ไหนๆแล้ว ก็เล่าให้ฟังซะหน่อย
ความน่าอดสูของชีวิตผู้บริโภคชาวไทย
เครื่องใช้ไฟฟ้า ยี่ห้อหนึ่ง คู่แข่ง บ. ที่ผมทำงานอยู่ ถูกพิสูจน์ได้ว่าเป็นต้นเหตุให้ไฟไหม้บ้านลูกค้าที่ยุโรป
ถูกฟ้องไป 1000 กว่าล้าน จนต้องปิดโรงงานเลยนะ
ขณะที่ในไทย เครื่องใช้ไฟฟ้าเกิดไฟไหม้ ดีที่เจ้าของบ้านเห็นและดับไฟทัน
บ.ผมจ่ายไม่กี่แสน เรื่องจบ
อีกเคสหนึ่งดับไม่ทัน ไฟลามไหม้บ้านลูกค้า
แต่ลูกค้ายืนยัน นอนยันว่าต้นเพลิงเกิดจากเครื่องใช้ไฟฟ้า
บ. ผมจ่ายไปหลักล้าน เรื่องจบอีกแล้ว
เรื่องนี้ก็เหมือนกันครับ ต้องถามว่าที่จบหลักแสนกับล้านในบ้านเรา
จบในศาล หรือไกล่เกลี่ย นอกศาล? เพราะยังไงก็ตามค่าเสียหายมันไม่ได้ตายตัวอยู่แล้ว
ยิ่งถ้าจบนอกศาลก็มีโอกาสที่มันจะถูกกว่าในศาลมาก ซึ่งที่อเมริกาก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน
เพียงแต่เคสที่จบง่าย มันก็ไม่ได้มีการเขียนฎีกาออกมา ไม่มีข่าวใหญ่โต เราก็ไม่ทราบกัน
สิ่งที่แตกต่างก็คือ คนที่อเมริกาช่างฟ้องและยอมจ่ายค่าทนายแพงแพงเพื่อดำเนินการ
หากมี % ว่าเราจะชนะก็ลุยแหลก เพื่อหวังจะได้รับชดใช้ค่าเสียหาย (ซึ่งน้อยมาก) และหวังมากกว่ากับค่าทำขวัญ (ซึ่งเยอะมาก)
เวลาเราอ่านเคสทางกฎหมาย เราก็เลยต้องดูปัจจัยอื่นอื่นประกอบด้วยครับ
อย่าให้ข่าวพาไป เพราะข่าวชอบอะไรที่ใหญ่โตอยู่แล้ว สร้างกระแส สร้างยอดคนเข้าดู สร้างรายได้ให้กับตัวเค้าเอง
ผมเห็นด้วยนะ ที่จะรักษาสิทธิของผู้บริโภค แต่ก็ต้องเป็นการรักษาสิทธิอย่างยุติธรรม
ไม่ใช่การรักษาสิทธิเพื่อหวังจะได้กำไร หรือหักหน้าบริษัทใหญ่ใหญ่ เพราะตั้งตนเป็นศัตรูไว้ในใจตั้งแต่แรก