คิดว่าเบนซ์กับบีเอ็มจะมีการปรับตัวเพื่อรับมือการมาเยือนของเทสล่ามั้ยครับ

off_033

BMW , Benz ยังมีภาพคนรวยค้ำคออยู่  คงไม่ลงมาเล่นราคามาก

อาจจะเพิ่ม option ในราคาเท่าๆเดิม

ถ้ายอดตกมากอาจจะเห็นโปรแปลกๆออกมาเป็นระยะ



berzerk

ผมน่าที่จะกระทบแน่ๆ คือรถจีนที่มาตั้งบริษัทในไทย แล้วขายรถใน segment เดียวกัน



|||

ถามว่ากระทบมั้ย? ผมว่ามากโคตรๆ

คนรุ่นใหม่ที่มีกำลังซื้อจริง ไม่ได้มองเบนซ์, บีเอ็มตัวเริ่ม พวก A-Class, Series 2 เป็นรถหรูรถแพงหรอกครับ ขับไปดีลธุรกิจคู่ค้าก็มองว่ารถวัยรุ่นพ่อแม่ซื้อให้ขับด้วยซ้ำ ยิ่งต่างจังหวัดเผลอๆ Fortuner, Camry ยังดูรวยกว่า

แต่รุ่นใหญ่กระทบมั้ย? ผมว่า E, กับ 3 ขึ้นไปจะน้อยลงหน่อย เพราะภาพลักษณ์ยังได้อยู่ แล้วไม่ต้องมีเทสล่าหรอก พวก hybrid เปราะๆรู้กันทั้งวงการว่าห่วย ยังมีคนซื้อใช้เรื่อยๆเลย

ถามว่าแบรนด์จะปรับตัวยังไง? อย่างมากก็เลิกขายรุ่นเล็กครับผมว่า



XMSL

ระยะแรกน่าจะมีผลนิดหน่อยกับกลุ่มมีความชอบที่ก้ำกึ่ง แต่ระยะยาวคงเป็นการแข่งขันระหว่างตลาดรถ ice กับ bev มากกว่า เพราะสองฝั่งก็ต้องเข็นโปรดักช์ของตัวเองออกมา เช่น x3 vs ix3 ส่วนเทสล่าก็ค่อยๆกลืนตลาดไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็จะเหลือแต่รถไฟฟ้าที่มีแบรนด์จีน เทสล่า กับกลุ่มพรีเมียม



Hut Chew

ปรับแน่นอนครับ ปรับ...ราคาขึ้นไปอีกแน่นอน  ;D



เต๋า AV

กระทบ แต่น้อย
ลูกค้าคนละกลุ่มอยู่แล้ว

ถ้าคนที่ไปลอง Tesla คันจริงแล้วจะรู้ทันที วัสดุ Eco car ชัดเจน
เทียบกับภายใน ค่ายยุโรป ไม่ได้ครับ
ไหนจะภาพลักษณ์ของแบรน ที่ฝังลึกในวัฒนธรรมอีก



Teera

รถที่แพงที่สุดที่ ผมเคยซื้อคือ V40 ปี 12 ตอนนั้น ล้านแปด
ถ้า Tesla มันออกเมื่อปี 12 แล้ว ราคานี้ ผมสงสัยโดน Tesla ครับ
แต่ มันก็เป็นการคิด โดย ไม่ได้ซื้อจริง เวลาซื้อจริง อาจจะคิดมากวว่านี้

แต่ ตอนนี้ งบซื้อรถ 1 คัน ไม่เกิน ล้านห้า ครับ อดขี่



bobsan


จะปรับหรือไม่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ว่า Tesla ยืนระยะได้หรือไม่
ถ้า tesla ไปได้สวยคิดว่าต้องปรับแล้วแหละ

เพื่อนที่เพิ่งออก 520d ไปยังเสียดายเลยครับ
บอกว่าถ้าราคามาเร็วกว่านี้สักหน่อย คงมีกดจองบ้างเหมือนกัน

สำหรับภาพลักษณ์อะไรนั่น
คนขับ c e 3 5 กับ model 3 y พวกนี้เอาจริงๆไม่ได้ดีแย่กว่ากันเท่าไหร่นะครับ

รถจีนช่วง 1.2-1.4 ล้าน ผมว่าไปต่อยากแล้วแหละ




SM.

ต้องมีกระทบบ้างแน่ๆนะ สำหรับคนที่กำลังคิดถึงรถเสียบปลั๊กอยู่

ส่วนคนที่ไม่สะดวก หรือไม่ชอบ ก็คงไม่รู้สึกอะไรมาก



diamond4me

ต่างประเทศมีข่าวเยอะแยะว่า benz bmw ก็ยอมรับว่าปรับตัวไป EV ช้าเกินไป
และช่วงนึงก็มีข่าวมูลค่า Tesla ก็กลายเป็นบริษัทรถที่มีเงินเยอะที่สุดไปแล้ว

ดังนั้นทุกบริษัทก็ต้องอยากปรับตัวแข่งกับ Tesla อยู่แล้ว แต่จะปรับได้แค่ไหนก็อีกเรื่องนึง 5555




V221

ตอนนี้อาจจะกระทบยังไม่มากเพราะรถก็ยังผลิตไม่พอกับคำสั่งซื้อด้วยเหตุChip shortage อยู่ แต่เมื่อไหร่Teslaส่งมอบได้มากๆและพิสูจน์ตัวเองว่าอยู่ในใจผู้บริโภคได้ ค่ายยุโรปมีเหนื่อยแน่นอน รายได้ของค่ายยุโรปนอกจากกำไรจากการขายรถในบ้านเรายังมาจากขายอะไหล่อีกด้วย ผมเคยคุยกับผจก.ศูนย์ตราดาวสาขาหนึ่ง เค้าเล่าให้ผมว่าทางบริษัทแม่ตั้งเป้าให้สาขาเค้าต้องขายอะไหล่และบริการถึงปีละ100ล้านบาท ถิอเป็นเป้าหมายที่โหดมาก ถ้ารถไฟฟ้ามาเยอะๆแล้วศูนย์บริการจะลำบากเพราะทางAudiยังบอกเองว่า E-Tron แทบไม่มีการที่จะต้องServiceเลย ล่าสุดTesla club แจ้งว่ายอดจองเกินหลัก8พันคันในบ้านเราไปเป็นที่เรียบร้อย สงสัยแค่ว่าSupercharger 10แห่งจะพอเหรอเนี่ย
BMW 750E M SPORT



firstime911

ผมว่า เขาก็คงต้องปรับหละคับ ไม่งั้นก็คงคล้ายกับ nokia
ีที่เมือ่กอ่น ซื้อโคตรแพง แล้วอยู่มาวันนึง คนก็ ไปใช้ iphone กันหมด ทั้งๆ ที่ hardware สู้ไม่ได้ แต่ software นี่ตัวชี้ขาด



XyteBlaster

กระทบแน่นอนครับ ที่ ตปท ก็มีรายงานมาแล้ว บางที่ไม่ถึงกับยอดลด แต่ยอดไม่โต มันก็คือยอดลดนั่นแหละครับ



jztang

ผมมองว่าการมาของ Tesla มันคือ evolution ในหลายๆด้านของวงการรถยนต์และเทคโนโลยีครับ

อาจไม่ส่งผลกระทบมาก กับแบรนด์ยุโรปในไทย แต่ไม่ใช่ว่าไม่ถูกนำไปเปรียบเทียบเลย

เพราะ Tesla ทำให้เห็นแล้วว่ารถไฟฟ้านำเข้าจากจีนเหมือนกัน แต่ราคาขายต่างกันในไทย ก็ให้ผู้บริโภคไปคิดไปตัดสินใจกันเอาเองว่า ใครเอาเปรียบใครมากกว่ากัน

หรือถ้าไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้ เป็นความชอบส่วนตัว หรือมีเหตุผลอะไรแล้วแต่ คนเหล่านี้เค้าก็ไม่ได้สนใจเรื่องราคาซักเท่าไหร่ บางทีมันอยุ่ที่จริตของคนนั้นๆ ถ้าชอบก็ซื้อ ถูกใจไม่มีคำว่าแพง