ขอตอบเฉพาะบางข้อนะครับ
1. ก่อนอื่นก็คง ต้อง ทำ สี และ ตัดผุก่อนเลยนะครับ ทำกับอู่ไหนดีครับ
+ ข้อนี้ไม่มีแนะนำ แต่บอกแบบแชร์ประสบการณ์ว่า นำชัยเตาปูน เคยเข้าไปทำแล้ว ไม่ชอบวิธีเก็บงาน และคุณภาพสี ถึงแม้ทางอู่ยินดีรับผิดชอบแก้งานให้ แต่ผมขี้เกียจที่จะเข้าไปเองแหละ ส่วนอู่ที่ไปทำมาล่าสุดคืออู่บางกอกยูเนี่ยน ซ.สามัคคี คุณภาพสีโอเค ราคาจะติดไปทางแรงนิดๆ การเก็บงานยังต้องปรับปรุงเช่นถอดอะไรมาก็ใส่ไม่เหมือนเดิม เดินสายไฟยังไม่เป็น แต่พนักงานไม่กวนส้น พูดจาแล้วน่าฟัง นี่คือสองอู่ที่ได้ลองมาในรอบ 3 ปีหลังนี้
2. หลังจากนนี้ก็จะต้องไปวางเครื่องใช่ไหมครับ ถ้าอย่างงี้ผมก็ต้องไปเดินเชียงกงแถวไหนดีครับ เห็นว่าที่ปทุมวันปิดไปแล้วจริงหรือครับ? ช่วยแนะนำราคาเครื่อง 2JZ GTE VVTI TURBO และวิธีการดูว่าเครื่องยังใหม่หรือใช้งานมาเท่าไรแล้วด้วยนะครับ จะทราบได้อย่างไรว่าเครื่องนี้ปีอะไรอะครับ
+ ที่จริงน่าจะมีิวิธีดูปีเครื่อง แต่ผมไม่เคยสน จะปีไหนก็ช่าง ท้ายสุดมันคือสภาพเครื่องต่างหากที่น่าสน เอามือล้วงทางเดินลิ้นคันเร่ง มีคราบน้ำมันเหนอะไหม ถ้าเป็นฝุ่นบางๆ ..สวย เปิดดูแค็มชาฟท์..น้ำตาลหรือเงินยวงสวย? เอาประแจประกบน็อตแครงชาฟท์แล้วขันแบบกระตุกตามทิศการหมุนของเครื่องกระตุกไปสัก 1 คืบกว่าๆ กระตุกเสร็จปล่อย ..ประแจมีเด้งกลับไหม ถ้ามีก็แปลว่าการซีลและกำลังอัดยังดีอยู่ ถ้าบ้าพอก็วัดกำลังอัดทีละสูบเลย เทียบกับค่ามาตรฐานสเป็คของมันโอเคไหม ไหนๆจะเสียเงินทั้งทีก็..
3. แนะนำอู่วางเครื่องและจูน 400-500ม้า ด้วยครับ งบจะอยู่ที่เท่าไร และ ในการแต่งจะมีอะไรบ้างครับ ช่วยแนะนำด้วยนะครับ พอดีว่ามือใหม่ กำลังศึกษาอยู่ กลัวโดนฟันเอามากๆเลยครับ
+ วางเครื่อง...อู่ที่ไว้ใจ 100% ไม่มีในหัว ไม่ขอแนะนำดีกว่า ส่วนการจูนพวกกล่องอะไรทำนองนี้สามารถติดต่อได้หลายเจ้า ขอเตือนไว้ก่อนว่าช่างจูนกล่อง ไม่ใช่บริกร ส่วนมากจะเป็นคนที่พูดจาตรงไปตรงมาและไม่ค่อยชอบให้ใครกวนตอนทำงาน บางคนไม่เคยจูนรถ ไม่เคยแตะช่าง มาเจอจะงงเอา แต่ถ้าเข้าใจการทำงานของเขา เราจะอารมณ์ไม่เสีย เรื่องจูนกล่อง ถ้าระดับเซียน มี ปอ Powerlab, จุ๊บ HKS, พี่แม็ค MACTEC, จอร์จ GETTUNE คุณลองค้นหาตามเว็บแล้วดูว่าใครน่าไว้ใจ เบอร์โทรเขาคงลงไว้ โทรคุยก่อนก็ได้ครับดูว่าใครให้ราคาเท่าไหร่และครอบคลุมการทำงานส่วนใดบ้าง
5. และการตีโป่งของตัวถังทำ wide body นี่จำเป็นไหมครับ
+ Wide Body ช่วยให้สามารถใส่ล้อยางหน้ากว้างขึ้นได้โดยไม่น่าเกลียด ยางกว้างๆก็เกาะถนนดีกว่า แต่การทำ Wide body ตามกฏหมายถือว่าเป็นการดัดแปลงสภาพตัวถังที่ต้องได้การรับรองจากวิศวกรที่มีอำนาจตามเงื่อนไขของกรมขนส่งทางบก
6. แนะนำช่วงล่างกับ LIMITED SLIP DIFF. ด้วยครับ ผมมองไว้เป็นตัว TEIN อะครับ แต่ยังไม่แน่ใจเรื่อง LSD เลยครับ
เฟืองท้ายของเบนซ์ตรงรุ่นเบอร์ทด 3.67 แบบมี LSD ก็มี แต่หายากมากๆ และ LSD แบบเบนซ์ๆโรงงานๆไม่ค่อยช่วยอะไรเท่าไหร่
ครั้นจะใส่เฟืองท้ายของ 500E อัตราทดก็ต่ำเีพียงแค่ 2.82 น้อยเกินไปสำหรับการขับออกตัวที่ไว งานนี้ต้องไปลองถาม
คนเล่น 124 ใน Club JZ ดูดีกว่าครับ
7. แล้วเรื่องเกียร์นี่ โดยส่วนตัวไม่ค่อยชอบรถ เกียร์กระปุกคลัชแข็งๆอย่าง supra ซักเท่าไรนะครับ เลย อยากทราบว่า 2J Bo นี่มี auto ไหมครับ ถ้ามีนี่เกียร์ก็คงไม่สามารถ รับภาระม้า ห้าร้อยตัวได้อยู่แล้ว จึงต้องเป็นเกียร์ธรรมดา ใช่ไหมครับ ถ้าอย่างงี้ สามารถหา เกียร์ sequential หรือ paddle shift หรืออย่างไงดี มาพ่วงใส่ ได้ไหมครับ
พูดเป็นเล่น.. 2JZ-GTE นี่เกียร์ออโต้หาง่ายยังกะแมลงวัน เกียร์ธรรมดา 6 สปีดสิหายากกว่าเยอะ ถ้าอยากได้เกียร์อัตโนมัติก็เล่นไปเถอะ ม้า 500 ตัวนั้นยังพอมีลุ้น แต่ถ้าอยากชัวร์ 400 ตัวนี่เกียร์ยังโอเค เสี่ยงน้อยกว่า เพื่อนผมเคยลองถลุงเกียร์ 1JZ-GTE AT จนพัง จำไม่ได้ว่ามันเข็นไปกี่ม้าก่อนเกียร์กลับบ้านเก่า เดี๋ยวว่างๆจะลองถามมาให้ครับ
8. ท้ายสุดแต่ไม่สุดท้าย ก็คือเรื่องระบบท่อไอเสียครับ ถ้าเปลี่ยนเครื่องมาท่อก็ต้องเปลี่ยนตามใช่ไหมครับ เอาของอะไรดีให้เสียงดีๆอะครับ เพราะตอนนี้ใส่ 2j กับ ท่อ เบนส์อยู่อะครับ ม้าหายไปหลายตัวเลย ทีเดียว อิอิ
เสียงดีของคุณเป็นยังไงล่ะครับ ดีของผมคือทุ้ม หนัก แต่ไม่แผด และไม่ลั่นจนตำรวจหมั่นไส้ ไม่เกิน 85 เดซิเบล อันนี้เหมือนกันหรือเปล่า
ที่จริงท่อญี่ปุ่นแต่งสำหรับ 6 สูบ หามือสองมีมาเยอะแยะ แต่เคล็ดไม่ลับคือพวกที่เป็นทรงซิการ์นั้นจะเก็บเสียงได้ไม่มาก เสียงจะแผดลั่น แต่พวกหม้อใบปลายที่ใบโตๆหนักๆ พวกนั้นจะเก็บเสียงดีกว่า ให้โทนเสียงผู้ดี ทุ้มต่ำหนักอย่างที่ผมชอบ เรื่องยี่ห้อผมไม่ทราบ และไม่สน เพราะรูปทรงที่เข้ากับรถได้พอดีนั้นสำคัญกว่า และสำหรับหม้อพักเซียงกงบางหม้อ คุณเอามา ไส้ในก็ร่วงหมดแล้ว ก็ต้องยัดไส้ในใหม่ด้วยฝีมือคนไทยอยู่ดี คนทำท่อที่เสียงเพราะ ฝีมือดีอยู่ที่ซ.วัดด่านสำโรง ศรีนครินทร์ ชื่อพี่ยง ถามมอเตอร์ไซค์แถวนั้นก็รู้จัก แต่พักหลังมีคนบ่นเหมือนกันว่าพอพักหลัง งานเยอะ ฝีมือเริ่มไม่คงที่ ส่วนอีกคนนึงคือพี่เปี๊ยก ธันเดอร์ ซึ่งฝีมือคงที่มาก เพราะแกทำอารมณ์ศิลปิน เอางานงามๆแต่ไม่สนเรื่องระยะเวลา
9. เรื่องเบรคนี่แนะนำเป็นอะไรดีอะครับ เห็นว่า เบรค 4pot/6pot นี่แพงมากๆเลย ผมหา caliper มือสอง เอาก็ได้ใช่หรือเป่าครับ แนะนำด้วยครับ เอาของอะไรดีอะครับ อยากได้ ที่เบาๆ จะได้ ตัวเลข unsprung weight ดีๆอะครับ อิอิ จะเอาของอะไรมาแปลงใส่ได้บ้างครับ
หวังว่าคำว่าเป่า คงหมายถึง "เปล่า" ที่เผลอพิมพ์เร็วไป เป่าบ่อยๆเดี๋ยวเครื่องวัดแอลกอฮอล์พัง
ชุดเบรคถ้าขึ้นชื่อว่า Brembo, Willwood ว่ากันหลายหมื่นอยู่แล้ว ผมคิดว่าถ้าคุณไม่ยึดติดเรื่องแบรนด์เนม คุณหาเบรคใหญ่ๆชนิดที่มาจากรถน้ำหนักมากๆก็เอามาใช้ได้ อย่าง 500E W124 นั้น ออกมาจากโรงงานก็ใช้เบรคหน้า 500SL (หนัก 1.8 ตัน) และเบรคหลังจาก 300CE-24 ก็กำราบรถ 326 แรงม้า หนัก 1.7 ตันได้แบบปลอดภัยแล้ว แต่เล่นหนักๆติดๆกันหลายรอบ มีเฟดนะ ที่จริงนี่เรื่องเบรคถ้ายินดีทุ่มงบก็อยากให้ทำแบบไม่เสียดายเงินครับ จะเป็นหมื่นเป็นแสนก็ควรทำเพราะมีม้า 4-500 ตัว เบรคเดิมของรถแค่รู้จำนวนม้าของเครื่องก็ขี้พุ่งแล้วครับ
เล่นรถ 4-500 ม้า อย่ามาพะวงเรื่อง unsprung weight จากเบรคเลย ความหน่วงตรงนั้นคุณจูนเครื่องนิดเดียวก็ชดเชยแรงที่เสียไปได้แล้ว
แต่พอเวลาจะใช้เบรคแล้วเบรคไม่อยู่ ไม่มีอะไรมาชดเชยคุณได้นะ ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า และผมคิดว่าคุณคงไม่อยากจ่ายเงินเกินแสน
หาระบบเบรคเซรามิกของ Porsche, Lambo แปลงใส่หรอกครับ
ทีนี้ คำถามผมที่จะถามกลับคือก่อนที่คุณจะกระโดดไปขับรถ 4-500 ม้านี่ รถคันที่แรงม้าเยอะสุดที่เคยผ่านประสบการณ์ชีวิตคุณมา
มีกี่ม้าครับ? ถ้าคุณเคยปราบพยศ 200SX หรือ A31 ที่มีแรงม้า 400 ตัวมาก่อนแล้ว ผมอาจจะไม่กังวลเท่าไหร่ แต่ถ้าคุณข้าม
จาก 2JZ-GE 220 แรงม้ามาพบกับ 500 แรงม้าในทันทีเลยนั้น ผมว่ามันน่ากลัวมากกว่าสนุกนะครับ
ไหนๆจะเล่นรถ ก็เล่นให้ได้ประสบการณ์และความรู้ คุณวางเครื่องเดิมๆมาก่อน ทำท่อ แล้ววิ่งสัก 3-4 เดือน จากนั้นค่อยแปะกล่องจูน
ปรับบูสท์เพิ่ม เค้นประสิทธิภาพ Hardware โรงงานให้ได้ 97% ก่อน ขับให้รู้สึกว่าชินเท้า ลองหาที่ว่างๆไร้ผู้คน กดให้มิด กดแบบ
ตั้งใจให้รถเสียหลักไปเลยสัก 2-3 ครั้งแล้วลองหาวิธีแก้คืน จากนั้น ค่อยถอดเทอร์โบคู่ซีเควนเชียลทิ้ง เปลี่ยนเป็นเทอร์โบเดี่ยวตัวใหญ่
ขยับขยายสเต็ประดับต่อๆไป
ถ้าคุณวางมาเสร็จทำ 500 ม้าเลย ผมเชื่อว่าแป๊บเดียวเดี๋ยวคุณก็ขายคันนี้ทิ้ง เพราะหน้าที่ของมันจบเร็วกว่าที่ควรจะเป็น
สู้คุณใช้รถเป็นห้องเรียน ลองโน่นลองนี่ไปเรื่อย เปลืองเงินกับเวลา แต่คุณก็ได้ความรู้ เซียนในคลับ JZ ที่รู้จริง เขาก็เริ่มจากเล็กน้อย
มาสู่ใหญ่ เริ่มมาจากการลองแบบนี้ คนเหล่านี้จะแม่นยำและไม่ค่อยพลาดกับรถตัวเอง ผมมองว่าเป็นการเล่นรถที่ยั่งยืนกว่าในระยะยาวครับ