กล่องพ่วงกับ Reflash ต่างกันมากมั้ยครับ

[Slow But Sure]

ถ้ารถ NA 4สูบเอาไป Reflash เขาเคลมกันแรงขึ้นท่ี่ 20% แต่ถ้าพ่วงกล่องแรงขึ้นกว่างเดิมเยอะมั้ยครับ คุ้มค่าที่จะพ่วงกล่องมั้ย และถ้าพ่วงกล่องจูนค่าอะไรเพิ่มได้จากการ Reflash ครับ

[ภูมิใจไหม?]

ถ้าเอาเรื่องความแรง Reflash อาจจะได้ 17%  กล่องอาจจะได้ 20% อะไรประมาณนี้ ขึ้นอยู่กับรถด้วยครับ ต้องปรึกษาจูนเนอร์ก่อนทำครับ

ถ้าติดกล่องก็จะได้ฟังก์ชั่นอื่น ๆ มาเล่นด้วย อย่างง่าย ๆ เลยก็คือรถจะเติม E85 ได้ครับ


ผมเอา mazda 2 ไป reflash กับเจ้าดังที่นึง พอทำเสร็จแล้วเค้าบอกว่า อยากจะจูนให้บางกว่านี้ แต่ทำไม่ได้ อยากจะได้ม้ามากกว่านี้ซัก 5 ตัวก็ต้องติดกล่องครับ

ซึ่งผมจะได้อะไรมาน้อย แต่กราฟยกขึ้นจากของเดิมตลอดเส้น ม้าจำนวนน้อยนิด แต่เป็นม้าขยันครับ 5555

เอาไว้ได้รถใหม่มาผมก็จะไปหาเจ้าเดิมอีกนั่นแหละ

[cnm_0985]

เท่าที่รู้มา   Reflash จะเป็นการจูนแบบอยู่กับที่แล้วโยนไฟล์ ซึ่งข้อเสียคือ จูนได้ไม่ละเอียด ไม่เรียบไทม์ จูนเนอร์ต้องมีประสบการณ์สูง ถ้าไม่งั้นเครื่องอาจ
              จะลาโลกไปได้ง่ายๆ  แต่ข้อดีของการ Reflash คือ สามารถปลดล็อกพวกระบบความปลอดภัยต่าง ๆ ที่โรงงานตั้งมาได้ทั้งหมด ซึ่งการพ่วง
              กล่องบางอย่างทำไม่ได้

              การพ่วงกล่อง  สามารถวิ่งจูนได้ ทำให้จูนได้ค่อนข้างละเอียด แต่ก็ติดข้อจำกัดบางอย่าง ไม่สามารถปลดล็อคได้เช่นกัน

              สรุป อยากแรงต้อง พ่วงกล่อง + Reflash ครับ
              ผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยด้วย

[tom46]

ส่วนตัวผมว่าขึ้นอยู่กับสเต็ปการทำมากกว่า อย่างพอเราต้องการแรงม้ามากๆ เริ่มทำอะไรๆหลายๆอย่างเข้าไปเยอะๆ มันจะเริ่มติดนู้นติดนี่ ต้องยกเลิกอุปกรณ์บางอย่างออกไป ใช้อีกตัวเข้ามาควบคุมแทน คราวนี้กล่องเดิมมันก็เริ่มจะไปไม่ได้ ก็ต้องไปพวกกล่องแยก

กับอีกอย่าง กล่อง ตัวที่ใช้อยู่ ไม่มีอุปกรณ์ที่จะดึงไฟล์ออกมาเขียนได้ เลยต้องใช้กล่องพ่วงหรือเปลี่ยนกล่องไปเลย เพื่อจะได้ทำให้เหมาะสมกับอุปกรณ์ที่ใส่เพิ่มเข้าไปได้

ส่วนที่ reflash นิยมกัน ส่วนตัวผมคิดว่าน่าจะมาจากการที่ไม่ต้องไปแตะต้องอะไรกับ สายไฟ เสียบสายดูดไฟล์ออกมาแก้ โหลดกลับเข้าไป ซึ่งกล่องพ่วง แน่นอนต้องมีการตัดต่อสายไฟกันแน่ การทำก็ต้องมีการทิ้งรถกันไว้ก่อนเพื่อทำเรื่องสายไฟ คนเลยเห็นข้อดีตรงนี้ที่ใครก็สามารถเข้าถึงได้ เอารถไปดูดไฟล์ 5 นาที รอคนจูนแก้โหลดกลับเข้าไปเสร็จกลับบ้านได้ เลยนิยมกันครับ

[the kit]

คิดง่ายๆ แรงม้าเดิมๆ ติดรถ สมมุติซัก 120 จากโรงงาน แต่พอวัดแรงม้าจริงน่าจะ 100ตัว
เครื่อง NA ถ้าแค่ กล่องแต่ง หรือ REMAP โดยที่ไม่ทำอย่างอื่น ยากที่จะถึง 20%

NA ที่ทำได้ก็แค่ เพิ่มน้ำมัน เลือกฉีดให้นานขึ้น กว้างขึ้น, ระบบวาล์วแปรผัน เลือกเปิดเร็วหรือช้า แล้วแต่ต้องการวิ่งแบบไหนอีก ได้แค่นี้
โดยที่ไม่ยุ่งกับส่วนอื่น แล้วจะเอาขึ้นอีก 20% เป็นไปได้ยาก

ถ้าเปิดเครื่อง มาขัด แย้ง ลบคม ให้ลื่นๆ + ท่อไอเสียใหม่ทั้งชุดตั้งแต่คอยันปลาย อันนี้ได้เกิน 20% แล้วแต่พื้นฐานเครื่อง+คนทำ อีกที

กล่องพ่วง กับ REMAP ถ้าคนจูนเก่งเท่ากัน
ผมว่า REMAP ดีกว่า เพราะมันปลดข้อจำกัดในกล่องได้แทบทั้งหมด แล้วจากนั้นเลือกเอาว่าจะจูนแบบไหน
แต่กล่องพ่วงทำได้แค่ระดับหนึ่ง ที่กล่องติดรถยอมให้หลอก ถ้ากล่องติดรถฉลาดๆ ก็จะเจอ Engine Chk. บ่อยจนไปถอดกล่องพ่วงเลย

[2k]

รถไม่มีระบบอัดอากาศจะให้ขึ้น20%เหมือนรถมีเทอร์โบ/ซุปเปอร์ชาร์จเป็นไปไม่ได้นะครับ  ยกเว้นว่าของเดิมเลยโดนคุมแรงม้าด้วยเหตุผลด้านมลพิษต่างๆพอปล่อยขีดจำกัดแล้วพลกำลังมาเต็มที่ แต่เคยเห็นแต่ในรถยุโรปมากกว่า4สูบนะ พวกที่อ้างว่าแรงม้าขึ้นเยอะๆต้องดูให้ดีๆนะครับ อย่างแรกเห็นแล้วว่าอวดอ้างเกินจริงแล้ว เรื่องของคุณภาพน่าเป็นห่วงนะ รถNAรีแมพมั่วๆก็พังนะครับ 

[MC Stradale]

มันแล้วแต่เครื่องด้วยนะครับ เครื่องซีซีมากน้อยขนาดไหน มีโบไหม มันมีหลายปัจจัยที่จะทำให้เพิ่มขึ้นน้อยหรือมาก

ถ้าจำไม่ผิดนะ BMW F10 เครื่องดีเซล 2.0 reflash ก็ได้เพิ่มแค่ไม่เกิน 40 ม้า แต่ถ้าเป็นเครื่องดีเซล 3.0 เพิ่มเป็น 80-90 ม้า