นอกเรื่อง คนขับ ISUZU กล้องหน้ารถเค้าบ่งบอก เลยว่าตัวเองขับแช่ขวาชัดเจน
ตรรกะที่คนมักจะบอกว่าป่วยของผมคือ
ถนนเป็นที่ๆอันตราย การอยู่บนถนนยิ่งนานแค่ไหนก็ยิ่งเสี่ยง
กระบะอีกคันที่แซงคันกล้องไป ก็ปลอดภัยดีนะครับ
แต่เชื่อเหอะ เดี๋ยวก็จะมีคนบอกว่า เดี๋ยวกระบะคันทีแซงเจ้าของกล้องไป ก็จะไปประสบอุบัติเหตุข้างหน้าอยู่ดี
ป่าวเลย ถ้าขับปกติ ให้ถึงทีาหมายปกติ ก็ลดความเสี่ยงภัยบนท้องถนนได้มากกว่าที่เราจะอยู่บนท้องถนนให้นานกว่าปกติจริงไหม พูดง่ายๆว่า คันกล้องน่ะ "ขับช้าเกินไป"
ถ้าไม่เชื่อสถิตินี้
อะไรจะเกิดก็เกิด แล้วแต่ดวง.... งั้นจะขับช้า หรือ เร็ว ก็ผลเท่ากันนะครับ
จะ 100 90 80 70 60 หาร 60 ผลที่ได้ย่อมต่างกัน
ผมคิดของผมเล่นๆแบบนี้ อย่าซีเรียสกับผมเลยครับ
คนมันจะซวยนะ แค่นั่งกินก๋วยเตี๋ยวอยู่ข้างถนน จะกินเร็วกว่า จะนั่งแช่คุยกับเพื่อน ก็มีโอกาสเสี่ยงพอๆกันเช่นกัน แต่เสี่ยงมากเสี่ยงน้อย ก็สามารถคำนวนตามตัวเลขได้อีกเช่นกัน
นาย ก นั่งกิน 15 นาทีแล้วลุกกลับบ้าน
นาย ข นาย ค นั่งกิน 15 นาทีแล้วคุยต่อ อีก 15 นาที
นาย ข นาย ค มีความเสี่ยงที่จะโดนคนหลับใน ยางแตก รถลื่น รถตัดหน้า รถหลบคนข้ามถนน มอไซค์เกี่ยวกัน พุ่งเข้ามาชนมากกว่านาย ก ถึง 50% เลยทีเดียว
คุณตรรกะป่วยอย่างที่คนอี่นบอกจริงๆนั่นแหละ
ถ้าใช้เวลาอยู่บนถนนน้อยหมายถึงโอกาสเกิดอุบัติเหตุน้อยลงจริงอย่างที่คุณเข้าใจ อย่างนี้ขับเร็ว 200 ก็โอกาสเกิดอุบัติเหตุน้อยกว่าคนขับ 80 สิครับ เพราะใช้เวลาอยู่บนถนนไม่ถึงครึ่งของคนที่ขับ 80
กินก๋วยเตี๋ยวริมถนนเร็วๆ ซดเสียงดัง ขี้เมาเจ้าถิ่นอาจรำคาญเสียงซดน้ำก๋วยเตี๋ยวลุกขึ้นมากระซวกให้ก็ได้นะครับ
สำคัญที่สุดคือการทำอะไรให้มีสติ และไม่เอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงครับ
555+
ตรรกะของพี่เขาไม่ครบครับ
เวลา กับ ความเร็ว แค่ 2 อย่างมันไม่พอ มันมีปัจจัยความเสี่ยงเพิ่มขึ้นครับ
ถ้า
> เวลาลดลง 1 หน่วย ความเสี่ยงลดลง 1 หน่วย
. (1)
> เวลาลดลง 1 หน่วย ความเร็วจะเพิ่มขึ้น 1 หน่วย
. (2)
> ความเร็วเพิ่มขึ้น 1 หน่วย ความเสี่ยงเพิ่มขึ้น 2 หน่วย
(3)
> จาก (2), (3) แทนค่าใน 1 จะได้ว่า
>> เวลาลดลง 1 หน่วย (ด้วยการเพิ่มความเร็ว) กลับทำให้ความเสี่ยง
เพิ่มมากกว่าเดิมเป็น 2 หน่วย
แต่
. ด้วยตรรกะ ของพี่เค้าที่ว่า เวลาลดลง ความเสี่ยงลดลง
> เมื่อ ความเร็ว = ระยะทาง / เวลา
> หรือ เวลา = ระยะทาง / ความเร็ว
ดังนั้น ถ้าอยากลดเวลาอยู่บนถนน ก็ควรจะลดระยะทางในการเดินทาง
ดีกว่าเพิ่มความเร็วในการเดินทางครับ
เช่น แทนที่จะออกไปไหนต่อไหน ถ้าไม่จำเป็น ก็ไม่ต้องไป ประชุมออนไลน์ เท่าที่จะทำได้
ความเสี่ยงก็ลดลงแล้ว ในทางกลับกัน ถ้ายังจะตะลอนไปไหนต่อไหน ทั้งๆที่ไม่จำเป็น
แต่ตะบี้ตะบันจะขับให้เร็ว เฆี่ยนให้เร็ว โดยหวังว่าระยะเวลาบนถนนจะลด แล้วความเสี่ยงจะลดลง
มันดูจะแปลกไปครับ
ไม่เป็นไรครับน้อง พี่ไม่ซีเรียส ในเมื่อพี่ยอมรับของพี่เองว่าป่วย
ชีวิตพี่สนุกกับการขับรถครับ วันธรรมดา พี่ก็ทำงานประจำ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ พี่ก็ขับไปเที่ยว(จริงก็ขับไปทำงานเสริม) ปากช่อง พัทยา และหัวหิน พี่ก็ขับอยู่แค่ 100-120 นี่แหละครับ
แค่บางครั้งเห็นคนขับช้ามากๆ มากซะจน เมื่อไหร่จะถึงจุดหมาย เลยคิดตรรกะบ้าๆบอๆแบบนี้ขึ้นมาได้
จริงๆแล้ว คนจะโดนนะครับ จะช้า หรือ เร็ว ยังไงก็โดนครับ ตรงหน้าแดลี่โฮมเมื่อหลายปีก่อน พี่เคยนัดเพื่อนไว้ที่ร้านอาหาร 4 คันครับที่ขับมาจากกรุงเทพ
มี รถหัวลากกระดาษดัง เบรคแตก ชนเลนตัวเอง แล้วลูกพ่วงข้ามไปชนชาวบ้านอีก ชนชาวบ้านเละเทะเลยครับ มีคนตายหลายศพ
2 คันแรก คือพี่ กับรถเพื่อน ถึงบ้านก่อนอีก 2 คัน และกำลังจะไปจองร้านอาหาร รถเพื่อนพี่คือ ออกไปถึงร้านอาหารแถวครูต้อแล้ว
รถพี่กำลังจะเลี้ยวออกมาจากถนนผ่านศึก ซึ่งไอ้หัวลากผ่านหน้าพี่พอดี
ส่วนเพื่อนพี่ที่ตามมาอีก 2 คัน คันนึง กำลังจะได้กลับรถบนเนิน เจ้าหัวลาก ก็ลงมาพอดี
ส่วนคันสุดท้าย ไม่ได้กินข้าวเย็นกับพวกพี่ครับ เพราะรถติดแหง็ก ตอนนั้นเค้าพ้นจากโรงปูนมา
4 คันนี้ ถ้ามีใครเร็ว หรือ ช้าต่างกันแค่ 3-10 นาที อาจจะเป็นผู้โชคร้ายก็ได้ครับ แต่พี่คิดว่า พี่ ใกล้เคียงที่สุดแล้วล่ะ