[Akrachai]

ผมได้ข้อมูลจากเว็บบอร์ดชื่อย่อตัว P มา เขาให้ข้อมูลประมาณนี้ครับ

เก๋ง C car ญี่ปุ่น
เซลล์ได้ 15,000 (ก่อนหักเป็นของแถมให้พวกคุณ) เหลือถึงเซลล์ 7,000-8,000
Showroom ได้ 60,000-70,000
บริษัทรถได้  250,000ขึ้นไป
ภาษี VAT+สรรพสามิต  150,000
มูลค่าตัวรถหน้าโรงงาน 400,000
เป็นค่าเฉลี่ยๆ แต่ละรุ่นก็อาจจะมากบ้างน้อยบ้างแตกต่างกันไป


อันนี้เขาไม่เจาะจงว่าเป็นรุ่นไหน แต่ที่ผมตกใจคือบริษัทรถยนต์ได้คันละ 200 +- หะ whatttttt....มันจริงไหม? รบกวนผู้รู้ทีครับ

[axister]

มั่วมากๆครับ

จากปสก ทำงานกับเจ้าของดีลเลอมาหลายปี บอกเลยว่ากำไรสำหรับดีลเลอร์น้อยมากครับ ต้องเน้นหาเงินทางอื่น พวก maintenance / ของแต่ง เพราะลำพัง อัด incentive ให้เซลมาจิ้นจากที่น้อยก็แทบไม่มีแล้วครับ ซึ่งหลายๆค่ายใช้นโยบาย one price ห้ามตัดราคากันเอง แต่หลังบ้านก็ยังให้ incentive เซลไปบริหารจัดการกันเองปรับเปลี่ยนตามแต่ละ quarter

ดีลเลอไหนจะให้คนเซลคนละ 15k รึเปล่าไม่รู้ แต่ของผมให้เป็นมาจิ้น เฉลี่ยต่อคันเหลือไม่กี่พันครับ

หลักๆก็มาจากบริษัทรถนิแหละ ราคาหน้าโรงงานตั้งเท่าไหร่ก็แล้วแต่คัน แต่งงตรงบริษัทรถได้ 250k? อันนี้ไม่มีที่มาที่ไป

ถ้าวัดต้นทุนกันจริงๆ ของบริษัทรถน้อยมากครับ เพราะมันไปแพงที่ค่า r&d ไม่ใช่วัสดุ จะมาวัดเป็นคันว่า 250k ไม่น่าใช่อะครับ เวลาทำ product อะไรที่เป็น mass ขายเค้าคิดเป็นมูลค่าโครงการ / หรือปีนะ ไม่ได้คิดเป็นคัน ทำคอนโดก็ไม่ได้คิดกำไรเป็นห้องนะ

มูลค่าหน้าโรงงานนิเท่าไหร่ก็ไม่รู้ แต่โรงงานก็ไม่ได้กำไรเป็นคันอีกเหมือนกันอะครับ

breakdown แบบที่ถามไม่ได้ แต่ตัวเลขที่เว็บ P มาคือมโนล้วนๆ

[TeslaX]

มั่วมากๆครับ

จากปสก ทำงานกับเจ้าของดีลเลอมาหลายปี บอกเลยว่ากำไรสำหรับดีลเลอร์น้อยมากครับ ต้องเน้นหาเงินทางอื่น พวก maintenance / ของแต่ง เพราะลำพัง อัด incentive ให้เซลมาจิ้นจากที่น้อยก็แทบไม่มีแล้วครับ ซึ่งหลายๆค่ายใช้นโยบาย one price ห้ามตัดราคากันเอง แต่หลังบ้านก็ยังให้ incentive เซลไปบริหารจัดการกันเองปรับเปลี่ยนตามแต่ละ quarter

ดีลเลอไหนจะให้คนเซลคนละ 15k รึเปล่าไม่รู้ แต่ของผมให้เป็นมาจิ้น เฉลี่ยต่อคันเหลือไม่กี่พันครับ

หลักๆก็มาจากบริษัทรถนิแหละ ราคาหน้าโรงงานตั้งเท่าไหร่ก็แล้วแต่คัน แต่งงตรงบริษัทรถได้ 250k? อันนี้ไม่มีที่มาที่ไป

ถ้าวัดต้นทุนกันจริงๆ ของบริษัทรถน้อยมากครับ เพราะมันไปแพงที่ค่า r&d ไม่ใช่วัสดุ จะมาวัดเป็นคันว่า 250k ไม่น่าใช่อะครับ เวลาทำ product อะไรที่เป็น mass ขายเค้าคิดเป็นมูลค่าโครงการ / หรือปีนะ ไม่ได้คิดเป็นคัน ทำคอนโดก็ไม่ได้คิดกำไรเป็นห้องนะ

มูลค่าหน้าโรงงานนิเท่าไหร่ก็ไม่รู้ แต่โรงงานก็ไม่ได้กำไรเป็นคันอีกเหมือนกันอะครับ

breakdown แบบที่ถามไม่ได้ แต่ตัวเลขที่เว็บ P มาคือมโนล้วนๆ

ทุกวันนี้ศูนย์ปิดตัวไปเยอะเพราะรถไม่ค่อยเข้าศูนย์หลังหมดประกัน จะขายรถก็ไม่มีรถใป้ส่งอีก มืดแปดด้าน

[เนื้อน่องไม่หนัง]

เคยได้จากผู้บริหารศูนย์ พวก  7 series / S class คันนึง กำไรมีถึงล้าน แต่บางทีศูนย์จะขายในราคาที่อยากขายไม่ได้ ต้องขายตามราคาที่กำหนด
ศูนย์ที่ได้เปรียบคือศูนย์ที่ทุนหนา หรือมีหลายๆศูนย์ อาจซื้อ ล๊อตใหญ่มาสต๊อก (อาจได้ราคาดีกว่า Lots เล็ก)

ถ้าพวกรถตลาด กำไรอาจไม่เท่าไร่ และค่อนข้างเน้นเรื่องของศูนย์บริการ พวกนี้จะมีโปรแบบ รถค่าแรง หรือขายแพ๊คเกจเชคระยะ
ดีไม่ดีกำไรจากการเชคระยะ 0-100000โล อาจไม่ได้ต่างจากขายรถเท่าไร่ ยิ่งถ้าที่บ้านมียี่ห้อเดียวกันหลายคัน ถูกใจครั้งแรก จะเอาคันอื่นตามมาเข้าด้วย

[Mos37257]

กำไรหลักของดีลเล่อร์ไม่ได้มาจากการขายรถครับ
เพราะะลำพังลดราคารถเเข่งกัน อัด Incentive เซลล์ อัดเเคมเปญเเทบไม่เหลือกำไรต่อคันครับ
เเน่นอน กำไรต่อคันไม่เท่ากันเพราะส่วนลดเเต่ละคันมันไม่เท่ากัน
ซึ่งบริษัทรถนั้นมีกำไรคงที่อยู่เเล้วครับจากรถยนต์คันนึง เเต่มันยังมีต้นทุนที่มองไม่เห็นอีกหลายอย่างครับ

กำไรจากการขายรถเหลือ200 มีจริงไหมมีครับ เเต่ไม่ใช่ทุกคันเช่นรถล้างสต๊อก รถค้างปี

[rtong]

กำไรหลักของดีลเล่อร์ไม่ได้มาจากการขายรถครับ
เพราะะลำพังลดราคารถเเข่งกัน อัด Incentive เซลล์ อัดเเคมเปญเเทบไม่เหลือกำไรต่อคันครับ
เเน่นอน กำไรต่อคันไม่เท่ากันเพราะส่วนลดเเต่ละคันมันไม่เท่ากัน
ซึ่งบริษัทรถนั้นมีกำไรคงที่อยู่เเล้วครับจากรถยนต์คันนึง เเต่มันยังมีต้นทุนที่มองไม่เห็นอีกหลายอย่างครับ

กำไรจากการขายรถเหลือ200 มีจริงไหมมีครับ เเต่ไม่ใช่ทุกคันเช่นรถล้างสต๊อก รถค้างปี

แต่บางยี้ห้อคิดค่าเช็คระยะ ชม.ละ 700++ บาท
พอหมดระยะประกันไม่เข้าศูนย์อีกเลย   หนำซ้ำเข็ดจนไม่อยากซื้อรถยี้ห้อนี้อีกเลย 

[apinui]

ไม่ใช่เลยครับ บอกตรงนี้เต็มๆปากเลยว่าไม่ใช่ ..

กำไรผู้ผลิต บอกตามตรงว่าหาคนรู้น้อยมากๆครับ ดังนั้นตรงนี้ผมขอไม่ออกความเห็น

ส่วนกำไรดีลเลอร์ ที่บอกเซลได้ 15,000 โชว์รูม 5-7หมื่น อันนี้ก็ต้องดูเป็นรุ่นรถไป

เอาง่ายๆ กำไรต่อคันที่ดีลเลอร์ได้ เต็มที่คือประมาณ 10% ของตัวรถ แต่นั่นหมายถึงขายรถที่ราคาตั้งเต็มๆเลยนะ เช่นราคา 950,000 บาท ไม่มีส่วนลดไม่มีของแถม ไม่มีอะไรให้เลย ..

แต่คนไทยซื้อรถต้องมีส่วนลด ต้องมีของแถม ดังนั้น เค้าจะดึงกำไรบางส่วนมาเป็นของแถมที่เรียกกันว่า"มาจิ้น"

เช่นถ้ากำไรรถ 1คันคือ 10% .... 10% ของรถราคา 950,000 ก็คือ 95,000 บาท ..

ดังนั้นโชว์รูมอาจจะดึงมาจิ้นตรงนี้ออกมา 5% เพื่อเป็นของแถมหรือส่วนลดให้ลูกค้า ซึ่งเซลจะได้สิทธิ์บริหารเงินมาจิ้นเอง

และถ้าเซลแถมของแถมมากมาจิ้นเหลือน้อย เซลก็ได้เงินน้อย ถ้าเซลไม่แถมเลยหรือแถมน้อย มาจิ้นเหลือเท่าไรนั่นก็คือของเซล ...

และยังมีกรณีถ้าขายเกินมาจิ้นอีก ก็จะมีเงื่อนไขแล้วแต่โชว์รูมนั้นๆบริหาร

ที่บอกเซลได้ 15,000อะ สมัยนี้ไม่ได้แล้วครับ 3พันบาทก็ให้ได้เถอะครับ สำหรับรถญี่ปุ่นน่ะ แข่งกันโคตรแรง

ส่วนดีลเลอร์กำไรต่อคันได้หลักหมื่นครับ แต่เค้าจะมีรายได้จากโบนัสยอดขายประจำปี ซึ่งผู้ผลิตจะโบนัสให้ตามเป้าที่สั่งรถ .. โดยรวมได้หลักล้านบาท แต่ยอดต้องถึง ... ตามรุ่นที่เค้ากำหนดด้วย และเงินรางวัล KPI และความพึงพอใจของลูกค้า อันนี้ก็ได้โบนัสด้วย

รายได้จริงๆที่เลี้ยงบริษัทคือ รายได้จาก service ครับ รถเก่าหมดประกันไม่เข้าศูนย์ก็จริง แต่รถใหม่ก็ขายได้ทุกวันนะ ...

[SM.]

รายได้มากจากหลายทางมากครับ รถแต่ละรุ่นก็ได้ margin ต่างกัน ขึ้นกับช่วงเวลานั้นๆด้วยครับ รถใหม่ รถออกมานานแล้ว บ.รถ มาโปรโมชั่นช่วยแค่ไหน มีโบนัสให้ยังไง รวมทั้งบริษัทอื่นๆ ที่เข้ามาดีลด้วยครับ ไม่ว่าจะเป้นชุดแต่ง ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ประกอบอีก แม้กระทั่งรถมือสอง รายละเอียดเยอะมากครับ

[zionzz]

รายได้หลักมาจากรถที่เข้าศูนย์

แล้วทำไมยังมีข่าวศูนย์ซ่อมชุ่ยให้ได้ยินอยู่ทั่วไปอะ ทุบหม้อข้าวตัวเองทำไม

[Sympho]

สำหรับผู้ผลิต ลองดูอัตรากำไรสุทธิในงบการเงินครับ เพราะธุรกิจหลักคือผลิตรถขาย ก็พอจะสะท้อนอัตรากำไรของการผลิตรถ 1 คันได้

สำหรับศูนย์บริการ อัตรากำไรสุทธิไม่ได้สะท้อนถึงยอดขายรถแต่ละคัน เนื่องจากมีรายได้ส่วนอื่นๆอีก

[MyName]

ถ้าได้กำไรตกคันละ 200 จริง
เราจะไม่ได้เห็นข่าวการพัฒนารถรุ่นใหม่และโบนัส พนง หรอกครับ แค่คิดก็ไม่พเ

[Pegasus7700]

อย่าเถียงกันครับ
ในช่วงปี 2015-2021 กำไรเฉลี่ยต่อคัน ของธุรกิจรถยนต์โลก อยู่ที่7.5%
โดย Toyota Ford GM ประมาณ1800 USD
Nissan BMW Kia 1000 USD