[THUIO]

น้าผมต้องการซื้อรถรถpซักคัน น้าผมขับวันนึงประมาณ80กิโล ไป-กลับระหว่าง สาทร-บางบัวทองใช้ควมเร็วไม่เกิน140 ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำแนะนำคับ

[• Jmng™ •]

แนะนำ Pajero Sport เลยครับ เครื่องแรง + ช่วงล่างมั่นใจกว่ากันเยอะเลยครับ

[tpc]

paไอเสียไม่เข้ารถ
มค-กย54 paยอดขายมากกว่าfor3000กว่าคัน

[reyeshenry]

fortuner ครับ


ถ้าคำนึงศูนย์บริการที่มากมาย และอะไหล่ที่หาง่าย

แม้ราคาจะแรงไปหน่อยแต่  ราคามือสอง  ราคาขายตกน้อยสุด ในบรรดา รถ SUV

อ๊อฟชั่นทั้งสองรุ่น ในตอนนี้ ก็แทบไม่ต่างกันแล้วนะครับ

ส่วนเรื่องควันไอเสีย  ไม่มีมีปัญหาเข้าตั้งแต่รุ่นไมเนอร์แล้วนะครับ

และ ช่วงล่าง ตัว BMC หนึบ ขึ้นเยอะแล้วนะครับ

[MyName]

ใช้รถวันนึงประมาณ 80 กม.
เอาเป็นว่า ผมแนะนำ Fortuner เบนซิน + LPG แล้วกันครับผม
ใช้รถเยอะขนาดนี้ คงสู้ค่าน้ำมันไม่ไหวแน่ๆ ยิ่งใช้ในเมืองด้วย

[NgoH]

ใหม่ ปาเจโร่ เบนซิล 8แสน9 ถูกสุด น่าซื้อครับ

[THUIO]

ใช้รถวันนึงประมาณ 80 กม.
เอาเป็นว่า ผมแนะนำ Fortuner เบนซิน + LPG แล้วกันครับผม
ใช้รถเยอะขนาดนี้ คงสู้ค่าน้ำมันไม่ไหวแน่ๆ ยิ่งใช้ในเมืองด้วย

สนใจเป็นตัวดีเซลหน่ะคับ น้าผมไม่อยากติดแก๊สและเค้าไม่เกี่ยงเรื่องค่าน้ำมัน ขอบคุณมากคับ

[MyName]

ใช้รถวันนึงประมาณ 80 กม.
เอาเป็นว่า ผมแนะนำ Fortuner เบนซิน + LPG แล้วกันครับผม
ใช้รถเยอะขนาดนี้ คงสู้ค่าน้ำมันไม่ไหวแน่ๆ ยิ่งใช้ในเมืองด้วย

สนใจเป็นตัวดีเซลหน่ะคับ น้าผมไม่อยากติดแก๊สและเค้าไม่เกี่ยงเรื่องค่าน้ำมัน ขอบคุณมากคับ

อ่อครับ ถ้างั้นก็เลือกตามชอบเลยครับ ความเห็นส่วนตัว
Pajero Sport ได้การขับขี่ในภาพรวมและราคาที่น่าคบหากว่า
Fortuner ได้ออพชั่นและความเป็นต่อเรื่องหลังการขายครับ

[keng.]

ถ้าเป็นคนที่ชอบขับรถ ไม่ได้เน้นออพชั่นมาก นั่งไม่เมื่อยมาก ช่วงล่างค่อนข้างดี
ผมเสนอ Pajero Sport ครับ เพราะมวยคู่นี้น้ำมันก็กินพอกัน ความแรงใกล้เคียงกัน
ดังนั้นเลือกรถที่เราชอบไปเลยครับ

[Air_graphic]

ในตัวท็อป ออฟชั่นจะพอๆกัน แต่ราคาจูนจะสูงกว่า

แต่ถ้าผมเลือก ผมเลือก ฟอร์จูนเนอร์ครับ ช่วงล่างปรับเปลี่ยนได้ไม่เห็นมีอะไรน่าห่วง
แต่บริการหลังการขายของมิตซูน่าห่วงกว่าเยอะ

[Eddy5659]

ขอเชียร์ประสบการณ์ที่ได้ไปด่ำๆ มองๆ และลองขับมานะครับ
ความแรงของเครื่องตามความรู้สึกแล้ว ผมกลับรู้สึกว่า For จะดีกว่าด้วยซ้ำ แต่ตัวเลขที่คุณ jimmy ทำไว้ใน review Pa จะแรงกว่านิดๆ
ช่วงล่างผมว่า Pa ดีกว่านิดๆ ผมไม่ชอบที่ For มันออกแนวโยนนิดๆ แต่ก็รับได้

ติดเรื่องเดียวเลยจริงๆ ผมว่า Pa มันแคบๆ ยังไงก็ไม่รู้ รู้สึกอึดอัด เวลานั่งแถวหลังๆ คุณแม่และแฟนผมบอกว่ามันแคบกว่า
For ในความรู้สึกนะครับ แต่ตัวเลขผมไม่ทราบ

แต่ประเด็นเรื่องบริการหลังการขาย ค่าบำรุงรักษา การขายต่อ For จะได้เปรียบอยู่หน่อยนะครับ

ผมก็กำลังเล็งๆ SUV หรือ PPV อยู่เมือนกัน แต่จะรอไปลอง Captiva diesel กะเจ้า Triblazer ซะก่อนว่าจะเป็นยังไง
เพราะทั้ง For และ Pa ยังไม่โดนใจเท่าไหร่ครับ

[Ji.Cl.]

ราคาขายต่อ ผมคิดว่ามันแทบไม่ต่างกันครับ ราคามือสองปาเจโรตกเยอะกว่า แต่อย่างที่ราคามันไม่แรงอ่ะครับ

ข้อมูลจาก http://www.redbookasiapacific.com/th/home.php?lang=ll

ราคารถใหม่ Fortuner 3.0V 2WD MC2008 ราคา 1.249 ล้านบาท

ราคารถใหม่ Pajero Sport 2WD GT 2008 ราคา 1.07 ล้านบาท

ข้อมูลจาก www.thanachartbluebook.com (<--กรุณาใช้วิจารณญาณ และศึกษาราคาทั่วไปในตลาดจริงด้วยนะครับ)

ราคากลางรถมือสอง Fortuner 3.0V 2008 ในปี 2011 ราคา 0.95 ล้าน เข้าเนื้อ 2.99 แสน

ราคากลางรถมือสอง Pajero Sport 2WD GT 2008 ในปี 2011 ราคา 0.74 ล้าน เข้าเนื้อ 3.3 แสน

(รุ่นย่อยอื่น ให้ลิงก์ไว้แล้ว หักลบกันเองนะครับ ผมเดาว่าเป็นรุ่นนี้ เพราะเป็นดีเซล และตอนที่พี่ๆ แนะ 2.7 +LPG เจ้าของกระทู้บอกเอาดีเซล แต่ไม่พูดถึงขับสี่)



ดังนั้นส่วนต่างจริงๆ มีแค่ 3 หมื่นครับ

ส่วนต่างราคารถใหม่ 1.79 แสน ในเวลา 3 ปี ต่อยอดได้มากมาย ถ้าไม่ทำอะไร ฝากประจำแบงค์ ยังได้ดอกเบี้ยอีกครับ

แล้วตอนนี้ ยอดขายปาเจโรเยอะขึ้นกว่าตอนนั้นมาก ราคาอาจไม่ตกขนาดนี้ก็ได้

ตอนนี้ ส่วนต่างของ For 2WD 3.0V กับ PjS 2WD GT 1.4 แสนครับ

สำคัญกว่านั้น ตอนนี้ ฟอร์จูน BMC คิวค้างเติ่ง ส่วนลดหาย ของแถมหด แต่ปาเจโรยังมีมาร์จิน คนที่ต่อรองไม่เก่ง น้อยๆ ควรจะได้ 1-1.5 หมื่นขึ้นไป

สรุป เรื่องความคุ้มค่าในการใช้ ระยะสั้น ตัดไปครับ คุ้มพอกัน แต่ฟอร์จะได้เปรียบเรื่องค่าซ่อมในช่วงใหม่ๆนะครับ

ส่วนระยะยาว ครึ่งรอบนักษัตรขึ้นไป คงไม่ต้องคิดแล้วครับ คุ้มแล้วหล่ะ



ทีนี้ ขึ้นอยู่กับว่า รุ่นไหนที่ถูกใจ บุคลิกไหนที่ใช่ ฟอร์ขับสอง ประหยัดน้ำมันกว่าปาเจโรพอสมควร (อันนี้ผมฟังเขามา)

ช่วงล่าง (BMC) นิ่มสูสี แต่การเก็บอาการผิวขรุขระผมให้ปาเจโรชนะครับ (อันนี้ผมลองเอง)

พวงมาลัย ในเมือง ให้ฟอร์ชนะ แต่ผมว่าคนขับจะเหนื่อยเวลาไปต่างจังหวัดไกลๆ เพราะพวงมาลัยคมและไวเกิ๊น..... (อันนี้ผมก็ลองเอง)

เกียร์ ผมชอบเกียร์ของฟอร์จูนเนอร์มากกว่าครับ (อันนี้ส่วนตัว ผมไม่ชอบเกียร์ปาเจโรเพราะมันคิกดาวน์ง่ายไป

ผมกดลงไปนิดเดียวก็คิกซะแล้ว ฉลาดเกินจนเหมือนอวดฉลาด (กรูยังไม่ได้ตั้งใจจะแซง มรึงคิกทำไม??) ผมชอบเกียร์ฟอร์จูนกว่า)

การตอบสนอง ฟอร์จูนคันเร่งตอบช้ากว่าปาเจโรนะผมว่า แต่การตอบอัตราเร่งในรอบต่ำ ฟอร์ดีกว่าชัดเจน

อัตราเร่งที่รอบสูง ปาเจโรดีกว่า ครับ

[THUIO]

ราคาขายต่อ ผมคิดว่ามันแทบไม่ต่างกันครับ ราคามือสองปาเจโรตกเยอะกว่า แต่อย่างที่ราคามันไม่แรงอ่ะครับ

ข้อมูลจาก http://www.redbookasiapacific.com/th/home.php?lang=ll

ราคารถใหม่ Fortuner 3.0V 2WD MC2008 ราคา 1.249 ล้านบาท

ราคารถใหม่ Pajero Sport 2WD GT 2008 ราคา 1.07 ล้านบาท

ข้อมูลจาก www.thanachartbluebook.com (<--กรุณาใช้วิจารณญาณ และศึกษาราคาทั่วไปในตลาดจริงด้วยนะครับ)

ราคากลางรถมือสอง Fortuner 3.0V 2008 ในปี 2011 ราคา 0.95 ล้าน เข้าเนื้อ 2.99 แสน

ราคากลางรถมือสอง Pajero Sport 2WD GT 2008 ในปี 2011 ราคา 0.74 ล้าน เข้าเนื้อ 3.3 แสน

(รุ่นย่อยอื่น ให้ลิงก์ไว้แล้ว หักลบกันเองนะครับ ผมเดาว่าเป็นรุ่นนี้ เพราะเป็นดีเซล และตอนที่พี่ๆ แนะ 2.7 +LPG เจ้าของกระทู้บอกเอาดีเซล แต่ไม่พูดถึงขับสี่)



ดังนั้นส่วนต่างจริงๆ มีแค่ 3 หมื่นครับ

ส่วนต่างราคารถใหม่ 1.79 แสน ในเวลา 3 ปี ต่อยอดได้มากมาย ถ้าไม่ทำอะไร ฝากประจำแบงค์ ยังได้ดอกเบี้ยอีกครับ

แล้วตอนนี้ ยอดขายปาเจโรเยอะขึ้นกว่าตอนนั้นมาก ราคาอาจไม่ตกขนาดนี้ก็ได้

ตอนนี้ ส่วนต่างของ For 2WD 3.0V กับ PjS 2WD GT 1.4 แสนครับ

สำคัญกว่านั้น ตอนนี้ ฟอร์จูน BMC คิวค้างเติ่ง ส่วนลดหาย ของแถมหด แต่ปาเจโรยังมีมาร์จิน คนที่ต่อรองไม่เก่ง น้อยๆ ควรจะได้ 1-1.5 หมื่นขึ้นไป

สรุป เรื่องความคุ้มค่าในการใช้ ระยะสั้น ตัดไปครับ คุ้มพอกัน แต่ฟอร์จะได้เปรียบเรื่องค่าซ่อมในช่วงใหม่ๆนะครับ

ส่วนระยะยาว ครึ่งรอบนักษัตรขึ้นไป คงไม่ต้องคิดแล้วครับ คุ้มแล้วหล่ะ



ทีนี้ ขึ้นอยู่กับว่า รุ่นไหนที่ถูกใจ บุคลิกไหนที่ใช่ ฟอร์ขับสอง ประหยัดน้ำมันกว่าปาเจโรพอสมควร (อันนี้ผมฟังเขามา)

ช่วงล่าง (BMC) นิ่มสูสี แต่การเก็บอาการผิวขรุขระผมให้ปาเจโรชนะครับ (อันนี้ผมลองเอง)

พวงมาลัย ในเมือง ให้ฟอร์ชนะ แต่ผมว่าคนขับจะเหนื่อยเวลาไปต่างจังหวัดไกลๆ เพราะพวงมาลัยคมและไวเกิ๊น..... (อันนี้ผมก็ลองเอง)

เกียร์ ผมชอบเกียร์ของฟอร์จูนเนอร์มากกว่าครับ (อันนี้ส่วนตัว ผมไม่ชอบเกียร์ปาเจโรเพราะมันคิกดาวน์ง่ายไป

ผมกดลงไปนิดเดียวก็คิกซะแล้ว ฉลาดเกินจนเหมือนอวดฉลาด (กรูยังไม่ได้ตั้งใจจะแซง มรึงคิกทำไม??) ผมชอบเกียร์ฟอร์จูนกว่า)

การตอบสนอง ฟอร์จูนคันเร่งตอบช้ากว่าปาเจโรนะผมว่า แต่การตอบอัตราเร่งในรอบต่ำ ฟอร์ดีกว่าชัดเจน

อัตราเร่งที่รอบสูง ปาเจโรดีกว่า ครับ

ขอบคุณมากคับ อธิบายได้ละเอียดมาก

[NUTTY LFC]

- ชอบสวย หรู กว้าง ออกตัวแรง อัตตราเร่งแซงถึงใจ กินน้ำมันไม่มากพอรับได้เลือกfortuner bmc(รอรถอย่างน้อย4เดือน)
- ชอบสูง สวย เกียร์5สปีด ไม่เน่นเรื่องน้ำมั้น นุ่มนวลและเฟิร์มกว่าค่ายอื่น อัตตราเร่งแซงไม่ไวมากแต่รับได้เลือกpajaro s.(รอรถไม่นานมากพอรับได้)

[toonze]

เรื่องความแรง ผมว่าพอกันครับแล้วแต่คนขับด้วย
เรื่องน้ำมันก็พอกันครับถ้าขับระดับ 140 กินไม่ต่าง
เรื่องราคาขายต่อไม่ต่างเช่นกันเพราะปาตอนซื้อถูกกว่า แต่ถ้าถามผมมันใช้ได้ยาวเลยนะ
เรื่อง0ยกให้โตโยต้า
ช่วงล่างยกให้ปา
เปาะนั้งสบายยกให้ปา

[E-OOD]

ต้องลองขับด้วยตัวเอง  รถคนละบุคลลิกว่าชอบแบบไหน ความคิดเห็นส่วนตัวแล้ว for นิ่ม ๆ นุ่ม  ๆ  เข้าโค้งแรงบรรทุกเยอะเสียว   pajero  เข้าโค้งคมกว่า ไม่เสียว   เครื่อง และเกียร์  for  ขับสนุก  จังหวะเปลี่ยนเกียร์ เนียนกว่า  แต่ตีนปลายแล้ว พอกัน  แต่ไม่เคย pajero auto 5  สปีดว่าเป็นไง  อัตรากินน้ำมัน pajero 5 สปีดแว่ว ๆ  จากผู้ใช้มาว่า 12  กิโล/ลิตร  ส่วน for ทางไกลยังแค่ 10   เอง  ใช้ได้ทั้งคู่  แล้วแต่บุคคลิกในการขับรถมากกว่าครับ  รักพี่เสียดายน้องอ่ะ  อ้อ pajero ดีเกือบทุกด้านแล้ว เว้นอย่างเดียว ไปดูแล้วเซลล์ไม่สนใจจะขายของให้ (ที่ชลบุรี ทั้งศูนย์ บายพาส  และศูนย์  แฮปปี้เวิล์ด ) 

[mckyparty]

หามานานละ ปาที่มือสองราคาตกๆน่ะ
เรื่องราคาตกนี่ ถ้าไม่ใช่เต้นท์ อย่ามาเถียงผมนะ

รถปีเดียวกัน ออฟชั่น เครื่องพอๆกัน หลายเต้นท์รับมิตซูกับพี่โต พอๆกัน หรือ ต่างกันบี้กันไม่มาก ทั้งๆที่ซื้อมาแพงกว่ากันหลายแสน บางที่แถวรัชดาให้ราคา triton plus มากกว่า vigo prerunner ที่ปีเดียวกัน!!!!

[Mr.P]

ที่บ้านผมมี Fortuner อยู่ครับ
เคยเกือบท้ายปัดตอนสงกรานต์ ทั้งๆที่ขับมาไม่เกิน 100
เพราะ เจอไฟแดงตรงทางโค้ง+ถนนลื่น

แนะนำให้ใช้ค่ายอื่นดีกว่าครับ

[vashali]

เคยขัยแต่ for BMC 4x2 อัตราเร่งดี อัตราการกินน้ำมัน ประหยัดที่สุดเป็นทางตรง 14 km/l เปลืองสุดใช้ในเมือง 8 กว่าๆ km/l คำนวนค่าน้ำมันแล้ว
ใช้พอๆกับ yaris เลย ในจำนวนเงินที่เท่ากัน ช่วงล่างนิ่มดี ไม่เคยเข้้าโค้งแรงกว่า 90 เลยไม่รู้ว่าเกาะถนนดีรึเปล่า แต่งแล้วสวยมากๆ

[udis]

เคยขัยแต่ for BMC 4x2 อัตราเร่งดี อัตราการกินน้ำมัน ประหยัดที่สุดเป็นทางตรง 14 km/l เปลืองสุดใช้ในเมือง 8 กว่าๆ km/l คำนวนค่าน้ำมันแล้ว
ใช้พอๆกับ yaris เลย ในจำนวนเงินที่เท่ากัน ช่วงล่างนิ่มดี ไม่เคยเข้้าโค้งแรงกว่า 90 เลยไม่รู้ว่าเกาะถนนดีรึเปล่า แต่งแล้วสวยมากๆ

แบบนี้คนใช้ Yaris มาก่อน เปลี่ยนมาใช้ Fortuner แทบไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำมันเลย ประหยัดสุดๆไปเลยครับ
 

[golf32]

fortuner ครับ


ถ้าคำนึงศูนย์บริการที่มากมาย และอะไหล่ที่หาง่าย

แม้ราคาจะแรงไปหน่อยแต่  ราคามือสอง  ราคาขายตกน้อยสุด ในบรรดา รถ SUV

อ๊อฟชั่นทั้งสองรุ่น ในตอนนี้ ก็แทบไม่ต่างกันแล้วนะครับ

ส่วนเรื่องควันไอเสีย  ไม่มีมีปัญหาเข้าตั้งแต่รุ่นไมเนอร์แล้วนะครับ

และ ช่วงล่าง ตัว BMC หนึบ ขึ้นเยอะแล้วนะครับ

วันก่อนยืมรถเพื่อนมาใช้ยังมีกลิ่นอยู่เลยครับ ตัวไมเนอร์เนี่ย

[alove]

ใหม่ ปาเจโร่ เบนซิล 8แสน9 ถูกสุด น่าซื้อครับ

ราคาเล้าจริงๆ ผมยังชักจะลังเล เลย

[nikraman]

ราคาขายต่อ ผมคิดว่ามันแทบไม่ต่างกันครับ ราคามือสองปาเจโรตกเยอะกว่า แต่อย่างที่ราคามันไม่แรงอ่ะครับ

ข้อมูลจาก http://www.redbookasiapacific.com/th/home.php?lang=ll

ราคารถใหม่ Fortuner 3.0V 2WD MC2008 ราคา 1.249 ล้านบาท

ราคารถใหม่ Pajero Sport 2WD GT 2008 ราคา 1.07 ล้านบาท

ข้อมูลจาก www.thanachartbluebook.com (<--กรุณาใช้วิจารณญาณ และศึกษาราคาทั่วไปในตลาดจริงด้วยนะครับ)

ราคากลางรถมือสอง Fortuner 3.0V 2008 ในปี 2011 ราคา 0.95 ล้าน เข้าเนื้อ 2.99 แสน

ราคากลางรถมือสอง Pajero Sport 2WD GT 2008 ในปี 2011 ราคา 0.74 ล้าน เข้าเนื้อ 3.3 แสน

(รุ่นย่อยอื่น ให้ลิงก์ไว้แล้ว หักลบกันเองนะครับ ผมเดาว่าเป็นรุ่นนี้ เพราะเป็นดีเซล และตอนที่พี่ๆ แนะ 2.7 +LPG เจ้าของกระทู้บอกเอาดีเซล แต่ไม่พูดถึงขับสี่)



ดังนั้นส่วนต่างจริงๆ มีแค่ 3 หมื่นครับ

ส่วนต่างราคารถใหม่ 1.79 แสน ในเวลา 3 ปี ต่อยอดได้มากมาย ถ้าไม่ทำอะไร ฝากประจำแบงค์ ยังได้ดอกเบี้ยอีกครับ

แล้วตอนนี้ ยอดขายปาเจโรเยอะขึ้นกว่าตอนนั้นมาก ราคาอาจไม่ตกขนาดนี้ก็ได้

ตอนนี้ ส่วนต่างของ For 2WD 3.0V กับ PjS 2WD GT 1.4 แสนครับ

สำคัญกว่านั้น ตอนนี้ ฟอร์จูน BMC คิวค้างเติ่ง ส่วนลดหาย ของแถมหด แต่ปาเจโรยังมีมาร์จิน คนที่ต่อรองไม่เก่ง น้อยๆ ควรจะได้ 1-1.5 หมื่นขึ้นไป

สรุป เรื่องความคุ้มค่าในการใช้ ระยะสั้น ตัดไปครับ คุ้มพอกัน แต่ฟอร์จะได้เปรียบเรื่องค่าซ่อมในช่วงใหม่ๆนะครับ

ส่วนระยะยาว ครึ่งรอบนักษัตรขึ้นไป คงไม่ต้องคิดแล้วครับ คุ้มแล้วหล่ะ



ทีนี้ ขึ้นอยู่กับว่า รุ่นไหนที่ถูกใจ บุคลิกไหนที่ใช่ ฟอร์ขับสอง ประหยัดน้ำมันกว่าปาเจโรพอสมควร (อันนี้ผมฟังเขามา)

ช่วงล่าง (BMC) นิ่มสูสี แต่การเก็บอาการผิวขรุขระผมให้ปาเจโรชนะครับ (อันนี้ผมลองเอง)

พวงมาลัย ในเมือง ให้ฟอร์ชนะ แต่ผมว่าคนขับจะเหนื่อยเวลาไปต่างจังหวัดไกลๆ เพราะพวงมาลัยคมและไวเกิ๊น..... (อันนี้ผมก็ลองเอง)

เกียร์ ผมชอบเกียร์ของฟอร์จูนเนอร์มากกว่าครับ (อันนี้ส่วนตัว ผมไม่ชอบเกียร์ปาเจโรเพราะมันคิกดาวน์ง่ายไป

ผมกดลงไปนิดเดียวก็คิกซะแล้ว ฉลาดเกินจนเหมือนอวดฉลาด (กรูยังไม่ได้ตั้งใจจะแซง มรึงคิกทำไม??) ผมชอบเกียร์ฟอร์จูนกว่า)

การตอบสนอง ฟอร์จูนคันเร่งตอบช้ากว่าปาเจโรนะผมว่า แต่การตอบอัตราเร่งในรอบต่ำ ฟอร์ดีกว่าชัดเจน

อัตราเร่งที่รอบสูง ปาเจโรดีกว่า ครับ

ขอแชร์ประสบการณ์เร่องการใช้เกียร์หน่อย ว่า น้องปา มีเกียร์ + - ไว้ใช้งานในยามที่ต้องการจะลากเกียร์ หรือจะขับแบบเนียน ๆ เพื่อเซพน้ำมัน ทำได้ดีมาก ไม่ต้องให้คอมฯ เขามาสั่งการแทนเรา เราสั่งได้ดั่งใจเลยครับ สนุกกว่าใช้โหมดออโต้มาก

[AVANTGARDe']

เท่าที่ใช้Fortuner3.0 2010 กับเคยสัมผัส PajeroSport 2.5 ก่อนVGT มาบ้างนะครับ

-อัตราเร่งถ้าวัดกันด้วยความรู้สึกFortunerนั้นจะดึงและทันใจมากกว่าอย่างที่ท่านผู้การได้กล่าวไว้
-ช่วงล่างเป็นที่แน่นอนว่าPajerosportนั่นเกาะหนึบนุ่มนวลชวนฝัน แต่Fortunerจะมาแนวกระด้างตึงตัง แต่ก็ได้คุณงามความดีของFulltime4WDและVSCช่วยเอาไว้
-เบาะนั่งPajerosportสบายกว่า คู่หน้าได้ปรับไฟฟ้า8ทิศด้วย หนังที่ใช้นุ่มเนียนมือ แต่ต้องระวังเรื่องความสะอาดนิดนึง(ของญาติผมเบาะเปลี่ยนสีไปแล้ว)
-เบาะแถวสามFortunerนั่งสบายกว่า แต่Pajerosportก็มีการตีคอนโซลด้านข้างไว้วางแขนได้สบาย
-แผงหน้าปัดและเครื่องเสียงถึงแม้Fortunerออกแบบได้เป็นมิตรและใช้งานง่ายกว่า แต่การออกแบบให้คอนโซลลาดเอียงอย่างนั้นก็ทำให้แสงสะท้อนขึ้นกระจกรบกวนสายตาผู้ขับขี่พอสมควร
-ระบบปรับอากาศเย็นเร็วพอๆกันและมีสามแถวเหมือนกันด้วย
-ห้องโดยสารถึงแม้Pajerosportจะแคบกว่าแต่การออกแบบเบาะแถวสามและกระจกหน้าต่างก็ทำให้รู้สึกปลอดโปร่งกว่า
-การเก็บเสียงนั้นPajerosportเงียบกว่า

ถ้าเปรียบเทียบก็ประมาณว่า Pajerosport เป็นมาเฟียรื่นรมย์ Fortunerเป็นพ่อบ้านจอมโหด

[Mr.Joe]

ผมซื้อ Fortuner มาใช้ที่บริษัท
จนมีคนบอกว่า Everest ช่วงล่างดี แข็งพอกัน แต่เกาะ ภายในใหญ่มาก เลยซื้อมาอีกคัน
พอ PJS ออก ก็ไปลองขับ ถึงกับอึ้งในความดีช่วงล่าง ส่วนสมรรถนะพอกล้อมแกล้ม เลยซื้ออีก
ตอนนี้ผมจอด Fortuner ไว้เฉยๆ ไม่ชอบช่วงล่าง การขับขี่ การเกาะถนนอย่างแรง
ส่วนใหญ่ตอนนี้ใช้ Everest กับ PJS
ถ้าคนนั่งเยอะ ขนของเยอะ เดินทางมั่นใจ ก็ใช้ Everest
ถ้านั่งปกติ เน้นนั่งสบายด้วย เกาะถนนด้วย ก็ใช้ PJS

[reyeshenry]

fortuner ครับ


ถ้าคำนึงศูนย์บริการที่มากมาย และอะไหล่ที่หาง่าย

แม้ราคาจะแรงไปหน่อยแต่  ราคามือสอง  ราคาขายตกน้อยสุด ในบรรดา รถ SUV

อ๊อฟชั่นทั้งสองรุ่น ในตอนนี้ ก็แทบไม่ต่างกันแล้วนะครับ

ส่วนเรื่องควันไอเสีย  ไม่มีมีปัญหาเข้าตั้งแต่รุ่นไมเนอร์แล้วนะครับ

และ ช่วงล่าง ตัว BMC หนึบ ขึ้นเยอะแล้วนะครับ

วันก่อนยืมรถเพื่อนมาใช้ยังมีกลิ่นอยู่เลยครับ ตัวไมเนอร์เนี่ย

ของผมทำไม ไม่มีกลิ่นเลย 

[golf32]

อาจเพราะที่บ้านผมทุกคนไวต่อเรื่องพวกนี้มากทั้งเสียงก๊อกแก๊ก และ กลิ่นเหม็น อันนี้เรื่องจริงครับ

[myalexxp]

ผมซื้อ Fortuner มาใช้ที่บริษัท
จนมีคนบอกว่า Everest ช่วงล่างดี แข็งพอกัน แต่เกาะ ภายในใหญ่มาก เลยซื้อมาอีกคัน
พอ PJS ออก ก็ไปลองขับ ถึงกับอึ้งในความดีช่วงล่าง ส่วนสมรรถนะพอกล้อมแกล้ม เลยซื้ออีก
ตอนนี้ผมจอด Fortuner ไว้เฉยๆ ไม่ชอบช่วงล่าง การขับขี่ การเกาะถนนอย่างแรง
ส่วนใหญ่ตอนนี้ใช้ Everest กับ PJS
ถ้าคนนั่งเยอะ ขนของเยอะ เดินทางมั่นใจ ก็ใช้ Everest
ถ้านั่งปกติ เน้นนั่งสบายด้วย เกาะถนนด้วย ก็ใช้ PJS

หลานผมยังชอบปามากกว่าฟอร์ครับ (เด็กนะ)

ส่วนตัวแล้ว ชอบคันไหนก็ซื้อเถอะครับ

แต่ก่อนจะซื้อก็ลองมันให้หมด เซลเค้าไม่ว่าอะไรหรอก *0*

[plus]

อย่างนี้ เลือกดีเซลคับ    อึดทนประหยัด   ต้องลองคับ โดยการเช่ามา 1 วัน