ผู้เขียน หัวข้อ: E-Power มันต่ากับ Plug in Hybrid แค่ลดต้นทุนไม่ใส่แบตเสียบชาจไม่ได้ ?  (อ่าน 3029 ครั้ง)

ออฟไลน์ Spada_Valess

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 753
    • อีเมล์
E-Power มันต่ากับ Plug in Hybrid แค่ลดต้นทุนไม่ใส่แบตเสียบชาจไม่ได้ใช่ไหมครับ
PHEV
- ขับด้วยไฟฟ้าอย่างเดียวโดยไม่ใช้เครื่องยนต์ได้ถึง 140+ < เหมือน e-power
- ใช้เครื่องปั่นไฟเข้าแบตได้ < เหมือน e-power
- เสียบปลักรับไฟจากภายนอกได้อยู่ในที่ไม่มีน้ำมันก็ยังใช้ได้ขับ แบบ BEV < e power ทำไม่ได้
- ใช้เครื่องช่วยในความเร็วสูง < e power ทำไม่ได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 16, 2023, 13:04:09 โดย Spada_Valess »

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,505
คิดว่าไม่น่าใช่เป้าหมาย  เพราะจะเสียบชาร์จทำไม  เสียบเสร็จเดินออกจากรถห้าก้าวมันก็เต็มแล้ว....

แบตฯมันเล็กมาก  เป้าหมายก็คือ วิ่งแบบไฟฟ้า  แต่พกเครื่องชาร์จติดตัวไปทุกหนทุกแห่งอ่ะครับ

ผมใช้มาตั้งแต่เปิดตัว  แพงหน่อย  แต่ไม่ได้หงุดหงิดอะไร   ไม่เคยมีปัญหาอะไร 

ชอบครับ   เวลาวิ่งในที่รถติด ๆ  กลัวรถชนท้ายอย่างเดียว  เพราะไฟเบรคไม่ค่อยขึ้นเวลาคลาน ๆ...

ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,723
E-Power มันต่ากับ Plug in Hybrid แค่ลดต้นทุนไม่ใส่แบตเสียบชาจไม่ได้ใช่ไหมครับ

ไม่ใช่ครับ

ออฟไลน์ Spada_Valess

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 753
    • อีเมล์
E-Power มันต่ากับ Plug in Hybrid แค่ลดต้นทุนไม่ใส่แบตเสียบชาจไม่ได้ใช่ไหมครับ

ไม่ใช่ครับ

ทำไมครับ ในเมื่อทุกอย่างที่ e power ทำมันคือ phev แบบเสียบปลักไม่ได้ใช้เครื่องช่วยไม่ได้

ออฟไลน์ เนื้อน่องไม่หนัง

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,806
ผมมองที่ระบบขับเคลื่อนนะ
Hybrid / PHEV (Plug in Hybrid) มันวิ่งด้วยเครื่องยนต์และมอเตอร์ ครับ
PHEV = Hybrid เสียบปลั๊กได้

ส่วน E-Power ของ Nissan ใน Kicks คือเอามอเตอร์วิ่งอย่างเดียว เครื่องยนต์ปั้นไฟเข้าแบต เข้ามอเตอร์
ผมมองว่ามันเป็นรถไฟฟ้า ที่มีเครื่องปั่นไฟติดรถไว้เลย ในมุมผู้ผลิตก็ใช้แบตลูกเล็กลงได้ เพราะมีเครื่องยนต์พร้อมเติมไฟให้ตลอด
ในมุมคนใช้งาน ก็จะได้ สมรรถนะ แบบรถไฟฟ้า และตัดปัญหาเรื่องหาที่ชาร์จไปได้เลย
แต่ข้อเสียคือยังใช้น้ำมันอยู่ นี้แหละ

ออฟไลน์ Spada_Valess

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 753
    • อีเมล์
ผมมองที่ระบบขับเคลื่อนนะ
Hybrid / PHEV (Plug in Hybrid) มันวิ่งด้วยเครื่องยนต์และมอเตอร์ ครับ
PHEV = Hybrid เสียบปลั๊กได้

ส่วน E-Power ของ Nissan ใน Kicks คือเอามอเตอร์วิ่งอย่างเดียว เครื่องยนต์ปั้นไฟเข้าแบต เข้ามอเตอร์
ผมมองว่ามันเป็นรถไฟฟ้า ที่มีเครื่องปั่นไฟติดรถไว้เลย ในมุมผู้ผลิตก็ใช้แบตลูกเล็กลงได้ เพราะมีเครื่องยนต์พร้อมเติมไฟให้ตลอด
ในมุมคนใช้งาน ก็จะได้ สมรรถนะ แบบรถไฟฟ้า และตัดปัญหาเรื่องหาที่ชาร์จไปได้เลย
แต่ข้อเสียคือยังใช้น้ำมันอยู่ นี้แหละ

PHEV ก็ทำได้นิครับ เข้าโหมดไฟฟ้าล้วนใช้มอเตอร์อย่างเดียวพอแบตหมดก็เอาเครื่องมาปั่นไฟ

ออฟไลน์ เนื้อน่องไม่หนัง

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,806
ผมมองที่ระบบขับเคลื่อนนะ
Hybrid / PHEV (Plug in Hybrid) มันวิ่งด้วยเครื่องยนต์และมอเตอร์ ครับ
PHEV = Hybrid เสียบปลั๊กได้

ส่วน E-Power ของ Nissan ใน Kicks คือเอามอเตอร์วิ่งอย่างเดียว เครื่องยนต์ปั้นไฟเข้าแบต เข้ามอเตอร์
ผมมองว่ามันเป็นรถไฟฟ้า ที่มีเครื่องปั่นไฟติดรถไว้เลย ในมุมผู้ผลิตก็ใช้แบตลูกเล็กลงได้ เพราะมีเครื่องยนต์พร้อมเติมไฟให้ตลอด
ในมุมคนใช้งาน ก็จะได้ สมรรถนะ แบบรถไฟฟ้า และตัดปัญหาเรื่องหาที่ชาร์จไปได้เลย
แต่ข้อเสียคือยังใช้น้ำมันอยู่ นี้แหละ

PHEV ก็ทำได้นิครับ เข้าโหมดไฟฟ้าล้วนใช้มอเตอร์อย่างเดียวพอแบตหมดก็เอาเครื่องมาปั่นไฟ

ผมเองไม่เคยใช้ PHEV นะครับ แต่เท่าที่ดูมาถ้า PHEV แบตหมด ระบบมันน่าจะใช้เครื่องยนต์ขับเคลื่อนมากกว่า
นอกจากเวลาเบรค ถึงจะ Regen ไฟเข้าแบตบ้างซึ่งส่วนใหญ่เราเลือกไม่ได้ว่าจะให้เขาทำยังไง
จะมี Outlander ที่แหละเลือกได้ว่า จะวิ่งด้วยมอเตอร์แล้วให้เครื่องปั่นไฟเก็บเข้าแบตแทนได้

ซึ่งถ้ามองแบบนี้ จะบอกว่า E-power คือ PHEV แบบเสียบไฟไม่ได้ ก็ถูกแหละครับ

ออฟไลน์ Spada_Valess

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 753
    • อีเมล์
ผมมองที่ระบบขับเคลื่อนนะ
Hybrid / PHEV (Plug in Hybrid) มันวิ่งด้วยเครื่องยนต์และมอเตอร์ ครับ
PHEV = Hybrid เสียบปลั๊กได้

ส่วน E-Power ของ Nissan ใน Kicks คือเอามอเตอร์วิ่งอย่างเดียว เครื่องยนต์ปั้นไฟเข้าแบต เข้ามอเตอร์
ผมมองว่ามันเป็นรถไฟฟ้า ที่มีเครื่องปั่นไฟติดรถไว้เลย ในมุมผู้ผลิตก็ใช้แบตลูกเล็กลงได้ เพราะมีเครื่องยนต์พร้อมเติมไฟให้ตลอด
ในมุมคนใช้งาน ก็จะได้ สมรรถนะ แบบรถไฟฟ้า และตัดปัญหาเรื่องหาที่ชาร์จไปได้เลย
แต่ข้อเสียคือยังใช้น้ำมันอยู่ นี้แหละ

PHEV ก็ทำได้นิครับ เข้าโหมดไฟฟ้าล้วนใช้มอเตอร์อย่างเดียวพอแบตหมดก็เอาเครื่องมาปั่นไฟ

ผมเองไม่เคยใช้ PHEV นะครับ แต่เท่าที่ดูมาถ้า PHEV แบตหมด ระบบมันน่าจะใช้เครื่องยนต์ขับเคลื่อนมากกว่า
นอกจากเวลาเบรค ถึงจะ Regen ไฟเข้าแบตบ้างซึ่งส่วนใหญ่เราเลือกไม่ได้ว่าจะให้เขาทำยังไง
จะมี Outlander ที่แหละเลือกได้ว่า จะวิ่งด้วยมอเตอร์แล้วให้เครื่องปั่นไฟเก็บเข้าแบตแทนได้

ซึ่งถ้ามองแบบนี้ จะบอกว่า E-power คือ PHEV แบบเสียบไฟไม่ได้ ก็ถูกแหละครับ
เลือกได้ครับ มีเลือก bmw  battery control เลือกระดับแบตที่จะให้เครื่องปั่นไฟเอาได้เลย

ออฟไลน์ deertesla

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,245
ผมมองที่ระบบขับเคลื่อนนะ
Hybrid / PHEV (Plug in Hybrid) มันวิ่งด้วยเครื่องยนต์และมอเตอร์ ครับ
PHEV = Hybrid เสียบปลั๊กได้

ส่วน E-Power ของ Nissan ใน Kicks คือเอามอเตอร์วิ่งอย่างเดียว เครื่องยนต์ปั้นไฟเข้าแบต เข้ามอเตอร์
ผมมองว่ามันเป็นรถไฟฟ้า ที่มีเครื่องปั่นไฟติดรถไว้เลย ในมุมผู้ผลิตก็ใช้แบตลูกเล็กลงได้ เพราะมีเครื่องยนต์พร้อมเติมไฟให้ตลอด
ในมุมคนใช้งาน ก็จะได้ สมรรถนะ แบบรถไฟฟ้า และตัดปัญหาเรื่องหาที่ชาร์จไปได้เลย
แต่ข้อเสียคือยังใช้น้ำมันอยู่ นี้แหละ

PHEV ก็ทำได้นิครับ เข้าโหมดไฟฟ้าล้วนใช้มอเตอร์อย่างเดียวพอแบตหมดก็เอาเครื่องมาปั่นไฟ
มี2ระบบแบบนี้ยังไงมันก็คือไฮบริดพยายามแอ๊บแบ๊วว่าเป็นรถไฟฟ้าแต่มันไม่ใช่เลย อัตราสิ้นเปลือง ค่าบำรุงรักษามันแพงกว่าพวก1.0โบหรือ1.2-1.3สี่สูบด้วยซ้ำ เพียงแค่อัตราเร่งดีแค่นั้น พอตีนปลายมาเหี่ยวเพราะไม่มีหลายเกียร์ช่วยทดแถมแบตก็ไม่ถูกด้วย เห็นในข่าวตกน้ำก็คูน้ำรั่วเข้าแบตอีก สรุปคือไฮบริดลดต้นทุนครับ  กับทิ้งท้ายอย่างคือ การที่ใช้แพลตฟอลร์นิสสันมารและโน้ต จะหลอนกับบูชปีกนกขาดง่ายมากเพราะใช้ปีกนกตัวเดียวกับมาร์ช ที่มันไม่มีจุดหมุนให้ปีกนกครับ



ออฟไลน์ wcr

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 59
ถ้าเปรียบเทียบแบบนี้ Hybrid แบบทั่วไปที่ไม่ใช่ E-Power ของ Nissan ยังจะคล้ายกับ Plug In มากกว่ามั้ยครับ

เพราะ E-Power ใช้เครื่องยนต์เพื่อปั่นไฟไปเข้าแบต มอเตอร์ไปหมุนล้อด้วยกำลังไฟจากแบต ที่สำคัญคือเครื่องยนต์จะไม่ขับเคลื่อนล้อโดยตรงเลย
แต่ Plug In ขับเคลื่อนได้จากทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ ทั้งตัวระบบมันก็ต่างกันมากอยู่นะครับ

โอเคว่าองค์ประกอบภาพรวมมันก็มี เครื่อง แบต มอเตอร์ เหมือนกัน แต่รายละเอียดการทำงานคนละคอนเซปต์เลยครับ ต่างกันมากกว่าเรื่องเสียบชาร์จไม่เสียบชาร์จ

ออฟไลน์ albacore

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 180
    • อีเมล์
E power เครื่องยนต์ไม่มีกลไกใดส่งกำลังไปล้อเลย
กำลังทั้งหมดคือกำลังมอเตอร์
กำลังมอเตอร์มากกว่าเครื่องยนต์

E ehev ความเร็วต้นถึงกลาง มอเตอร์ล้วน ความเร็วปลายเครื่องยนต์ล้วน มีเกียร์เดียว
กำลังมอเตอร์มากกว่าเครื่องยนต์

Hybrid ทั่วไป มอเตอร์กับเครื่องประกบกัน
มอเตอร์ทำงานผ่านเกียร์ทุกเกียร์อาจจะพร้อมเครื่องหรือตัดกำลังเครื่องออก แล้วแต่สถาณการณ์
กำลังมอเตอร์น้อยกว่าเครื่องยนต์

เค้าแยกชื่อในการเรียกระบบทำงานมากกว่า ในแง่การใช้เชื้อเพลิง มันคือhybrid แหละครับ

ถ้าเค้าไม่แยกชื่อระบบ ก็จะโดนhybridทั่วไปรังเกียจอีกว่าระบบน้อยกว่าลดต้นทุน แล้วจะมาใช้ชื่อรวมกับชั้นได้ยังไง555
ถ้าถามว่าเค้าตั้งใจลดต้นทุนมั้ย ผมว่าก็ใช่แหละครับ ไม่ต้องมานั่งติดโลจิคการตัดต่อกำลังใดๆด้วยซึ่งจะทำใกก้ดีนั่นยาก รถยุโรปยังโดนด่า

ระบบนี้ผมมองในแง่ดีว่าไม่ต้องซ่อมเกียร์ตัดต่อกำลังจากเครื่องแน่นอน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 17, 2023, 02:33:09 โดย albacore »

ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,723
E-Power มันต่ากับ Plug in Hybrid แค่ลดต้นทุนไม่ใส่แบตเสียบชาจไม่ได้ใช่ไหมครับ

ไม่ใช่ครับ

ทำไมครับ ในเมื่อทุกอย่างที่ e power ทำมันคือ phev แบบเสียบปลักไม่ได้ใช้เครื่องช่วยไม่ได้

Phev คือ Plug-in Hybrid Electric Vehicle

Plug-in คือเสียบปลั๊กชาร์จไฟเข้าแบตได้โดยตรง
Hybrid Electric Vehicle คือรถไฮบริดที่ทำงานผสานกันด้วย เครื่องสันดาป + มอเตอร์ + แบตเตอรี่

รถไฮบริดแต่ละยี่ห้อ ต่างก็มี เครื่องสันดาป มีมอเตอร์ มีแบตเตอรี่ ด้วยกันทั้งนั้น
แต่มันต่างกันที่การจัดเรียงและวิธีการทำงานร่วมกันของอุปกรณ์ทั้ง 3 อย่างนี้
แค่ไฮบริดของโตโยต้า ฮอนด้านิสสัน ยังทำงานไม่เหมือนกันเลย
แม้ว่ามันจะมี 1 เครื่องสันดาป มี 2 มอเตอร์ และมี 1 แบตเตอรี่ เป็นองค์ประกอบเหมือนกันก็ตาม

ดังนั้นพี่ต้องไปศึกษาดูก่อนว่าระบบไฮบริดของรถที่พี่สนใจนั้นมันทำงานกันยังไง
เพราะผมก็ไม่รู้ว่า Plug-in Hybridที่พี่พูดถึงมันยี่ห้ออะไร ทำงานยังไง

จะเรียกว่าลดต้นทุนมั้ย เอาเป็นว่าผมให้ข้อมูลพี่เอาไปคิดละกันว่า
ราคาแบตเตอรี่ทุกๆ ความจุ 1kW จะอยู่ที่ราวๆ 1 หมื่นบาท
และไฟฟ้า 1 kWh จะพารถวิ่งไปได้ด้วยไฟฟ้าล้วนๆ ประมาณ 5 กม.
นี่เราพูดแค่ราคาตัวแบตเตอรี่นะ ไม่เกี่ยวกับค่าพลังงานไฟฟ้า

ออฟไลน์ Fong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,027
  • Make a Choice and Don't Look Back
    • อีเมล์
ผมว่าถ้าตอบในสิ่งที่เราเห็น โดยที่ไม่ต้องสนใจนิยามต่างๆ ที่ค่ายรถขยันตั้งกันขึ้นมา ผมก็ตอบว่า "ใช่ครับ"

หากมาดูรายละเอียดทางวิศวกรรมและแนวคิดในการออกแบบ ผมก็ตอบว่า "ไม่ใช่และไม่เหมือนอย่างสิ้นเชิงครับ"

เอาจริงๆ แนวคิดต่างกันอย่างไร แต่ก็มีเป้าหมายเดียวกันคือลด CO2 และช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น
ซึ่งผมเองก็เคยคุยประเด็นนี้เหมือนกันครับว่าถ้า KICK ใส่แบตโตขึ้นอีก ชาร์จไฟบ้านได้ ขับได้สัก 50km ก็คงจะดีไม่น้อย
มีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ก็ได้ความรู้ขึ้นเยอะ

ชื่นชม จขกท. ครับ ที่มีความสนใจและถกในประเด็นเพื่อหาคำตอบและรถที่เหมาะสมกับเรา


แต่หลังๆ ผมไม่ตามและไม่สนใจละครับ (เพราะมันเยอะจนเหนื่อย แก่แล้วก็งี้  ::))
ผมเลยเลือกรถที่เหมาะกับการใช้ชีวิตโดยส่วนใหญ่ เน้นสะดวก ลงตัว อยู่ในงบ ประหยัดน้ำมันด้วยก็ยิ่งดี
Isuzu มังกรทอง, Accord G4, Colorado, Hilux Tiger, Lancer MK I, Triton, D-Max Cab4, TiiDA, Mazda2 MK I, Mazda2 MK II, D-Max Space, Fortuner, Sunny B14, Jazz GK, Accord G9, Mazda2 Sky, GLA200, Yaris, Alphard30, Lancer MK II, Lander MK III, Ranger MC, XL7, Forester SK

ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,723
ถ้าเปรียบเทียบแบบนี้ Hybrid แบบทั่วไปที่ไม่ใช่ E-Power ของ Nissan ยังจะคล้ายกับ Plug In มากกว่ามั้ยครับ

เพราะ E-Power ใช้เครื่องยนต์เพื่อปั่นไฟไปเข้าแบต มอเตอร์ไปหมุนล้อด้วยกำลังไฟจากแบต ที่สำคัญคือเครื่องยนต์จะไม่ขับเคลื่อนล้อโดยตรงเลย
แต่ Plug In ขับเคลื่อนได้จากทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ ทั้งตัวระบบมันก็ต่างกันมากอยู่นะครับ

โอเคว่าองค์ประกอบภาพรวมมันก็มี เครื่อง แบต มอเตอร์ เหมือนกัน แต่รายละเอียดการทำงานคนละคอนเซปต์เลยครับ ต่างกันมากกว่าเรื่องเสียบชาร์จไม่เสียบชาร์จ

มันคิดแบบนั้นไม่ได้หรอกครับ เพราะถ้าตั้งต้นจากไฮบริดแบบ e-Power มันก็สามารถ
ต่อยอดให้เป็น Plug-in ได้ ด้วยการขยายแบตให้ใหญ่ขึ้น อย่างน้อยๆ ก็น่าจะต้องใหญ่ขึ้นเป็น
10 kWh ขึ้นไป มันถึงได้น้ำได้เนื้อ สมกับการเสียบปลั๊กหน่อย
ทีนี้ตอนชาร์จไฟมาเต็ม มันก็วิ่งไฟล้วนๆ ได้ซัก 4-50 กม. ก่อนที่แบตจะลดต่ำจนเครื่องสันดาปติด
ขึ้นมาเพื่อปั่นไฟ  แต่ก็ต้องหาพื้นที่วางแบต ทำระบบจัดการชาร์จไฟ แบกน้ำหนักเพิ่ม รวมไปถึง
พวกการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ ในช่วงที่เครื่องสันดาปไม่ได้ติดขึ้นมาเลย

นั่นก็คือพื้นฐานของ e-powe ก็ต่อยอดเป็นปลั๊กอินได้ครับ

ออฟไลน์ PaPaMan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,206
ผมมองที่ระบบขับเคลื่อนนะ
Hybrid / PHEV (Plug in Hybrid) มันวิ่งด้วยเครื่องยนต์และมอเตอร์ ครับ
PHEV = Hybrid เสียบปลั๊กได้

ส่วน E-Power ของ Nissan ใน Kicks คือเอามอเตอร์วิ่งอย่างเดียว เครื่องยนต์ปั้นไฟเข้าแบต เข้ามอเตอร์
ผมมองว่ามันเป็นรถไฟฟ้า ที่มีเครื่องปั่นไฟติดรถไว้เลย ในมุมผู้ผลิตก็ใช้แบตลูกเล็กลงได้ เพราะมีเครื่องยนต์พร้อมเติมไฟให้ตลอด
ในมุมคนใช้งาน ก็จะได้ สมรรถนะ แบบรถไฟฟ้า และตัดปัญหาเรื่องหาที่ชาร์จไปได้เลย
แต่ข้อเสียคือยังใช้น้ำมันอยู่ นี้แหละ

PHEV ก็ทำได้นิครับ เข้าโหมดไฟฟ้าล้วนใช้มอเตอร์อย่างเดียวพอแบตหมดก็เอาเครื่องมาปั่นไฟ

ผมเองไม่เคยใช้ PHEV นะครับ แต่เท่าที่ดูมาถ้า PHEV แบตหมด ระบบมันน่าจะใช้เครื่องยนต์ขับเคลื่อนมากกว่า
นอกจากเวลาเบรค ถึงจะ Regen ไฟเข้าแบตบ้างซึ่งส่วนใหญ่เราเลือกไม่ได้ว่าจะให้เขาทำยังไง
จะมี Outlander ที่แหละเลือกได้ว่า จะวิ่งด้วยมอเตอร์แล้วให้เครื่องปั่นไฟเก็บเข้าแบตแทนได้

ซึ่งถ้ามองแบบนี้ จะบอกว่า E-power คือ PHEV แบบเสียบไฟไม่ได้ ก็ถูกแหละครับ
เลือกได้ครับ มีเลือก bmw  battery control เลือกระดับแบตที่จะให้เครื่องปั่นไฟเอาได้เลย


BMW PHEV ไม่ได้เอาเครื่องยนต์มาปั่นไฟเข้าแบตนะครับโปรดเข้าใจ ระบบขับเคลื่อนของ BM มันไม่เหมือน hybrid ของพี่โต , ของ BM เค้าออกแบบให้เน้นสมรรถนะในการขับขี่ ดังนั้นการเอากำลังของเครื่องยนต์มาปั่นไฟจึงเป็นการใช้พลังงานที่ไม่คุ้มค่าตามการออกแบบของ BM


ในโหมด battery control ถ้าไฟในแบตมีมากกว่าค่าที่ตั้งไว้รถจะทำตัวเหมือนโหมด auto eDrive ปกติ แต่ถ้ากำลังไฟใบแบตต่ำกว่าค่าที่ตั้งไว้รถจะขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เพียงอย่างเดียวเพื่อสงวนไฟในแบตไว้ไม่ให้มันลดลง แล้วจะชาร์จกลับต่อเมื่อรถเบรคหรือถอนเท้าจากคันเร่งครับ (ไม่ได้เอาเครื่องยนต์ไปปั่นไฟอย่างที่หลายคนเข้าใจ) แล้วเวลาที่รถหยุดนิ่งเครื่องยนต์ก็ดับตามไปด้วย แอร์จะยังทำงานอยู่โดยใช้ไฟจากแบตเตอรี่หลัก


จริงๆระบบของรถ PHEV ค่อนข้างซับซ้อน มันซับซ้อนกว่า ePower เยอะครับ คงเอามาเทียบกันตรงๆไม่ได้


PHEV บางยี่ห้อก็สามารถบังคับให้เครื่องยนต์ปั่นไฟชาร์จแบตได้ครับอย่างเช่น Outlander

ออฟไลน์ Spada_Valess

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 753
    • อีเมล์
ผมมองที่ระบบขับเคลื่อนนะ
Hybrid / PHEV (Plug in Hybrid) มันวิ่งด้วยเครื่องยนต์และมอเตอร์ ครับ
PHEV = Hybrid เสียบปลั๊กได้

ส่วน E-Power ของ Nissan ใน Kicks คือเอามอเตอร์วิ่งอย่างเดียว เครื่องยนต์ปั้นไฟเข้าแบต เข้ามอเตอร์
ผมมองว่ามันเป็นรถไฟฟ้า ที่มีเครื่องปั่นไฟติดรถไว้เลย ในมุมผู้ผลิตก็ใช้แบตลูกเล็กลงได้ เพราะมีเครื่องยนต์พร้อมเติมไฟให้ตลอด
ในมุมคนใช้งาน ก็จะได้ สมรรถนะ แบบรถไฟฟ้า และตัดปัญหาเรื่องหาที่ชาร์จไปได้เลย
แต่ข้อเสียคือยังใช้น้ำมันอยู่ นี้แหละ

PHEV ก็ทำได้นิครับ เข้าโหมดไฟฟ้าล้วนใช้มอเตอร์อย่างเดียวพอแบตหมดก็เอาเครื่องมาปั่นไฟ

ผมเองไม่เคยใช้ PHEV นะครับ แต่เท่าที่ดูมาถ้า PHEV แบตหมด ระบบมันน่าจะใช้เครื่องยนต์ขับเคลื่อนมากกว่า
นอกจากเวลาเบรค ถึงจะ Regen ไฟเข้าแบตบ้างซึ่งส่วนใหญ่เราเลือกไม่ได้ว่าจะให้เขาทำยังไง
จะมี Outlander ที่แหละเลือกได้ว่า จะวิ่งด้วยมอเตอร์แล้วให้เครื่องปั่นไฟเก็บเข้าแบตแทนได้

ซึ่งถ้ามองแบบนี้ จะบอกว่า E-power คือ PHEV แบบเสียบไฟไม่ได้ ก็ถูกแหละครับ
เลือกได้ครับ มีเลือก bmw  battery control เลือกระดับแบตที่จะให้เครื่องปั่นไฟเอาได้เลย


BMW PHEV ไม่ได้เอาเครื่องยนต์มาปั่นไฟเข้าแบตนะครับโปรดเข้าใจ ระบบขับเคลื่อนของ BM มันไม่เหมือน hybrid ของพี่โต , ของ BM เค้าออกแบบให้เน้นสมรรถนะในการขับขี่ ดังนั้นการเอากำลังของเครื่องยนต์มาปั่นไฟจึงเป็นการใช้พลังงานที่ไม่คุ้มค่าตามการออกแบบของ BM


ในโหมด battery control ถ้าไฟในแบตมีมากกว่าค่าที่ตั้งไว้รถจะทำตัวเหมือนโหมด auto eDrive ปกติ แต่ถ้ากำลังไฟใบแบตต่ำกว่าค่าที่ตั้งไว้รถจะขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เพียงอย่างเดียวเพื่อสงวนไฟในแบตไว้ไม่ให้มันลดลง แล้วจะชาร์จกลับต่อเมื่อรถเบรคหรือถอนเท้าจากคันเร่งครับ (ไม่ได้เอาเครื่องยนต์ไปปั่นไฟอย่างที่หลายคนเข้าใจ) แล้วเวลาที่รถหยุดนิ่งเครื่องยนต์ก็ดับตามไปด้วย แอร์จะยังทำงานอยู่โดยใช้ไฟจากแบตเตอรี่หลัก


จริงๆระบบของรถ PHEV ค่อนข้างซับซ้อน มันซับซ้อนกว่า ePower เยอะครับ คงเอามาเทียบกันตรงๆไม่ได้


PHEV บางยี่ห้อก็สามารถบังคับให้เครื่องยนต์ปั่นไฟชาร์จแบตได้ครับอย่างเช่น Outlander

ผมใช้ 330e เวลาดันเกียรไป s ให้เครื่องยนต์ติด จอดเฉยๆแบตมันก็เพิ่มนิครับแบบนี้ไม่ปั่นไฟยังไง

ออฟไลน์ wcr

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 59
ถ้าเปรียบเทียบแบบนี้ Hybrid แบบทั่วไปที่ไม่ใช่ E-Power ของ Nissan ยังจะคล้ายกับ Plug In มากกว่ามั้ยครับ

เพราะ E-Power ใช้เครื่องยนต์เพื่อปั่นไฟไปเข้าแบต มอเตอร์ไปหมุนล้อด้วยกำลังไฟจากแบต ที่สำคัญคือเครื่องยนต์จะไม่ขับเคลื่อนล้อโดยตรงเลย
แต่ Plug In ขับเคลื่อนได้จากทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ ทั้งตัวระบบมันก็ต่างกันมากอยู่นะครับ

โอเคว่าองค์ประกอบภาพรวมมันก็มี เครื่อง แบต มอเตอร์ เหมือนกัน แต่รายละเอียดการทำงานคนละคอนเซปต์เลยครับ ต่างกันมากกว่าเรื่องเสียบชาร์จไม่เสียบชาร์จ

มันคิดแบบนั้นไม่ได้หรอกครับ เพราะถ้าตั้งต้นจากไฮบริดแบบ e-Power มันก็สามารถ
ต่อยอดให้เป็น Plug-in ได้ ด้วยการขยายแบตให้ใหญ่ขึ้น อย่างน้อยๆ ก็น่าจะต้องใหญ่ขึ้นเป็น
10 kWh ขึ้นไป มันถึงได้น้ำได้เนื้อ สมกับการเสียบปลั๊กหน่อย
ทีนี้ตอนชาร์จไฟมาเต็ม มันก็วิ่งไฟล้วนๆ ได้ซัก 4-50 กม. ก่อนที่แบตจะลดต่ำจนเครื่องสันดาปติด
ขึ้นมาเพื่อปั่นไฟ  แต่ก็ต้องหาพื้นที่วางแบต ทำระบบจัดการชาร์จไฟ แบกน้ำหนักเพิ่ม รวมไปถึง
พวกการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ ในช่วงที่เครื่องสันดาปไม่ได้ติดขึ้นมาเลย

นั่นก็คือพื้นฐานของ e-powe ก็ต่อยอดเป็นปลั๊กอินได้ครับ

ผมเข้าใจครับ ว่าถ้าเอา E-Power มาทำให้เสียบปลั๊กชาร์จได้ มันก็คือ Plug-In Hybrid ประเภทหนึ่งนี่แหละ เพราะมันจะเสียบชาร์จได้ และมันก็คือ Hybrid ประเภทหนึ่งอยู่แล้วด้วย

แต่ปัจจุบันมี Plug In Hybrid รุ่นไหนที่ทำงานแบบ E-Power ไหมครับ ผมคิดว่าไม่มี (ถ้ามีก็ขออภัยที่ข้อมูลผมน้อยเอง)

Plug In ที่จขกทพูดถึง ก็น่าจะหมายถึง Plug In ที่มีอยู่ในตลาดตอนนี้ ที่ไม่ใช่ แบบ E-Power Plug In ถูกมั้ยครับ (จากการยกตัวอย่างเปรียบเทียบก็เห็นได้ชัดว่าจขกทหมายถึง Plug In แบบไหน)

ดังนั้นจากคำถามของกระทู้ ก็เลยต้องตอบว่า มันไม่ได้เหมือนกันแล้วต่างกันแค่เสียบปลั๊กไม่เสียบปลั๊กไงครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 16, 2023, 14:40:56 โดย wcr »

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,294
    • อีเมล์
คนละแบบนะครับ

ถ้าลดต้นทุน ยกเครื่องยนต์ กับอุปกรณ์ควบเครื่องยนต์ออก ขยายแบตเตอรี่ อาจจะถูกกว่านะครับ

มันเป็น Extended Range EV ครับ

ผมว่ามันคนละจุดประสงค์กัน

HEV ไกล้มากๆ จะไฟฟ้าล้วน มีเครื่องยนต์ทำร่วมด้วยบ่อยๆ

PHEV ไฟฟ้าเพียววิ่งได้ไกลขึ้กว่า HEV นอกนั้นแทบจะเหมือนกันหมด

e-Power เน้น วิ่งไกล้ หรือ ไกล ยังไงก็เครื่องยนต์ปั่นไฟเลี้ยงแบตเตอรี่(เหมือน Accord Hybrid โหมดเครื่องยนต์ปั่นไฟเข้าแบตเตอรี่) แต่ใช้เครื่องตัวเล็ก ประหยัดน้ำมันมากกว่าเอาเครื่องยนต์ปั่นล้อตรงๆ แถมไม่ต้องกังวลเรื่องไฟฟ้าหมด(นอกจากน้ำมันหมด) แต่ก็ไม่ได้ประหยัดเท่า EV

EV อันนี้เข้าใจกันอยู่แล้ว

ออฟไลน์ Smitchanmanon

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 17
    • อีเมล์
ผมว่า เอาเฉพาะการชาร์ตไฟฟ้าเข้าแบ๊ตนะ มันมีคุณสมบัติหลายๆ อย่างทับกันอยู่นะครับ การชาร์ตไฟเข้าแบ๊ตของรถมันมีหลายทาง ทั้งชาร์ตปลั๊ก ทั้งใช้ระบบเบรค หรือจะปั่นไฟจากมอเตอร์ก็แล้วแต่ทางแบรนด์จะใส่เข้าไป ส่วนจะบอกว่า e-power ของนิสสันจะต่างจาก phev เพราะประหยัดไม่ใส่ที่เสียบ ผมกลับมามองว่า เค้าจงใจจะให้รถเค้ามีระบบแค่นั้น เพราะจุดมุ่งหมายเค้าไม่ต้องการให้มาเสียบปลั๊ก ส่วน mx30 rev ก็เป็น e-power ที่เสียบปลั๊ก แต่ต้องเข้าใจอย่างนนะครับว่า ทั้ง e-power และ rev ของ mazda ระบบส่งกำลังมาจากมอเตอร์ไฟฟ้าล้วนๆ ไม่มีจากระบบ ice โดยตรง
2002 - 2009 : Mitsubishi Lancer Cedia 1.8 CVT
2009 - 2015 : Mitsubishi Lancer Evolution VII
2015 - 2017 : Mitsubishi Lancer Evolution IX
2017 - 2023  : Ford Focus MK3 2.0
2023 - Now  : Toyota Altis 1.8 Gr Sport

ออฟไลน์ shando

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,888
ถ้าคิดแบบนี้hybridของโตโยต้าเช่นในpriusหรือcamry hybridไม่เหมือนPHEVกว่าเหรอครับ
- ขับด้วยไฟฟ้าอย่างเดียวโดยไม่ใช้เครื่องยนต์ได้< เหมือนโตโยต้า
- ใช้เครื่องปั่นไฟเข้าแบตได้ < เหมือนโตโยต้า
- เสียบปลักรับไฟจากภายนอกได้อยู่ในที่ไม่มีน้ำมันก็ยังใช้ได้ขับ แบบ BEV <ทำไม่ได้
- ใช้เครื่องช่วยในความเร็วสูง < เหมือนโตโยต้า

e-powerมันเป็น serial hybrid เครื่องปั่นล้อโดยตรงไม่ได้ต้องผ่านแบตกับมอเตอร์อย่างเดียว
ในขณะที่hybridของโต เป็น parallel hybridเครื่องปั่นไฟเข้าแบตได้ ขับล้อโดยตรงได้ มอเตอร์กับเครื่องช่วยกันขับล้อได้

โดยหลักการแล้วPHEV จะเหมือนพวกhybridของโตโยต้าที่เสียบปลั๊กชาร์จได้มากกว่าครับ

ออฟไลน์ MyName

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 8,174
  • I'm............................
Hybrid ธรรมดามันก็มีแบบที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นหลัก เครื่องยนต์ใช้ในความเร็วสูงอยู่นะครับ
อย่าง i-MMD Honda
ผมว่า e-Power ใกล้ i-MMD มากกว่า PHEV อีกครับ
Cars
2022 - Nissan Almera 1.0 Turbo VL
2016 - Mazda 2 1.5XD High Plus L
2008 - Mitsubishi Space Wagon 2.4 GLS Ltd. !User'Review Click here!
1997 - Daihatsu Mira

Motorcycles
2023 - Vespa Sprint S 150 i
2012 - Yamaha Mio 125 GTX