกหนึ่งผืน จุดเกิดเหตุเป็นบริเวณใกล้ U-TURN
เรื่องที่คิดมาตลอดทางก่อนถึงบ้านว่า ไอ้ที่อ้างมาตรา วรรคนี้ พรบ.นี้ จุดวัดการตรวจจับความเร็ว เวลาจะจับใคร ลงโทษใคร ขอเปลี่ยนได้ไหม ว่า
- บริเวณที่มักเกิดอุบัติเหตุ บ่อย ๆ (สถิติมีอยู่) จุดตรวจจับความเร็วควรจะอยู่ก่อนสักหน่อย ไม่ใช่ตั้งมั่ว คนที่เร็วเกิน คนที่โดนใบสั่ง จะคุยกันเองอัตโนมัติ โดยเฉพาะพวกรถตู้ รถโดยสาร กลุ่มนี้นกรู้ มันจะเกิดการแตะเบรคโดยพลัน เมื่อเข้าสู่จุดระยะที่เคยโดนตรวจจับ เป็นการได้สองเด้ง ทั้งลดการสูญเสียชีวิต การป้องปรามไม่ให้ขับเร็วเกิน
- เหตุผลที่เขียนในใบสั่ง ควรจะออกมาให้รูปแบบว่า มีรูปถ่ายอุบัติเหตุ ณ จุดที่มีการตรวจจับ เอาให้เห็นจะจะไปเลย มันจะทำให้เกิดการยอมรับโดยเต็มใจ ถึงเหตุผลของการต้องลดความเร็ว ไม่ใช่สักแต่จะอ้าง กม.