« ตอบกลับ #31 เมื่อ: มีนาคม 27, 2017, 21:38:06 »
ออกมาแล้วทำอะไรไม่ได้
แต่ความคิดผม ก็คือไม่เห็นด้วย ผมว่ามันมากเกินไป ใครจะบอกว่าไม่รักตัวเองเหรอ ผมถามหน่อยเถอะ ผมจะกินข้าวจะขี้จะเยี่ยว ไม่เป็นห่วงผมบ้างเหนอ กินอาหารครบห้าหมู่มั๊ย ขี้ทุกวันมั๊ย
ทำเพื่ออะไรผมว่าทุกคนคงรู้แหละ ผลประโยชน์อะไร
กลับมาที่คาดเข็มขัด คือไม่บังคับบริษัทรถไปเลยเหรอ ไม่คาดติดเครื่องรถไม่ได้ หรือไม่สั่งงดใช้มอเตอร์ไซค์ไปเลย เพราะผิด กม ไม่มีเข็มขัดนิรภัย ไม่บอกไปเลยรถยนต์ทุกวันนี้ผลิตออกมาต้องมีถุงลม6ลูกขั้นต่ำไปด้วย ห่วงจริง ทำไมตรงนี้ไม่ออก กม
หรือต่อไปออกกมมาเลย นั่งในรถยนต์ต้องสวมหมวกกันน๊อก
ห่วงกันจริงหรือห่วงเงินในกระเป๋าใครกันแน่ รู้อยู่แก่ใจ แต่คนสมัยนี้แถแบบหน้าด้าน
+1
นี่คือการเพิ่มเงินในกระเป๋าตำรวจและเปิดช่องให้นำภาษีไปใช้เพื่อการจัดเก็บรายได้อย่างเป็นระบบ ยกรถสีถลอก โช๊คพัง ไม่ต้องเรียกร้องนะครับ ต้องจ่ายค่ายกให้พวก_ด้วย
จริงๆกฎหมายปกครองมันมีหลักปฏิบัตินอกเหนือจากความถูกต้องคือหลักความสมเหตุสมผล แต่ก็นะม.44มันใช้ทำอย่างอื่นไม่ได้หรอกนอกจากรีดเงินจากปรดชาชน
เงินออกจากกระเป๋าแล้วจะไปพัฒนาระบบจราจรหรือ ก็ไม่
มันเข้าเป็นเบี้ยนำจับส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดและเบี้ยกินส่วนกลาง สรุป เข้ากระเป๋าตำรวจ (ซึ่งหากกฎดังกล่าวมาพร้อมกับการลดหรือเลิกเบี้ยนำจับคนจะสรรญเสริญเสียด้วยซ้ำ) แต่เมื่อไม่มี มันคือการเอื้อประโยชน์อย่างเป็นระบบ
สุดท้ายคุณจะได้ตำรวจที่กระตือรือร้นในการกวดขันวินัยจราจรและเร่งเบิกจ่ายเครื่องมือจากภาษีประชาชน
ส่วนเรื่องอื่น... อย่าไปมีเรื่องกับลูกเขาแล้วกัน และต้องช่วยเหลือตัวเองในชั้นสืบสวนด้วยนะ
