ผู้เขียน หัวข้อ: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ  (อ่าน 7800 ครั้ง)

ออฟไลน์ I_AM_M

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 299
    • อีเมล์
Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: กันยายน 02, 2020, 18:50:00 »
ดีเชลปลายไม่ไหลครับ คุณถึงดูดตูดเข้าได้
ดีเชลก็หงุดหงิดเป็นธรรมดา เพราะเหยียบเท่าไรก็ไม่ไหล
ลองไปเจอ 528 สิครับ แล้วคุณจะรู้
ถ้า528 เจอtype R ละครับ อันไหนกิน

ออฟไลน์ bmmac

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 305
Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: กันยายน 02, 2020, 20:26:55 »
ดีเชลปลายไม่ไหลครับ คุณถึงดูดตูดเข้าได้
ดีเชลก็หงุดหงิดเป็นธรรมดา เพราะเหยียบเท่าไรก็ไม่ไหล
ลองไปเจอ 528 สิครับ แล้วคุณจะรู้
ถ้า528 เจอtype R ละครับ อันไหนกิน
528 เดิมๆ นะ  ก็ต้องโดน type R สิ
น่าจะมี f20 135i นะ น่าจะมันส์ ไล่กับ type R

ออฟไลน์ turbo lover

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 434
Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: กันยายน 02, 2020, 20:59:07 »
อดีตใช่แต่ปัจจุบัน ผมว่าไม่ค่อยต่างกันมากเหมือนสมัยก่อนแล้วนะครับ
รถญี่ปุ่นเครื่อง1.5t โรงงานเคลม
173แรงม้า แรงบิด220
วัดจริงที่ไดโน่ ม้ามากกว่า ที่โรงงานเคลมไว้อีกครับ ทั้งแรงม้า และ แรงบิดเลยครับ
วันก่อน ผมขับ civic rs อยู่
เจอBmw f30 320d
วิ่งขวามาประมาณ150-160
เลยอยากลองดูว่า จะสู้เค้าไหวไหม
เจ้า civic rsมันก็สามารถ ดูดตูด Bmw ได้สบายๆเลยครับ ปมดูดตูดจนความเร็วประมาณ200เค้าก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะหนีรถผมได้เลย
ถ้าจะหนีได้คงต้องหลัง207ไปแล้ว
แต่หลังจากที่เค้าหนีไม่ออก คงหัวร้อนมั้งครับ เค้าพยายามวางมิดผมทุกซ็อตเลย
ผมก็เลยหลบซ้าย ปล่อยเค้าแซงไป
ผมจึงได้รู้ว่า ตาราง เปรียบเทียบ อัตราเร่ง ของเว็ปHeadlight mag ใช้อ้างอิงได้จริงครับ ถ้าตัวเลขที่จับเวลามันพอๆกัน มันก็วิ่งพอๆกันอะครับ
อีกเคส นึง ผมเคย ลองกันสนุกๆกับ86
ผลก็ออกมาเหมือนกันคือ คือ พอๆกันครับ
ผมขอสรุปอีกทีว่า ปัจจุบัน
ม้ายุโรป ม้า ญี่ปุ่นไม่ต่างกันมากเท่าสมัยก่อนแล้วครับ

ถ้าดูดตูดแล้วยังสูสี ผมว่าอย่างนั้นยิ่งน่าแปลกเลยครับ เพราะถ้า Civic วัดม้าจริงที่ล้อแรงกว่าสเป็คจริง แสดงว่าแรงม้าลงล้อจริงต้องแรงมากกว่า 320d
เพราะ 320d เคยเห็นคนในกลุ่มเฟซบุ๊คไปขึ้นไดโนมา ม้าที่ลงล้อแค่ 170 กว่าแรงเองครับโดยประมาณ (ผมก็ไม่เคยเทสเอง ไม่รู้จริงเท็จประการใดน่ะครับ)
บวกกับน้ำหนักตัว Civic ที่น้อยกว่า 320d f30 อยู่ 200 กว่ากิโล ด้วย 2 ตัวแปรนี้ ผมคิดแบบชาวบ้านน่ะครับ คือ Civic มันต้องแซงได้แบบไม่ต้องดูดท้ายเลยนะครับ

ซีวิคตัวนี้มันแรงจริงๆครับ ของผม R60 S Remap วัดมา 190ม้า ยังโดนเลยครับ
รถเค้า เบากว่า Aerodynamic ก็ดีพอตัว ผมไม่แปลกใจเลย

การดูดตูดอาศัยคันหน้าช่วยแหวกอากาศให้ ไม่ได้พิสูจน์อะไรว่าแรงกว่า หรือแม้แต่แรงทัดเทียม
แน่จริงต้องแซงให้ได้ครับ
โอเครคับ ผมตอบแบบนี้แล้วกันครับผมเห็นว่าความแรงมันสูสีกัน  แล้วBmคันนั้นเค้าก็อยากลองนะครับ แต่พอผม มาเล่าสู่กันฟังสนุกๆดันมายุให้ไปเจอ528iบ้างหล่ะ
Civic 1.5tเดิมๆมันสู้528iไม่ได้อยู่แล้วนิครับ
ผมตอบแบบนี้แล้วกันครับ
ซีรี่ย3 320d ตัวก่อน ผมว่าถ้าคุณ ติดตามดูคลิปHeadlight mag อยู่ตลอด คุณก็จะรู้ว่า320dมันไม่ได้แรงกว่าเลยครับ ไม่ว่าช่วงไหน



ออฟไลน์ turbo lover

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 434
Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: กันยายน 02, 2020, 21:03:06 »
ดีเชลปลายไม่ไหลครับ คุณถึงดูดตูดเข้าได้
ดีเชลก็หงุดหงิดเป็นธรรมดา เพราะเหยียบเท่าไรก็ไม่ไหล
ลองไปเจอ 528 สิครับ แล้วคุณจะรู้
ลองดูครับ

ออฟไลน์ mochalatte

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 354
Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: กันยายน 02, 2020, 23:21:16 »
โลกเปลี่ยนไปตามเวลา
ค่า emission เลยเป็นปัจจัยสำคัญ
รถเคยแรงด้วยปริมาตรกระบอกสูบ
ถูกลดลงด้วยการอัดอากาศ
รถบ้านฯ อย่าง VW golf Bmw 528i หรือ Civic fk
เลยเอามาแต่งสมรรถนะกันง่ายๆ แรงจิง
ก้อต้องดูกันไปในเรื่องความคงทน ความปลอดภัย
หวังว่าผู้ผลิตจะเผื่อมาให้ upgradeในทุกอย่าง เพื่อจะให้เทียบเคียงรถแรงที่เค้าตั้งใจทําให้แรงงง
ผมก่อเป็นคนนึงที่ไม่แคร์เรื่องประกันตัวรถถ้าราคารถไม่ได้แพงมาก แต่งจัดเต็ม
แต่แอบกังวลถ้าต้องซ่อมแองในราคารถที่สูงขึ้น อาจต้องรอหมดประกัน
แรงม้าที่โฆษณาในทุกรุ่น มาจากความประสงค์ของการตลาด บางเจ้าเพื่อส่วนลด บางเจ้าเพื่อใกล้เคียงหรือเหนือกว่า ปัจจัยอีกหลายอย่างเช่นเกียร์ ecu และ ระบบเบรค ก้อมีความสำคัญ ไม่แพ้กัน
อันนี้แค่เรื่อง performance นะครับ ไม่รวม กลิ่น เสียง และ อื่นๆ
รถญี่ปุ่นไม่ได้ด้อยกว่ารถยุโรปเลย แค่เรามีเทส แบบไหน



ออฟไลน์ TrippleA

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 49
Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: กันยายน 03, 2020, 09:37:58 »
เคยไปค้นๆ ดูในเว็ปที่เขาทำสอบรถหลายๆ รุ่นรวบรวมเอาไว้มันมีข้อนึงที่น่าสังเกต อย่างทดสอบความเร็ว 0-60 MPH  สมมติรถฝรั่งเคลมที่ 10 วินาที เขาทดสอบทั่วๆ ไปก็จะได้ 9.7-10  แต่รถญี่ปุ่นจะได้ 10-10.4 อะไรแบบนั้น

จะทำให้ได้ 10 เลยก็จะมีเงื่อนไขพิเศษหน่อยตามประสาคนเอซีย


แรงม้าก็คงแบบเดียวกัน 

ออฟไลน์ spitfire

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 132
Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: กันยายน 03, 2020, 09:57:59 »
หลายท่านพูดถึงแล้ว
ผมคิดว่าม้าตัวใหญ่กับม้าตัวเล็กมันมีที่มาจากบนกระดาษครับ
รถยุโรปเคลมเท่านี้ รถญี่ปุ่นเคลมเท่านั้น
พอวิ่งจริงๆ อ้าว พลิกล๊อค (อาจจะโม้ อาจจะระบบส่งกำลัง บลาๆ)

แต่ถ้าเป็นม้าลงพื้น วัดไดโน่เดียวกัน มันคือมาตรฐานแล้ว ไม่มีแล้วล่ะครับ ตัวเล็กตัวใหญ่
AMG C43 Coupe C205;
 - ECU Tuning by Gettuned
 - BMC Air Filter
 - KW HAS
 - EBC Yellowstuff
 - RENNtech Decklid

ออฟไลน์ bmmac

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 305
Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: กันยายน 03, 2020, 10:41:11 »
ดีเชลปลายไม่ไหลครับ คุณถึงดูดตูดเข้าได้
ดีเชลก็หงุดหงิดเป็นธรรมดา เพราะเหยียบเท่าไรก็ไม่ไหล
ลองไปเจอ 528 สิครับ แล้วคุณจะรู้
ลองดูครับ

135i เดิมๆ กับ type R ก็น่าสนุกแล้ว
แต่ถ้าโมมาเต็มทั้งคู่ ยิ่งสนุกมากครับ

ออฟไลน์ Starscream

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 122
    • อีเมล์
Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
« ตอบกลับ #38 เมื่อ: กันยายน 04, 2020, 12:49:30 »
ขอบคุณทุกๆท่านสำหรับคำตอบครับ จริงๆคำตอบของผมที่แย้งเขาไว้ว่า จริงๆแรงม้าวัดกันที่ล้อดีกว่า ไม่ใช่บอกว่าม้าใหญ่ม้าเล็กมาจากไหน

เอาตรงๆผมก็เข้าใจพี่ท่านนั้นนะครับ เนื่องจากเขาอายุมากกว่าผม  การขิงกันไปมาแทบไม่มีประโยชน์ครับ มันหลายตัวแปลหลายปัจจัยมากๆ




CBA-CZ4A MR

ออฟไลน์ ynot9x

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 544
    • อีเมล์
Re: ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ
« ตอบกลับ #39 เมื่อ: กันยายน 04, 2020, 22:33:08 »
ถ้าพูดตามหลักการ ตอบว่าไม่จริง เพราะหน่วยวัดเดียวกัน ย่อมเป็นไปตามมาตรฐานเดียวกัน

แต่สาเหตุที่ทำให้มีข้อสงสัย "ม้ายุโรปกับม้าญี่ปุ่นมันต่างกันหรือครับ" ขึ้นมา เนื่องจากวิธีการเคลมแรงม้าของแต่ละแบรนด์ ไม่เหมือนกัน อย่างที่หลายท่านได้ตอบไว้ในความเห็นก่อนหน้านี้ ที่รถญี่ปุ่นมักแจ้งแรงม้าที่เครื่องทำออกมาได้สูงสุดในสภาวะการผลิต แต่รถยุโรปอาจจะแจ้ง แรงม้าที่เครื่องยนต์สามารถทำได้ในสภาวะที่แย่ที่สุด(อุณหภูมิสูง/ความดันอากาศน้อย)

อีกเหตุผล ก็คือ รถยุโรป ใช้เครื่องเทอร์โบมาก่อนรถญี่ปุ่น เครื่องเทอร์โบจะมีทอร์คมาในรอบต่ำกว่าเครื่อง NA แถมมาในลักษณะ flat นอกจากนั้น ด้วยแรงม้าที่เท่ากัน รถเทอร์โบจะให้ ทอร์คสูงกว่าเครื่อง NA พอสมควร

กรณี FC/FK 1.5T ผมตามข้อมูลการเทสไดโนในหลายๆประเทศ พบว่าแรงม้าที่เครื่องของ FC/FK 1.5T อยู่ที่ประมาณ 190 ps(อยากรู้มากว่า G10 1.5T จะลงล้อหรือที่เครื่องเท่าไหร่ ดีไม่ดีแรงเท่ากับ FC/FK 1.5T >> spec เครื่องเหมือนกัน ??) ส่วนแรงม้าลงล้อจะอยู่ที่ 165-170 ps ใกล้เคียงกับที่ Honda เคลมไว้ที่ 173 ps ไม่ต้องแปลกใจที่วิ่งสูสีกับ Dig 1.6T และวิ่งดีกว่า MK3.5 ที่เคลมแรงม้าไว้มากกว่าที่ 190/180 เพราะ FC/FK มีแรงม้าที่ล้อพอๆกับ Dig และมากกว่า MK3.5(ลงล้อประมาณ 155ps แถมหนักกว่า FK/FC)

นอกจากประเด็นแรงม้าลงล้อแล้ว ยังมีอัตราส่วนแรงม้าลงล้อต่อน้ำหนักตัวด้วย ข้อมูลที่ผมมี F30 2.0d แรงม้าลงล้อพอๆหรือมากกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ FK/FC 1.5T (165-175 ps) แต่ F30 หนักกว่า FC/FK ประมาณ 170 kg แสดงว่าม้า F30 แบกน้ำหนักมากกว่า FC/FK แต่ F30 ได้ทอร์คมาช่วย เลยพอชดเชยกันไป ผลที่ออกมาเลยวิ่งสูสีกัน ความเร็วปลายก็ออกมาสูสีกันด้วย (หาก FC/FK ไม่ล็อคความเร็วปลาย)ที่ประมาณ 230+ เป็นอัตรส่วนตามตัวเลขแรงม้า

ฝั่ง BM ไม่ต้องตกใจหากเห็นว่า FC/FK เขาวิ่งมาเบียดได้เพราะตัวเลขด้านบนสามารถยืนยันได้ ยิ่งปัจจุบัน FC/FK พ่วงกล่อง(ไม่ปลดปลาย) หรือ remap(ปลดปลาย) มากันเยอะ หากฝั่ง BM ไม่โมมา สามารถโดน FC/FK ที่โมมา ได้ในทุกช่วงนะครับ(ขั้นต่ำลงล้อ 200 พวกทำเยอะ 300) ที่ผมมีตัวเลขของ FC/FK ไม่ใช่เพราะผมใช้อยู่นะครับ ของผมสาย EU แต่โดนเหล่า FC/FK เล่นด้วยบ่อย(เลยมาศึกษาเก็บข้อมูลไว้) แต่อยากจะเตือนฝั่ง FK/FC ว่าขนาดรถเดิมๆไม่โม ช่วงล่างท่านยังเอาความแรงรถไม่ค่อยจะอยู่เลย อย่าลืมไปอัพเกรดถ้ารักจะขับเร็วหรือชอบไปเล่นกับรถฝั่ง EU

มีอีกประเด็นที่ผมสงสัยอยากถามเป็นความรู้เพิ่มเติม เมื่อพิจารณาที่แรงม้าลงล้อเท่ากัน ค่า cd เท่ากัน น้ำหนักรถพอๆกัน ทำไม Top speed รถ EU ถึงมีแนวโน้มไปได้มากกว่ารถญี่ปุ่น (ผมยังไม่มีตัวเลขเปรียบเทียบที่ชัดเจนแน่นอน แค่สังเกตและรีวิวตัวเลขโดยคร่าวๆ)

เห็นพูดถึง f30 และ MK3.5 เลยขอแชร์ประสบการณ์หน่อยครับ
รถผมจูน stage 1 แล้วทั้ง 2 คัน
ตอนเจอ fc/fk ถ้าขับ f30 ไม่ค่อยเจอ fc/fk มาเล่นด้วยเลยครับ ยกเว้นคันที่แต่งและ remap แล้วแต่ก็น้อยมากนานๆที
ส่วนใหญ่ผมเจอแต่ขับเรียบร้อย เลยคิดว่าคงเป็นเพราะเกียร์ cvt ทำให้ลักษณ์การขับรถไม่ค่อยดุดันรึเปล่า
ถ้าเทียบรถผมก่อน ติดกล่อง คงหนีออกยาก ถ้าเจอ fc/fk ที่จูนมา แต่ f30 เบนซิน หลังติดกล่องแล้ว เหมือนเป็นรถคนละคัน ความแรงพอๆกับ 328i ที่ไม่โดนตอนม้าเลยครับ + ได้เกียร์ zf8 อีก อันนี้ key หลักเลยครับทำให้ม้าลงพื้นไม่ loss เยอะ อีกหนึ่งตัวแปลที่ว่าทำไมม้า bm ไม่หนีจากใน spec มาก
ส่วนใหญ่ผมจะเจอพวกแต่ civic gen เก่าลงเครื่อง k มาไล่ครับ

ส่วน MK3.5 คนใช้น้อยมากขับไปนี่ไม่ซ้ำใครเลยครับ คันนี้เจอท้าทายบ่อยครับเพราะแรกๆไม่แต่งแต่อัตราเร่งดีเลยมักเจอขาซิ่งมาดันครับ
ถ้ามาเดิมๆ ช่วงแรกที่ไม่เข้าใจรถ รู้สึกผิดหวังกับอัตราเร่ง แต่ก็แซงรถทั่วๆไปกระบะสายแว้นพอได้อยู่ครับ
หลังจากใช้ได้ซักระยะเริ่มจับอาการรถได้ เทียบ e20 กับ e85 น้ำมัน e85 อัตราเร่งดีกว่า และ ตอนขับแบบบู้ ถ้าเข้าเกียร์ D ปล่อยให้ สมองกลเกียร์เปลี่ยนเกียร์ให้เอง จะตอบสนองช้ากว่า แบบ เข้าเกียร์ S และ shift เกียร์เอง มากพอสมควรครับ เลยไปดูตารางความเร็วแต่ละเกียร์ที่ web headligth เคยทดสอบและมาฝึก shift เกียร์เองจนคล่อง ผลที่ได้คือดึงประสิทธิภาพของเครื่อง ecoboot ออกมาได้มากขึ้นทำให้ขับมันส์กว่าเดิมมาก อันนี้เป็นที่มาว่าเครื่อง ecoboot 180ps ทำไม loss ในระบบเยอะ เลยเข้าใจว่าถึง ford จะถอดเกียร์ power shift ออกแต่ 6 speed at ที่ได้แป้น paddle มาด้วยถ้าใช้คล่องแล้วอัตราเร่งไม่ขี้เหร่ครับ ส่วนตอนนี้ ติดกล่อง DTE แล้วมั่นใจกว่าเดิมมากครับ เคยไปลองรถกดได้มากกว่าที่ headlight เทน 215 ผมกดไป 220 แต่รถด้านหน้าเยอะเลยถอนก่อนครับ

ส่วนประสบการณ์เจอ fc/fk เคยเจอกันช่วงสั้นๆ บนทางด่วนรถมาก ถ้าต้องอาศัยการมุดให้คล่อง ส่วนใหญ่เอาตัวรอดได้ครับ รู้สึกเลยว่า fc/fk ถ้าต้องมุดเจอรถหนาแน่นหน่อยเขาเสียเปรียบครับ ส่วนตอนโล่งๆ เคยเจออยู่ครั้งนึง แต่เขาถอนที่ 190 ครับ


2013 - Honda Accord G9
-=4cycle Turbo Collection=- <RWD FWD AWD>
2015 Dec - BMW F30 N20 M Sport [BMC + Racechip GTS + BILSTEIN B12 + EBC Brakes + Muffler Design]
2018 - Ford Focus MK3.5 Ecoboot [BMC + DTE-PowerControl-X + boomba racing + Brembo + EBC Break]
2022 - Audi TT MK3 APR Tune +BMC +ECS +CTS