เอาอย่างนี้ แสดงว่าไม่ได้รู้มาก่อนเลยว่า อะไรคือค่าออกเทน
โดยสรุป
- เครื่องยนต์ รถยนต์ทั่วไป มี 4 จังหวะ มีจังหวะการจุดระเบิด คือ "ดูด(ไอดี) อัด(ไอดี) ระเบิด คาย(ไอเสีย)" <--- เหมือนทะลึ่งลามก แต่เป็นอย่างนี้จริงๆ
- แต่ในขณะที่เครื่องยนต์ ทำงานรอบสูงๆ ลองคิดดู ถ้า ดูด อัด ระเบิด คาย เร็วๆ โอกาสที่ เครื่องยนต์ จะชิงจุดระเบิดขึ้นเอง
(เรียกง่ายๆ คือเครื่องเขก) ก่อนที่จะถึงจังหวะของมันมีสูง เพราะ ถ้าในจังหวะที่ลูกสูบ กำลังจะ "อัด ส่วนผสมไอดี" ขึ้นไปด้านบนห้องเผาไหม้
เพื่อให้หัวเทียน จุดระเบิด ถ้าความร้อน และความดันในห้องเผาไหม้ สูงจนทำให้ ไอดีบางส่วนมันระเบิดก่อนที่หัวเทียนจะจุดระเบิด
นี่ละครับ อาการ Knocked หรือ เครื่องยนต์เขก นั่นเอง
- ดังนั้น น้ำมัน (ซึ่งเป็นส่วนผสม ที่เข้าไปผสมกับไอดี) จึงต้องมีค่าออกเทนสูงขึ้น เพื่อช่วยลดโอกาส การชิงจุดระเบิด
- เพราะ ค่าออกเทน ในน้ำมัน ก็คือ "ค่าการต้านทาน การชิงจุดระเบิด ของเครื่องยนต์" นั่นเอง
ตัวเลขยิ่งสูง ก็ยิ่งต้านทานการิงจุดระเบิดได้มาก การเผาไหม้ ก็จะสมบูรณ์ขึ้น เครื่องยนต์เดินเรียบขึ้น
มลพิษที่ออกมา ก็จะสะอาดขึ้น ไม่มีเขม่า ลูกสูบก็ไม่พังเร็วก่อนกาลอันควร ยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์