"ชัยวุฒิ"กล่อม"ฮุนได"ตั้งฐานผลิตรถยนต์นั่งในไทย พร้อมหนุน"ซัมซุง ไฟน์ เคมิคอล"ผนึกญี่ปุ่นลงทุนอุตสาหกรรมเคมีชีวภาพจากมันสำปะหลัง
นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ในการโรดโชว์ที่ประเทศเกาหลีใต้เมื่อเร็วๆนี้ ได้หารือกับนาย Yang Seong Seok ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทฮุนได มอเตอร์ ถึงการตั้งฐานการผลิตรถยนต์ฮุนไดในประเทศไทย ซึ่งฮุนไดมีฐานการผลิตในจีน อินเดีย สาธารณรัฐเช็คและบราซิล เพราะขนาดตลาดค่อนข้างใหญ่ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างพิจารณาตั้งฐานการผลิตในอาเซียน ซึ่งได้พิจารณาความเหมาะสมในหลายประเทศ เช่น ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม
"ผมบอกไปว่าไม่ควรตัดสินใจเลือกประเทศจากสิทธิประโยชน์ที่ได้ในช่วงเริ่มลงทุนเท่านั้น แต่ให้มองระยะยาว เพราะมีบริษัทรถยนต์บางรายตั้งฐานการผลิตในประเทศอาเซียน แต่ต้องย้ายฐานการผลิตกลับมาไทยอีกครั้ง และมีความเป็นไปได้ถึง 70% ที่ฮุนไดจะเลือกไทยเป็นฐานการผลิตแห่งใหม่ เพราะไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ขนาดใหญ่ในอาเซียน และมีอุตสาหกรรมสนับสนุนที่เข้ม ซึ่งต้องรอว่าบริษัทจะตัดสินใจเมื่อใด และขนาดการลงทุนจะเป็นเท่าใด"นายชัยวุฒิ กล่าว
ทั้งนี้ การปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ของไทย ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการตัดสินใจลงทุนของฮุนได โดยบริษัทไม่ได้กังวลเรื่องนี้ เพราะเป็นทิศทางของโลก แต่ฮุนไดต้องการความมั่นใจเกี่ยวกับการตลาดในไทย และยืนยันว่าจะต้องมีฐานการผลิตในอาเซียน เพราะเป็นตลาดที่มีประชากรถึง 500 ล้านคน และฮุนไดเร่งศึกษาการลงทุนในอาเซียน ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะลงทุนผลิตรถยนต์นั่ง เพราะเป็นสินค้าหลักของฮุนได
ด้านนายวัลลภ เตียศิริ ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ กล่าวว่า ปัจจุบันไทยมีโรงงานประกอบรถยนต์ 14 ราย หากฮุนไดตัดสินใจลงทุนในไทยจะต้องใช้เวลา 2 ปี เตรียมการก่อนเริ่มผลิต ซึ่งการลงทุนของฮุนได จะส่งผลให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ของไทยมีทางเลือกมากขึ้น โดยปัจจุบันเกาหลีใต้ผลิตรถยนต์ได้ 4.3 ล้านคัน เป็นผู้ผลิตอันดับ 5 ของโลก และ90% เป็นการผลิตรถยนต์นั่ง โดยในปี 2553 เกาหลีใต้ส่งออกรถยนต์ 65% ของการผลิตทั้งหมด
นายชัยวุฒิ ยังกล่าวอีกว่า ในการโรดโชว์ครั้งนี้ ยังได้หารือกับนาย Kim Jong Joong ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทซัมซุง ไฟน์ เคมิคอล เพื่อชักชวนให้มาลงทุนอุตสาหกรรมเคมีชีวภาพ โดยใช้มันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบ ซึ่งจะเป็นการร่วมลงทุนกับบริษัทญี่ปุ่น โดยปัจจุบันคณะกรรมการบริษัทร่วมลงทุนญี่ปุ่น อยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียด และมีความเป็นไปได้ที่จะยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนในปีนี้ ซึ่งบริษัทสนใจลงทุนในไทย เพราะมีวัตถุดิบและได้ศึกษาพื้นที่ลงทุนในไทยแล้ว 3-4 แห่ง และการลงทุนกิจการดังกล่าวได้สิทธิประโยชน์ส่งเสริมการลงทุนอย่างเต็มที่ เพราะเป็นกิจการด้านแปรรูปสินค้าเกษตร
นอกจากนั้น ยังได้หารือกับนาย Rhee Nam Hyuk รองประธานด้านการวางแผนกลุ่มบริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งบริษัทได้ลงทุนผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในไทยแล้ว และอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงานในจ.ฉะเชิงเทรา มูลค่าการลงทุน 3-4 พันล้านบาท โดยบริษัทเตรียมขยายการลงทุนตามความต้องการของตลาด ซึ่งฐานการผลิตในไทยมีความเข้มแข็ง