ผู้เขียน หัวข้อ: หลังสรรพสามิตใหม่ปีหน้า กับ Merc, Bimmer เบนซิน ม้าเหลือๆ ความจุไม่เกิน 3 ลิตร  (อ่าน 3676 ครั้ง)

MacH1

  • บุคคลทั่วไป
หลังสรรพสามิตใหม่ปีหน้าแล้วถึงเวลาของพวก Mercedes, Bimmer ที่เมืองนอกได้ใช้กันอย่าง C300 (2.0 4 inline) เบนซิน 240 ม้า C400 (3.0 V6 twin turbo) เบนซิน 330 ม้า C450AMG 4-matic (3.0V6 twinturbo) 360 ม้ามาทำตลาดในไทยยังครับ หรือ AD เค้าจะขายแต่พวกดีเซลไฮบริด ชูเป็นตัวท๊อปอย่างเดียวเลยครับ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 20, 2015, 08:52:58 โดย Ivy Modernist »

ออฟไลน์ localgame

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,585
น่าจะเน้นขายตัวดีเซลไฮบริด เพราะปล่อยไอเสียไม่เกิน100g/km จะโดนเรทภาษีแค่10% แต่อาจจะเพิ่มทางเลือกสำหรับขาแรงเป็นพวกเครื่องแรงม้าเยอะๆมากขึ้น ถึงปีหน้าตารางภาษีจะเอื้อให้เอารถเครื่องแรงม้าเยอะเข้ามาได้ แต่ถ้าเจอราคาแล้วผมว่าคนก็ยังซื้อไฮบริดอยู่ดี

เอาง่ายๆสมมุติ C300 bluetec hybrid โดนเรทภาษีเดิม10%  ส่วน C300(2.0 4 inline) 240ม้า ปล่อยไอเสียไม่เกิน 150g/km โดนเรท30% ส่วนต่าง20% นี่เป็นล้านนะครับ อาจจะประมาณ1-1.5M ของเดิมC300 hybridเริ่มต้น 2.8M ถ้าเป็นC300 ไม่hybrid อาจจจะซัก4-4.5M C-Classราคานี้คนไม่ซื้อหรอกครับ จ่ายขนาดนี้ก็ต้องเล่นตัวแรงม้าเยอะสุดไปเลย

MacH1

  • บุคคลทั่วไป
น่าจะเน้นขายตัวดีเซลไฮบริด เพราะปล่อยไอเสียไม่เกิน100g/km จะโดนเรทภาษีแค่10% แต่อาจจะเพิ่มทางเลือกสำหรับขาแรงเป็นพวกเครื่องแรงม้าเยอะๆมากขึ้น ถึงปีหน้าตารางภาษีจะเอื้อให้เอารถเครื่องแรงม้าเยอะเข้ามาได้ แต่ถ้าเจอราคาแล้วผมว่าคนก็ยังซื้อไฮบริดอยู่ดี

เอาง่ายๆสมมุติ C300 bluetec hybrid โดนเรทภาษีเดิม10%  ส่วน C300(2.0 4 inline) 240ม้า ปล่อยไอเสียไม่เกิน 150g/km โดนเรท30% ส่วนต่าง20% นี่เป็นล้านนะครับ อาจจะประมาณ1-1.5M ของเดิมC300 hybridเริ่มต้น 2.8M ถ้าเป็นC300 ไม่hybrid อาจจจะซัก4-4.5M C-Classราคานี้คนไม่ซื้อหรอกครับ จ่ายขนาดนี้ก็ต้องเล่นตัวแรงม้าเยอะสุดไปเลย

ตัวเบนซิน hybrid นี่น่าสนกว่าดีเซลเยอะครับ
http://www.autocar.co.uk/car-review/mercedes-benz/c350e

ออฟไลน์ localgame

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,585
น่าจะเน้นขายตัวดีเซลไฮบริด เพราะปล่อยไอเสียไม่เกิน100g/km จะโดนเรทภาษีแค่10% แต่อาจจะเพิ่มทางเลือกสำหรับขาแรงเป็นพวกเครื่องแรงม้าเยอะๆมากขึ้น ถึงปีหน้าตารางภาษีจะเอื้อให้เอารถเครื่องแรงม้าเยอะเข้ามาได้ แต่ถ้าเจอราคาแล้วผมว่าคนก็ยังซื้อไฮบริดอยู่ดี

เอาง่ายๆสมมุติ C300 bluetec hybrid โดนเรทภาษีเดิม10%  ส่วน C300(2.0 4 inline) 240ม้า ปล่อยไอเสียไม่เกิน 150g/km โดนเรท30% ส่วนต่าง20% นี่เป็นล้านนะครับ อาจจะประมาณ1-1.5M ของเดิมC300 hybridเริ่มต้น 2.8M ถ้าเป็นC300 ไม่hybrid อาจจจะซัก4-4.5M C-Classราคานี้คนไม่ซื้อหรอกครับ จ่ายขนาดนี้ก็ต้องเล่นตัวแรงม้าเยอะสุดไปเลย

ตัวเบนซิน hybrid นี่น่าสนกว่าดีเซลเยอะครับ
http://www.autocar.co.uk/car-review/mercedes-benz/c350e

เป็นเรื่องของอนาคตละครับ ยังไงตอนนี้ผมว่าเทรนของMB น่าจะเน้นhybrid เพื่อให้ได้ภาษีเรทต่ำที่สุด ถ้าตัวนี้ออกมาขายจริงๆMBก็อาจจะเอามาทำตลาดด้วยก็ได้

ออฟไลน์ PREM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,106
น่าจะเน้นขายตัวดีเซลไฮบริด เพราะปล่อยไอเสียไม่เกิน100g/km จะโดนเรทภาษีแค่10% แต่อาจจะเพิ่มทางเลือกสำหรับขาแรงเป็นพวกเครื่องแรงม้าเยอะๆมากขึ้น ถึงปีหน้าตารางภาษีจะเอื้อให้เอารถเครื่องแรงม้าเยอะเข้ามาได้ แต่ถ้าเจอราคาแล้วผมว่าคนก็ยังซื้อไฮบริดอยู่ดี

เอาง่ายๆสมมุติ C300 bluetec hybrid โดนเรทภาษีเดิม10%  ส่วน C300(2.0 4 inline) 240ม้า ปล่อยไอเสียไม่เกิน 150g/km โดนเรท30% ส่วนต่าง20% นี่เป็นล้านนะครับ อาจจะประมาณ1-1.5M ของเดิมC300 hybridเริ่มต้น 2.8M ถ้าเป็นC300 ไม่hybrid อาจจจะซัก4-4.5M C-Classราคานี้คนไม่ซื้อหรอกครับ จ่ายขนาดนี้ก็ต้องเล่นตัวแรงม้าเยอะสุดไปเลย

ภาษี 20% ต่างเป็นล้านได้ไงครับ รถ 3 ล้าน 20% แค่ 6 แสน
อีกอย่างต้นทุนดีเซลไฮบริดสูงกว่าเบนซินธรรมดาอยู่แล้ว
ผมว่าถ้าเกิดมี C300 เบนซินมา ราคาคงพอๆ กับไฮบริด หรือไม่ก็สูงกว่าไม่กี่แสน
2014 Mazda CX-5 2.5 S
2016 Volvo XC60 D4 
2019 Honda Jazz RS+
2020 Volvo V60 T8 Inscription
2022 Mazda CX-30 SP

ออฟไลน์ Tedjung84

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 499
เตรียมเจอตัว plug in  ใน S Class และ C Class ได้เลย มาแน่ๆครับ ส่วน E Class จะตามมาทีหลังสุดจ้า :)

ออฟไลน์ localgame

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,585
น่าจะเน้นขายตัวดีเซลไฮบริด เพราะปล่อยไอเสียไม่เกิน100g/km จะโดนเรทภาษีแค่10% แต่อาจจะเพิ่มทางเลือกสำหรับขาแรงเป็นพวกเครื่องแรงม้าเยอะๆมากขึ้น ถึงปีหน้าตารางภาษีจะเอื้อให้เอารถเครื่องแรงม้าเยอะเข้ามาได้ แต่ถ้าเจอราคาแล้วผมว่าคนก็ยังซื้อไฮบริดอยู่ดี

เอาง่ายๆสมมุติ C300 bluetec hybrid โดนเรทภาษีเดิม10%  ส่วน C300(2.0 4 inline) 240ม้า ปล่อยไอเสียไม่เกิน 150g/km โดนเรท30% ส่วนต่าง20% นี่เป็นล้านนะครับ อาจจะประมาณ1-1.5M ของเดิมC300 hybridเริ่มต้น 2.8M ถ้าเป็นC300 ไม่hybrid อาจจจะซัก4-4.5M C-Classราคานี้คนไม่ซื้อหรอกครับ จ่ายขนาดนี้ก็ต้องเล่นตัวแรงม้าเยอะสุดไปเลย

ภาษี 20% ต่างเป็นล้านได้ไงครับ รถ 3 ล้าน 20% แค่ 6 แสน
อีกอย่างต้นทุนดีเซลไฮบริดสูงกว่าเบนซินธรรมดาอยู่แล้ว
ผมว่าถ้าเกิดมี C300 เบนซินมา ราคาคงพอๆ กับไฮบริด หรือไม่ก็สูงกว่าไม่กี่แสน

ตามนี้ครับอาจจะอยู่ประมาณ6แสน ผมรีบคิดไปนิดเลขเลยผิด

ออฟไลน์ GlicoPooky

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 14
น่าจะเน้นขายตัวดีเซลไฮบริด เพราะปล่อยไอเสียไม่เกิน100g/km จะโดนเรทภาษีแค่10% แต่อาจจะเพิ่มทางเลือกสำหรับขาแรงเป็นพวกเครื่องแรงม้าเยอะๆมากขึ้น ถึงปีหน้าตารางภาษีจะเอื้อให้เอารถเครื่องแรงม้าเยอะเข้ามาได้ แต่ถ้าเจอราคาแล้วผมว่าคนก็ยังซื้อไฮบริดอยู่ดี

เอาง่ายๆสมมุติ C300 bluetec hybrid โดนเรทภาษีเดิม10%  ส่วน C300(2.0 4 inline) 240ม้า ปล่อยไอเสียไม่เกิน 150g/km โดนเรท30% ส่วนต่าง20% นี่เป็นล้านนะครับ อาจจะประมาณ1-1.5M ของเดิมC300 hybridเริ่มต้น 2.8M ถ้าเป็นC300 ไม่hybrid อาจจจะซัก4-4.5M C-Classราคานี้คนไม่ซื้อหรอกครับ จ่ายขนาดนี้ก็ต้องเล่นตัวแรงม้าเยอะสุดไปเลย

ภาษี 20% ต่างเป็นล้านได้ไงครับ รถ 3 ล้าน 20% แค่ 6 แสน
อีกอย่างต้นทุนดีเซลไฮบริดสูงกว่าเบนซินธรรมดาอยู่แล้ว
ผมว่าถ้าเกิดมี C300 เบนซินมา ราคาคงพอๆ กับไฮบริด หรือไม่ก็สูงกว่าไม่กี่แสน

วิธีคำนวนภาษีสรรพสามิตรไม่ใช่เอาอัตราภาษีคูณราคารถแล้วออกมาเป็นภาษีนะครับมันมีสูตรคำนวนภาษีตามนี้ครับ

( C.I.F. + อากรขาเข้า + ภาษีค่าธรรมเนียมอื่นไม่รวมถึงภาษีมูลค่าเพิ่ม ) x อัตราภาษี หารด้วย 1- ( 1.1 x อัตราภาษี )

สมมถติให้รถรวมราคาC.I.F. + อากรขาเข้า + ภาษีค่าธรรมเนียมอื่นไม่รวมถึงภาษีมูลค่าเพิ่ม = 3 ล้าน

ถ้าปล่อย CO2 ไม่ถึง 100 เสีย 10% ภาษีคือ
3,000,000 × 0.1 หารด้วย 1-(1.1 × 0.1) =  337,078 บาท

ถ้าปล่อย CO2 ตั้งแต่ 100 ถึง 150 เสีย 30% ภาษีคือ
3,000,000 × 0.3 หารด้วย 1-(1.1 × 0.3) =1,343,283

1,343,283-337,078 =1,006,205. สรุปแล้วต่างกันเป็นล้านครับไม่ใช่แค่กี่แสนอย่างที่เข้าใจ

ออฟไลน์ intania68

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 91
น่าจะเน้นขายตัวดีเซลไฮบริด เพราะปล่อยไอเสียไม่เกิน100g/km จะโดนเรทภาษีแค่10% แต่อาจจะเพิ่มทางเลือกสำหรับขาแรงเป็นพวกเครื่องแรงม้าเยอะๆมากขึ้น ถึงปีหน้าตารางภาษีจะเอื้อให้เอารถเครื่องแรงม้าเยอะเข้ามาได้ แต่ถ้าเจอราคาแล้วผมว่าคนก็ยังซื้อไฮบริดอยู่ดี

เอาง่ายๆสมมุติ C300 bluetec hybrid โดนเรทภาษีเดิม10%  ส่วน C300(2.0 4 inline) 240ม้า ปล่อยไอเสียไม่เกิน 150g/km โดนเรท30% ส่วนต่าง20% นี่เป็นล้านนะครับ อาจจะประมาณ1-1.5M ของเดิมC300 hybridเริ่มต้น 2.8M ถ้าเป็นC300 ไม่hybrid อาจจจะซัก4-4.5M C-Classราคานี้คนไม่ซื้อหรอกครับ จ่ายขนาดนี้ก็ต้องเล่นตัวแรงม้าเยอะสุดไปเลย

ภาษี 20% ต่างเป็นล้านได้ไงครับ รถ 3 ล้าน 20% แค่ 6 แสน
อีกอย่างต้นทุนดีเซลไฮบริดสูงกว่าเบนซินธรรมดาอยู่แล้ว
ผมว่าถ้าเกิดมี C300 เบนซินมา ราคาคงพอๆ กับไฮบริด หรือไม่ก็สูงกว่าไม่กี่แสน

วิธีคำนวนภาษีสรรพสามิตรไม่ใช่เอาอัตราภาษีคูณราคารถแล้วออกมาเป็นภาษีนะครับมันมีสูตรคำนวนภาษีตามนี้ครับ

( C.I.F. + อากรขาเข้า + ภาษีค่าธรรมเนียมอื่นไม่รวมถึงภาษีมูลค่าเพิ่ม ) x อัตราภาษี หารด้วย 1- ( 1.1 x อัตราภาษี )

สมมถติให้รถรวมราคาC.I.F. + อากรขาเข้า + ภาษีค่าธรรมเนียมอื่นไม่รวมถึงภาษีมูลค่าเพิ่ม = 3 ล้าน

ถ้าปล่อย CO2 ไม่ถึง 100 เสีย 10% ภาษีคือ
3,000,000 × 0.1 หารด้วย 1-(1.1 × 0.1) =  337,078 บาท

ถ้าปล่อย CO2 ตั้งแต่ 100 ถึง 150 เสีย 30% ภาษีคือ
3,000,000 × 0.3 หารด้วย 1-(1.1 × 0.3) =1,343,283

1,343,283-337,078 =1,006,205. สรุปแล้วต่างกันเป็นล้านครับไม่ใช่แค่กี่แสนอย่างที่เข้าใจ

หารรวม ภาษีมหาดไทย กับ VAT เข้าไปอีก ยิ่งต่างกันเยอะขี้นนะครับ