ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไมรถยี่ห้อญี่ปุ่นถึงไม่นำรถเก๋งเครื่องดีเซลมาตีตลาดบ้านเรา  (อ่าน 7086 ครั้ง)

ออฟไลน์ RockYou

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 69
    • http://facebook.com/akkarat.ton
    • อีเมล์
อยากรุจิงๆคับ ว่าทำไมพวก โตโยต้า ฮอนด้า นิสสัน ฯลฯ ถึงไม่นำรถเก๋งเครื่องดีเซลมาขายในบ้านเราคับ
ผมเชื่อว่าคนไทย(หลายคน)ต้องการรถเครื่องดีเซล เพราะทน แรง
เหนพวกยุโรปเอารถเก๋งเครื่องดีเซลมาขายกันมากมาย

ปล. ไม่นับรถยุโรปอย่าง บีเอ็ม กับ เบนซ์ นะคับ

 ;)
พูดไม่เพราะแต่จริงใจ
ดีกว่าปากปราศรัย  แต่น้ำใจเชือดคอ!!

ออฟไลน์ Arado_kung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,062
    • อีเมล์
ไม่มีความจำเป็นครับ เพราะยังไงเครื่องเบนซินก็ขายดีกว่าอยู่ดี แถมเครื่องดีเซลต้นทุนแพงกว่าเครื่องเบนซินเยอะนะครับ สมมุติถ้ามี Altis 2.2 D4D รุ่นท็อปราคาซัก 1.3 ล้านจะมีคนซื้อซักกี่คน ถามง่ายๆเลย

ออฟไลน์ FyGI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,309
ส่วนใหญ่เห็น ทางยุโรป จะขายเก๋งดีเซลเยอะครับ

แม้กระทั่ง รถญี่ปุ่น ยังทำเครื่องดีเซลขายเลย

ออฟไลน์ TorTy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,992
ไม่มีความจำเป็นครับ เพราะยังไงเครื่องเบนซินก็ขายดีกว่าอยู่ดี แถมเครื่องดีเซลต้นทุนแพงกว่าเครื่องเบนซินเยอะนะครับ สมมุติถ้ามี Altis 2.2 D4D รุ่นท็อปราคาซัก 1.3 ล้านจะมีคนซื้อซักกี่คน ถามง่ายๆเลย
เห็นด้วยอย่างมากครับเครื่องดีเซลต้นทุนการผลิตสูงกว่ามากผมเคยถามช่างที่ศูนย์เบนซ์ เครื่อง e-class W211 ตัวก่อนโฉมปัจจุบัน เครื่องเบนซิน E280 เบิกใหม่ราคาประมาณ 4แสน เครื่องดีเซล E220CDI เกือบ8แสนบาทตอนนั้นมีพังกันเยอะที่น้ำท่วมนะครับมีโดนไปหลายคันอยู่

ออฟไลน์ Dejdazzle

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 165
ถ้าโครงสร้างภาษีใหม่จัดเก็บตาม CO2 level นี่ได้เห็นเครื่องดีเซลในรถเก๋งมากขึ้นแน่ครับ

ออฟไลน์ edward

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 243
แล้วทำไม ต้นทุนดีเซลถึงแพงกว่าล่ะครับ

ออฟไลน์ Valkilrey

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 646
    • อีเมล์
ต้นทุนดีเซลแพงกว่าเพราะชิ้นส่วนต้องรองรับการจุดระเบิดที่มีแรงอัดสูงกว่าเบนซินมาก?
ที่สำคัญ ระบบเทอร์โบที่ทำให้ต้นทุนแพงขึ้นอีก?

ออฟไลน์ H.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,896
    • อีเมล์
แล้วทำไม ต้นทุนดีเซลถึงแพงกว่าล่ะครับ
เครื่องดีเซลต้องทนรับสภาพแรงอัดที่สูงมากครับ ชิ้นส่วนทุกชิ้นต้องทนทานอย่างมาก และถ้าให้ดีต้องเบาด้วย
แค่นี้ก็แพงแล้วครับ

วัสดุอะไรที่ทนและเบาควบคู่กันหลายๆชิ้นราคามันมักกระแทกกระเป๋าเสมอๆ
H.

ออฟไลน์ nuch n14

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 170
    • อีเมล์
และคนที่ใช้รถเก๋งญี่ปุ่นก็ไม่ชอบเครื่องดีเซลด้วยนะซิ
ควันดำ เสียงเครื่องดัง บางท่านก็ไม่ชอบ
แต่ผมมีความสุขมากที่ได้เลือกใช้ tdci ครับ

ออฟไลน์ beerrl

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,671
    • อีเมล์
ต้นทุนเครื่อง ดีเซล แพงกว่า เบนซินครับ  ซึ่งราคาถ้ามาขายก็แพงกว่า
การบำรุงรักษา ต่ำกว่า ทำให้ ศูนย์บริการ ซ่อมน้อยลง รายรับลดลง
อัตราการกินน้ำมัน ต่ำกว่า  น้ำมันขายได้น้อยลง ปตท ก็กำไรน้อยลงซิครับ
ปริมาณ CO2 น้อยกว่า แต่ ประเทศไทย ไม่มีกฏหมายบังคับ
เสียงดังกว่า ซึ่ง คนไทยชอบบอกว่า รถกะบะ ครับ

จริงๆแล้ว รถเครื่องยนต์ ดีเซล สามารถให้ประสิทธิภาพ ดีกว่า เบนซินเยอะครับ เนื่องจาก การพัฒนาตอนนี้ เบนซินมาถึงจุดที่เรียกว่าจะสูงสุดของเทคโนโลยีแล้ว แต่ เบนซินยังสามารถไปได้อีกไกลครับ

ในยุโรป ทั้ง Honda, Toyota, Mitsubishi หรือ Nissan หรือแม้กระทั้ง รถแดนโสม มีเครื่องดีเซล ทั้งนั้นละครับ ผมคิดว่าค่าซ่อมบำรุงเขาแพงมาก เขาเลยต้องเลือกรถที่ทนทาน รวมถึงกำลังดี เพราะ ประเทศเขามีเนินเขาเยอะ  ถึงแม้ว่า ราคาน้ำมันดีเซล จะแพงกว่า เบนซิน แต่ รถเครื่องดีเซลก็ขายดีกว่าครับ

ประเทศไทยควรที่จะเอาเครื่องดีเซล มาขายเยอะๆ เพื่อให้ประชาชนคนไทยได้ประโยชน์จากการซื้อรถ ที่แพงกว่าประเทศอื่นๆ แต่รายได้เราต่ำกว่าที่อื่นเขา
Volvo 850GLT
Honda odyssey
Toyota Camry hybrid
Suzuki swift eco
Hyundai tucson crdi
Nissan Xtrail 2.0V 4wd
Honda Civic FC 1.8EL

ออฟไลน์ H.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,896
    • อีเมล์
แต่ผมก็ชอบเครื่องดีเซลของโตโยต้านะ เครื่อง D-4D อะครับ ผมว่าเสียงเครื่องมนัมีสเน่ห์นุ่มลึกมากต่างกับเครื่องของอีจุจุ

ถ้าโตโยต้าเอาเครื่องดีเซลแบบ D-4D เสียงนุ่มๆแบบนั้นวางเก๋งละผมจะว็ากลั่นบ้านเลย
เสียงมันมีสเน่ห์กว่าเครื่องเบนซิลรถตลาดทั่วไปมากเลยสำหรับผม
H.

ออฟไลน์ Arado_kung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,062
    • อีเมล์
แต่ผมก็ชอบเครื่องดีเซลของโตโยต้านะ เครื่อง D-4D อะครับ ผมว่าเสียงเครื่องมนัมีสเน่ห์นุ่มลึกมากต่างกับเครื่องของอีจุจุ

ถ้าโตโยต้าเอาเครื่องดีเซลแบบ D-4D เสียงนุ่มๆแบบนั้นวางเก๋งละผมจะว็ากลั่นบ้านเลย
เสียงมันมีสเน่ห์กว่าเครื่องเบนซิลรถตลาดทั่วไปมากเลยสำหรับผม

พี่โตเค้าใช้สายพานขับแคม แต่อีซุซุมันใช้โซ่เสียงมันก็เลยดังกว่า แต่คนใช้วีโก้จะซีดเอาตอนแสนกว่าโลเพราะต้องเปลี่ยนสายพานแคม โดนเข้าไปทั้งชุดน่ะเฉียดๆหมื่นเลยนะเออ ส่วนอีซุซุทะลุ2แสนไปแล้วยังไม่ต้องยุ่งอะไรเลย

ออฟไลน์ youngbear

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,331
 ;D ;D ;D...........อันนี้อาจจะเป็นข้อคิดของผ้ผลิตรถญี่ปุ่น think twice เหตุหนึ่งด้วยมั้งครับ............คือ
1.  ดีเซลในไทยกลั่นที่  357 องศาเซลเซียส ค่า cetane number 47-50 (รถยูโร ทู สีส้ม ต้องใช้ดีเซลกลั่นพิเศษราคาเพิ่มอีก 1 บาท/ลิตร)
2.  ดีเซลในญี่ปุ่น สิงคโปร์และยุโรปตะวันออก กลั่นที่ 330 เซลเซียส cetane number 57-61 (เนื้อน้ำมันใสกว่าเบากว่า 357)
3.  ดีเซลในอเมริกา แคนาดา ฝรั่งเศส อังกฤษ เยอรมัน เบลเยี่ยมและสเปน กลั่นที่ 310 cetane number 61-67 (ใสมากเบามากน้องๆ
     เบนซิน)
..........................ด้วยเหตุนี้เครื่องยนต์ diesel commonrail ที่ใช้ดีเซลตามข้อ 2.-3.จึงเดินเรียบและปลอดปัญหา ดังนั้นบรรดา 320d,520d,
220 CDI และ Peugeot/Citroen HDI ตลอดจน H/D Accord diesel กับ CRV diesel (ขายอย่ในยุโรป) จึงไม่เจอปัญหามีไขของน้ำมันปาล์ม
เข้าไปอุดตันหัวฉีดและระบบ diesel commonrail ดังเช่นที่เกิดขึ้นบ่อยๆในรถเครืองยนต์ diesel commonrail ทั้งเก๋งและกระบะรุ่นใหม่ในบ้านเรา !!!..................อาจจะเป็นด้วยเหตุนี้เองค่ายญี่ปุ่นจึงยังไม่กล้าปล่อยเก๋งดีเซลในตลาดเมืองไทย
ปล. ใครใช้ diesel commonrail อยู่ ก็ขอให้ใช้ V-Power diesel ช่วยดูแลเครื่องยนต์ของรถพวกเราเองไปก่อน จนกว่าเขาไปบอกบริษัทผลิต
รถให้ผลิตระบบหัวฉีดรองรับน้ำมันปาล์มได้เมื่อไรค่อยมาปรับตัวกันใหม่ หรือเขาอาจจะใจป้ำเปิด line กลั่น 330 เท่าของญี่ปุ่นได้เราก็จะไม่
เสียเศรษฐกิจไปกับค่าซ่อมระบบ commonrail ทุกๆ 100,000 km.                        yogibear 8)



ออฟไลน์ PREM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,203
^
^
ว้าว คุณ yogibear พิมพ์ภาษาไทยครับวันนี้ ;D
2014 Mazda CX-5 2.5 S
2016 Volvo XC60 D4 
2019 Honda Jazz RS+
2020 Volvo V60 T8 Inscription
2022 Mazda CX-30 SP

ออฟไลน์ Sappe!

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,975
เพราะคนไทยเห็นว่า

รถเก๋ง ต้องเบนซิน

รถกระบะ ต้องดีเซล

ไงครับ  ;D
'02 Ford Ranger 2.5 Turbo XLT
'06 Ford Ranger 3.0 TDCi XLT
'10 Ford Focus 2.0 TDCi Ghia
'11 Ford Fiesta 1.6 Sport
'14 Ford EcoSport 1.5 Titanium