ผู้เขียน หัวข้อ: Mitsubishi Galant GLSi ของป๋ม  (อ่าน 21485 ครั้ง)

ออฟไลน์ YIM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,988
  • ไม่น่ารัก เราไม่มอง!!
    • อีเมล์
Mitsubishi Galant GLSi ของป๋ม
« เมื่อ: เมษายน 11, 2011, 22:29:57 »
อันนี้ก็เป็น review ฉบับแรก เป็นที่น่าเสียดายว่า สภาพรถของผมดูไม่จืดอย่างรุนแรง จึงไม่อาจแสดงรูปให้ท่านดูได้ เอาไปดูแค่นี้ละกัน

สำหรับ review ผมก็คงจะอาศัยความรู้สึกของตัวเองพูดล้วนๆ เพราะผมยังไม่มีประสบการณ์และความรู้ และไม่เคยขับคู่แข่งของมันในเวลานั้น ไม่ว่าจะเป็น Corona T170 Accord ตาเพชร Cefiro A31 หรือ Bluebird U12 จึงไม่อาจบอกได้ว่ามันต่างกันอย่างไร ยังไงก็ลองดูกันก่อนนะครับ
JDM เท่านั้น จะครองโลก!

ออฟไลน์ YIM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,988
  • ไม่น่ารัก เราไม่มอง!!
    • อีเมล์
Re: Mitsubishi Galant GLSi ของป๋ม
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: เมษายน 11, 2011, 22:45:36 »
ประวัติคร่าวๆ (สั้นสุดๆ)

Galant รุ่นนี้ ถือเป็นรุ่นที่ 6 ซึ่งเปิดตัวในญี่ปุ่นช่วงปี 1987 ซึ่งที่ญี่ปุ่นนั้น มันได้รับรางวัล Car of The Year Japan ในปี 1987-1988 โดยในญี่ปุ่นจะมีเครื่องยนต์ 3 แบบ

1600 4G32 SOHC 79 แรงม้า
1800 4G37 SOHC 85 แรงม้า
2000 4G63 DOHC 140 แรงม้า (คุ้นๆ ไหม ก็ GTI บ้านเราไง)

และยังมีรุ่นพิเศษที่น่าสนใจอีก 2 รุ่นคือ

AMG จะมาพร้อมชุดแต่งพิเศษจาก AMG และ เครื่อง 4G63 DOHC 16v แบบตัว GTI แต่จูนเป็น 170 แรงม้า

และอภิมหาโคตรเหง้า Evolution นั่นคือตัว VR-4 4G63 Turbo DOHC 16v 200-240 แรงม้า มากับ Full-time 4WD และพวงมาลัย 4 ล้อ ที่สำคัญ มันมีเกียร์ออโต้!!! (แล้วทำไม Evo I-VI ไม่มี A/T ฟระ)

VR-4


AMG


อันนี้แถม มันเรียกว่า Mitsubishi Eterna เป็นรุ่น Hatchback ครับ (ตัว VR-4 จะเรียก ZR-4)
JDM เท่านั้น จะครองโลก!

ออฟไลน์ YIM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,988
  • ไม่น่ารัก เราไม่มอง!!
    • อีเมล์
Re: Mitsubishi Galant GLSi ของป๋ม
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: เมษายน 11, 2011, 23:20:39 »
มาเข้าเนื้อหากัน รถคันนี้แต่เดิมเป็นของคุณแม่ครับ ซื้อมามือหนึ่งเมื่อปี 92 ต่อมาผมเอามาใช้เรียนที่มหาลัย และทำงานมาจนถึงบัดนี้

รถคันนี้เป็นรุ่น  2.0 GLSi ตัวเครื่องเป็น 4G63 SOHC 8v (2v ต่อสูบ) มีแรงม้าประมาณ 110 ม้า ซึ่งถ้าจะว่าไป กับน้ำหนักตัวของมัน 1250 kg ก็ต้องถือว่าอืดทีเดียวถ้าเทียบกับ Jazz สมัยนี้ แต่ถ้าบนโค้งความเร็วสูง ต่อให้ Altis E120 ก็บ่อยั่นเด้อ รถคันนี้ถ้าจะกดจริงๆ 170 ก็ยังไหว (น่าจะได้ถึง 180 หรืออาจจะมากกว่านั้น แต่สังขารรถมันไม่ไหวแล้ว ผมกลัวด้วย) ช่วงล่างก็เป็นไปตามรถขับหน้ายุคนั้น ด้านหน้า MacPherson strut หลัง คานแข็ง Solid Axle (ในเมืองนอก บางรุ่นจะเป็น double wishbone) เบรคเป็นดิสก์ทั้งหมด

สิ่งที่รถยุโรปราคาแพงกว่าหลายรุ่นไม่มี (แต่ตาเพชรและหน้ายักษ์น่าจะมี) คือ กระจกพับ+ปรับไฟฟ้า (เออ Ex มันทำตกอยู่แถวไหนฟระ) ซึ่งสมัยนั้น พวกผมที่รถคันเก่าเป็น W123 รู้สึกตื่นเต้นอย่างที่สุด

แต่สิ่งหนึ่งที่รถ Sedan ณ เวลานั้น (รวมถึงเวลานี้) ไม่มีแน่นอน คือ ใบปัดน้ำฝนหลัง รถรุ่นไหนในไทยมีบ้างละ ที่ไม่ใช่เจ้านี่กับ Ultima ขนาด Cefiro ที่เป็นรถ segment สูงกว่ายังไม่มีให้เลย

แต่ภายในของเข้านี่ มีสิ่งหนึ่งที่น่าทุเรศคือ ตรง console จะมีช่อง switch แอร์ 3 ช่อง ซ้ายสุดใช้เลือกการไหลเวียนอากาศในห้องโดยสาร ขวาสุดเป็นระดับพัดลม ตรงกลางบ๋อแบ๋!!!!

จริงๆ แล้วมันเอาไว้ใส่ switch ของ heater แต่พอไม่มี heater ช่องนี้กลับปล่อยว่าง รถรุ่นนี้เลยปรับระดับความเย็นด้วยการหมุนไม่ได้ (มีแต่ปุ่มแบบเดียวกับ E-Car ไม่เย็น:เย็นน้อย:เย็นมาก) น่าเกลียดจริงๆ

ในแง่การขับขี่ รถรุ่นนี้ต้องขอบอกว่า ยังขับได้ดีกว่ารถ Compact และ Subcompact รุ่นใหม่ๆ หลายคัน การเลี้ยวโค้ง 140-150 องศา ที่ความเร็ว 80-100 ไม่ใช่เรื่องแปลก (ถ้าท้องไส้ทนไหวละก็นะ) เครื่อง SOHC 2v ต่อสูบ ก็เพียงพอที่จะพารถทะยานถึงความเร็ว 140 ได้สบายๆ (ถึงจะช้าไปบ้าง เพราะดมแก้สอยู่) และเมื่อเกิน 120 ไปแล้ว ช่วงล่างของเจ้านี่ก็ทำให้รถคันนี้ขับไปเรื่อยๆ ได้สบาย เกียร์ A/T 4 speed overdrive พร้อมตัวเลือก Econo/Power ก็ถือว่า OK ในระดับหนึ่ง (Econo จะเป็น mode ที่เกียร์จะเปลี่ยนเร็วที่ราวๆ 3000rpm ส่วน Power จะให้ลากได้ถึงราว 5000 rpm) ไม่จุกจิกมากมายเหมือนกับ INVECS/INVECS II ในยุคหลังๆ

ในส่วนการนั่ง ก็บอกได้เลยว่าคนอวบระยะสุดท้าย อัด 3 ที่เบาะหลังได้แน่นอน ที่วางเท้านั้นมีเหลือเฟือ เพราะรถมันยาว (ถึงจะกว้างแค่ 1695 mm เท่า Tiida, Jazz แต่ยาวกว่า Altis, Civic FD ละกัน) ส่วนเบาะก็กระชับดี

สรุป
Body ของ Galant รุ่นนี้ ช่วงล่าง ต้องยอมรับว่า หนึบ และทรงตัวดีมาก ขนาดที่รถใหม่ๆ หลายรุ่นยังอาย และในความรู้สึกของผม มันมีอะไรหลายๆ อย่างคล้ายกับ Ex ทั้ง feeling ในการขับ และหน้าตา (ยกเว้นกระจกพับไฟฟ้า 555) รวมไปถึงของเล่นที่ถือว่าเยอะไม่ธรรมดาในสมัยนั้น รวมไปถึง Pedigree ของสายพันธุ์ WRC ทำให้มันยังอยู่ในใจของหลายๆ คนตลอดไปครับ

สำหรับอันนี้เป็น review ครั้งแรก พอกลับไปอ่านแล้ว ยอมรับว่ายังเขียนได้ไม่ดี ก็จะพยายามหัดเขียนต่อไปครับ ขอบคุณที่อ่านครับ

Ref
http://ja.wikipedia.org/wiki/%E4%B8%89%E8%8F%B1%E3%83%BB%E3%82%AE%E3%83%A3%E3%83%A9%E3%83%B3
http://en.wikipedia.org/wiki/Car_of_the_Year_Japan
http://www.one2car.com/
http://www.mitsubishi-motors.com/corporate/museum/motorsports/j/90s_j/img/galant.jpg
http://upic.me/i/73/galant5.jpg
http://image.blog.livedoor.jp/zg40kome/imgs/3/1/3182a4ab.jpg?640480
JDM เท่านั้น จะครองโลก!

ออฟไลน์ !LiLo!

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 560
Re: Mitsubishi Galant GLSi ของป๋ม
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: เมษายน 11, 2011, 23:38:38 »
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ^^ แอบเสียดายอยากเห็นรูปด้วยน่าจะเพิ่มความบันเทิงขณะอ่านได้อีก

ผมว่าตัวนี้ถ้าแต่งดีๆ โหดกว่าLagecy อีกนะเนี่ย ทรวดทรงตามสมัยในยุคนั้น แต่ยังพอมีความเป็นยุโรปกับเค้าหน่อย

ว่าแต่..........AMGรู้ว่ามีกับมิตซูแต่ผมป่านนี้ยังไม่รู้เลยว่าทำไม AMGถึงแยกทางออกไป=_="

Toyota Prius 2nd GEN : ถึงหน้าผมจะไม่หล่อ แต่หัวใจผม"หล่อมาก!"

ออฟไลน์ YIM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,988
  • ไม่น่ารัก เราไม่มอง!!
    • อีเมล์
Re: Mitsubishi Galant GLSi ของป๋ม
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: เมษายน 12, 2011, 00:01:14 »
ขอโทษว่ามีแต่รูปบนสุดที่ถ่ายด้านหน้า

Mitsubishi ทำงานร่วมกับ AMG แค่แป้บเดียว ช่วงยุค 80s ครับ ตอนนั้นเป็นก่อนที่ AMG จะถูก Daimler Benz AG. ซื้อไป
ที่เลิกไปอาจเพราะ AMG กับ Daimler เซ็นต์สัญญาร่วมงานกับแบบเป็นทางการช่วงปี 90s ต้นๆ มั้งครับ
JDM เท่านั้น จะครองโลก!

ออฟไลน์ the_bunz

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 122
    • อีเมล์
Re: Mitsubishi Galant GLSi ของป๋ม
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: เมษายน 12, 2011, 14:46:38 »
เคยใช้อยุ่เหมือนกันครับ รุ่น GLSi เหมือนกันเด๊ะ
เครื่องดี ช่วงล่างดี แต่ อะไหล่ค่อนข้างหายาก แต่โดยรวมแล้วพอใจกว่าหลายๆคันในบ้าน (ในช่วงนั้น)

ออฟไลน์ TnP_PKt

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,429
Re: Mitsubishi Galant GLSi ของป๋ม
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: เมษายน 13, 2011, 16:53:54 »
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ(จริงๆน่าจะมีรูปหน่อยนะครับพี่)อดีตเคยมีคู่แข่งมันครับ ตาเพชรปี92(รีวิวอยู่ในนี้แหละ อิอิ) ผมรู้สึกว่าตาเพชรมันยังร่วมสมัยกว่าอะครับหรือว่าผมเห็น Galant ไม่บ่อยก็ไม่รู้สิครับ แต่ Galant บอกตรงๆผมไม่เคยแม้แต่นั่งครับเลยไม่รู้อะไรมากครับผม

ออฟไลน์ YIM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,988
  • ไม่น่ารัก เราไม่มอง!!
    • อีเมล์
Re: Mitsubishi Galant GLSi ของป๋ม
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: เมษายน 13, 2011, 17:11:37 »
คือรถมันเปิดตัวช้า (ก็เหมือนกับ EX ตอนนี้นั่นแหละ) คือที่ญี่ปุ่นมันออกมาตั้งแต่ปี 87 เมืองไทยมันก็มาตอนเกือบหมดอายุตลาดคือปี 90 แล้ว

อีกอย่างที่สู้ตราเพชรไม่ได้คือความกว้างครับ เพราะตาเพชรนั้นออกขายในญี่ปุ่นปี 90 ซึ่งช่วงหลังปี 89 ภาษีรถ 3-number มันลดลงมาแล้ว ทำให้ผู้ผลิตกล้าผลิตรถที่กว้างเกิน 1700mm ยาว 4700 mm สูง 2000 mm กันมากขึ้น แต่ Galant นั้นออกมาก่อนปี 89 ตัวรถยังคงกว้างแค่ 1695 เมื่อเทียบกับ Accord ที่กว้าง 1725 มันก็เลยดูแคบกว่า

ส่วน Corona ไม่ต้องพูดถึง Toyota เลี้ยงรถตระกูล Corona (ต่อมาคือ Premio) และ Carina (ต่อมาคือ Allion) ไว้ในตลาด 5-number ตลอดอยู่แล้ว เพราะรถ 3-number D-segment พวกพี่แกมี Camry/Scepter แล้วก็ตระกูล Mark-II/Chaser/Cresta/Verossa/Mark-X อยู่แล้ว

ปล. รถ 5-number คือรถที่กว้าง 1700mm ยาว 4700 mm สูง 2000 mm เครื่องไม่เกิน 2.0 ส่วน 3-number ก็คือมีบางหัวข้อ หรือทั้งหมดใหญ่กว่าข้อกำหนดนี้ครับ รถสองขนาดนี้ ที่ญี่ปุ่นเสียภาษีต่างกันครับ
JDM เท่านั้น จะครองโลก!

ออฟไลน์ FyGI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,256
Re: Mitsubishi Galant GLSi ของป๋ม
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: เมษายน 14, 2011, 10:34:37 »
เคยนั่งของพี่ที่รู้จักครับ

วิ่งเร็วๆ ยังนิ่ง เท่าที่มองเข็มไมล์ประมาณ 150

แต่ก็มีโยกย้ายส่ายสะโพกบ้างตามประสาคานแข็ง


ส่วนเรื่องอะไหล่ผมว่าหลายๆ อย่างน่าจะใช้ร่วมกับ Space Wagon กับ Pajero Shogun ได้นะ

รถ จขกท น่าจับทำ VR4 จริงๆ เลย สีขาวเดิมไม่ค่อยเห็นส่วนใหญ่จะเขียว บรอนซ์ เทา