ทำไมที่ความเร็วเท่ากัน เกียร์ M/T มีรอบเครื่องที่สูงกว่า A/T แต่ M/T กลับประหยัดกว่า

[BoMBkung]

คือสงสัยครับ
    ตัวอย่าง nissan march เกียร์ CVT เทียบกับ M/T รอบเครื่องที่ความเร็ว 100 km./hr  จะรอบเครื่องยนต์ที่ต่างกันมาก โดยเกียร์ M/T ใช้รอบเครื่องยนต์มากกว่าเกียร์ CVT ประมาณ พันรอบ แต่เมื่อทดสอบอัตราสิ้นเปลืองเปลืองแล้ว เกียร์ M/T กลับประหยัดกว่า  แล้วถ้าในรูปแบบการขับขี่ที่เหมือนกันทุกอย่าง เกียร์ M/T ของ march จะยังประหยัดกว่าตัว CVT ไหมครับ.....แล้วถ้าต้องการ march ที่ประหยัดน้ำมันที่สุด ควรเลือกเกียร์อะไรครับ โดยการขับขี่เป็นการขับในต่างจังหวัดเมืองเล็กๆ รถไม่ติด แต่ก็เดินทางไกลบ้างบางครั้ง.........รบกวนพี่ กูรู ช่วยแนะนำทีครับ ขอบคุณครับ
             

[VIRICIDE]

mt แน่นอนคับ ประหยัดชัวร์ยิ่งอีโค่คาร์แล้ว ประหยัดเกิ้นน

[jaesz]

คือสงสัยครับ
    ตัวอย่าง nissan march เกียร์ CVT เทียบกับ M/T รอบเครื่องที่ความเร็ว 100 km./hr  จะรอบเครื่องยนต์ที่ต่างกันมาก โดยเกียร์ M/T ใช้รอบเครื่องยนต์มากกว่าเกียร์ CVT ประมาณ พันรอบ แต่เมื่อทดสอบอัตราสิ้นเปลืองเปลืองแล้ว เกียร์ M/T กลับประหยัดกว่า  แล้วถ้าในรูปแบบการขับขี่ที่เหมือนกันทุกอย่าง เกียร์ M/T ของ march จะยังประหยัดกว่าตัว CVT ไหมครับ.....แล้วถ้าต้องการ march ที่ประหยัดน้ำมันที่สุด ควรเลือกเกียร์อะไรครับ โดยการขับขี่เป็นการขับในต่างจังหวัดเมืองเล็กๆ รถไม่ติด แต่ก็เดินทางไกลบ้างบางครั้ง.........รบกวนพี่ กูรู ช่วยแนะนำทีครับ ขอบคุณครับ
             

1.การสูญเสียพลังงานในการแปลงพลังงานกลเป็นแรงดันน้ำมันและเป็นพลังงานกล อีกที หนีไม่ได้ ถ้าเครื่องออกแบบมาเหมือนกัน เกียร์ธรรมดาจะมี LOST น้อยกว่า และหากทำอัตราทดที่เหมาะสมกับLOAD จะต้องประหยัดน้ำมันกว่าเกียร์ออโต้อยู่แล้วครับ
2. การสูญเสียในชุดสายพาน การใช้สายพานกับอะไรก็แล้วแต่มันต้องมีพลังงานหายไปกับการเสียดสีครับ ส่วนนี้พลังงานจากเครื่องก็ต้องออกแรงให้สายพานบิดตัวด้วยเพราะเกียร์CVT มีสายพานทีเหมือนโซ่ ตัวมันเองก็ต้องเปลี่ยนรูปร่างและมีแรงเสียดทานในการเคลื่อนที่ของสายพานอยู่ครับ
รวมก็คือ การเสียพลังงานกลไปเนื่องจากความร้อนระบบ สังเกตไหมครับว่าเกียร์ออโต้ต้องมีการใช้ระบบหล่อเย็นน้ำมันเกียร์ แต่เกียร์ธรรมดาไม่มี นั่นแหละครับพลังงานทีเอาไปทิ้ง

ไม่เกี่ยวกับรอบสูงหรือต่ำทั้งหมด เพราะรอบสูง ก็ไม่ได้หมายความว่า ใส่พลังงานลงไปมากกว่า รอบต่ำเสมอ

สมมติว่าผมเอารถสองคัน เกียร์เดียวกัน เครื่องเดียวกัน หนักเท่ากัน คันหนึ่ง วิ่่งขึ้นเขา อีกคันวิ่งทางเรียบ รถสองคัน ถ้าวิ่งด้วยความเร็วรอบเท่ากัน ความเร็วรถเท่ากัน คันที่วิ่งขึ้นเขา ต้องใช้พลังงานมากกว่า ต้องจ่ายน้ำมันมากกว่าด้วยครับ

[nuvut9]

เห็นเคยอ่านมาว่าที่ความเร็วเท่ากัน แต่รอบเกียร์ ออโต้ต่ำกว่า
เพราะสูญเสียกำลังในเครื่องยนต์มากกว่านะครับรอบเลยต่ำกว่า
แล้วก็ทำให้กินน้ำมันมากกว่าด้วยนะครับ

[FlavorWheel]

ดูที่รอบอย่างเดียวไม่ได้ครับ
ถ้าจะเอาให้แน่ต้องติดตั้ง ตัววัด Flowrate  เลยครับ

มันเป็นเรื่อง LOAD ที่กระทำกับล้อ ย้อนกลับมาที่เฟืองท้ายก่อน 

แ้ล้วค่อยผ่านเกียร์

แล้วมาที่รอบเครื่อง

ถ้าจะเปรียบแบบมองให้เห็นภาพ เหมือน คุณกับเพื่อนขับเสือภูเขา คนละคัน
แต่เป็น รุ่นเดียวกัน วงล้อเท่ากัน วงถีบเท่ากัน

แต่ต่างกันที่
มีเกียร์ Shımano หลายๆ speed ที่ตั้งอัตราทดไม่เหมือนกัน

ถ้าตั้งต้น สมมุติฐานที่ความเร็วจักรยานเท่ากัน และวัดที่ระยะทางวิ่งเท่ากัน

สองคันนี้มีเพียง เฟืองท้ายต่างกัน และเฟืองหน้าต่างกัน
คนที่ ใช้รอบเท้าน้อยกว่า ก็จะมี แรงต้านที่แป้นถีบมากกว่า คนที่ปั่นรอบมากกว่า(ปั่นจี๋กว่า)

ถ้าขับบนทางเรียบ มีโอกาสที่
คนใช้รอบเท้าน้อยกว่าจะใฃ้พลังงาน  เท่ากับหรือมากกว่าเล็กน้อย กับคนที่ปั่นรอบมากกว่าแต่มีแรงต้านที่แป้นถีบน้อย

เพราะฉะนั้นเกียร์CVT มีโอกาส ประหยัดกว่า MT ก็ต่อเมื่อ คนขับ เกียร์ MT เลือกเกียร์ไม่สัมพันธ์กับความเร็ว
แต่ถ้า คนขับ MT ศึกษา ความรู้เกี่ยวกับเครื่องมาดี และเปลี่ยนเกียร์ที่ความเร็วเหมาะสม
ยังไง ยังไง เกียร์ CVT ก็ไม่มีทางประหยัดกว่าได้ครับ

ขาดตกออะไรอาจจะมา Edit อีกครั้ง

ปล.พูดถึงเสือภูเขา เอ่อ ขอซื้อต่อ Webmaster ดีใหมเนี่ย หรือ ว่าลอยไปกับน้ำท่วมครากระทนู้นแล้ว

[TJA]

กระทู้ดีประจำไตรมาสเลย คุณค่าทางอาหารเพียบ 

.-_-.

[BoMBkung]

ขอบคุณทุกความเห็นมากๆครับ  กระจ่างขึ้นเยอะเลยครับ

[kimjung]

เวลาออกตัวถ้าเราเหยียบคันเร่งเท่ากัน เกียร m/t รอบสูงกว่าก็จริงๆเพราะอัตตราทดสูงกว่า
แต่ก็ได้แรงมากว่าในการฉุดลากน้ำหนักเท่ากัน ทำให้ออกตัวเร็วกว่าเกียร a/t
กลับกันถ้าคิดว่าอยากให้ออกตัวด้วยความเร็ว/แรงเท่ากัน ตัวเกียร m/t เราสามารถกดคันเร่งได้แผ่วเบากว่า
ลิ้นปีกผีเสื้อเปิดในระดับที่เหมาะสมกับปริมาณของอากาสและน้ำมันกว่า ทำให้เผาไหม้ได้สมบูรณ์กว่า

ที่ความเร็วเดินทางเกียร a/t เข้าโหมด lockup ไปแล้ว จริงๆแล้วมีค่าเหมือนเกียร m/t เกียร 5
แต่ด้วยอัตตราทดที่ต่ำกว่าเกียร a/t เลยทำทอร์คน้อยกว่า น้ำหนักคันเร่งเลยต้องกดลึกกว่า น้ำมันหนากว่า
กลับกันเกียร m/t ใช้รอบสูงกว่าที่ความเร็วเท่ากันก็จริง แต่คันเร่งกดได้เบากว่า อัตตราส่วนน้ำมันเหมาสมกว่า

แน่นอนทั้ง 2 กรณีด้านบนเลย ส่งผลให้ให้ปริมาณน้ำมันที่ใช้ของเกียร m/t น้อยกว่าในระยะทางที่เท่ากัน ขับแบบเดียวกัน

แต่ถ้าเป็นการแข่งขันประหยัดน้ำมันผมเลือกข้างเกียร a/t ว่าขับได้ได้ประหยัดกว่าเกียร m/t
เพราะสามารถ ออกตัวแผ่วๆได้โดยไม่ถูกบีบแตรไล่หลัง น่าจะประหยัดกว่าขับแบบชีวิตประจำวันได้เกิน 50%

ปล.ถ้าเข้าใจผิดพลาดตรงไหนรบกวนผู้รู้ช่วยแก้ไขด้วยนะครับ

[johnlee]

ถ้าเราไม่ติเรื่องน้ำหนักที่มากเกินไปของเกียร์ออโต้ ผมว่าเราสามารถทำความประหยัดโดยใส่จังหวะเกียร์ให้มากหน่อยอ่ะนะ

เช่น ออโต้ 5 จังหวะ ในรุ่นเดียวกัน ธรรมดา 5 จังหวะ

สามารถทำได้ แต่เท่าที่ทราบ เรื่อน้ำหนักตัวระหว่าง เกียร์ออโต้ กับเกียร์ ธรรมดา ถ้าจังหวะเท่ากัน เกียร์ออโต้น้ำหนักจะมากกว่า เพราะอุปกรณ์และของเหลวเยอะกว่า

กรณีนี้ ไม่เกี่ยวกับพวก ดูอัลคลัทช์ นะ กล่าวถึงออโต้ แบบทอร์คคอนเวอร์เตอร์ธรรมดา

[Pomy]

อยากทราบว่าเกียร์ MT ถ้าจะขับให้ประหยัดน้ำมันที่สุด รอบในแต่ละเกียร์ควรจะอยู่ที่เท่าไหร่ถึงจะเหมาะสมครับ
ส่วนตัวแล้วตอนนี้ผมขับจะพยามไม่ให้รอบต่ำกว่า 1500 และเปลี่ยนเกียร์ที่ประมาน 2200 แบบนี้มันต่ำไปไหมครับ
สมมุติว่าเป็นรถ honda new city เครื่อง 1500 เกียร์ MT

[liveshow]

อยากทราบว่าเกียร์ MT ถ้าจะขับให้ประหยัดน้ำมันที่สุด รอบในแต่ละเกียร์ควรจะอยู่ที่เท่าไหร่ถึงจะเหมาะสมครับ
ส่วนตัวแล้วตอนนี้ผมขับจะพยามไม่ให้รอบต่ำกว่า 1500 และเปลี่ยนเกียร์ที่ประมาน 2200 แบบนี้มันต่ำไปไหมครับ
สมมุติว่าเป็นรถ honda new city เครื่อง 1500 เกียร์ MT

เรื่องการชิฟเกียร์ ผมยังไม่ทราบว่าไอ่เจ้ามารช์ผม มันจะชิพจังหวะรอบเครื่องที่เท่าไรแล้วทำให้ประหยัดน้ำมันแล้วได้แรงเท่าเดิม
แต่ถ้าเเป็นเครื่องดีเซลรถเก่าผม ผมจะชิฟเกียร์ก็ต่อเมื่อเกิน 2000-2300 เท่านั้น เพราะเวลารอบเกียร์ถัดไปแรงจะไม่ตกแล้วความต่อเนื่องของ
ตัวรถจะไหลมาเรื่อยๆ เครื่องจะไม่รอรอบมาก

จข.รถต้อง จับจังหวะเอาเองอะครับ ลองดูครับ ไม่เสียหลาย บางทีชิฟเกียร์รอบต่ำไปกินน้ำมันกว่า รอบสูงนะครับ