ผู้เขียน หัวข้อ: จากรีวิว Ford fiesta กับการถ่ายน้ำมันเครื่อง  (อ่าน 34762 ครั้ง)

HIGHSEA

  • บุคคลทั่วไป
จากรีวิว Ford fiesta กับการถ่ายน้ำมันเครื่อง
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2011, 09:01:36 »
"อ้อ! พอนึกถึงสมุดคู่มือรับประกันคุณภาพแล้ว นึกต่อขึ้นได้ ผมลืมบอกไป Fiesta ทุกคัน เข้าศูนย์บริการ เช็คระยะที่ทุกๆ 15,000 กิโลเมตร แล้วนะครับ Ford หวังว่าจะช่วยลด ค่าใช้จ่ายของลูกค้า
ในด้าน ต้นทุนการเป็นเจ้าของรถ (Cost of ownership) แต่ในความ เป็นจริง จะช่วยได้มากน้อยแค่ไหน ลูกค้านั่นละคือผู้ตัดสิน"

ผมมีเรื่่องสงสัยการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องครับ คือเนื่องจากว่าผมก็เพิ่งออกรถใหม่แต่คนล่ะยี่ห้อนะครับ แล้วคู่มือให้เช็คระยะที่ทุกๆ 15,000 กิโลเมตร มีคำถามดังนี้ครับ
1. เครื่องยนต์เดี๋ยวนี้ออกแบบมาเพื่อรองรับการเปลี่ยน น้ำมันเครื่องที่ 15,000 กมแล้วหรอครับ
2. น้ำมันเครื่องเดี๋ยวนี้สามารถใช้ใด้ถึง 15,000 กม แล้ว
3. การถ่ายน้ำมันเครื่องทำตอนใหนดีที่สุดครับ
    3.1 ตอนเช้าเนื่องจากน้ำมันเครื่องลงมารวมกันหมดแล้วหรือ
    3.2 ตอนใหนก็ใด้เช่นติดเครื่องแล้วไปเปลี่ยนที่ศูยน์

ผมเคยใด้ยินมาว่ามียี่ห้อหนึ่่งเครื่องมีปัญหาเนื่องจากใชัน้ำมันเครื่องนานเกินไปแล้วมีผลต่อเครื่องยนต์ คันเก่าผมใช้แบบสังเคราะห์พอใกล้ๆ10,000 แล้วสีก็เริ่มเปลี่ยน
เพราะผมเช็คก่อนออกจากบ้านทุกวัน ผมกล้วว่าเครื่องจะพังก็เลยคิดว่าจะเปลี่ยนทุกๆ 10,000 กม

รบกวนด้วยนะครับ

ออฟไลน์ Pan Paitoonpong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,457
  • Long live M/T
Re: จากรีวิว Ford fiesta กับการถ่ายน้ำมันเครื่อง
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2011, 09:35:58 »
น้ำมันเครื่องไม่ได้มีเทคโนโลยีที่หยุดนิ่งอยู่กับที่ครับ สิ่งที่เราเชื่อกันว่าน้ำมันเครื่องธรรมดา
ใช้ 3,000 โล น้ำมันสังเคราะห์ให้ใช้ 10,000 โลนี่มันเป็นคำพูดของเมื่อ 20 ปีที่แล้วหรือนานกว่า
นั้นเสียด้วยซ้ำ

ทุกวันนี้น้ำมันเครื่องธรรมดาหลายตัวที่ไม่ใช่ของปลอมสามารถใช้ 10,000 ก.ม.ได้ Honda
ใช้น้ำมัน Idemitsu ธรรมดาๆในรถเก๋งและกำหนดให้วิ่ง 10,000 โลได้มานานแล้ว รถ Honda
ทุกคันในบ้านผมใช้น้ำมันเครื่องธรรมดา และเปลี่ยนถ่ายที่ 10,000 โล วิ่งไป 191,000 โล
ก็ไม่เห็นมันจะพัง รั่ว หรือเสื่อมอะไรมากไปกว่าปกติสำหรับรถ 190,000 โล

อันที่จริงน้ำมันเครื่องธรรมดา ถ้าใช้กันแบบสุดคุ้ม ผมเคยทำได้ 17,000 โล..แต่อันนี้ไม่ดี
เพราะที่หลักกิโลนั้นไฟน้ำมันเครื่องขึ้นแล้ว แปลว่าแรงดันและคุณภาพน้ำมันไม่เหลือแล้ว

ส่วนน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ ยิ่งใช้ได้นานกว่าเดิมอีก บางเจ้าสามารถใช้ได้ 20,000 โล
แต่ผมมักแนะนำให้เปลี่ยนตามลักษณะเครื่องและเท้าคนขับ ถ้าขับแบบแม่ผม 20,000 โลได้
ถ้าขับแบบผม 10,000 โลก็เปลี่ยนแล้วเพราะน้ำมันเครื่องทำงานหนักกว่ามาก

ส่วนเรื่องสีน้ำมัน...ถ้าน้ำมันสีไม่เปลี่ยนเลยน่ะ คุณถ่ายทิ้งเถอะ แปลว่าน้ำมันไม่ยอมชะล้าง
คราบเคริบอะไรในตัวเครื่องเลยน่ะสิครับ น้ำมันเครื่องน่ะ ถ้าใส่ไป วิ่งไป 500 โลแล้วสีเริ่มดำ
อันนี้ผมมองว่าปกติครับ ดีกว่าน้ำมันเครื่องที่วิ่งไป 3,000 โลแล้วยังใสกิ๊ง
- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8

ออฟไลน์ 2k

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,755
Re: จากรีวิว Ford fiesta กับการถ่ายน้ำมันเครื่อง
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2011, 09:45:38 »
ผมคิดว่า 15000 คือการโฆษณาทางการตลาดและเป็นการเอามตรฐานประเทศอื่นๆมาใช้ครับ เพื่อให้คนซ์อรู้สึกว่าจ่ายน้อยกว่ายี่ห้ออื่นทั้งที่ควมจริงแล้วจ่ายน้อยกว่านิดเดียวแต่ไอ้ระยะ 5000 ที่เพิ่มมานี่มันอาจะหมายถึงเครื่องพังเลยนะ  อันนี้คงต้องดูแล้วว่าน้ำมันเครื่องที่ฟอร์ดใช้เนี่ยมันตัวเดียวกับที่มาสด้าใช้ไหม เครื่องเดียวกันนี่เนอะ ถ้ามาสด้ากำหนดที่ 10000 แต่ฟอร์ดเกินกว่าเค้าทั้งที่ใช้น้ำมันตัวเดียวกันแปลว่าฟอร์ดอะไรดี?


ฟอร์ดอาจจะออกแบบเครื่องยนต์มาให้ทนทานกว่าคนอื่นเค้าเลยทนระยะเปลี่ยนได้ แต่อย่าลืมว่าประเทศไทยเราไม่เหมือนที่อื่นเค้า เคยเห็นเค้าเล่ามา BMW ก็บอกว่าไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันตลอดอายุการใช้งานแต่พอรถมีปัญหาช่างลองถ่ายน้ำมันออกมาดูมันกลายเป็นขี้โคลนไปแล้ว ซึ่งก็เป็นไปได้ว่าฟอร์ดยกเอามาตรฐานของที่อื่นมาใช้ในบ้านเรา ถ้าไปแล่นในประเทศเขตยุโรปที่เค้าเคร่งเรื่องไอเสียและมลพิษมากๆ 15000 กิโลนี่ก็เป็นไปได้ ที่อื่นๆอย่างสิงคโปร์สวิสเซอแลนนี่ฝนที่ตกลงมาขังบนถนนนี่ใสแจ๋วเลยนะครับ รถลงไปลุยนี่ไม่ทิ้งคราบไว้เลยอากาศบ้านเค้าสะอาดมากกกก  แต่ที่นี่ประเทศไทยอากาศและถนนสกปรกมากๆๆๆๆ ลองล้างรถสีขาวแล้วออกไปแล่นสามวันดูสิแม้ไม่มีฝนตกให้เปียกเลอะเทอะแต่จะเห็นชัดเจนเลยว่ามีคราบฝุ่นหนาๆเกาะเต็มไปหมด เอาน้ำราดนี่กลายเป็นขี้โคลนเชียวนะครับ  แค่สามวันยังเขละได้ขนาดนี้แล้วระยะ 15000 กิโลจะมีสิ่งสกปรกเข้าไปสะสมอยู่เท่าไหร่ไม่อยากจะนึกเลย  :-X


เรื่องของน้ำมันเกียร์เองก็เช่นกัน ตอนผมไปเปลี่ยนน้ำมันเกียร์โฟกัสศูนย์ก็บอกว่าไม่จำเป็นต้องเปลีย่นค่ะอายุการใช้งานตลอดชีพ แต่ผมเปลยี่นแล้วอาการเกียร์กระตุกแรงๆตึงตังนี่ลดหายไปเยอะเลยครับ ฟอร์ดต้องปรับนโยบายการบริการและการบำรุงรักษาให้เข้ากับบ้านเราด้วย ย้ำอีกทีว่าที่นี่ประเทศไทยนะจ้ะไม่เหมือนที่อื่นเค้า อย่าให้มีปัญหาเรื่องท่อรับอากาศต่ำมากเหมือนในโฟกัสรุ่นแรกๆอีกเลยนะ
หมาเฝ้าบ้านแจกฟรีจ้า www.dogfindhome.com


ออฟไลน์ Nioka

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,038
Re: จากรีวิว Ford fiesta กับการถ่ายน้ำมันเครื่อง
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2011, 10:15:50 »
ผมว่า วิ่ง อีก 5000 เครื่องพัง ก็ต้องกลับไปมองแล้วว่า คุณออกแบบเครื่องยังไง - -"

แต่ส่วนตัว น้ำมัน 5000 โลผมก็วิ่ง เกือบ 7000 แล้วค่อย เปลี่ยน 10000 โลผมก็ลากไป 12000-13000 มันก็ทำงานได้

เพียงแต่ผมใช้รถแบบไม่หนัก ไม่ได้ขับเร็วบ่อยๆ อันนี้ คู่มือบอก 10000 นะยังวิ่งเกินได้เลย ถ้าคู่มือบอก 15000 จะวิ่งเกินไม่ได้ก็แย่อยู่

ออฟไลน์ TTTY

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 37
Re: จากรีวิว Ford fiesta กับการถ่ายน้ำมันเครื่อง
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2011, 11:09:01 »
ในความเห็นของผม ผมกลับมองว่า มาตรฐานที่ฟอร์ดกำหนดไว้นั้น
น่าจะอยู่บนพื้นฐานของการใช้งานแบบปรกติสามัญชนคนทั่วไปเขาขับกัน
และการเปลี่ยนถ่ายก็น่าจะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าของรถด้วย
ตามที่ Commander Cheng แถลงไว้

หากคุณรักเครื่องยนต์มาก ขับแบบทนุถนอม พอจะมีกำลังทรัพย์จ่าย
การเปลี่ยนถ่ายก่อนกำหนดในคู่มือ ก็ย่อมรักษาคุณภาพการทำงานให้สดใหม่เสมอ
แต่ก็ต้องแลกกับการเสียเวลาเข้าไปรับบริการ เสียทรัพย์ และเสียทรัพยากร

อย่างผมเคยใช้นิสสัน ฟรอนเทีย 3.0 ZDi รุ่น 4 ประตูโฉมสุดท้าย ก่อนเป็นเครื่อง YD
เคยอยู่บ่อยๆ ที่จะไม่เปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามกำหนด (ภายหลังหมดประกัน 100,000 กม. ไปแล้ว)
ก็ไม่เกิดอาการใดๆ กับเครื่องยนต์ เครื่องยนต์ยังทำงานได้ดีตามสั่ง
เคยเลยไปถึง 15,000 กม. ทั้งๆ ที่ตามกำหนดอยู่ที่ 5,000 กม.

แต่ที่ผมปล่อยผ่านได้ยาวขนาดนั้นเพราะ ไม่ไดใช้รถในการจราจรที่ติดขัดเช่นในเมืองกรุงมากนัก
เฉลี่ยทำความเร็วได้ไม่ต่ำกว่า 80 กม. ตอลดเส้นทางในแต่ละวัน จะมีติดบ้างก็แค่รอสัญญาณไฟ
ตามสี่แยกต่างๆ เพียงเท่านั้น และเมื่อถึงปลายอายุของน้ำมันเครื่อง สิ่งที่สังเกตุได้คือ
อัตราเร่งตกลงเล็กน้อย แบบพอรู้สึกได้ และเมื่อเปลี่ยนถ่ายก็กลับมาอัตราเร่งดีเช่นเดิม

ใช้งานคันนี้มา 7 ปี กับ ระยะทาง 165,000 กม. เครื่องยนต์ยังนิ่ง ไม่มีควันดำออกตูด
แบบชาวบ้านเขา ใครเห็นก็ถามว่าแน่ใจหรือว่าไม่ได้ไปฟิตเครื่องมา
โดยตลอด 7 ปี มีแค่เปลี่ยนแบตเตอรี่ไป 1 ลูก นอกนั้นเปลี่ยนถ่ายตามคู่มือ

เคยเจอ Audi A3 รถปี 2000 เปลี่ยนถ่ายน้ำมันทุกๆ 15,000 กม. มาถึงปีนี้ 2011 รถอายุ 10-11 ปี
วิ่งไปแค่ 45,000 กม. น้องคนหนึ่งไปทดลองขับดู ก็ไม่พบอาการเครื่องยนต์มีปัญหาใดๆ

ผมเชื่อว่ายังมีอีกหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงกำหนดไม่ได้ว่าแต่ละคันควรจะเปลี่ยนถ่ายกันที่อายุใด
อย่างที่บอกว่า ผู้ผลิตรถยนต์ก็พยายามหาค่ากลางๆ มาใช้เป็นมาตรฐาน ซึ่งปัจจัยเหล่านั้นอาจประกอบด้วย
สภาพอากาศ มีฝุ่นมากไหม อากาศอุณหภูมิสูงไหม ขึ้นเขาบ่อยไหม ใช้รอบเครื่องต่ำบ่อยๆ ไหม
วันหนึ่งๆ รถต้องอยู่บนการจราจรติดขัดหยุดนิ่ง รวมเวลาเกินกว่าวันละ 30-60 นาทีไหม
ขับลากเกียร์ชน red line บ่อยๆ ไหม ใช้น้ำมันเครื่องผิดเกรดผิดเบอร์ไปจากที่กำหนดไหม ฯลฯ
หากไม่ใช่ตามนี้แล้ว การที่คุณจะเปลี่ยนตามกำหนดของผู้ผลิตก็ไม่ใช่ปัญหาครับ

เพราะแต่ละคนไม่สามารถขับรถให้อยู่ในสภาพสิ่งแวดล้อม และมีลักษณะการขับขี่ที่เหมือนกันได้
เขาจึงกำหนดเอาไว้กลางๆ จะเปลี่ยนถ่ายเร็ว หรือตามกำหนด หรือช้ากว่า ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยของแต่ละบุคคล
888-8888

ออฟไลน์ kimjung

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 609
Re: จากรีวิว Ford fiesta กับการถ่ายน้ำมันเครื่อง
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2011, 12:29:30 »
พอหมดระยะรับประกัน ผมก็เปลี่ยนที่ 15000 ครับ

HIGHSEA

  • บุคคลทั่วไป
Re: จากรีวิว Ford fiesta กับการถ่ายน้ำมันเครื่อง
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2011, 12:59:57 »
ขอบคุณทุกๆความคิดเห็นเลยนะครับ ความรู้ผมยังเป็นแบบเก่าอยู่ ผมก็ใด้ข้อสรุปว่าคงจะเปลี่ยน
ตามคู่มือดีกว่าเนื่องจาก ใช้งานตามปกติ แต่ก็มีทำmax speed บ้างเดือนละครั้งเพื่อให้เครื่องใด้
รันบ้างในความเร็วสูง เพราะเคยใด้ยินว่ารถถ้าไม่เหยียบซะบ้าง ทีหลังมันจะเหยียบไม่ขึ้นอ่ะครับ

ออฟไลน์ udis

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,674
Re: จากรีวิว Ford fiesta กับการถ่ายน้ำมันเครื่อง
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2011, 13:23:55 »
ขอบคุณทุกๆความคิดเห็นเลยนะครับ ความรู้ผมยังเป็นแบบเก่าอยู่ ผมก็ใด้ข้อสรุปว่าคงจะเปลี่ยน
ตามคู่มือดีกว่าเนื่องจาก ใช้งานตามปกติ แต่ก็มีทำmax speed บ้างเดือนละครั้งเพื่อให้เครื่องใด้
รันบ้างในความเร็วสูง เพราะเคยใด้ยินว่ารถถ้าไม่เหยียบซะบ้าง ทีหลังมันจะเหยียบไม่ขึ้นอ่ะครับ

โห้ Max speed ไม่เคยทำเลยครับ ไปวิ่งแถวไหนครับ ท่าจะดูดน้ำมันน่าดูครับ
 ;D ;D ;D

ออฟไลน์ jay-burn

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 56
Re: จากรีวิว Ford fiesta กับการถ่ายน้ำมันเครื่อง
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2011, 14:04:23 »
[  อันนี้คงต้องดูแล้วว่าน้ำมันเครื่องที่ฟอร์ดใช้เนี่ยมันตัวเดียวกับที่มาสด้าใช้ไหม เครื่องเดียวกันนี่เนอะ ถ้ามาสด้ากำหนดที่ 10000 แต่ฟอร์ดเกินกว่าเค้าทั้งที่ใช้น้ำมันตัวเดียวกันแปลว่าฟอร์ดอะไรดี?


ford กับ mazda เครื่องคนละตัวกันนี่ครับ




HIGHSEA

  • บุคคลทั่วไป
Re: จากรีวิว Ford fiesta กับการถ่ายน้ำมันเครื่อง
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2011, 14:08:24 »
โห้ Max speed ไม่เคยทำเลยครับ ไปวิ่งแถวไหนครับ ท่าจะดูดน้ำมันน่าดูครับ
 ;D ;D ;D

บนบูรภาวิถีหรือไม่ก็สายเอเซียครับ ช่วงสั้นๆครับ รถทุกคันที่มีก็เหียบจนสุดคันเร่งแหละครับ(เพื่อทดสอบเท่านั้นครับ)
ถ้าทางโล่ง เนื่องจากงานที่ผมทำอยู่ก็ต้องทำ pre-max ของเครื่องยนต์ใว้เป็น record ครับ เสร็จแล้วก็วิ่งปกติครับ
กลัวตาย ;D

NgoH

  • บุคคลทั่วไป
Re: จากรีวิว Ford fiesta กับการถ่ายน้ำมันเครื่อง
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2011, 15:33:03 »
นโยบายหรือ มาตรฐาน ฟอร์ด หรือรถยุโรป เขา สังเคราะห์แท้  ส่วนมาสด้ายังใช้กึ่งสังเคราะห์ครับ
ความยาวนานมันต่างกัน

ออฟไลน์ superpock

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 143
    • อีเมล์
Re: จากรีวิว Ford fiesta กับการถ่ายน้ำมันเครื่อง
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2011, 19:12:10 »
15,000 กิโลกับน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ ผมว่าก็ไม่ได้เกินเลยไปนะครับ



แต่จะประหยัดกว่าทุก10,000กิโลแล้วใช้กึ่งสังเคราะห์และเปลี่ยนกรองทุก20.000กิโลหรือเปล่าผมไม่แน่ใจ 


ฟอร์ดไม่น่าเล่นคำที่ความประหยัดเลยครับ น่าจะเล่นที่มาตราฐานยุโรปจะดูดีกว่า

ออฟไลน์ GeneralAK

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 55
Re: จากรีวิว Ford fiesta กับการถ่ายน้ำมันเครื่อง
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2011, 21:25:01 »
[  อันนี้คงต้องดูแล้วว่าน้ำมันเครื่องที่ฟอร์ดใช้เนี่ยมันตัวเดียวกับที่มาสด้าใช้ไหม เครื่องเดียวกันนี่เนอะ ถ้ามาสด้ากำหนดที่ 10000 แต่ฟอร์ดเกินกว่าเค้าทั้งที่ใช้น้ำมันตัวเดียวกันแปลว่าฟอร์ดอะไรดี?


ford กับ mazda เครื่องคนละตัวกันนี่ครับ





Fiesta เครื่อง 1.4, 1.6

Mazda 2 เครื่อง 1.5

เครื่องเดียวกัน??

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,041
Re: จากรีวิว Ford fiesta กับการถ่ายน้ำมันเครื่อง
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2011, 22:33:59 »
น้ำมันเครื่องศูนย์ที่ว่า เป็นสังเคราะห์ หรือกึ่งสังเคราะห์คุณภาพสูงหรือเปล่าครับ ถ้าใช่ก็เหมือนที่หลายท่านว่าไปก็คือมันอยู่ได้ แต่ต้องเป็นภาวะที่เครื่องยนต์ทำงานไม่หนักนะครับ (รอบเครื่องต่อระยะทางได้ดี)

[  อันนี้คงต้องดูแล้วว่าน้ำมันเครื่องที่ฟอร์ดใช้เนี่ยมันตัวเดียวกับที่มาสด้าใช้ไหม เครื่องเดียวกันนี่เนอะ ถ้ามาสด้ากำหนดที่ 10000 แต่ฟอร์ดเกินกว่าเค้าทั้งที่ใช้น้ำมันตัวเดียวกันแปลว่าฟอร์ดอะไรดี?


ford กับ mazda เครื่องคนละตัวกันนี่ครับ





Fiesta เครื่อง 1.4, 1.6

Mazda 2 เครื่อง 1.5

เครื่องเดียวกัน??

เอามาบวกกันไงครับ เป็น 1.5 เฉยเลย

ออฟไลน์ AFA

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 54
Re: จากรีวิว Ford fiesta กับการถ่ายน้ำมันเครื่อง
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 18, 2011, 00:32:22 »
ถ้าตัวโฟกัส สมัยนู้นเค้าก็มีบอกเรื่องการเคลือบสารพิเศษที่กระบอกสูบ และลูกสูบ(เคลือบโมลิดินั่มรึเปล่าไม่แน่ใจชื่อครับ) เพื่อลดการสึกหรอและยืดระยะการเปลี่ยนถ่าย นมค. (แต่คิดว่าหลายๆคนคงไม่สนใจในรายละเอียด)
ผมเองก็ใช้วิ่งมาไม่ว่าจะ 180 140 หรือ 110 บ่อย ก็เปลี่ยนถ่ายทุก 15000 โดยประมาณน่ะครับ แต่ไม่เคยต่ำว่า 15000 เลยสักครั้ง(สูงสุดยืดไป 17000) ซึ่ง นมค. ก็ลองใช้หลายยี่ห้อแต่ต้องเกรด SM เท่านั้น และ นมค.  นี่แหล่ะครับเป็นตัวชี้วัดที่ดี เพราะต่างยี่ห้อไปเพียงแค่เลย 10000 km คุณก็จะทราบถึงการเปลี่ยนแปลงได้บางส่วนแล้ว
ปัจจุบันก็ยังถ่าย นมค. ทุก 15000 จนบัดนี้ 223xxx km แล้วเครื่องยนต์มันก็ยังทำงานสบายๆอยู่เลยครับ
แต่ในกรณี fiesta ไม่ทราบเหมือนกันว่าเคลือบสารพิเศษเพิ่มที่กระบอกสูบและลูกสูบรึเปล่า

ออฟไลน์ XL_SiZe

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,041
Re: จากรีวิว Ford fiesta กับการถ่ายน้ำมันเครื่อง
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 18, 2011, 08:43:29 »
นโยบายหรือ มาตรฐาน ฟอร์ด หรือรถยุโรป เขา สังเคราะห์แท้  ส่วนมาสด้ายังใช้กึ่งสังเคราะห์ครับ
ความยาวนานมันต่างกัน

แต่มาสด้า 3 ไปเปลี่ยนตามระยะเมื่อก่อน ที่ศูนย์โคราชเค้าก็ใช้ คาสตรอล 5W-30 Fully นะครับ

ออฟไลน์ nuch n14

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 170
    • อีเมล์
Re: จากรีวิว Ford fiesta กับการถ่ายน้ำมันเครื่อง
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 18, 2011, 16:22:47 »
 มันก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานด้วย ถ้าชับใน กรุงเทพรถติดมาก ระยะทางน้อย การเปลี่ยนอาจเร็วขึ้น
ผมวิ่งแต่ต่างจังหวัด ก็เปลี่ยนที่ 15000 กม แต่ถ้าความสบายใจ ก็ทุกหมี่นโลก็ได้ครับ
แต่ใช้น้ำมันตามสเปคด้วยนะครับ เพราะของ tdci เป็นสังเคราห์ 100% เปลียนบ่อยๆไม่ไหวแพง

ออฟไลน์ wooq

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 11
    • อีเมล์
Re: จากรีวิว Ford fiesta กับการถ่ายน้ำมันเครื่อง
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 19, 2011, 01:32:23 »
ไม่ทราบว่าน้า PJ ใช้น้ำมันเครื่องยี่ห้ออะไรบ้างครับ ถ้าเทียบจากตัวของศูนย์เนี่ยต้องเที่ยบจากตัวไหนครับ (แล้วน้าติดใจยี่ห้อไหนครับ)

ลูกสูบไม่แน่ใจครับว่า Fiesta เคลือบโมลิดินั่มรึเปล่า แต่เสื้อสูบรู้สึกจะเป็น Aluminium อะไรสักอย่างครับ น่าจะทนอยู่

ออฟไลน์ AFA

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 54
Re: จากรีวิว Ford fiesta กับการถ่ายน้ำมันเครื่อง
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 20, 2011, 15:10:50 »
ช่วงแรกๆใช้ตามศูนย์ครับ ที่ศูนย์ฟอร์ด ช่วงนั้น นมค. 5w-30 ประจำศูนย์จะมีแค่ 2 ยี่ห้อ คือ Castrol A1 และ Caltex Havolin
Castrol A1 ใช้ทั้ง Semi Syn  (เปลี่ยนที่ 15000 เหมือนกัน) และ Full Syn 5w-30 SMทั้งคู่
Caltex Havolin ใช้ Full Syn 5w-30 SM เช่นกัน
พอระยะรถประมาณ 105000 km เปลี่ยนไปใช้ PTT Super Syn 0w-40 SM ใช้ประมาณ 3 ครั้ง ก็เห็นสมควรเลิกกันเสียทีสำหรับตัวนี้
และไปใช้ Shell Helix Ultra 0w-40 SM แทน

ปัจจุบันเพิ่งลองกลับไปใช้ของศูนย์อีกครั้ง ที่ระยะ 210000 แต่ทางศูนย์เปลี่ยนเป็นใช้ Castrol รุ่น Magnatec 5w-30 SM(ท้องตลาดที่เห็นจะมีแต่ 5w-40)

ถ้าเทียบศูนย์ ก็คือ spec 5w-30 ครับ 30 ลื่นดีกว่า 40 ที่ผมเลือกใช้อยู่แล้ว มันทำให้เสียเวลาในการ warm เครื่องยนต์น้อยกว่าด้วยและอัตราเร่งตีนต้นจะไวกว่าเล็กน้อย แต่ใช้ 40 มันก็ต้องยอมรับได้กับความอืดที่มีมาให้ ยิ่งเจอ Shell Helix Ultra เข้าไปรับรองว่าอืดได้ใจ(ถ้าไม่กดคันเร่งหนักๆน่ะครับ) แต่ตัวนี้ดีกว่า PTT Super Syn SM เยอะครับ ระยะการใช้งานในฟิลม์น้ำมันคงทนกว่า เครื่องยนต์ทำงานเงียบกว่า

สำหรับผมแล้ว ราคาที่สมเหตุผลมาก่อนครับ ฉะนั้น นมค. ที่ราคาสูงเกิน 1500 บาท(shell helix ultra หาเอาตาม net ที่เชื่อถือได้ครับ) ผมมองว่าไม่จำเป็นสำหรับรถ NA ที่ไม่ได้เค้นทุกอย่างออกมาอย่างนี้ครับ

ถ้า ณ 4-5 รุ่นที่ใช้มาถึงตอนนี้ ตัวล่าสุดจากศูนย์ ยังเป็นที่น่าพอใจสำหรับผมน่ะครับ ถึงแม้ Fuel Consumtion จะมากกว่า Shell Helix Ultra อยู่เล็กน้อย แต่อัตราเร่งทำได้ดีกว่า และค่าน้ำมันเชื้อเพลิงไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับผมครับ แถมราคา 4L ประมาณ 1000 บาท(เพราะมีการปรับเปลี่ยนราคาใหม่ถูกลง) ถือว่าน่าพอใจสุดแล้วครับ