นั่งดูโฆษณา Isuzu จึงเกิดคำถามครับ

[YenChar]

พอดีว่ามีโฆษณาตัวนึงผ่านเข้ามา
จะว่าไปมันก็นานแล้ว

เรื่องที่ว่า Isuzu สามารถขับได้ถึง35(หรือ36ไม่แน่ใจ)กิโลเมตร ต่อน้ำมัน1ลิตร
มันเป็นไปได้จริงเหรอครับ

ผมไม่เชี่ยวชาญเรื่องรถกระบะเท่าไหร่ แต่เท่าที่ถามคนที่ใช้

Vigo 3.0 ขับ4 ตัว4ประตู ของเพื่อน
ขับนอกเมือง บางนาตราด-ราม เลี้ยงคันเร่งตลอด ขับรอบไม่เกิน2000 ยังได้แค่14กิโล/ลิตร
Vigo 2.5 ตัวแค๊ปรุ่นเก่า ของคุณพ่อแฟน
อยู่ใต้ ถนนโล่ง ติดไฟแดงน้อยมาก เปิดแอร์เบอร์2 ไม่ได้บรรทุกอะไรเลย วิ่งไม่เกิน80 ยังได้แค่ราวๆ16กิโลเมตร/ลิตร
Isuzu 2.5(ไม่แน่ใจครับ) ตัว4ประตู ของเพื่อน
อยู่ใต้ ถนนโล่ง ขับไม่เกิน100 เลี้ยงรอบ เลี้ยงคันเร่ง(ช้าจนคันข้างหลังคงรำคาญ)กว่าจะไต่ไปถึง100
ยังได้แค่16กิโลเมตร/ลิตรเองครับ
สุดท้าย เป็นรถกระบะของญาติ  ทั้งVigo และ D max ลุงใช้
ขับโซนชลบุรีตอนเช้ามืด ปิดแอร์ เปิดกระจก ขับชิวๆ ไม่เกิน90 แต่ยังได้แค่16กิโลเมตร/ลิตร (ทั้ง2ยี่ห้อ)

จากข้อมูลผู้ใช้ที่ใกล้ชิดกับผม ยังไงก็คอนเฟริมว่าไม่เกิน20กิโลเมตร/ลิตรแน่ๆ
"ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม"

ผมสงสัยว่า ตามที่โฆษณากันว่า30+กิโลเมตร/ลิตร มันเป็นไปได้เหรอครับ??

ญาติผมเป็นคนต่างจังหวัด ทำงาน เลี้ยงลูก
ไม่ค่อยได้หาข้อมูลพวกนี้เท่าไหร่
พอดูจากทีวีแล้ว ก็เลยเกิดความเชื่อทันที ผลก็คือ ไม่กี่วันต่อมา รถคันในทีวี มันก็เลยมาจอดในสวนบ้านลุงผมทันที

โฆษณาแบบนี้ มันเกินจริงไปมั้ยครับ

แล้วถ้าทำได้
ทำยังไงครับ (โดยที่ไม่รบกวนผู้ร่วมถนนท่านอื่นๆ)

[J!MMY]

การขับแบบนั้น เป็นที่ทราบมานานแล้ว ครับว่า
เป็นการขับ เพื่อการแข่งขัน เท่านั้น
และการทำแบบนั้นได้ในชีวิตจริง
เท่ากับว่า คุณต้องลงทุน ขับ โดย ปิดแอร์ ปิดกระจก
ขับแค่ 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง หรือต่ำกว่านั้น
ถ้าเมื่อไหร่ที่ลงเนิน แทบจะดับเครื่องกันเลย ปล่อยไหลยาวๆ
แล้วค่อยสับเกียร์กระตุกเครื่องให้ติดอีกครั้ง ฯลฯ สารพัดกลเม็ดเด็ดพราว

การเติมน้ำมันนี่ก็เหมือนกัน
จะบอกว่า จริงๆแล้ว แค่หัวจ่ายตัดหนะ ไม่พอหรอก ถ้าจะให้เที่ยงตรงขึ้น
ยังไงก็ต้องเขย่า เพื่อไล่อากาศในถังออกมา แลจะได้อัดน้ำมันเข้าไปจนเต็ม
แต่ในความเป็นจริง การแข่งแบบนี้ พอเห็นเขาเติมน้ำมันกัน ผมเข้าใจแล้วละ
ถ้าตอนเติม เติมแค่หัวจ่ายตัด หรือว่า เขย่าซะแน่นเอียด
แต่พอตอนเติมกลับ ดันเติมแค่ เขย่า 3 ที พอ

แบบนี้ ยังไง๊ ยังไง ก็ได้แน่ๆครับ ขั้นต่ำคือ 21 กิโลเมตร/ลิตร ที่เจอมา ได้แน่นอน

ผมเคยไปร่วมทริป แข่งทำอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงแบบนี้ครั้งนึง
ไม่ใช่ของอีซูซุ หรือโตโยต้าหรอกครับ แต่เป็นค่ายมวยรองค่ายหนึ่ง

และ ถ้าเป็นไปได้ ขอไม่ไปทริปแบบนั้นอีก
เพราะการจะให้ผมไปนั่งทนอยู่ในรถกระบะ ที่ใช้ความเร็วแค่ 40 "ที่เกียร์ 5 รอบเครื่องยนต์ ที่ระดับ เกือบเดินเบาแล้ว"
ต่อให้บังคับเปิดแอร์ สก็อตเทป แปะสวิชต์แอร์ไว้เลย นั่งทนดู
รถไถคูโบต้า ของเกษตรกร เขาวิ่งแซงหน้าขึินไปแบบนั้น ข้าน้อย ขอบาย!

โฆษณา มีหน้าที่ แจ้วงให้รู้ว่า มีสินค้าใหม่ออกแล้ว
จุดเด่นอยู่ที่ตรงไหน และจะหาซื้อได้ที่ไหน
แต่ เขาจะบอกความจริงคุณแค่ครึ่งหนึ่ง หรือมากหรือน้อยกว่านั้น ขึ้นกับจรรยาบรรณของเจ้าของสินค้า
และคนทำโฆษณา ว่ามีความรู้มากพอต่อสินค้าที่ตนเองจะทำแค่ไหน
้ทายที่สุด ผู้บิรโภค ควรจะใช้วิจารณญาณกันเสียบ้างครับ ไม่ใช่เอาแต่ปล่อยให้โฆษณาจูงจมูกเข้าโชว์รูมกันอยู่ได้

อีกอย่างนึง

ท่องไว้ครับ
น้ำมัน ถ้าใช้หมดไป แม้จะทดแทนใหม่ไม่ด้
แต่ก็มีพลังงานรูปแบบอื่นที่ดัดแปลงให้เราเดินทางต่อไปได้

แต่เวลาที่เสียไป จากการขับเอาแต่คิดว่าประหยัดหนะ
ความเสียหายมันมากกว่าและชัดเจนกว่าการสูญเสียน้ำมันครับ

[Blur]

ท่องไว้ครับ
น้ำมัน ถ้าใช้หมดไป แม้จะทดแทนใหม่ไม่ด้
แต่ก็มีพลังงานรูปแบบอื่นที่ดัดแปลงให้เราเดินทางต่อไปได้

แต่เวลาที่เสียไป จากการขับเอาแต่คิดว่าประหยัดหนะ
ความเสียหายมันมากกว่าและชัดเจนกว่าการสูญเสียน้ำมันครับ

จริงแฮะ ขอเอาไปใช้นะครับ 

[boyddii]

Vigo 3.0 ผมพยายามขับให้ประหยัดที่สุด 1ถัง ได้เฉลี่ยแค่ 12.1 กม./ล. ครับ

ขับทางตรง ยาว ๆ เหยียบถึง 110 แล้วปล่อยรถไหลไปเรื่อย ๆ จนลงมาที่ 80 แล้วเหยียบใหม่ ยังไงก็ไม่เกิน 15 กม./ล. อยู่ดี อ่าคับ อย่างมากสุดก็ 14.7


อิอิ 

[P_Wut]

จำไม่ได้แล้วว่า ไปอ่านมาจากที่ไหน แต่เนื้อความที่อ่านมา ได้ทำนองนี้ครับ

Nissan เชิญสื่อมวลชนไปทดลองแข่งขับประหยัดน้ำมันกับกระบะ Navara
แข่งเสร็จ คนที่ชนะ คือ ทีมจากนักเลงรถกระบะ รู้สึกจะได้ 20 ปลายๆ หรือ 30 ต้นๆ เนี่ย ไม่แน่ใจ

คนที่ชนะ เค้าบอกทริคว่า ให้เหยียบเร่งความเร็วอย่างช้าๆ ขึ้นไปจนถึง 90-100
แล้วก็ผ่อนคันเร่ง ให้รถมันค่อยๆ ช้าลงไปเอง จนถึงสัก 70
ก็เริ่มเหยียบเพิ่มความเร็วอย่างช้าๆ ใหม่  แค่นี้ ก็สามารถขับได้แล้ว 20-30 โลลิตรเนี่ย

ผมอ่านแล้วก็คิด ก็คล้อยตามนะ คือ เวลาเราขับความเร็วคงที่ สมมติ 90
โอเคว่า แรงที่เครื่องยนต์ผลิตได้ ส่วนนึง ต้องเอาชนะแรงต้านอากาศที่ความเร็ว 90
แต่อีกส่วนนึง ต้องเอาชนะความฝืดในเครื่องยนต์ที่รอบราวๆ 1900-2000 รอบ
(ขึ้นกับอัตราทดเกียร์สุดท้าย x เฟืองท้าย)

ไอ้ความฝืดที่รอบ 1900-2000 รอบนี่แหละ ที่เป็นตัวทำให้เปลืองน้ำมันโดยใช่เหตุ
เพราะถ้าเป็นเกียร์ CVT รอบเครื่องมันคงต่ำกว่านี้ได้ ทำให้เปลืองน้ำมันส่วนนี้น้อยลงไปอีก

นักทดสอบคนนั้น เลยใช้วิธี ขับ 70 - 100 - 70 - 100 สลับกันไปเรื่อยๆ
โอเค ตอน 70 - 100 คงเปลืองกว่าขับ 90 คงที่ แต่ก็แทบไม่เสียน้ำมันเลย ตอน 100 - 70

ใครอ่านข้อความผมแล้ว ลองไปทำดูหน่อยสิครับว่า มันได้จริงหรือเปล่า? ไม่รู้เหมือนกันว่า คนที่ชนะ เค้าโม้ไปงั้นหรือเปล่า?

[KRABA]

ขออนุญาตนำข้อมูลไปทดลองขับดูครับ

[PapaRo@ch~*]

ตัวเลข 30 กม. ต่อลิตรขึ้นไป
เป็นการแข่งขัน วิธีการก้อตามที่คุณจิมมี่บอก (แต่หลังๆ เขย่าหลังเติม 10 ครั้ง ซ้าย-ขวา แล้วเติม 3รอบนะ)

ส่วนถ้าเป็นคาราวานประหยัดน้ำมัน จะเปิดแอร์ตลอด  และวิ่งความเร็วเฉลี่ย 90-120 กม/ชม
อัตราการประหยัดจะอยู่ที่ประมาณ 18-20 กม./ลิตรได้ครับ

[P_Wut]

บังเอิญไปเจอมา แต่เกี่ยวกับกระทู้นี้โดยตรง เลยเอามาฝากกัน

http://www.weekendhobby.com/offroad/strada/questionn.asp?id=12857

เรื่องทั้งกระทู้นั้น เป็นข่าวเกี่ยวกับ คณะกรรมการดูแลการโฆษณา สั่งปรับ ผู้ผลิตรถกระบะแต่ละยี่ห้อ

ข้อหาที่ Nissan , Mitsu , Ford โดนนั้น เป็นเรื่อง โฆษณาประหยัดน้ำมันเกินจริง ทั้งสิ้นเลย
ส่วน Toyota โดนมากกว่า 1 กระทง ด้วยซ้ำ

[DT.Arabica Coffee]

เห็นว่าเติมลมยางกันอยู่ที่ +/- 100 PSI