ผู้เขียน หัวข้อ: คันแรกในชีวิต Jazz S/at 630000 กับ mazda 2 Mt5350000 กับโจทย์การตัดสินใจค่อนข้างแปลกครับ  (อ่าน 19889 ครั้ง)

ออฟไลน์ isnut

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 9
    • อีเมล์
ผมได้พิจารณา ได้สองตัวเลือกครับ

ซึ่งค่อนข้างแปลก ก็คือ คันหนึ่ง เกียร์ธรรมดาsedan  แต่อีกคันหนึ่งกลับเป็น เกียร์ ออโต้ HB
ผมขอแจกแจงค่าใช้จ่ายรวมแบบ "ละเอียดเลยนะครับ"

   

1 Jazz MC  s/at     ราคารถ 630000 บาท
-ประกันชั้นหนึ่งวิริยะประกันภัย
-ค่าจดทะเบียน+พรบ
-ฟิล์ม 3M
รวมหมดนี้ ที่ผมได้หาข้อมูล จากหลายๆเซล ได้ถูกที่สุดก็คือ  ต้องเพิ่มเงิน ประมาน 8000 บาท
รวมค่ารถ คันนี้เป็น   630000+8000 =  638000บาท


2 Mazda 2 sedan ราคา  535000  บาท
-ประกันชั้นหนึ่งวิริยะประกันภัย
-ค่าจดทะเบียน+พรบ
-ฟิล์ม 3M
เช่นกันครับ จากที่หาข้อมูลจากเซลแล้ว จากของที่ได้ตามนี้ ผมจะได้ส่วนลด 8000 บาท
รวมค่ารถคันนี้เป็น  535000-8000 = 527000 บาท


  :) :) :) :) :) :) :) :)

            ตอนนี้ผมกำลังศึกษาอยู่ชั้นปี 3 และในเดือน พฤษภาคม ผมจะไปสหกิจศึกษาที่ จังหวัดกาญจนบุรี
และพอได้เงินค่าตอบแทน 6600 บาทต่อเดือน (และค่าที่พักฟรีปรกติราวๆ 3000 บาทต่อเดือนครับ จึงทำให้ผมแบ่งเบาภาระพ่อแม่ไปได้อีก)
จนถึงเดือน สิงหาคม เป็นว่าจะได้เงิน 4 เดือน ช่วง4 เดือนนี้ผมก็จะใช้เงินที่ผมได้ ในการผ่อนต่อเดือน และกลับมาเรียนต่อ อีก เกือบๆ4 เดือน
ช่วงนี้ก็จะรบกวนคุณพ่อผ่อนต่อให้ครับ ก็จะเรียนจบ เดือน ธันวาคม 2554 พอได้งานทำผมก็จะผ่อนเองต่อ ครับ

           ปรกติตอนนี้ผมใช้รถ กระบะคันเก่าของพ่อมาตั้งแต่ปี 1  เป็น izusu TFR 2500 CC ครับ   แล้วตอนนี้ ผมก็อยากได้รถ ซึ่งก็อธิบายเหตุผลต่างๆให้
คุณพ่อคุณแม่ฟัง และผมได้ฝึกงานนี่ ด้วย พ่อแม่ก็ โอเคครับ ก็ตัดสินใจจะออกให้ ผมก็ศึกษาข้อมูลมาได้ประมาณ1เดือน   และตอนนี้ ฤกษ์ออกรถของผมคือวันที่
16 มีนาคม ซึ่งก็เหลือเวลาตัดสินใจ ไม่นาน   ผมสามารถขับรถถนัดทั้งเกียร์ธรรมดาและออโต้ ผมได้ทดลองขับ แล้วทั้งสองคัน ผมรู้สึกว่าชอบการขับขี่พอๆกัน พอๆกันจริงๆครับ
และเรื่อง การใช้ประโยชน์จาก HB  and  SEDAN ผมก็โอเคทั้งคู่ คันไหนก็ได้ (แต่ มาสด้า2  ผมมองว่า sedan สวยกว่าเลยเลือก) แต่ Honda city ก็จะMC ปลายปีแล้วก็เลยไม่รอครับ  และรถ คันนี้ผมตั้งใจจะใช้ ประมาณ 5  ปี  พอการงานเริ่มเข้าที่ แล้วก็จะขายเผื่อซื้อรถระดับสูงขึ้น      ในส่วนของ มาสด้า2  ปรับปรุง ที่ปี 2013 (จากรีวิว รถ2011-2014  เขียนว่าแบบนี้หมายถึงปรับปรุงแต่ไม่ได้ปรับโฉมหมด เหมือน Jazz GD DE ใช่ไหมครับ ) ส่วนJazz ปรับโฉมเลย ที่ปี 2013 (ตามรีวิวของพี่จิมมี่อีกเช่นกัน)


                                    คำถามเป็นข้อๆครับ

1. ส่วนต่างจากค่ารถทั้งหมด ที่ต่างกัน 111000 บาท ใน อนาคต 5 ปีข้างหน้า  คือปี 2016   MAZDA 2 และ Jazz MC กุมภาพันธ์ 2011  ถ้าสมมุติราคาขายJAZZ ตอนนั้น           400000(คาดเดา เปรียบเทียบ จากJAZZ ตัวเก่าปี 2005-2006ครับ)  แล้วราคาของมาสด้าสองตัวนี้มีแนวโน้ม จะเหลือ มากกว่าหรือน้อยกว่าส่วนต่าง
 400000-111000 = 289000 บาท  ครับ      หรือมีมีแนวโน้มจะขายได้ราคา โดยที่ส่วนต่าง น้อยกว่าหรือมากกว่า 110000 ของราคากลางมือสอง JAZZ MC2011 ในขณะนั้น(หมายถึงตอนปี2016)
   

                      (ข้อที่ 1 นี่คือสิ่งที่ผมต้องการถามหลักๆครับ)

2. ผมคิดว่าข้ออื่นผมศึกษาจนตัดสินใจเองได้แล้วว่าคันไหนเหมาะกับผม  แต่ว่าความเหมาะของผม มักมองไปที่รูปลักษณ์โดยรวมมากกว่า ซึ่งปรกติผมขับรถคนเดียว ใช้งาน
ประจำวันนิดหน่อยเลยแหละ และในอนาคต อีกเกือบปี งานที่ได้ทำ ก็คงเป็นลักษณะงานบริษัท คงใช้รถไม่มากนัก เรื่องความไม่สะดวกสะบายของการใช้เกียร์ธรรมดาผมไม่นำมาคิดครับ เพราะผมสะดวกสะบายเท่าๆกันเลย  +  เดือนนึงจะชอบอารมย์ ชิว ขับรถไปเที่ยว ไกลๆ ไปกลับ 600-1500 กิโล สักครั้ง ก็ชอบมีบ้าหอบฟาง ไปจอดรถนอนบน อุทยานหรือริมทะเล อะไรประมาณนี้ครับ  ซึ้ง ทั้งสองคันนี้ตอบโจทย์ผมได้หมด       สรุปแล้วถ้ามีอะไรแนะนำเพิ่มเติม แนะนำด้วยนะครับ



         ผมติดตามเว็บยานยนต์แห่งนี้มาเป็นปีแล้วครับ ช่วง ห้าหกเดือนที่ผ่านมา เข้าทั้งวันเพราะผมทำงานหน้าคอมด้วย ทุกกระทู้ผมผ่านตาหมดเลย
 ยอมรับจริงๆ ว่าเว็บไซต์แห่งนี้ คือที่สุดของเว็บยานยนต์อันดับ 1ของเมืองไทยจริงๆ อย่าง หาเว็บไซต์มาเทียบเท่ามิได้    โดยเฉพาะ การบริหารจัดการของทีมงาน
 ในเรื่องของการกระทู้  ที่ผมมักพบเห็นในทุกๆเว็บบรอด ยานยนต์ที่มักไม่มีการควบคุม เอะอะอะไรก็ตั้งกระทู้ถามๆ  แต่เว็บนี้ควบคุมได้ดีมาก    แรกๆ ผมยอมรับ ว่ารู้สึกว่า
 พี่จิมมี่และทีมงาน โอเว่อร์ไปไหมกับเรื่อง เว็บไซต์...... จะห้าม นู่นห้ามนี่ออกกฏอันมากมาย  เป็นเว็บเปิดใหม่เว็บนี้ จะเล่นตัวขนาดนี้เลยหรอ ทำให้ผมยิ่งสนใจใหญ่
ว่ามีอะไรดีในเว็บนี้นักหนา  (แรงไปหรือเปล่าครับ ขออภัยนะครับ แค่แชร์ความรู้สึก หนะครับ)ที่ห้ามพูดถึง แต่พอได้เรียนรู้ติดตามไปเรื่อยๆ ก็ได้เข้าใจ จริงๆ   )
   
---------------------------------------------------
 
    สุดท้ายนี้  ผมขอขอบคุณทีมงานทุกคน และสมาชิกทุกคน ที่ช่วยกัน บริหารจัดการเว็บยานยนต์แห่งนี้ให้เป็นเว็บยานยนต์อันดับ 1 ของเมืองไทย(ในความรู้สึกและความคิดผม
และเชื่อว่าเกือบทุกคนก็คิดเหมือนผม)  ข้อมูลในเว็บแห่งนี้เป็นประโยชน์สำหรับทุกคนมากๆ มากๆจริง  ตั้งแต่คนที่จะซื้อรถ จีนแดงคันล่ะไม่กี่แสน  ไปจนถึง รถหลายๆสิบล้าน
ซึ่งผมก็ตกใจใช่เล่น ที่ ทีมงานก็มีข้อมูลแน่นซะเยอะเหลือเกิน 

                                                ขอบคุณมากครับ



ออฟไลน์ udis

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,674
"ฤกษ์ออกรถของผมคือวันที่ 16 มีนาคม"

Jazz ไม่น่าจะมีรถให้ทันครับ Mazda 2 ก็ด้วยครับ
 ;D ;D ;D

ออฟไลน์ Pan Paitoonpong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,457
  • Long live M/T
บ้าหอบฟางนี่จริงๆมันไปทาง Jazz นะครับ แต่ Mazda 2 Sedan ก็ใช่เล่นนะ เป็นรถ B-Segment คันเดียวที่ผม
ลงไปนอนในฝาท้ายได้ทั้งตัว (ยกเว้นหัว..ยัดไม่ลง)

ผมมองว่าราคาส่วนต่างมีผลเย้ายวนใจมากทีเดียว ถ้าใช้อีก 5 ปีขายต่อจะเป็นอย่างไร ก็ลองดูราคาแบบอ้างอิงกัน
ลองหา Civic 2.0 ปี 2005 และ Mazda 3 2.0 ปี 2005 ในเว็บรถมือสองแล้วลองเทียบกันดูครับ
รถสองรุ่นนี้ตอนป้ายแดงมันต่างกันไม่ีกี่หมื่น ตอนนี้มันต่างกันเท่าไหร่

แต่ถ้าขายต่อใน 2 ปีนี้ ผมคิดว่า Jazz จะปล่อยง่ายขายคล่องกว่าเท่านั้นเอง

การขับขี่ ถ้าไม่โมดิฟายอะไรรถเลย ผมคิดว่าช่วงล่างของ Mazda 3 นั้นสร้างความสบายในการเดินทาง
ได้มากกว่า โดยที่ไม่ได้เสียเปรียบเรื่องความเกาะถนนในทางตรง ส่วนอัตราเร่งต่างๆนั้นสามารถ
ใช้เป็นเพื่อนเดินทางได้ ..พอเป็นเกียร์ธรรมดามันก็ดีแบบนี้แหละครับ

- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8

ออฟไลน์ Terng

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,762
แนะนำให้เอา Jazz เหตุผลคือเรื่องศูนย์มากกว่าครับ แล้วถามนิดนึงว่าทำไมไม่เลือกตัวถูกสุดเพราะก็มี Airbag มาให้หมดแล้ว และเป็นเกียร์แมนนวลด้วยซ้ำ?

คืออันนี้ที่แนะนำแจ๊ซเพราะผมมองเรื่องการพยายามลดภาระที่เกิดจากการเป็นเจ้าของรถของคุณลงให้มากที่สุดครับ เด็กจบใหม่ใช้อะไรที่มันไม่เรื่องมาก ซ่อมง่าย (หมายถึงมีศูนย์หลายแห่งที่พึ่งพาได้ไม่ต้องลุ้นมากมาย ค่าอะไหล่สมเหตุสมผล)

แจ๊ซถ้าเป็นตัวเก่าที่บ้านก็ใช้อยู่ครับ ซื้อมือสองมาตอนอายุรถมันสองปีวิ่งไป 40000 ปัจจุบันใช้มา 4-5 ปี (ก็สิริรวมอายุรถได้ 6-7 ปีแล้วครับ) ปาเข้าไป 213000 กิโลเมตรเรียบร้อยแล้ว เปลี่ยนไปแค่ช่วงล่างครับที่โช้คมันมีปัญหาเสียงดังและดูจะยวบมากผิดปกติยังไงชอบกล เกียร์ CVT ยังใช้การได้ดีไร้ปัญหาใดๆครับ ผมว่ามันก็ทนมือทนตีนดีทีเดียวนะ ตอนนั้นซื้อมา 490000 เป็นรุ่น E ตอนนี้มีคนขอซื้อต่อ 400000 ราคายังสวยอยู่เลยครับ นี่คิดในแง่ดีว่าต่อให้คุณใช้ไปอีก 5 ปีข้างหน้า ราคาแจ๊ซก็ไม่น่าจะตกไปมากมายนัก เผลอๆขายต่อได้ประมาณ 4 แสนปลายๆถึงห้าต้นๆด้วยซ้ำไปถ้ารักษาสภาพรถดีๆ พามันไปขัดสีเคลือบสีบ้างปีละครั้งสองครั้ง
=====================
รถที่ใช้เป็นประจำ
2013 Toyota Camry Extremo 2.0
2015 Ford Ranger T6 XLT Open Cab 2.2 MT
2018 Toyota CHR HV Mid
=====================

ออฟไลน์ VTEU

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 166
สงสัยว่าทำไมไม่เทียบ jazz s at กับ mazda2 at ตัวล่างสุด หรือ jazz mt กับ mazda2 mt
'request start up and push back, please'

ออฟไลน์ isnut

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 9
    • อีเมล์
สงสัยว่าทำไมไม่เทียบ jazz s at กับ mazda2 at ตัวล่างสุด หรือ jazz mt กับ mazda2 mt

ครับ ที่เหตุผลไม่เทียบ แจสตัวเกียร์ธรรมดา 590000 เพราะว่า
1 การขายต่อแจส เกียร์ธรรมดา น่าจะขายได้ยากกว่า มาสด้าสอง เกียร์ธรรมดา เพราะว่า แจส คนซื้อส่วนใหญ่ ก็มักจะออโต้  สัดส่วนมากกว่า  มาสด้าสองเกียร์ธรรมดาที่เกียร์ธรรมดาน่าจะขายง่ายกว่าแจสเกียร์ธรรมดาครับ  ผมคิดว่างี้
2. มาสด้าสองเกียร์ออโต้ เหมือนเรี่ยวแรงน้อยเกินครับ ลองขับกี่รอบ ก็รู้สึกว่า แรงกว่า izusu TRF 15 ปี 90 แรงม้า  ที่ใช้อยู่ไม่มากนักครับ  ส่วนแจส ตัวเกียร์ออโต้ ก็เรี่ยวแรงดีครับ

สองข้อประกอบกันครับบ



   จากอ่านๆดู อาจจะมองว่าผมเป็นคนเลือกซื้อรถเพราะราคาขายต่อ ทำไมไม่เลือกซื้อรถที่ชอบ แล้วมีความสุข เหมาะกับเรา   
แต่ผม ตัดตัวเลือกมาทั้งหมดแล้ว ได้ออกมาแบบนี้อะครับ สองคันนี้ มัน น่าจะโอเคกับทุกๆปัจจัยของผม 
ผมก็เลยอยากได้คำแนะนำ จากพี่ๆ ในเว็บแห่งนี้
           โดยเฉพาะ เรื่องส่วนต่างของราคาขายต่อ ว่า อีก5 ปีข้างหน้า mazda2 MT sedan จะขายได้ถูกกว่า JAZZ MC2011   s/at มากกว่าหรือน้อยกว่า
111000 บาท อ่ะครับ

ออฟไลน์ isnut

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 9
    • อีเมล์
"ฤกษ์ออกรถของผมคือวันที่ 16 มีนาคม"

Jazz ไม่น่าจะมีรถให้ทันครับ Mazda 2 ก็ด้วยครับ
 ;D ;D ;D

อ่อ พอดีผมอยุ่่ทีต่างจังหวัดครับ จากที่เช็คๆมา สำหรับมาสด้า ผมสามารถขอของแถมได้เท่ากับ ที่ในกรุงเทพ  และมีรถ เกียร์ธรรมดาในสต๊อก อยู่หลายคันครับ
ส่วน แจสดำ  ก็มีติดต่อไว้กับศูนย์ที่มีรถทันแล้วครับที่กรุงเทพ     แต่ถ้าที่ต่างจังหวัดจะมีแค่สีขาว อ่ะครับ


ออฟไลน์ kasuya

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 200
    • อีเมล์
คิดยาวๆเรื่องเงินแบบนี้คงต้องเอาเรื่องขายต่อมาพิจารณาร่วมด้วยอันดับต้นๆเลยนะนิ อะไหล์อีก

หวยคงไปออกที่ Jazz ละมั่งงานนี้

ออฟไลน์ AFA

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 54
ผมเดาว่า ราคาขายต่อ 5 ปี ของแจ๊สน่าจะอยู่ที่ราวๆ 40000 ในขณะที่ Mazda2 MT น่าจะขายได้อยู่ที่ 300000
ฉะนั้นมันก็ใกล้เคียงส่วนต่างที่คิดไว้ล่ะครับ
ส่วนรุ่นรถ ผมมีญาติที่ชอบขับ MT ปกติก็ขับกระบะ 4wd 2wd PPV ตัดสินใจซื้อยาริส MT  ผ่านมา 4 ปี แกบอกว่าถ้าเปลี่ยนคันใหม่คงไม่เลือก MT อีกแล้ว ... อันนี้คงแล้วแต่ความชอบล่ะครับบังคับจิตใจไม่ได้
เรื่องการซ่อมบำรุงในระยะ เข้าปีที่ 4 จึงจะเริ่มเจอปัญหากันแบบเล็กๆน้อย พอจะครบ 5 เมื่อไหร่ งบซ่อมจะก้อนใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ถ้ามีแนวคิดอยากจะขายอยู่แล้ว จากประสบการณ์ส่วนตัว ผมว่า 4 ปีครึ่ง ขายทิ้ง ซ่อมน้อยสุดล่ะครับ พอ 5 ปี ซ่อมไปแล้วก็จะไม่อยากขายอีก

ออฟไลน์ 6162002

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,089
โอ้ว สถานการณ์คล้ายๆผมเลยครับ แต่ผมเลือกจะเอาไมตี้ไปทำสี ปรับแต่งแทน เพราะฝึกแค่สองเดือน จะผ่อนรถเลยก็ใช่เรื่อง เอาตังไว้ต่อโท >_<

เป็นผมเอา แจ๊สนะครับ เหตุผลนอกเหนือจากเครื่องยนต์คือ ผมว่าภายในแจ๊สสวยก่าอ่า  ซื้อรถ ผมชอบแบบว่ามองแล้วมีความสุขอะไรแบบนั้นน่ะครับ แหะๆ

ออฟไลน์ H.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,896
    • อีเมล์
พอดีผมเกิดมากับ Nissan NV ตัวที่เป็น Van (ตูดยาวๆนั้นแหละ)
ผมเลยติดนิสัยตอนเด็กที่พ่อจะพับเบาะหลังแล้วเอาที่นอนปู แล้วขับเล่นตอนกลางคืน นอนไปดูดาวหลับฝันดีครับ  ;D

ผมเลยเลือก Jazz เหตุผลก็คือเป็นรถรุ่นเดียวใน Rank นี้ที่พับเบาะหลังได้ลงจนราบไปกับพื้นได้ เพื่อที่อนาคตผมจะได้ปูที่นอนให้ลูกผมนอนดูดาวบ้าง

แต่ถ้าถามว่าขับคนเดียวไม่สนใจใคร ไปกันแค่ 1-2 คน ผมเลือก mazda 2
H.

ออฟไลน์ dorakun

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 225
    • อีเมล์
จากที่อ่านมา ดูเหมือนว่าจะแคร์เรื่องราคาขายต่อใช่ไหมครับ
เอางี้ผมจะขอแชร์ประสบการ์แบบนี้ว่า....ถ้าคิดว่าซื้อมาใช้ 5 ปีแล้วขายทิ้ง
ก็เลือกคันที่ชอบไปเลยไม่ต้องสนใจเรื่องราคาขายต่อ
เพราะถึงแม้ว่าแจ๊ดจะขายได้แพงกว่า แต่ราคาซื้อก็แพงเหมือนกัน
ซื้อมาก็ใช้ไปเถอะ ใช้ให้คุ้ม ไม่ต้องสนใจรักษา
เพราะถึงเวลาขายต่อแล้วนั้น คันที่สภาพรักษาเหมือนนางฟ้า
กับคันที่เรียกว่าใช้จนคุ้ม....ราคาขายต่อก็ไม่ได้ต่างอาร่ายกันเลย
อย่างมากก็หมื่นสองหมื่น เรื่องยี่ห้อถึงแม้ว่ามาสด้าสองจะขายยากกว่า
ได้ราคาขายต่อน้อยกว่า แต่ตอนคุณซื้อคุณก็จ่ายน้อยกว่าด้วย
คิดแล้วส่วนต่างพอๆกัน...เพราะฉนั้นเลือกตามที่ชอบได้เลย

ปล.ความคิดผมในแง่มุมของเรื่องราคาขายต่อเท่านั้นนะครับ
เรื่องคุณภาพรถ หรือว่าความคุ้มนั้นไม่ได้เอามาคิดนะครับ
เพราะว่าคนที่จะตอบเรื่องนี้ได้ดีกว่านั้นก็คือเจ้าของรถที่จะซื้อครับ

ออฟไลน์ shutoff

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 110
    • อีเมล์
1. อันใหนขายยาก ง่าย    ผมว่าพอๆกันนะ ถ้าเทียบสองตัวนี้ เผลอๆ 2M/T ไปก่อน Jazz AT ถ้าอยู่ถูกที่
ส่วน Jazz M/T ผมว่าคนก็หาเยอะอยู่นะครับ เคยมองๆ Jazz Vtec M/T ตัวเก่าไว้ นี่ก็ไปไวใช้ได้เลย

ส่วนต่าง Jazz แพงกว่า ยังไงราคาขายต่อดีกว่า เพราะเป็นรถตลาดด้วย   แต่ 2 M/T ผมว่าคงไม่ใช่รถรักเจ้าของเท่าไรหรอกนะ :p

2. บ้าหอบฟาง ไปเที่ยวไกลๆ
   คงจะแนะนำให้คุณซื้อ Jazz ครับ ยังคิดเลยว่า ถ้าไปเที่ยวแล้วหาที่กางเตนท์ไม่ได้ จะพับเบาะแล้วนอนในรถซะเลย อิอิ
   แต่ถ้าเลือก 2  คงต้องจิ้มไปที่ 4dr อย่างเดียวแล้วล่ะ

ส่วนตัว ผมดู Jazz M/T มาตลอด เพราะชอบอะไรหลายๆอย่าง
ไปๆ มาๆ จบที่ 2HB M/T เพราะเรื่อง handling ซะงั้น

สรุป บางทีไม่ต้องใช้เหตุผลอะไรมากมายก็ได้ครับ หลับตาลง แว๊ปแรกที่นึกถึง นั่นอาจจะเป็นคำตอบที่ดีก็ได้นะ

ปล. ไม่ชอบ Jazz M/T หรอกเหรอครับ ผมว่าเป็นตัวเลือกที่ดีนะ

ออฟไลน์ banch

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,214
มีใครเคยขับ แจ๊ซ MT บ้างครับ

มันจี๊ดมากกว่า AT มากไหม

ผมยังหารถลองขับไม่ได้เลย ทั้งรถเพื่อนทั้งรถโชว์รูม มีแต่ AT ทั้งนั้น



ออฟไลน์ pithakh

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 76
    • อีเมล์
ส่วนตัวคิดว่าน่าจะรอเรียนจบ ทำงานเงินเดือนมั่นคงแล้วค่อยซื้อน่าจะดีกว่านะครับ

คันเก่า ISUZU TZR 2500 เครื่องมังกรยังน่าใช้อยู่มากนะครับ ประหยัดน้ำมันมากๆด้วย

มาสหกิจศึกษาที่ไหนหรือครับ พอดีผมอยู่เมืองกาญ เรื่องการเดินทางปัจจุบันนี้สะดวกมากนะ รถ ป1.ทุก 20 นาที+
รถตู้อีก

ออฟไลน์ MyName

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 8,141
  • I'm............................
ดูๆ แล้ว สิ่งที่คุณเอามาคำนวณหลักๆ ในตอนนี้ คือ ค่าใช้จ่ายในระยะการใช้รถ และทุนที่ได้คืนหลังขายไป ใช่มั้ยครับ
ถ้าเป็นเช่นนั้น ผมว่า ผมมีทางเลือก 2 ทางครับ
1. ออกรถที่ใช้จ่ายในระยะการใช้รถน้อยที่สุด และทุนที่ได้คืนหลังขายรถมากที่สุด
ถ้าเป็นอย่างแรก ผมว่า Jazz จะได้เปรียบเรื่องค่าใช้จ่ายมากกว่าครับ เพราะค่าบำรุงรักษาที่ไม่แพง อะไหล่ที่หาได้ง่ายตามเซียงกง
และค่าน้ำมันที่ดูจากตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ประหยัดกว่า ก็จะทำให้คุณประหยัดงบในการใช้รถคันนี้ไปพอสมควร
แต่ถ้าเป็นอย่างหลัง ในระยะยาว 5 ปีผมกลับมองว่า รถทั้ง 2 คันนี้สามารถทำราคาขายให้คุณในงบที่ใกล้เคียงกันครับ
Jazz อาจจะราคาดีกว่า เพราะราคาเริ่มต้นแพงกว่า
เพราะ Mazda 2 ก็ถือว่าเป็นรถที่มีความนิยมอยู่พอสมควร แม้ว่าอาจจะยังไม่สู้ Jazz ก็ตาม
2. ถ้า TFR ที่บ้านยังไม่จุกจิกจนเกินไปนัก ผมว่าน่าจะเอาคันนี้มาใช้ดีกว่า
เพราะมันจะประหยัดค่าน้ำมัน และค่าอะไหล่ ค่าบำรุงรักษา มากกว่ารถใหม่ทั้งสองอยู่พอสมควรเลยครับ
แล้วอีกอย่าง ก็พึ่งไปสหกิจ ยังไม่ได้ทำงานประจำ ก็น่าจะลดทอนค่าใช้จ่ายเรื่องออกรถใหม่ไปก่อนก็น่าจะดีครับ
เรายังไม่รู้ถึงอนาคตในระยะยาวว่าต้องใช้เงินทำอะไรบ้าง
Cars
2022 - Nissan Almera 1.0 Turbo VL
2016 - Mazda 2 1.5XD High Plus L
2008 - Mitsubishi Space Wagon 2.4 GLS Ltd. !User'Review Click here!
1997 - Daihatsu Mira

Motorcycles
2023 - Vespa Sprint S 150 i
2012 - Yamaha Mio 125 GTX

ออฟไลน์ MoLee

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,191
โดยส่วนตัวแล้ว ถ้าได้งบเท่านี้ ผมจะหันไปคบกับ mazada 3 ตัว2.0 ราคาตอนนี้ ก็อยู่ในงบพอดีเลย (รถ2ปี 5dr )
เหตุลคือไม่มีเหตุผลครับ ความชอบส่วนตัวครับ

แต่ถ้าให้เลือก แค่ 2 คันนี้ ผมคงเลือก Jazz ครับเพราะส่วนตัวชอบ รูปร่าง ตัวนี้มากกว่า mazada2

แต่ถ้าต้องห่วงเรื่องค่าน้ำมันแล้ว งบเท่านี้แล้วต้องรีบใช้รถ คงจะเลือก city ครับ  ไม่ห่วงว่ากำลังจะไมเนอร์ รถดี ใช้ไปเหอะ ตัวไมเนอร์ เปลี่ยน นิดหน่อยเอง

อยากจะฝากไว้ว่า ไม่ควรจะเลือกรถเพราะราคาขายต่อ มันไร้สาระมากครับเรื่องนี้ ถ้าคิดเรื่องนี้มาก ก็เชิญ เอา yaris vios jazz มาเปรียบเลยครับ. ไม่ควรเลือกรถ เพราะมีคนบอกๆกันว่าคันนี้ดีกว่า คันโน่นดีกว่า  คุณควรจะตัดสินใจด้วยตัวเองว่า คุณชอบคันไหน และคุณจะอยู่กับคันไหน แล้วจะมีความสุข เพราะรถมันอยู่กับคุณ ไม่ใช้อยู่กับคนที่บอกคุณมา

ออฟไลน์ isnut

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 9
    • อีเมล์
-ขอบตคุณทุกๆความเห็นครับ

 

ออฟไลน์ joesamui

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 153
    • อีเมล์
ความเห็นส่วนตัวนะครับ เป็นผม ผมเลือกแจ๊ส

ตอนเรียนอยู่ก็ใช้แจ๊สตัวเก่าอยู่ครับ อเนกประสงค์ดี จะย้ายหอ ขนของ ไปเที่ยวกับเพื่อนหลายๆคน พับเบาะไปเลยครับ

นั้งได้ตั้ง 8-9 คน

เกียร์ธรรมดาก็ดีครับ ขับมัน อัตราเร่งดีกว่าออโต้แน่นอน

แต่คนที่ซื้อเกียร์ออโต้ออกมาแล้วเกินอาการคันนำมาแ่ต่ง อยากมันส์ ก็หาแลกเกียร์ธรรมดากันเยอะ

ปล.ราคาขายต่อเกียร์ออโต้จะได้มากกว่าเกียร์ธรรมดาครับ

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,624
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
ก่อนอื่น ขอบคุณครับ ที่ยกให้เราเป็นเว็บรถยนต์อันดับ 1 ในใจคุณ ทำให้เราคิดว่า เราเป็น กาแฟกระป๋อง เบอร์ดี่้ (ฮา)
เพราะเรา "เรื่องมากกันทั้งทีม" เราถึงมีวันนี้ได้ครับ ถ้าไม่เรื่องมาก อะไรก็ได้ ทุกอย่างคงจะเป๋ไปจากนี้ และคุณคงจะเกลียดเว็บนี้ไปเลย นี่พูดตรงๆ

--------------------

เ้ข้าเรื่อง

Jazz เกียร์ธรรมดารุ่น Minorchange นั้น ถ้าคุณปล่อยลงเน็ต ใน 5 ปีข้างหน้า
ผมเชื่อว่า จะมีคนมาสอยรถคุณไปทำรถแข่ง รถซิ่ง แน่ๆ และน่าจะเกิดเหตุแบบเดียวกัน กับ Mazda 2 เกียร์ธรรมดา
เพราะรถในสนามแข่ง ยังไงๆ คงต้องเป็นเกียร์ธรรมดา ถึงจะเหมาะสม

ยิ่งรุ่นใหม่ มี SRS คู่ มี เซ็นเซอร์ถอยหลังมาให้ ครบทุกรุ่น ตั้งแต่รุ่นเกียร์ธรรมดา ในราคา 599,000 ทำให้ผมเองก็เกิดอยากลองรุ่นนี้มาก
แต่ข้อเสียคือทัศนวิสัยด้านหน้าที่แย่ไปหน่อย กับช่วงล่างที่ ถ้าปรับได้อีกหน่อยก็ดี แค่นั้นเลย

ส่วน Mazda 2 เกียร์ธรรมดานั้น ผมว่า คุณจะแฮปปี้ ตรงที่การเข้าเกียร์ กับอัตราเร่งในภาพรวม ที่น่าจะพาคุณ
ออกจากสถานการณ์ต่างๆได้ดี ไม่มีเกียร์อัตโนมัติมาเป็นตัวถ่วงความเจริญขนาดนั้น

ถ้าจะต้องรีบออกรถ Mazda 2
ถ้ายังรอได้ ไป Jazz

และ้ถ้าเป็นผม ผมคิดว่า ไม่ลองหา Vios รุ่นแรก มือสอง ปีสุดท้าย 2006 สักหน่อยหรือครับ?
มันเป็นรถที่ออกต่างจังหวัดได้ดีคันนึง และขับดีมากที่สุดในภาพรวมของกลุ่ม B-Segment
ที่แม้แต่รถรุ่นใหม่ ก็ยังสู้ไม่ได้ครบทุกด้านจริงๆ

ออฟไลน์ น้าเดช

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 203
  • my step on the earth
ตามตาอ้วน JiMMy ไปยาวครับ vios ตัวแรกขับสนุกจริงๆครับ
Smooth l Head l!ght mag l

ออฟไลน์ jAk`CS

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 612
รุ่นเดียวกันเลยครับ ผมก็ปี3 จะสหกิจ 3พ.ค. นี้เหมือนกัน

ในความเห็นผม ผมเชียร์ Mazda2 นะครับ 
ชอบที่รูปลักษณ์ + อัตราเร่งของเกียร์MNไม่ด้อยกว่าคันอื่นๆเลย

แถมประหยัดส่วนต่างได้อีกเยอะ ถ้าใช้แค่5ปี  อีกอย่างโฉมนี้ก็ยังอยู่อีกนาน กว่าจะตกรุ่น

ปล. ที่สหกิจให้เยอะจัง ผมได้แค่ 3000เอง อิอิอิ
ทักทายกันได้ครับ > http://www.facebook.com/tangkuangheng

2016' >>> BMW X1 ปลายปีนะเก็บตังแพร๊บ Y_Y
2015' >>> Peugeot 207CC
2014' >>> Attrage GLS Ltd.
2013' >>> Alphard 2.4 Sport
2012' >>> Fiesta 1.5 Sport
2008' >>> Camry ACV40
2005' >>> Wish 2.0 Q-Limited
2000' >>> Soluna Minor' 1.5 GLI

ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,804
  • Hail to the darkside
Jazz M/T น่าสนใจในความมีสเน่ห์ลึกลับของมัน เพราะยังไม่เคยมีใครใช้แล้วเอามันมา review มาก่อน
(ผม search ในเน็ตจนเหนื่อยมาหลายครั้ง หุหุ)

พอ minor change แล้ว รุ่น M/T ของ Jazz ยิ่งเพิ่มสเน่ห์ให้มีความน่าหลงไหลขึ้นไปอีก
ตอนที่ผมซื้อ Mazda 2 จุดแข็งของมันสำหรับผมคือ มันเป็น World car of the year 2008
บวกกับ ดูโฆษณา Demio ในญี่ปุ่นแล้วมันน่ารักน่าชังที่สุด

สรุปแล้วทั้งสองรุ่นนี้ น่า love love ทั้งคู่เลย

ออฟไลน์ isnut

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 9
    • อีเมล์
รุ่นเดียวกันเลยครับ ผมก็ปี3 จะสหกิจ 3พ.ค. นี้เหมือนกัน

ในความเห็นผม ผมเชียร์ Mazda2 นะครับ 
ชอบที่รูปลักษณ์ + อัตราเร่งของเกียร์MNไม่ด้อยกว่าคันอื่นๆเลย

แถมประหยัดส่วนต่างได้อีกเยอะ ถ้าใช้แค่5ปี  อีกอย่างโฉมนี้ก็ยังอยู่อีกนาน กว่าจะตกรุ่น

ปล. ที่สหกิจให้เยอะจัง ผมได้แค่ 3000เอง อิอิอิ

อ่อ

พอดีผมได้ไปที่ เครือซิเมนต์ไทย(กระดาษ) ครับ

ผมไปวันที่ 2  เอ๊ะ ห่างกันวันเดียว เราเรียนที่เดียวกันไหม  555


    mazda2  เป็นรถที่ไม่ใช่รถ sport นับแต่รถบ้าน แล้วก้านกระปุกเกียร์สั้นที่สุดไหมครับหนิ  ผมรู้สึกว่ามันสั้นมากๆ ๆๆ   สั้นจนรับรู้ไปถึงหลักฟิสิกส์
  ที่ยิ่งสั้นยิ่งออกแรงเยอะ ออกแรงเยอะกว่ารถเกียร์ทำดาก้านยาวๆ เสียจริง!! แต่พอตำแหน่งมันใกล้พวงมาลัยมากๆ
     จนทำให้ feel ว่าตอน U tern  พอมือขวาควงพวงมาลัยด้วยความเร็ว  แล้วสันชาติญานของมือซ้ายมันชั่งพุ่งเข้าไปหา กระปุกเกียร์ได้ไว ยิ่งนัก

ทุกคนมีหลากความเห็นจริง ขอบคุณที่มีเว็บนี้เกิดขี้นมาจริงๆ  ;D ;D ;D ;D

  เดียว ศุกร์นี้ผมกลับบ้าน ที่สระแก้ว  วันเสาร์จะพาพ่อกับแม่ไปลองนั่งทั้งสองคัน คงจะตัดสินใจได้มากขึ้นครับ

จะน้อมรับทุกความเห็น ไปพิจารณาในการตัดสินใจครั้งนี้ครับ


    ส่วนพี่ๆที่แนะนำว่า ขับรถ กระบะคันเก่าไปก่อน และ ที่แนะนำว่า  อย่าเลือกซื้อรถเพราะว่าราคาขายต่อ มันเป็นอะไรที่ไม่ควรให้ความสำคัญขนาดนั้นอะไรประมาณนี้
ผมก็เข้าใจครับ  แต่ในความรู้สึกของผม ผมชอบสองคันนี้เท่ากันเสียจริงๆ   

     ก็เลย อยากให้ปัจจัยในการตันสินใจครั้งสุดท้ายอยู่ที่ต้นทุนของการใช้รถ 5ปี


                     เท่าที่ผมวนอ่านอยู่หลายรอบและจับใจความมา
   สรุปแล้ว พี่ๆคิดว่า ต่อไปหาปี  ถ้าแจสที่ผมจ่ายเงินวันนี้ 668,000 วันนั้นขายได้  400,000 บาท   จะได้ว่าต้นทุนจากการใช้งาน
เป็น 266,800 บาท     

                                    ข้อที่1  พี่คิดว่าต้นทุนการใช้งาน ของ มาสด้าสอง ซีดาน ถูกกว่า 266,800 จะมีโอกาศเป็นไปได้ไหมครับ    ก็คือว่าจะขายได้ราคาแพงกว่า                 260,200 บาท


          (ขอโทษด้วยนะครับถ้าพี่ๆคิดว่าความคิดผมเรื่องราคาขายต่อเนี่ยมัน ไรสาระเกินไปอะไรแบบนี้ แต่อยากให้พี่ๆแชร์การคาดเดา  เพราะจากที่พี่แพน แนะนำให้ดูราคา
mazda3 เทียบ civic   ที่ผมเทียบได้แบบไม่เป๊ะ ก็เพราะปัจจัยว่า ช่วงนั้น แต่ล่ะค่ายของแถมส่วนลดอะไรเป็นยังไง  เพราะ 5ปีก่อนผมยังเด็ก ยังไม่ได้ติดตามครับ)


                                                ข้อที่ 2
  ยิ่งไร้สาระเลยมั้งสำหรับพี่ๆ    พี่คิดว่าสองคันนี้ ไปรับสาวๆรุ่นน้อง เด็กมัธยม  คันไหน ดูดีกว่ากันครับ 
                    แชร์กันขำๆครับ  ///   :D :D :D :D :D

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,624
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
พูดกันตรงๆคือ ไม่มีใครที่สามารถคาดการณ์ราคาขายต่อได้อย่างแน่นอนหรอกครับ
ต่อให้เป็นพ่อค้ารถมือสอง เพราะในความจริงแล้ว ขนาดรถอย่าง Saab ที่ราคาฮวบๆ
จู่ๆ บางช่วง ราคาพวกท่าน ก็สูงขึ้นดื้อๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ ก็มีมาแล้ว

รถอะไรก็ตาม ที่มีแนวโน้มว่า มีคนซื้อไปใช้ต่อ
หรือมีคนซื้อ เอาไปโมดิฟายต่อ แต่งต่อได้ ของเล่นเยอะ อะไหล่หายห่วงละก็
เดี๋ยวราคาขายต่อก็จะสูงของมันเองละครับ

ออฟไลน์ isnut

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 9
    • อีเมล์
พูดกันตรงๆคือ ไม่มีใครที่สามารถคาดการณ์ราคาขายต่อได้อย่างแน่นอนหรอกครับ
ต่อให้เป็นพ่อค้ารถมือสอง เพราะในความจริงแล้ว ขนาดรถอย่าง Saab ที่ราคาฮวบๆ
จู่ๆ บางช่วง ราคาพวกท่าน ก็สูงขึ้นดื้อๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ ก็มีมาแล้ว

รถอะไรก็ตาม ที่มีแนวโน้มว่า มีคนซื้อไปใช้ต่อ
หรือมีคนซื้อ เอาไปโมดิฟายต่อ แต่งต่อได้ ของเล่นเยอะ อะไหล่หายห่วงละก็
เดี๋ยวราคาขายต่อก็จะสูงของมันเองละครับ

   

 ขอบคุณครับพี่จิมมี่    นอนดึกจังครับ  admin คนนี้
ได้คุยกับพี่จิมมี่   ตื่นเต้นเหมือนได้คุยกับ ดาราเลย :D :D :D :D :D :D :D 

ออฟไลน์ MoLee

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,191

                                                ข้อที่ 2[/u][/i][/b]  ยิ่งไร้สาระเลยมั้งสำหรับพี่ๆ    พี่คิดว่าสองคันนี้ ไปรับสาวๆรุ่นน้อง เด็กมัธยม  คันไหน ดูดีกว่ากันครับ 
                    แชร์กันขำๆครับ  ///   :D :D :D :D :D

[/quote] ผมว่่าmazada 2ดูเท่ห์กว่าjazz นะ ;D

ออฟไลน์ crucifixzz

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 960
ชอบคันไหน เอาคันนั้นเลยครับ  vios ก็ขับดีนะครับแต่ต้องทำช่วงล่างนิดนึง