ขอถามอะไรหน่อยได้ไหมครับ
รถคันนึง ที่เติม E20 / E85 ได้ไม่ได้เนี่ย มันมีผลต่อการตัดสินใจซื้อรถคันๆนึงมากเลยหรอครับ?
ผมแค่รู้สึกว่า ซื้อ"รถยนต์"มา ยังไงเราก็ต้องเติมน้ำมันกันอยู่ดีไม่ใช่หรอครับ?
คือส่วนต่าง บาท/กิโลเมตร มันก็ไม่ได้ห่างแบบเป็นนัยยะสำคัญเลยไม่ใช่หรอครับ หรือผมเข้าใจผิด
คือสงสัยมากจริงๆ บางคนที่เติมซักE ไม่ได้นี่จะเป็นจะตาย แล้วต่อไปถึงเวลาเปลี่ยนยาง นี่จะทำกันยังไงครับ ไหนจะต่อประกันอีก
อยากรู้ครับ
ถ้าเติม E85 จะประมาณ 1000 บาท ถ้าไป 95 อาจจะไปถึง 1500 ซึ่งต่าง 500 ต่อครั้ง
ผมเติมเดือนละ 5 ครั้งสำหรับ E85 = 1000 x 5 x 12 = 60000 บาท / ปี สำหรับค่าน้ำมัน E85
ถ้าเป็น 95 หละ ผมตีซะ 4 ครั้งเพราะอาจจะวิ่งได้มากกว่า = 1500 x 4 x 12 = 72000 บาท
แพงว่าประมาณ 12000 บาทต่อปี ผมเองใช้รถยาว 6-8 ปี = 72000-96000 ที่ผมเสียเปล่า ผมว่ามันเยอะเกินไป
แต่ละคนความคิดไม่เหมือนกัน แค่เสียงหลังคาเวลาฝนตกที่เหมือนรั้วสังกะสีบ้างยายผม ผมก็ไม่เลือก Mazda 3 แล้วครับ ไหนจะเสียงในห้องโดยสารก็ดัง ปัญหา E85 น้ำเข้าโคมไฟ รอบเดินเบาบางครั้ง มันเพียงผมที่ความสวยมันไม่สามารถชนะใจผมได้
คือผมก็ยังสงสัยนะ ว่านอกจากสวยกับขับดีแล้วมีเหตุผลอะไรที่ต้องเลือก Mazda 3 พอดีผมก็หารถ c seg อยู่แหละ ดูปัญหามีทุกยี่ห้อ แต่ผมเลือกตรงที่ว่าปัญหาของตัวไหนแก้ได้ ปัญหาไหนไม่หนักเกินไป และหน้าตามันสวยด้วย ผมไม่อยากซื้อรถมาเวลาขับต้องคอยมองหาศูนย์
เรื่องปัญหาผมก็เข้าใจว่ามันไม่เกิดขึ้นกับทุกคนครับ แต่ผมไม่ใช่นักธุรกิจ ผมไม่ชอบความเสี่ยงครับ เงินเกือบล้าน ไม่มีอะไรคุ้ม