มาเข้าเนื้อหากัน รถคันนี้แต่เดิมเป็นของคุณแม่ครับ ซื้อมามือหนึ่งเมื่อปี 92 ต่อมาผมเอามาใช้เรียนที่มหาลัย และทำงานมาจนถึงบัดนี้
รถคันนี้เป็นรุ่น 2.0 GLSi ตัวเครื่องเป็น 4G63 SOHC 8v (2v ต่อสูบ) มีแรงม้าประมาณ 110 ม้า ซึ่งถ้าจะว่าไป กับน้ำหนักตัวของมัน 1250 kg ก็ต้องถือว่าอืดทีเดียวถ้าเทียบกับ Jazz สมัยนี้ แต่ถ้าบนโค้งความเร็วสูง ต่อให้ Altis E120 ก็บ่อยั่นเด้อ รถคันนี้ถ้าจะกดจริงๆ 170 ก็ยังไหว (น่าจะได้ถึง 180 หรืออาจจะมากกว่านั้น แต่สังขารรถมันไม่ไหวแล้ว ผมกลัวด้วย) ช่วงล่างก็เป็นไปตามรถขับหน้ายุคนั้น ด้านหน้า MacPherson strut หลัง คานแข็ง Solid Axle (ในเมืองนอก บางรุ่นจะเป็น double wishbone) เบรคเป็นดิสก์ทั้งหมด
สิ่งที่รถยุโรปราคาแพงกว่าหลายรุ่นไม่มี (แต่ตาเพชรและหน้ายักษ์น่าจะมี) คือ กระจกพับ+ปรับไฟฟ้า (เออ Ex มันทำตกอยู่แถวไหนฟระ) ซึ่งสมัยนั้น พวกผมที่รถคันเก่าเป็น W123 รู้สึกตื่นเต้นอย่างที่สุด
แต่สิ่งหนึ่งที่รถ Sedan ณ เวลานั้น (รวมถึงเวลานี้) ไม่มีแน่นอน คือ ใบปัดน้ำฝนหลัง รถรุ่นไหนในไทยมีบ้างละ ที่ไม่ใช่เจ้านี่กับ Ultima ขนาด Cefiro ที่เป็นรถ segment สูงกว่ายังไม่มีให้เลย
แต่ภายในของเข้านี่ มีสิ่งหนึ่งที่น่าทุเรศคือ ตรง console จะมีช่อง switch แอร์ 3 ช่อง ซ้ายสุดใช้เลือกการไหลเวียนอากาศในห้องโดยสาร ขวาสุดเป็นระดับพัดลม ตรงกลางบ๋อแบ๋!!!!
จริงๆ แล้วมันเอาไว้ใส่ switch ของ heater แต่พอไม่มี heater ช่องนี้กลับปล่อยว่าง รถรุ่นนี้เลยปรับระดับความเย็นด้วยการหมุนไม่ได้ (มีแต่ปุ่มแบบเดียวกับ E-Car ไม่เย็น:เย็นน้อย:เย็นมาก) น่าเกลียดจริงๆ
ในแง่การขับขี่ รถรุ่นนี้ต้องขอบอกว่า ยังขับได้ดีกว่ารถ Compact และ Subcompact รุ่นใหม่ๆ หลายคัน การเลี้ยวโค้ง 140-150 องศา ที่ความเร็ว 80-100 ไม่ใช่เรื่องแปลก (ถ้าท้องไส้ทนไหวละก็นะ) เครื่อง SOHC 2v ต่อสูบ ก็เพียงพอที่จะพารถทะยานถึงความเร็ว 140 ได้สบายๆ (ถึงจะช้าไปบ้าง เพราะดมแก้สอยู่) และเมื่อเกิน 120 ไปแล้ว ช่วงล่างของเจ้านี่ก็ทำให้รถคันนี้ขับไปเรื่อยๆ ได้สบาย เกียร์ A/T 4 speed overdrive พร้อมตัวเลือก Econo/Power ก็ถือว่า OK ในระดับหนึ่ง (Econo จะเป็น mode ที่เกียร์จะเปลี่ยนเร็วที่ราวๆ 3000rpm ส่วน Power จะให้ลากได้ถึงราว 5000 rpm) ไม่จุกจิกมากมายเหมือนกับ INVECS/INVECS II ในยุคหลังๆ
ในส่วนการนั่ง ก็บอกได้เลยว่าคนอวบระยะสุดท้าย อัด 3 ที่เบาะหลังได้แน่นอน ที่วางเท้านั้นมีเหลือเฟือ เพราะรถมันยาว (ถึงจะกว้างแค่ 1695 mm เท่า Tiida, Jazz แต่ยาวกว่า Altis, Civic FD ละกัน) ส่วนเบาะก็กระชับดี
สรุป
Body ของ Galant รุ่นนี้ ช่วงล่าง ต้องยอมรับว่า หนึบ และทรงตัวดีมาก ขนาดที่รถใหม่ๆ หลายรุ่นยังอาย และในความรู้สึกของผม มันมีอะไรหลายๆ อย่างคล้ายกับ Ex ทั้ง feeling ในการขับ และหน้าตา (ยกเว้นกระจกพับไฟฟ้า 555) รวมไปถึงของเล่นที่ถือว่าเยอะไม่ธรรมดาในสมัยนั้น รวมไปถึง Pedigree ของสายพันธุ์ WRC ทำให้มันยังอยู่ในใจของหลายๆ คนตลอดไปครับ
สำหรับอันนี้เป็น review ครั้งแรก พอกลับไปอ่านแล้ว ยอมรับว่ายังเขียนได้ไม่ดี ก็จะพยายามหัดเขียนต่อไปครับ ขอบคุณที่อ่านครับ
Ref
http://ja.wikipedia.org/wiki/%E4%B8%89%E8%8F%B1%E3%83%BB%E3%82%AE%E3%83%A3%E3%83%A9%E3%83%B3http://en.wikipedia.org/wiki/Car_of_the_Year_Japanhttp://www.one2car.com/http://www.mitsubishi-motors.com/corporate/museum/motorsports/j/90s_j/img/galant.jpghttp://upic.me/i/73/galant5.jpghttp://image.blog.livedoor.jp/zg40kome/imgs/3/1/3182a4ab.jpg?640480