ผมขับรถกระบะใส่ตู้ ขับไปทางลัดท้ายหมู่บ้าน เจอสามแยกตัว T ผมเลี้ยวขวา ซึ่งทางขวามีกระบะ ขับมาเร็ว ( ไม่แน่ใจเขาจะตรง หรือเลี้ยวซ้าย แต่ไม่ว่าจะตรงหรือเลี้ยวซ้าย จะต้องชลอรถก่อน เพราะถนนข้างหน้าเขามันยกระดับสูงขึ้น ) และผมก็ถึงกลางแยกก่อน
คือถ้าเขาชลอ ก็ไม่มีอะไร แต่เขาเหมือนไม่ยอม กระพริบไฟให้ผมชลอ เพื่อให้เขาไปก่อน แต่มันไม่ทันแล้ว ผมเลี้ยวมาครึ่งคันแล้ว ฝนก็ตกตอนสามทุ่มได้
เขาก็ปล่อยรถไหลมาปิดมุมเลี้ยวผม ผมก็เลี้ยวแบบเฉียดๆไป ก็ขับไปเรื่อยๆ สัก 5 นาที ขับมาจี้ท้ายรถผม เปิดไฟสูงกระพริบให้จอด แต่ผมมาคนเดียว และเขาก็เห็น
ผมตอนผ่านหน้าเขาที่เลี้ยว ผมเลยไม่จอด ขับไปเรื่อยๆ 80กม/ชม หาจุดที่คนเยอะๆก่อน ทางเปลี่ยวมาก พอจะขึ้นสะพาน ขับปาดหน้าแบบให้ผมชนเลย รถสีกันนิดหน่อยแต่ผม หักหลบๆไว้
เขาขับจอดขวางสะพาน ซึ่งเป็นทางโค้ง ผมไปต่อไม่ได้ แต่เขาก็ต้องระวังรถสวนมาด้วย จังหวะนั้นผมถอยหลัง และกลับรถ ได้เร็วกว่า ขับเข้ามาจอดที่ด่านทางด่วน จตุโชติ
แต่ไม่เห็นใครตามมา
สงสัย
1. จะมาหาเรื่อง ที่ผมตัดหน้า ?
2. รถผมไปโดนรถเขาตอนเลี้ยว ?
ถ้ากรณีข้อ 1 ไม่เป็นไร
ถ้า ข้อ 2 ผมต้องไปแจ้งความไว้ก่อนไหมครับ เพื่อความบริสุทธิ์ใจ เผื่อเขาไปแจ้งความไว้ ว่ารถผมไปเฉี่ยวเขา หรือปล่อยไปดี พอดีตอนมีเรื่องแบตโทรศัพท์หมดไปก่อน โทรหา ตร. ไม่ได้ ตอนนี้กลับมาบ้าน นั่งพิมพ์คุยกับเพื่อนๆก่อน ชาร์ตแบตไปด้วย
ทำไมผมถึงไม่รู้ว่าข้อ 2 หรือเปล่า คือ ฝนมันตก และไม่รู้สึกถึงการเฉี่ยวอะไรเลย และมาดูรอยรถ รถตู้ส่งของมันขับกันหลายคน รอยมันก็มีอยู่รอบๆ ดูไม่ออก
ปล. แปลกที่ผมไม่ได้จำอะไรเกี่ยวกับรถเขาไว้เลย นอกจากกระบะสีเขียวอ่อน ยี่ฮ้ออะไรก็ไม่รู้ เพราะเขาขับตามหลังมาตลอด สังเกตุอะไรไม่ได้ กระจกเปียกฝน และช่วงโดนปาดหน้า มันเร็วมาก คิดแต่หาทางเอาตัวรอด มองทางหนีทีไล่ อย่างเดี่ยว ไม่มีสมองมาคิดเก็บรายละเอียดรถเขาเลย หรือลงมาคุย ผมว่ามันไม่คุ้มเสี่ยง ถ้าเขาขับตามมาเรื่อยๆ ก็ได้นะผมไม่ได้หนีอะไร คือขับตามปกติ ไม่ได้คิดเหยียบหนีเลย กะให้เขาตามไปได้เรื่อยๆด้วย