Lexus GS300 บ่งบอกความเป็น "ป๋า" ในตัวคุณ

[joufo]

 

สวัสดีครับ
หัวเรื่องอาจจะเวอร์ไปนิดนึง แต่มีคนบอกผมว่า ขับรถคันนี้แล้ว "แมร่งโคตะระ ป๋า หว่ะ"
ผมเห็นด้วย เพราะว่า ถ้าเปรียบเทียบรถคันนี้ให้เป็นคน ผมว่าคนนี้เป็น ผู้ใหญ่ หัวใจสปอร์ท
อารมประมาณ ป๋า หรือ อาเสี่ย ที่ใจสปอร์ท ไปไหนไปกัน ไม่เคยกั๊ก ไม่เคยอวด ไม่เบ่ง ช่วยเหลือเพื่อนฝูงเต็มที่ ฐานะการเงินมั่นคง  มีแต่ผู้คนนับหน้าถือตา มีคนให้ความเคารพเยอะ ประมาณนั้นครับ

แต่ขับคันนี้แล้ว ต้องเตรียม ธนบัตรย่อยๆ ไว้เยอะหน่อย เอาไว้ ทิป ยาม ตามที่จอดรถต่างๆ ครับ อย่างผมไปสุวรรณภูมิ พี่ยามก็ให้ผมจอดตรงที่พรีเมี่ยม หน้าทางเดินเข้าอาคารเลย ซึ่งปกติ ถ้าขับ Lancer EX มา อย่าหวังจะได้ไปจอดตรงนั้น



ถึงแม้ว่าใกล้จะตกรุ่นเต็มทีแล้วสำหรับ GS300 แต่ผมว่า ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือก สำหรับคนที่คิดจะซื้อ Benz E-Class หรือ BMW ซีรีย์ 5 อย่างน้อยชื่อเสียงของ Toyota ที่ว่ากันว่า อึด ทนไม้ทนมือ ไม่ค่อยเสียง่ายๆ นั้น ก็น่าจะเป็นสิ่งการันตีสำหรับคนที่ต้องซื้อรถมาใช้งานทุกวัน ขาดรถไม่ได้แม้แต่วันเดียว

สำหรับ GS300 นี่ คุณจิมมี่ก็เคยรีวิวแล้ว อยู่ในเว็บนู๊นนน
ต้องรบกวนคุณผู้อ่าน เข้าไปค้นหาเอง ผ่านทาง อากู๋ กูเกิ้ล พิพม์ว่า ทดลองขับ Lexus GS300 ก็จะเจอครับ
ดังนั้น ผมจึงไม่พิพม์รายละเอียดทางเทคนิคต่างๆ ให้อ่านนะครับ (แอบขี้เกียจด้วย อิอิ)


สำหรับ GS300 คันนี้เป็นตัว ไมเนอร์เชนจ์แล้ว รายละเอียดต่างๆ ดูไม่ค่อยต่างจากตัวก่อนไมเนอร์เชนจ์สักเท่าไหร่ แต่พวกของเล่นที่เป็นออพชั่นก็เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เช่นรายละเอียของหน้าจอแสดงผลในรถที่ปรับให้ดูทันสมัยมากขึ้น  แต่กลับเลือกสีสันของหน้าจอแสดงผลตรงกลางได้น้อยลง ของเดิมเลือกได้ 5 สี (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ) แต่ของใหม่ เลือกได้ 2 สี คือสีน้ำเงิน กับสีทอง)





สำหรับคันนี้เป็นรุ่น Top สุด มีมูนรูฟ พร้อมระบบเปิด-ปิด แบบ One Touch พร้อมระบบกันหนีบ  เครื่องยนต์ V6 3.0 ลิตรครับ

[joufo]

เปิดมาภายในก็จะพบออพชั่นต่างๆ มากมาย ผมขอเริ่มจากระบบเครื่องเสียงก่อนก็แล้วกันนะครับ เพราะเป็นออพชั่นที่ผมคาดหวังไว้เป็นอย่างมากสำหรับรถคันนี้
เครื่องเสียงที่ให้มาเป็นของ มาร์ค แอน สเป็นเซอร์ เอ้ย Mark Levinson
มี DVD Changer 6 แผ่น พร้อมเทปคลาสเซท แน่นอนว่าเล่น DVD และ MP3 ได้ด้วย และมีลำโพงมาให้ ถึง 7 ตัวด้วยกันครับ



ที่ผมชอบมากก็คือ ยังมีเทปคลาสเซทให้อยู่ เหมาะสำหรับป๋าๆ ที่สะสมเทปคลาสเซทไว้เยอะๆ ก็สมารถหยิบเอามาฟังในรถได้อย่างสุนทรี  ผมเองก็ได้ลองเอาเทปของ Friday มาฟัง ทำให้คิดถึงวันเก่าๆ ครับ

แต่ ถ้าจะต่อกับเครื่องเล่นเพลงภาพนอก เช่น iPod ก็มีช่อง AUX ให้เสียบ ซ่อนอยู่ตรงกล่องเก็บของตรงกลาง ครับ ไม่ต้องซื้อหา อะเดปเตอร์ที่เป็นคลาสเซทนะครับ

สำหรับ DVD หนังนั้น จะดูได้ก็ต่อเมื่อเข้าเกียร์ P ครับ เหมาะสำหรับป๋าๆ มาแอบดูหนังคนเดียวในรถ จะได้ไม่ต้องไปแย่งทีวีกับคนในบ้าน ฮ่าๆ

แต่ปกติผมก็ไม่ได้ดูอยู่แล้ว เลยเฉยๆ ไม่ต้องไปปลดล๊อกอะไรก็โอเค




ผมค่อนข้างคาดหวังกับระบบเครื่องเสียงของรถคันนี้สูง เพราะผมเคยฟังชุดเครื่องเสียง แมคอินทอร์ช ที่ติดตั้งอยู่ในรถ Subaru Legacy แล้วติดใจมากๆ ก็เลยคิดว่า เล็กซัส ก็คงทำได้ดีไม่แพ้กัน

ผมเอาเพลงโปรดไปฟังหลากหลายศิลปินด้วยกัน ทั้ง
Dolis ซึ่งเป็นวง Jazz ของญี่ปุ่น ซึ่งหลังๆ ก็ปรับมาให้เป็น POP มากหน่อย แต่ก็ยังคงความเป็น Jazz ที่มีไวโอลินเป็นพระเอกไว้

T-Square เป็นวง Fusion Jazz ชื่อดังของญี่ปุ่น สมาชิกในวงก็ระดับป๋าๆ แล้วทั้งนั้น

แล้วก็มีเพลง POP จากฝั่งญี่ปุ่น จนกระทั่ง พี่บอย โกสิยะพงษ์ และ Friday ที่เป็นเทปคลาสเซท

[joufo]

สำหรับผมแล้ว ระบบเสียงยังไม่ได้อย่างที่คาดไว้ แต่เครื่องเสียงชุดนี้ ก็มีข้อดีเยอะ
อย่างการนำลำโพงไปไว้บนคอนโซลหน้ารถ ทำให้มิติเสียง พุ่งมาจากข้างหน้า ไม่ใช่มาจากข้างๆ เหมือนรถทั่วไป เหมือนกับเรานั่งฟังเพลงอยู่ในห้องนั่งเล่นของเรา

ส่วนตัวผมว่าเสียงเบสน้อยไปหน่อย อยากให้เบสชัดเจนมากกว่านี้ ผมว่าแก้ไขได้โดยการไปติด ซับวูฟเฟอร์ เพิ่ม ก็ช่วยได้เยอะแล้ว แต่เดิมๆ เบสก็ออกแนวนุ่มลึก เหมาะสำหรับฟังเพลง Jazz และเพลง POP ทั่วไปอยู่แล้ว หากฟังปกติ ไม่ได้เป็นนักฟังขั้นหูทอง หรือฟังเพลง Classic ที่ต้องการรายละเอียดของเสียงสูง ก็ไม่ต้องไปเปลี่ยน หรือเพิ่มเติมอะไรให้เสียเงินครับ

สำหรับป๋าๆ ที่ชื่นชอบเพลงไทยเก่าๆ หรือเพลงลูกกรุง ผมว่าเครื่องเสียงชุดนี้ใช้ได้เลยครับ ไม่ต้องไปทำอะไรเพิ่มอีกแล้ว ทั้งมิติเสียง และเสียงที่ได้ ผมว่าเพียงพอแล้วครับ


แต่ ก็มีเรื่องชวนประหลาดใจว่า Lexus GS300 คันนี้เป็น รถญี่ปุ่นแท้ๆ ประกอบญี่ปุ่นแท้ๆ แต่ทำไม อ่าน Font ภาษาญี่ปุ่นไม่ได้
ผมไรท์แผ่น MP3 โดยมีชื่อไฟล์เป็นภาษาญี่ปุ่น ก็โชว์ออกมาแต่ตัวเลข แต่ชื่อไฟล์ไม่โชว์ซะอย่างนั้น รถญี่ปุ่น แต่ไม่ ซัพพอร์ทภาษาญี่ปุ่นนี่นะ!  ถ้าประกอบไทยผมก็จะไม่บ่น แต่นี่ประกอบญี่ปุ่นด้วย เป็นอะไรที่ แปลกดีเหมือนกัน



และการเซทติ้งของเครื่องเสียง ก็ทำได้แค่อย่างที่เห็นในภาพครับ



ส่วนเรื่องดูหนังนั้น ผมไม่ได้ลองครับ เลยไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร
แต่ในเมนูการตั้งค่าของเครื่องเสียง สามารถเปิดระบบ Surround ได้ครับ ผมว่าระบบนี้ ไม่เหมาะกับการฟังเพลงนะครับ แต่ถ้าดูหนังคงจะใช้ได้

สรุปแล้ว สำหรับเครื่องเสียง ยังไงซะ แมคอินทอร์ช ใน ซูบารุ เลกาซี่ ยังดีกว่าเยอะครับ แต่สำหรับ GS300 แล้ว ผมว่า เพิ่มซับฯ อีกตัวเดียว ก็ใช้ได้แล้วครับ

[YIM]

สวยจัง น่าอิจฉาครับ ชาวบ้านเขาขับ 5-series/E-Class เราก็แหวกแนวไปเลย เท่ห์ดีครับ

แต่ยอมรับว่า Lexus ช่วงหลังปี 2004 นี่มันจะออกแนวภูมิฐานเสียเป็นส่วนมาก

[joufo]

ไหนๆ ก็พูดถึงจอแล้ว จอตรงกลางนี่ เป็นศูนย์รวมของการแสดงผลหลายๆ อย่างครับ
ตั้งแต่ บลูทูช ระบบ Info ต่างๆ ของตัวรถ   และระบบช่วยจอด
จอเป็นแบบ Touch Screen และมีปุ่มกดอยู่ข้างๆ เพื่อเลือกการแสดงผลของหน้าจอว่าจะให้แสดงอะไร ซึ่งผมว่าสะดวกดีครับ อยากดูอะไรก็กดได้เลย
เมนูก็ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน อยากเซทอะไรก็กดเข้าไปได้ง่ายๆ ไม่เสียเวลาครับ

(ทำให้ผมคิดว่าระบบ iDrive ของ BMW นี่ออกแบบมาสำหรับคนว่างงานชัดๆ กว่าจะเซทอะไรได้ที หมุนแล้วหมุอีก กดแล้วกดอีก กดผิดก็ดันออกมาหมด ต้องกดเข้าไปใหม่ ซะอย่างนั้น)

แต่ผมว่า Lexus ก็เล่นง่ายไปหน่อย อย่างการ โชว์ Info ของรถ ก็ไม่ได้โชว์อะไรเลย นอกไปจากอัตราการกินน้ำมันแบบ Realtime  ระยะทางที่วิ่งไป ความเร็วเฉลี่ย และระยะทางที่เราตั้ง Trip ไว้
ซึ่ง มันก็ซ้ำกับบนหน้าปัด เรือนไมล์ ที่บอกความเร็วรถนั่นแหละครับ แล้วจะมีบอกซ้ำอีกทำไม ผมก็ไม่เข้าใจ จะให้ผู้โดยสารดูรึ? หรือว่าสำหรับคนที่ชอบดูหลายๆ อย่างพร้อมๆ กัน
แต่ก็ไม่สะดวกอีก เพราะจออยู่ตรงกลางรถ ต้องเหลือบไปดู ขืนดูบ่อยๆ ไม่ดูถนน ก็ขับรถตกถนนกันพอดี



แต่ข้อดีก็มีอยู่คือ เราสามารถตั้ง Trip ได้ถึง 3 Tirp เลยครับ คือ A และ B จากบนเรือนไมล์ และ จากหน้า Info ของจอแสดงผลตรงกลาง

แต่ผมว่า รถคันละ 5 ล้านเนี่ย น่าจะปรับแต่งลูกเล่นต่างๆ ของรถได้แล้วนะครับ อย่างสั่งให้เปิดไฟในห้องโดยสารค้างไว้กี่นาที  หรือ เวลาปลดล๊อคประตู ให้ปลดทุกบาน หรือเฉพาะด้านคนขับ
เอาง่ายๆ ถ้าปรับแต่งได้อย่าง Benz E-Class จะดีมากครับ
หรืออย่างน้อย ก็น่าจะมีบอกลมยางแบบ Realtime ก็น่าจะดี

สำหรับรถราคานี้แล้ว แต่ปรับแต่ง และควบคุมการทำงาน ออพชั่น ต่างๆ ภายในรถไม่ได้ ผมว่าก็ค่อนข้างแย่ครับ
แต่ ก็ว่าได้ไม่เต็มปาก เพราะโมเดลนี้ออกมานาน จนใกล้จะตกรุ่นแล้ว ในขณะที่คู่แข่งเค้าเปลี่ยนโฉมกันไปหมดแล้ว
การที่จะเห็นการปรับปรุงอะไร คงต้องดูกันโฉมต่อไปครับ


เมื่อสตาร์ทรถ หน้าจอจะแสดงโลโก้ Lexus ก่อนครับ

[joufo]

ต่อมาในส่วนของ บลูทูช ก็ใช้งานได้ดีครับ อีกทั้งยังสามารถโหลด เบอร์โทรศัพท์ที่เราเมมไว้ในเครื่อง มาใส่ได้อีกต่างหาก เสียงก็ฟังชัดเจน ปลายทางก็รับฟังได้ชัดเจนดีครับ
หลังจาก Pair กับโทรศัพท์แล้ว ถ้าโทรศัพท์เราเปิด บลูทูช ทิ้งไว้ตลอดเวลา
เวลาเข้ามาในรถ แล้วเปิดระบบไฟของรถ ก็จะเชื่อมต่อให้อัตโนมัติ โดยไม่ต้องไป Pair ให้เสียเวลาครับ

ส่วนระบบแอร์ก็เป็นแบบ Climate Control แอร์เย็นเร็วสะใจ ตามสไตล์ Toyota และสามารถปรับแยกฝั่ง พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลังครับ
รวมทั้งยังมีระบบ เป่าตรูด ที่เลือกได้ว่าจะเอาไอร้อน หรือไอเย็น
ผมทดลองแล้ว ไม่ค่อยเวิร์ค เพราะถ้าเป่าลมเย็น ผมว่ามันหลอนๆ เหมือนกางเกงเปียกครับ

แต่อุ่นเบาะ นี่ผมว่า ถ้าขับรถไปเที่ยวภาคเหนือหน้าหนาวคงได้ใช้ เพราะเบาะอุ่นๆ มันนั่งสบายกว่าเบาะเย็นๆ ราวกับนั่งบนน้ำแข็งจริงๆ ครับ

ภายในก็จะซ่อนปุ่มต่างๆ ไว้ ซึ่งผมว่าก็ดี เพราะมันเป็นระเบียบดี แต่ไม่สะดวกเอาซะเลย



บรรยากาศยามค่ำคืนก็จะเป็นประมาณนี้ครับ
หลอดไฟภายในห้องโดยสารเป็นแสงสีขาวนวล แต่ไม่ใช่ LED ครับ

[joufo]

การขับขี่
การขับขี่นั้น ผมรู้สึกว่า ในย่านความเร็วสูงรถมั่นคงดี เครื่องยนต์ตอบสนองได้ดีมากครับ  ส่วนเรื่องอัตราเร่งแบบละเอียดนั้น แนะนำให้ดูรีวิวของคุณจิมมี่ครับ
ส่วนตัวผมแล้ว เรื่อง Performance ของรถหายห่วงเลย เร่งแซงได้ทันใจ เกาะถนนในย่านความเร็วสูง ผมจะอธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมนะครับ



ระบบเกียร์
ถ้าผลักเกียร์มาตำแหน่ง S ก็จะสามารถเปลี่ยนเกียร์เองได้ ข้อสังเกตุคือ เวลาขับที่ความเร็วช้าๆ สัก 40-60 เวลาผลักเกียร์มาที่ S เกียร์จะอยู่ที่เกียร์ 4 เสมอ
บางครั้ง เราผลักมาที่ S เพื่อต้องการอัตราเร่ง ให้เร่งรถไปอย่างรวดเร็ว
แต่มาติดที่เกียร์ 4 ทำให้ต้องเสียเวลาลดเกียร์ เพื่อเรียก Touqe ของเครื่องยนต์อีก
ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายครับ ความจริงแล้ว ถ้าผลักมา S รถก็ควรจะตอบสนอง โดยการลดเกียร์ต่ำเพื่อเรียก Touqe จากเครื่องยนต์ให้เลย
การใช้เกียร์ + / -  มีการ Delay ช่วงเปลี่ยนเกียร์นิดหน่อย ผมว่าก็ยังเป็นนิสัยเดิมๆ ของ Toyota คือ ขอคิดก่อนสักแป๊บว่า ควรจะทำยังไงดี แม้แต่คันเร่งก็เป็นด้วย กดคันเร่งจนติดเหล็กแล้ว รถก็ยังมีอาการขอคิดดูก่อน
แต่ผมกลับไม่หงุดหงิดแฮะ (หรือชินแล้วก็ไม่รู้)


สรุปแล้วเรื่องพละกำลังของเครื่องยนต์ หายห่วง แต่ขอเกียร์ฉลาดกว่านี้นิดนึง

[joufo]

ช่วงล่าง
ได้ยินเขาว่ากันว่า ตัวก่อนไมเนอร์เชนจ์มีอาการย้วยมากเกินไป แต่ตัวนี้ ไม่มีอาการนั้นแล้วครับ การชับขี่ ในเมืองปกติ ถึงแม้ว่า จะเก็บรายละเอียดของถนนขึ้นมาบนห้องโดยสารของรถได้อย่างครบถ้วน แต่ก็ไม่รู้สึกกระด้าง หรืออึดอัด
การขับบนถนนย่านทองหล่อ สุขุมวิท ที่ราวกับว่าอยู่บนดาวอังคารนั้น ถือว่าใช้ได้ สำหรับคนขับรถ แต่คนนั่งอาจจะนั่งไม่สนุก เพราะตัวรถนั้น เก็บมาทุกรายละเอียดของถนนจริงๆ
ไม่ได้เข้ามาแบบดิบๆ แบบว่า ถนนเป็นยังไงก็สื่อออกมาอย่างนั้น แต่มาแบบ Absorb ไว้ให้แล้ว แต่ก็ปล่อยมาให้คนขับรู้ว่า ‘ขับรถผ่านหลุมอยู่นะเฮีย’

ถ้ากดปุ่มปรับช่วงล่างให้เป็นแบบ Sport จะทำให้ช่วงล่างแข็งขึ้น เกาะถนนในย่านความเร็วสูงมากขึ้น และจะถูกคนนั่งด่ามากยึ่งขึ้น
แต่ก็ไม่ได้ถึงกับแข็งโป๊ก แต่แข็งเหมือนกับเอาช่วงล่างเดิมๆ ไปเปลี่ยนเป็นล้อ 19 นิ้วมาครับ




ส่วนเรื่องการเข้าโค้ง ผมไปทดลองที่โค้งตัว S ทางเข้าสนามบินสุวรรณภูมิเช่นเดิม
ถือว่าทำได้ดี แต่จะออกอาการ “ย้วย” ให้เห็น เมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ด้วยความที่รถมีขนาดใหญ่ ทำให้การเข้าโค้งแรงๆ นั้น ดูฝืนรถมากเกินไป
แต่ทุกอย่างก็อยู่ในการควบคุม ซึ่งควบคุมค่อนข้างง่าย เพราะมีระบบ กันลื่นไถลช่วย และยังได้ยางดีๆ จาก Yokohama อีกต่างหาก

ถ้าปรับเป็นแบบ Sport การเข้าโค้งก็จะยิ่งสนุกขึ้น
แต่ผมว่ายังเข้าโค้งได้ไม่คมพอ ยังสั่งการไม่ได้ดั่งใจสักเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะรถมีขนาดใหญ่ และไม่ได้ออกแบบมาให้คนบ้าโค้ง เจอโค้งไม่มีเบรคอย่างผมอยู่แล้ว
สำหรับผมแล้ว ผมว่าแค่ปรับช่วงล่างให้เป็น Mode Sport ก็เพียงพอแล้ว

สรุปแล้ว ช่วงล่าง ผมว่าเอาใจคนขับมากกว่าคนนั่ง  เหมาะสำหรับป๋า ที่รักการขับรถ ขับสบายในเมือง หรือจะขับสนุก ก็พอไหว
แต่ถ้าได้ช่วงล่างดีกว่านี้ หนึบกว่านี้ หน่อย ผมว่าจะเป็นรถที่ขับสนุกมากกว่านี้ เพราะพละกำลังเครื่องมีมากมาย แต่ผมรู้สึกว่า บางสถานการณ์ กำลังเครื่องมีเยอะเกินไป จนช่วงล่างรับไม่ไหว

[joufo]

พวงมาลัย
พวงมาลัยนั้น เซทมาให้เบาในความเร็วต่ำ แต่ย่านความเร็วสูงมีอาการแปลกๆ ครับ
แทนที่ช่วงความเร็วสูงพวงมาลัยจะหนัก และมีระยะฟรีน้อย แต่ GS300 คันนี้ไม่เป็นอย่างนั้นครับ
พวงมาลัยก็ยังคงเบาเหมือนตอนขับช้าๆ แถมมีระยะฟรีเยอะ
แต่ถ้าได้หักพวงมาลัยเข้าโค้ง พวงมาลัยกลับหนักขึ้นมาซะอย่างนั้น




ช่วงล่างเกาะถนนนี่ หมดประโยชน์ในทันใด เพราะน้ำหนักพวงมาลัยไม่ดี ทำให้การขับรถให้ย่านความเร็วสูงต้องมีสมาธิมากขึ้น  มันทำให้โดนหลอกว่า รถไม่ค่อยเกาะถนนครับ
แต่ถ้าขับสัก 140 นี่ ก็ยังสามารถขับมือเดียวได้ รถก็ยังวิ่งไปตรงๆ ไม่มีอาการใดๆ ออกมาให้เห็น แต่ด้วยน้ำหนักพวกมาลัยไม่ค่อยดี มันก็เลยหลอนๆ ครับว่ารถไม่เกาะถนน ทั้งๆ ที่รถมันก็มั่นคงของมันอยู่อย่างนั้น

สรุปแล้ว น้ำหนักพวงมาลัยยังไม่ดีพอครับ เมื่อเป็นอย่างนี้ทำความ Enjoy ในการขับขี่ลดลง

อัตราการกินน้ำมัน
แน่นอนครับ ซื้อรถราคานี้แล้ว จะกลัวอะไรเรื่องกินน้ำมัน เพราะมันกินแน่ๆ ครับ เติมน้ำมันแก๊ซโซฮอล์ 95 1,000 บาท จะได้ประมาณครึ่งถัง (ก็ถังน้ำมันใหญ่พอๆ กับ รถกระบะ แบบที่พี่จิมมี่บอกไว้เลยครับ)
1,000 บาทนี้ขับในเมือง ก็จะวิ่งได้ประมาณ 250~300 กิโลเมตร แล้วแต่ว่าจะขับยังไง สภาพถนนเป็นอย่างไรครับ ส่วนขับทางไกลไม่ทราบครับ แต่ถ้าขับที่ 120 คงที่ จะกินน้ำมัน 10 กิโลเมตรต่อลิตร ตามที่หน้าปัดในรถบอกครับ

ส่วนมาตรวัดอัตรากินน้ำมันแบบ Real Time ผมดูแล้ว หลอนๆ ครับ
เพราะ GS300 จะเป็นแบบ Litres/100KM  แต่ใน Lancer EX ของผม จะเป็น KM/Litres
ใน GS300 บาร์ยิ่งสั้น ยิ่งประหยัด ใน Lancer EX ยิ่งยาว ยิ่งประหยัด

สำหรับผม สับสนเล็กน้อย เนื่องจากชินกับ Lancer EX ครับ

[joufo]

ในส่วนของที่นั่ง ทั้งคนขับและผู้โดยสาร
ตำแหน่งที่นั่งนั้น Perfect ครับ เหมือนนั่งโซฟาชั้นดีอยู่ในบ้าน เบาะหนังก็นุ่มใช้ได้ตำแหน่งการวางแขนก็ใช้ได้
ส่วนตัวแล้วผมชอบการวางต่ำแหน่งที่นั่งอย่าง Toyota ทำอยู่ เพราะเราสามารถวางแขนได้สบาย ตำแหน่งก็กำลังดี ไม่สูงเกิน ไม่เตี้ยเกิน เหมาะสำหรับการขับรถแบบสบายๆ ฟังเพลงเพราะๆ ไปเรื่อยๆ มากครับ

แต่เบาะนั่งนั้นก็เป็นนิสัยของ Toyota อีกนั่นแหละ คือ ช่วงรองขาสั้นเกินไป นั่งได้แป๊บเดียวก็เมื่อยแล้วครับ สำหรับผมที่เป็นคนขายาว จะปรับเบาะ ปรับพวงมาลัยยังไงก็เมื่อยขา
ตำแหน่งหนะดีแล้ว แต่เบาะสั้นไป ถ้าเปลี่ยนเบาะให้มีที่รองขายาวกว่านี้  ผมว่าเป็นรถที่ขับสบายคันนึงเลยหละครับ



ส่วนของผู้โดยสารด้านหลังนั้น ผมว่า เหมือนนั่ง Camry เวอร์ชั่นหรู ที่มีเบาะหนังนุ่มๆ ครับ
ตำแหน่งการวางแขนใช้ได้ การรองรับแผ่นหลังใช้ได้ แต่ที่รองขาก็สั้นไปหน่อย
แถมถ้าผมเป็นคนนั่งซะเอง หัวก็ติดหลังคาครับ ถ้าคนขับรถชับตกหลุมนี่ สงสัยจะคอเคล็ดได้
ถ้ารถคันนี้จะเป็นรถ สำหรับผู้บริหารที่มีคนขับให้ ผมถือว่าสอบตกครับ

โอเค เบาะนั่งสบายแต่ว่า ดูคับแคบไปนิด แถมหัวก็ติดหลังคา ถ้าเทียบกับคู่แข่งแล้ว ของคู่แข่งเบาะหลังทำได้ดีกว่านี้เยอะ หรือแม้แต่ Camry เองก็ยังดูโปร่งกว่าอีก
นี่ถ้า Camry ได้เบาะหนังเกรดเดียวกับ GS300 ผมว่า GS300 ตกกระป๋องเรื่องเบาะหลังเลยหละครับ


สำหรับบรรยากาศภายในห้องโดยสาร ผมว่าดูเอาใจคนขับดีครับ  แต่ก็แปลกใจเบาะปรับไฟฟ้าด้านคนขับ ที่มี เมมโมรี่ให้ 3 อัน แต่ว่า ทุกครั้งที่ขึ้นรถ  ตำแหน่งเบาะจะไม่เหมือนเดิมกับที่เราปรับไว้ ต้องมากดเกือบทุกครั้งครับ
ไม่รู้ว่าเป็นคันนี้คันเดียวรึเปล่านะครับ

[joufo]

สรุปโดยรวม
ผมว่ารถคันนี้ถ้าจะพูดว่า มันคือ Toyota เวอร์ชั่นหรู ก็พูดได้อย่างเต็มปาก เพราะการขับขี่นั้น ยังไงก็มีนิสัยของ Toyota อยู่หลายๆ อย่าง หรือแม้แต่อุปกรณ์ และวัสดุภายในห้องโดยสาร

อย่างก้านไฟเลี้ยว หรือปุ่มกดอื่นๆ มันก็เป็นโตโยต้าชัดๆ
ก้านไฟเลี้ยวนั้น ผมว่าน่าจะปรับความรู้สึกสักหน่อย ให้นุ่มนวลสมเป็นรถหรูมากกว่านี้ อันนี้แข็งๆ เหมือนกับของ Camry




เบาะนั่งที่มีที่รองขาสั้นไป ก็ทำให้นึกถึงรถของ Toyota เกือบทุกรุ่นที่ขายเมืองไทย ก็เป็นแบบนี้

ลายไม้ที่ดูแล้ว เหมือนกับเกรดเดียวกับ Camry เลย น่าจะให้เกรดดีกว่านี้ (หรือจริงๆ แล้วเกรดดีกว่า แต่ดูด้วยตาเปล่า มันหลอกตาว่าเป็นเกรดต่ำก็ได้มั้งครับ อันนี้ไม่ทราบจริงๆ)

ความเป็น รถพรีเมี่ยม ก็ต้องหมดไปด้วยรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างที่ผมกล่าวไว้
ถ้า Lexus ใส่ใจรายละเอียดมากยิ่งขึ้น ทำรถให้สมกับเป็นรถพรีเมี่ยมจริงๆ ก็จะน่าใช้กว่านี้ แต่ผมว่า เหมือน จะลดต้นทุนมากเกินไป




สำหรับการขับขี่ สำหรับผมที่ยังเป็น วัยสะรุ่น ไม่กลัวโค้ง ผมกลับชอบ Lancer EX ของผมมากกว่า เพราะเข้าโค้งได้แม่นกว่า และพวงมาลัยคมกว่า ผมยังคิดเลยว่า ถ้า Lancer EX ของผม นุ่มและเงียบได้เท่า GS300 นี่ จะเป็นรถที่ Perfect สำหรับผมเลยทีเดียว
(จะมีรุ่นไหน เอาข้อดีของสองคันนี้มารวมกันมั่งมั๊ยเนี่ย ฮ่าๆ)

แต่ถ้าถามว่าคันไหนขับสบายกว่า (ถ้าไม่นับว่าคันไหนแพงกว่า หรูกว่า)  ผมเลือก GS300 อย่างไม่ลังเล
และถ้าขับทางไกล อย่างไปหัวหินหรือเชียงใหม่ ผมก็เลือก GS300
ผมจะเลือก Lancer EX ก็เฉพาะ ขับบนถนนที่มีโค้งเยอะๆ เท่านั้น
นี่เป็นมุมมองของผมเอง ในฐานะที่ผมยังเป็น วัยสะรุ่น ไม่กลัวโค้งนะครับ
แต่ถ้าผมมีอายุมากกว่านี้ ผมคงจับเจ้า GS300 ไปอัพเกรดช่วงล่าง แทนที่จะเอา Lancer EX ไปแปลงเป็น EVO 10 ครับ

[joufo]

แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีความดีความชอบอยู่ไม่น้อยครับ
ทั้งภาพลักษณ์ของตัวรถ ที่ยังไงซะ ขับไปไหนสาวๆ ก็มอง ยามให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ (แต่ยังไง ก็ไม่เท่า Benz)
พละกำลังของเครื่องยนต์ที่หายห่วง
การขับขี่ที่ขับสบายในเมือง และวิ่งทางไกล (แต่จะเมื่อยขา )
เครื่องเสียงชั้นดีที่ไม่ต้องไปทำอะไรเพิ่มก็ได้
ความเงียบของห้องโดยสาร ถึงแม้ว่าถ้าขับสัก 140 ขึ้นไปจะได้ยินเสียงลมเข้ามา แต่เสียงก็น้อยมากครับ
ผมว่ารถคันนี้  ขับขี่ได้อย่างสุนทรี หากวิ่งทางไกลใช้ความเร็วสัก 120~140 เปิดเพลงเพราะๆ ฟังไปเรื่อยๆ
หรือขับในเมืองรถติดๆ ก็ยังมีเพลงเพราะๆ แอร์เย็นๆ



ในบรรดาคู่แข่งทั้งหมด รู้สึกว่าจะมีแค่ GS300 ที่มี ซันรูฟให้นะครับ

แล้วเรื่องศูนย์บริการก็หายห่วง
หากขับรถไปต่างจังหวัด ศูนย์ Toyota ก็สามารถดูแลได้
หรือเอารถไปใช้ที่ต่างจังหวัด ศูนย์ Toyota สามารถบำรุงรักษารถตามระยะทางให้ได้เลย

ถ้าเป็นหัวเมืองใหญ่ๆ ใน ศูนย์ Toyota จะมี Lexus Corner อยู่ ช่างที่นั่นก็สามาถซ่อมได้ทุกอาการครับ
แต่ถ้า ศูนย์ Toyota ซ่อมไม่ได้ เค้าก็จะส่งรถกลับมาศูนย์  Lexus ที่กรุงเทพให้
ฟรี (รึเปล่า ก็ไม่รู้นะครับ แต่เซลบอกว่า ฟรี อย่างน้อยก็ในช่วงรับประกันหละครับ)



ด้วยราคาเท่านี้ ผมติดอย่างเดียวตรงที่ ยังมีความเป็น Toyota มากเกินไป เหมือนกับขับ Camry 3.5Q เวอร์ชั่นหรูกว่า ซะมากกว่า


ถ้าจะให้พูดกันตรงๆ โดยส่วนตัวผม ผมคิดว่า ถ้าไม่ได้รักกันจริงๆ รถจากค่ายยุโรป น่าจะคุ้มค่ากว่า 
แต่ถ้าต้องการรถที่ใช้ในชีวิตประจำวันได้ทุกวัน ไปไหนไปกัน แล้วต้องการรถที่ไว้ใจได้ว่า จะไม่ไปเสียกลางทาง พาเราไปถึงจุดหมายปลายทางแน่นอน  ระบบไฟฟ้าไม่รวน อย่างขับๆ ไป กระจกเปิดเอง (ผมเจอมาใน BMW 318Ia SE ของรุ่นน้อง) หรืออยู่ๆ ซันรูฟก็เปิดเองตอนฝนตก (ผมเจอใน ซีตรอง C5 ของรุ่นพี่)
หรือจะลงจากบ้าน แล้วระบบไฟฟ้าเสีย ทุกอย่างล๊อคหมด แม้แต่เบรคมือ ก็ยังเป็นไฟฟ้า ทำอะไรไม่ได้ (อันนี้ก็เจอในBMW ซีรีย์ 7)
ผมว่า Lexus GS300 คันนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ดี ถึงแม้ว่าจะแพงกว่าชาวบ้านเค้าก็ตามครับ








รูปนี้ถ่ายคู่กับ IS250 ที่บังเอิญมาจอดข้างๆ กันพอดีครับ



**
บทความนี้ สงวนลิขสิทธิ์ ทั้งรูปภาพและบทความ และข้อความทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล

[joufo]

จบแล้วครับ
เชิญแสดงความคิดเห็นได้ตามสบายนะครับ
อะไรขาดตกบกพร่องไปก็บอกได้ครับ

เผอิญช่วงนี้ดันงานเยอะ เลยยังไม่มีเวลาตรวจทาน ขอเอาลงให้อ่านก่อนนะครับ
ส่วนรูปก็ไม่ค่อยมีเวลาทำ เลยเอามาแค่ปรับแสงสี ลดขนาดเฉยๆ ครับ

 

[team]

ขอบคุณครับสำหรับรีวิว Lexus ตัวนี้ รถสวยครับ อธิบายความรู้สึกขณะขับขี่ได้ดีจังเลย....
ยังไงซะก็สวยกว่า toyota เยอะแยะ

[SP]

รถสวยมากเลยครับ ผมว่ามันก็ดูดีตามสไตล์รถญี่ปุ่นนั่นแหละครับ

[Qvixote]

Thx a lot krab 

[TTL]

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ

รถสวยมากเลยครับ ผมเคยมีโอกาสแค่นั่งของพ่อเพื่อนยังไม่เคยได้ลองขับเลยครับแต่จากการได้ลองเล่นเครื่องเสียงของGS300ต้องบอกเลยว่าเสียงเข้าเทพ

มากๆๆๆ ต้องยกให้เขาเลย   

[methus zaa]

โห พี่ รถพี่เองเลยหรือเปล่าครับเนี่ย น่าอิจฉามาก ใจป้ำมากกก เลย แต่ถ้าผมมีเงินห้าล้านผมซื้อเจ้านี่แหละที่สุดแห่งที่สุดของยนตรกรรมหรูแระ ส่วนเครื่องเสียงอันนี้เห็นด้วยเลยครับ ผมเคยลองนั่งดู เปิดแอร์ ฟังเพลงอีก ฟังแล้วเสียงนุ่มนวล มีมิติ เหมือนอยู่ในห้องอัดเลยครับ
ออๆ ถามพี่นิดนึงครับว่าตัวท็อปสุดนี้มันมีnavigatorไหมครับ เพราะผมดูในเวปมันบอกว่ามี

[The Relentless Pursuit of Perfection]

ขอชมว่าภาพสวย...มากครับ แล้วก็คิดว่าเจ้าของกระทู้ก็น่าจะน่ารักตามรถด้วย งุงิ

[HIGHSEA]

ขอบคุณครับสำหรับ Realtime รีวิว คนทำก็รีบแบ่งเวลางานมาทำ คนอ่านก็อยากอ่านเร็วๆ 5555+
ราคาขนาดนี้กลับเลือก Lexus ซึ่งออกมานานแล้ว มันอยู่ที่คนชอบจริงๆเลยครับรถเนี่ย แต่ละคน
ก็มีเหตุผลของตัวเอง ขอให้มีความสุขกับรถใหม่นะครับ

[AVANTGARDe']

ขอบคุณคร้าบ อยากบอกว่าตอนดูแต่ละรูปก็นั่งหาลายน้ำของ จขกท. ไปด้วย สนุกดี อิอิ

[keng.]

รถสวยมากเลยครับ ที่บ้านเคยจะออก IS250 เหมือนกัน
แต่ถูกยุติไป เพราะความรู้สึกที่ว่ามันเหมือน Toyota ไฮโซ!
สุดท้ายได้ Teana V6 มาซะงั้น

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ

[udis]

ขอบคุณคร้าบ อยากบอกว่าตอนดูแต่ละรูปก็นั่งหาลายน้ำของ จขกท. ไปด้วย สนุกดี อิอิ

เหมือนกันเลยคครับ

รถสวย ลงตัวไปเกือบทุกอย่าง คงเหมาะกับป๋าจริงๆครับ ผมคงไม่เหมาะครับ
 

แอบเห็นมีเซนเซอร์หน้าคนเดินถนนด้วยครับ อะไรจะละเอียดปานนั้นครับ
อยากถามว่าไฟหน้าเป็นแบบไหนครับ ปรับสูงต่ำได้ไหม Bi-Xenon ไหมครับ มี AFS ไหมครับ
 
อ้อ ถ่ายรูปสวยดีครับ ใช้กล้องกับเลนส์อะไรครับ

[!LiLo!]

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ สาวกLexusเหมือนกันเลยครับ
ส่วนลายไม้ผมว่าคุณโดนสีของมันหลอกตาแล้วแหละครับ เพราะสีเดียวLS460[พ่อ]ผมแหละครับ=_=" อ้ามีคำถามนิสสนึงครับ
เอ่อGSนี้เบาะหลังปรับเอนไม่ได้หรือครับ??ผทว่าถ้าไม่มีแอบเสียดายเหมือนกันเพราะขนาดToyota crownยังมี(เอ๊ะหรือรุ่นใหม่ไม่มีแล้ว??)

ป.ล.รถสวยมากครับ พอภายในสีดำนี่คนละ บรรยากาศคนละแบบเลย
ป.ล.2 ทำไมLSฉ๋านนนไม่มีมูนลูฟฟฟ!!!!!!

[methus zaa]

ไม่ใช่รุ่นท็อปไงครับ ตั้ง 11 ล้าน 55

[joufo]

ขอบคุณมากครับผม

คันนี้เป็นรุ่น Top ครับ ไม่มี Navigator ไฟหน้าเป็นแบบ Bi Xenon พร้อมระบบ AFS ครับ แล้วก็เบาะหลังเอนไม่ได้ครับ


และจริงๆ คันนี้ไม่ใช่รถของผมหรอกครับ
ที่ไม่ได้บอกในรีวิวเลย เพราะกลัวว่า มันจะผิดกาลเทศะ หรือดูว่าเป็นโฆษณาแฝงรึเปล่า
(แต่คุณจิมมี่โอเคแล้วครับ ผมจึงมาพิมพ์เป็นข้อมูลเพิ่มเติมให้ทุกท่านทราบครับ)

รถคันนี้ทาง Lexus Auto City ให้มาทดลองใช้งาน 1 วันเต็มๆ ครับ
เนื่องจากบริษัทของท่านพ่อผม กำลังหารถใช้งาน รับส่ง ลูกค้าอยู่
ก็เลยมองรถในกลุ่มนี้แทนที่รถคันเก่า ซึ่งอยู่ในกลุ่มนี้เหมือนกัน (แต่ไม่ได้เป็นกลุ่ม พรีเมี่ยม)

(จะพูดให้งงทำไม จริงๆ หารถมาแทน Camry 2.0G ที่ใช้วิ่งงานอยู่เป็นประจำครับ
ที่เลือกเป็นกลุ่มพรีเมี่ยมเลย เพราะต้องการเอาใจลูกค้าครับ)

ซึ่งยังเลือกไม่ได้ว่า จะเอารถยุโรป หรือ จะ Lexus ดี

จะเห็นได้ว่า ในรีวิว ผมจะเน้นที่นั่งเบาะหลังด้วย
ผมเองก็ให้คนขับรถที่บริษัทขับ และลองนั่งด้วยแล้ว ก็เป็นไปตามที่ในรีวิวบอกครับ

เนื่องจากผมเองได้รับมอบหมายให้เป็นคนตัดสินใจว่าจะเอาคันไหน
เลยมีหน้าที่เอารถไปทดลองขับ และใช้งานจริง
และต้องนำข้อมูล กลับไปนำเสนอผู้ใหญ่ในบริษัท
แถมยังต้องถ่ายรูปไปให้เค้าดูด้วยว่าเป็นอย่างไร


ก็เลยว่า ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เอามารีวิวให้อ่านกันเลยครับ
เพราะยังไงก็ต้องทำข้อมูลเสนอผู้ใหญ่อยู่แล้ว
(พูดเหมือนบริษัทใหญ่โต แต่จริงๆ ก็แค่เปิดรูปให้ดูเฉยๆ นั่นแหละครับว่าผู้ใหญ่เค้าจะชอบรึเปล่า ถ้าเอาคันนี้มาวิ่งงานบริษัท   )


หลังจากที่ผมได้ไปดูรถที่โชว์รูม และบอกความต้องการให้พนักงานขายทราบ
เค้าเลยเสนอให้ เอารถไปทดลองใช้งาน เพื่อที่จะได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นครับ


ความจริงแล้ว ผมได้ทดลอง RX270 ไปแล้ว และก็เอาไปลองใช้วิ่งงานจริงๆ
แต่ว่าตอนนั้น ขับแค่ระยะสั้นๆ และไม่ได้ถ่ายรูปไว้ ยังจับความรู้สึกไม่ค่อยได้สักเท่าไหร่
ก็เลยไม่เอามาทำรีวิวครับ ได้แต่เอาความรู้สึกที่ได้ลองขับไปบอกกับคนในบริษัท



ถึงแม้ว่าจะได้รถมาใช้ 1 วันเต็มๆ
แต่ผมก็เอาไปวิ่งงานจริงๆ คือ ใช้แทนรถที่ใช้อยู่ประจำเลย เลยทำให้มีข้อมูลมากพอที่จะนำมารีวิวให้อ่านกันครับ
เพราะหลังจากที่วิ่งงานเสร็จแล้ว ผมก็มีเวลาอีกเหลือเฟือ ที่จะทดลองรถคันนี้ครับ
ก็มีเวลาเหลือ จนชวนเพื่อนมาลองนั่งไปหาข้าวเย็นทานด้วยกันหละครับ


สำหรับ Lexus นี่ ผมชอบเบาะหนังมากๆ ครับ นุ่มสบายสุดแล้ว
LS ยิ่งนุ่มครับ

แต่สรุปสุดท้ายจะซื้ออะไร ก็ยังไม่รู้ครับ
ยังไม่ได้ลอง BMW ซี่รีย์ 5 เลย
แต่ตอนนี้ก็มีรถในใจแล้วครับ  

---------
สำหรับรูป บางภาพผมก็ลืมใส่ลายน้ำครับ แต่ก็ช่างมันเถอะ
กล้องที่ผมใช้ก็ Canon EOS 30D เลนส์ Canon 10-22mm. ครับ
ถ้าถ่ายที่ 10mm มันจะดูหลอกตาหน่อยๆ ครับ (หลอกตาว่ามันกว้างเกินจริง)

[car mood]

ขอบคุณครับสำหรับรีวิวแจ่มๆ

ผมมีความเห็นคล้ายคุณ joufo มากเลยครับ  ว่ามันยังสู้เจ้าตลาดไม่ได้  (เพราะ toyota way นั่นเอง) 

ผมเคยได้ลองขับ ลองนั่งอยู่ช่วงหนึ่ง  คือ ชอบเครื่องยนต์มาก  ชอบออบชั่นเล็กๆน้อยๆที่ให้มา ชอบความประณีต

แต่เรื่องใหญ่ที่ไม่ชอบก็คือ สมรรถนะช่วงล่าง พวงมาลัย  เบรค  ยังไม่สมราคา  บอกไม่ถูก กระด้างในความเร็วต่ำถ้าเจอหลุมใหญ่ๆ  แต่ความเร็วสูง รถจะเริ่มร่อนอย่างมากที่ความเร็วเกิน 200 ขึ้นไป  เมื่อถึง 220 นี่เหมือนจะบินได้เลยครับ 

ที่สำคัญ  เบาะหลังนี่ผมนั่งไม่ได้เลย  พนักพิงมันตั้งชัน  และไม่รองรับสรีระเป็นที่สุด  เมื่อยมาก

อยากฝากไปถึง lexus นะครับ   อยากให้สร้างรถที่แตกต่างจาก toyota ให้มากกว่านี้  อย่าลดต้นทุนจนเกินไป  เน้นสิ่งที่สำคัญให้มากกว่าเน้นของกระจุกกระจิก

[JIRATH]

สวยครับ รีวิวละเอียดดี

[hollow]

นึกว่าเสี่ยถอยรถใหม่  อิอิ

[!LiLo!]

ขอบคุณมากครับผม

คันนี้เป็นรุ่น Top ครับ ไม่มี Navigator ไฟหน้าเป็นแบบ Bi Xenon พร้อมระบบ AFS ครับ แล้วก็เบาะหลังเอนไม่ได้ครับ


และจริงๆ คันนี้ไม่ใช่รถของผมหรอกครับ
ที่ไม่ได้บอกในรีวิวเลย เพราะกลัวว่า มันจะผิดกาลเทศะ หรือดูว่าเป็นโฆษณาแฝงรึเปล่า
(แต่คุณจิมมี่โอเคแล้วครับ ผมจึงมาพิมพ์เป็นข้อมูลเพิ่มเติมให้ทุกท่านทราบครับ)

รถคันนี้ทาง Lexus Auto City ให้มาทดลองใช้งาน 1 วันเต็มๆ ครับ
เนื่องจากบริษัทของท่านพ่อผม กำลังหารถใช้งาน รับส่ง ลูกค้าอยู่
ก็เลยมองรถในกลุ่มนี้แทนที่รถคันเก่า ซึ่งอยู่ในกลุ่มนี้เหมือนกัน (แต่ไม่ได้เป็นกลุ่ม พรีเมี่ยม)

(จะพูดให้งงทำไม จริงๆ หารถมาแทน Camry 2.0G ที่ใช้วิ่งงานอยู่เป็นประจำครับ
ที่เลือกเป็นกลุ่มพรีเมี่ยมเลย เพราะต้องการเอาใจลูกค้าครับ)

ซึ่งยังเลือกไม่ได้ว่า จะเอารถยุโรป หรือ จะ Lexus ดี

จะเห็นได้ว่า ในรีวิว ผมจะเน้นที่นั่งเบาะหลังด้วย
ผมเองก็ให้คนขับรถที่บริษัทขับ และลองนั่งด้วยแล้ว ก็เป็นไปตามที่ในรีวิวบอกครับ

เนื่องจากผมเองได้รับมอบหมายให้เป็นคนตัดสินใจว่าจะเอาคันไหน
เลยมีหน้าที่เอารถไปทดลองขับ และใช้งานจริง
และต้องนำข้อมูล กลับไปนำเสนอผู้ใหญ่ในบริษัท
แถมยังต้องถ่ายรูปไปให้เค้าดูด้วยว่าเป็นอย่างไร


ก็เลยว่า ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เอามารีวิวให้อ่านกันเลยครับ
เพราะยังไงก็ต้องทำข้อมูลเสนอผู้ใหญ่อยู่แล้ว
(พูดเหมือนบริษัทใหญ่โต แต่จริงๆ ก็แค่เปิดรูปให้ดูเฉยๆ นั่นแหละครับว่าผู้ใหญ่เค้าจะชอบรึเปล่า ถ้าเอาคันนี้มาวิ่งงานบริษัท   )


หลังจากที่ผมได้ไปดูรถที่โชว์รูม และบอกความต้องการให้พนักงานขายทราบ
เค้าเลยเสนอให้ เอารถไปทดลองใช้งาน เพื่อที่จะได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นครับ


ความจริงแล้ว ผมได้ทดลอง RX270 ไปแล้ว และก็เอาไปลองใช้วิ่งงานจริงๆ
แต่ว่าตอนนั้น ขับแค่ระยะสั้นๆ และไม่ได้ถ่ายรูปไว้ ยังจับความรู้สึกไม่ค่อยได้สักเท่าไหร่
ก็เลยไม่เอามาทำรีวิวครับ ได้แต่เอาความรู้สึกที่ได้ลองขับไปบอกกับคนในบริษัท



ถึงแม้ว่าจะได้รถมาใช้ 1 วันเต็มๆ
แต่ผมก็เอาไปวิ่งงานจริงๆ คือ ใช้แทนรถที่ใช้อยู่ประจำเลย เลยทำให้มีข้อมูลมากพอที่จะนำมารีวิวให้อ่านกันครับ
เพราะหลังจากที่วิ่งงานเสร็จแล้ว ผมก็มีเวลาอีกเหลือเฟือ ที่จะทดลองรถคันนี้ครับ
ก็มีเวลาเหลือ จนชวนเพื่อนมาลองนั่งไปหาข้าวเย็นทานด้วยกันหละครับ


สำหรับ Lexus นี่ ผมชอบเบาะหนังมากๆ ครับ นุ่มสบายสุดแล้ว
LS ยิ่งนุ่มครับ

แต่สรุปสุดท้ายจะซื้ออะไร ก็ยังไม่รู้ครับ
ยังไม่ได้ลอง BMW ซี่รีย์ 5 เลย
แต่ตอนนี้ก็มีรถในใจแล้วครับ  

---------
สำหรับรูป บางภาพผมก็ลืมใส่ลายน้ำครับ แต่ก็ช่างมันเถอะ
กล้องที่ผมใช้ก็ Canon EOS 30D เลนส์ Canon 10-22mm. ครับ
ถ้าถ่ายที่ 10mm มันจะดูหลอกตาหน่อยๆ ครับ (หลอกตาว่ามันกว้างเกินจริง)

ถ้าไม่ติดเรื่องว่าการเป็นรถบริษัท ซึ่งแน่นอนบริการหลังการขายมาที่1อยู่แล้ว(ใช่สิใช้รถหนักแน่นอน) ผมอยากให้ท่านลองมองtoyota crown Royal Saloon V6 2.5 ดูจัง ถึงมันไม่ใช่รถพรีเมี่ยมอะไรแต่จากที่ได้สัมผัสในตัวปี2006 ATHLETE ผมคิดว่ามันเก๋กู๊ดดีเหมือนกัน แต่ติดที่ว่ามันเป็นรถนำเข้า เนี่ยแหละ  =_="
ถ้าอยากเล่นกลุ่มพรีเมี่ยมนี่ผมว่าน่าจะลองมองพวกBMWหรือไม่ก็Benzเจ้าเก่านะครับเพราะมองดูแล้วยังน่าจะมีอะไรยัวไง อย่าน้อยก็ขึ้นชื่อว่าBMWกับBenz 5555555(เอาเถอะยึดติดกับแบรนด์มากแต่รถไม่ดีก็ไม่ไหวเหมือนกัน)

OOPS!! ลืมอีก1ตัวเลือกที่ไม่น่าลืม VOLVO S80 นั่นเอง!!! ลองอ่านตามรีวิว ของอาเฮียจิมมี่ได้เลยครับ