Exsior 2.0 สมัยนั้นจัดได้ว่าเป็นรถที่น่าสนด้วยขนาดตัวใหญ่ขึ้นอีกระดับ รุ่นท้อปมาพร้อมความปลอดภัยกับเบรค ABS และถุงลมนิรภัย (ผ่านไป10ปีน่าจะหมดอายุแล้ว)พละกำลัง 134แรงม้าเมื่อส่งผ่านเกียร์อัตโนมัติแล้วก็ถือว่าปราดเปรียวใช้ได้ จุดอ่อนที่พังง่ายมีแค่แร็คพวงมาลัยนอกจากนั้นทนยังกะแรดทุกส่วน ช่วงล่างและการขับขี่ยังมีนิสัยรถญี่ปุ่นแบบเก่าอยู่บ้างคือออกจะนุ่มๆและมีอาการรถเบาที่ความเร็วสูง อะไหล่มีทั้งในประเทศและเก่าจากญี่ปุ่น หากคำว่า ชัวร์ ถูกและทนคือหัวใจ ไป Exsior
Primera- เป็นรถที่สยามกลการเอาเข้ามาในช่วงเดียวกับที่ขาย Sunny B14 เพื่อสกัดดาวรุ่ง Exsior เพราะ A31, A32 เป็นรถใหญ่กินน้ำมันกว่า Primera เป็นรถญี่ปุ่นก็จริง แต่พัฒนาออกมาโดยมีเป้าหมายอยู่ที่กลุ่มลูกค้าในยุโรปและอังกฤษ ช่วงล่างและการขับขี่จึงเฉียบคมกว่า Exsior เครื่องยนต์ม้า 130ตัว แต่ถ้าเอาแค็มชาฟท์จาก SR20DEรุ่นแรกๆใส่จะเพิ่มเป็น 140ตัวได้ ข้อเสียคือไม่มีถุงลมนิรภัยและเบรคABS อะไหล่สต็อคนิสสันไทยอย่างหวังพึ่ง แต่เซียงกงมีเข้ามาให้เห็นได้เรื่อยๆ ถ้าหัวใจหลักคือชอบรถขับสนุก ตอบสนองดังใจ ไป Primera
406EA9- รถยุโรปที่เด่นด้วยช่วงล่างที่นุ่มใช้ได้แต่เกาะเอาเรื่อง บังคับเลี้ยวได้อย่างใจ ผู้ใหญ่ขับได้เด็กขับสนุก ภายในมีความหรูหราที่สุดในกลุ่มที่ยกมา อุปกรณ์ความปลอดภัยครบครัน เครื่องยนต์อัตราเร่งจะไม่กระชากแต่มาเรื่อยๆเรียงๆและจะบอกให้ว่าถ้าวิ่งทางไกล ประหยัดกว่า Primeraอีก ส่วนข้อบกพร่องที่ผมเคยเจอกับตัวเองก็มีแค่ไฟหน้ามีลายงาเหมือนกรอบแตก แต่ดูจากการเดินสายไฟในรถและระบบMultiplexของมัน ทำให้ผมกังวลเหมือนกันหากจะใช้ไป 10ปีแล้วต้องมีการทำอะไรสักอย่างกับสายไฟ การเซอร์วิสดูเหมือนถูกตั้งใจออกแบบมาให้พึ่งศูนย์บริการมากกว่าอีก 2ตัวข้างต้นซึ่งไม่มีเทคโนโลยีอะไรแปลก ช่างทั่วไปสามารถซ่อมได้