@Chariot รถแปลกๆในปารีสนี่ไม่ค่อยทราบเลยค่ะ เพราะว่าอยู่ Florence, Italy และตลอดเวลาที่ไปปารีสก็จะเป็นขาประจำกับรถไฟ Metroค่ะ เลยทำให้ไม่ค่อยทราบวินัยในการใช่รถใช้ถนนเค้าเท่าไหร่ แต่เท่าที่สังเกตจากเวลาเดินเล่นในเมือง ความแต่กต่างระหว่าง Paris and Florence ก็น่าจะเป็นที่ปารีสเป็นเมืองใหญ่ ถนนที่เห็นใช้กันส่วนมากก็จะเป็นถนนเส้นใหญ่ๆทั้งนั้น(4 Lens) รถที่วิ่งในเมืองก็ไม่จำกัดSizeค่ะ Busที่เห็นก็มีตั่งแต่บัสสองชั้นเหมือนที่ London และ Bus คันจิ๋วที่เห็นวิ่งกันบ้างบางสาย ส่วนถนนในฟลอเร้นซ์ ก็จะเป็นถนนเส้นเล็กๆเนืองจากเดิมเป็นเมืองเก่าแก่ ถนนที่ใช้ก็เลยเป็นถนนอิฐ เส้นนิดเดียว รถที่บังคับใช้ในตัวเมืองจะต้องเป็น Motor-Bike, City Car, or else Electronic Car ค่ะ แม้แต่รถ Bus ยังเป็นรถไฟฟ้าที่รูปร่างเหมือนกล่องสี่เหลี่ยมขนาดคนเข้าไปยืนได้แค่10กว่าคนเองค่ะ รถที่ขึ้นทะเบียนในฟลอเร้นซ์จะเสียค่าภาษีแพงมาก และรถจากต่างเมืองจะไม่สามารถวิ่งเข้าตัวเมืองได้ถ้าไม่มีใบอนุญาติค่ะ เห็นเพื่อนบอกว่าเค้าจะเก็บภาษาีตามลักษณะของรถ ถ้ายิ่งเป็นรถใหญ่ก็จะยิ่งเสียภาษีมากกว่า รถส่วนมากที่เห็นในเมืองเลยเป็นรถเล็ก และรถเสียบปลั้กค่ะ ส่วนที่Charge Batteries ของรถก็จะมีอยู่เป็นจุดๆทั่วเมืองนะคะ เป็นว่าจ่ายตังตามบิลว่าใช้ไปเท่าไหร่เรทเดียวกับค่าไฟในบ้านค่ะ ส่วนมากครอบครัวอิตาเลี่ยนเลยไม่ค่อยจะอยู่ในเมืองกันค่ะ เน้นออกไปอยู่นอกเมืองแล้วนั่งรถไฟมาCenterแล้วเดินหรือต่อบัสกันดีกว่าค่ะ เพราะว่าเมืองเป็นเมืองท่องเที่ยวและเดินถึงกัน รถจึงไม่มีสิทธิ์วิ่งในตัวเมืองค่ะ คนทีนี้ก็เลยเป็นเพื่อนกับจักรยานมากกว่า
แต่ถ้าอยากเห็นวินัยการใช้รถของอิตาเลียนจริงๆแนะนำให้แวะไปดูแถวๆมิลานหรือกรุงโรมนะคะ เพราะว่าเป็นเมืองใหญ่ มีชาวยุโรปส่วนมากชอบพูดกันว่า ถ้าคุณสามารถขับรถในอิตาลีได้แล้ว ไม่ว่าคุณขับรถที่ไหนก็จะไม่มีปัญหา คิดว่าคนที่คิดประโยคนี้คงยังไม่เคยมาเมืองไทยของเรา 555
เอาไว้วันไหนอากาศดีๆ จะเก็บภาพรถcity carแปลกๆในเมืองฟลอเร้นซ์มาให้ฝากนะคะ
@K[en]G ยินดีค่ะ