CRV รุ่นก่อนที่เป็น AWD ในยามปกติจะขับเคลื่อนล้อหน้า และเมื่อล้อหน้ามีอาการหมุนฟรีก็ถ่ายแรงบางส่วนมาที่ล้อคู่หลัง ซึ่งอาจจะถ่ายมา 10 หรือ 20% เพื่อให้ล้อหลังมีแรงยึดเกาะถนนช่วยในการทรงตัวเวลาวิ่งทางเรียบ
แต่ในสถานการณ์กึ่ง off-road มันไม่เพียงพอที่จะให้ผ่านอุปสรรคเช่นหล่มโคลนหรือหิมะไปได้
ตัวใหม่นี้เหมือนเขาจะเทสให้ดูคร่าวๆว่าในกรณีที่ล้อหน้าฟรี ระบบจะส่งแรงขับเคลื่อนมายังล้อคู่หลังมากขึ้น (ไม่รู้ว่าส่งมากี่ %) แต่ก็มีแรงมากพอจะเคลื่อนรถข้ามอุปสรรคต่อไปได้
ลักษณะการขับแบบลุยๆหน่อยก็จะดีขึ้นกว่าตัวก่อนๆครับ
ซึ่งถ้าเทียบกับรถที่เป็น Fulltime AWD อย่าง Subaru, Audi Quatto, Mitsubishi PJS ตัวใหม่(โหมด Fulltime AWD)และ Lancer EVO ที่กระจายแรงบิดล้อล้อคู่หน้าและหลังเฉลี่ยเท่าๆกัน
แม้ล้อคู่หน้าจะเกิดอาการหมุนฟรี แต่ล้อคู่หลังก็ยังมีแรงบิดเหลือจากเครื่องอีก 40-50 % ทำให้ขับผ่านถนนลื่น ขึ้นทางชันๆ ผ่านหล่มโคลนหรือหิมะได้ราบลื่นกว่า
และในบางรุ่นสามารถถ่ายแรงไปล้อคู่หน้าหรือหลัง หรือถ่ายไปล้อข้างซ้ายหรือขวาได้แบบอิสระ 100% ด้วย โดยอาศัยระบบตัวช่วยเพิ่มเติม (เช่นระบบ Torque Vectoring) เพื่อช่วยแก้อาการเวลาเสียการทรงตัว หรือช่วยให้เข้าโค้งได้ไวและเกาะขึ้น
Nissan X-Trail ก็สามารถเข้าโหมดวิ่งแบบกระจายแรงบิดหน้าหลัง 50:50 ได้ แต่ได้ความเร็วไม่เกิน 60 Km/h (ไว้ใช้ตอนเที่ยวป่า)
จริงๆ Fortuner ตัว BMC ตัวก่อนก็เป็น Fulltime AWD เหมือนกันแต่จะส่งกำลังล้อหลัง/ล้อหน้า 70:30 เพื่อเน้นการขับให้เหมือนกับรถขับหลังครับ